|
ตั้งแต่ที่เข้าสู่เดือนสิงหาคมศกนี้เป็นต้นมา 8 วันเต็มมานี่คุณนายอุ้มอยู่โยงดูแลคุณพ่อคุณแม่ 8 โมงเช้าเมื่อวานนี้ 8 สิงหาคม 2555 เกิดอาเจียน ในใจก็พยายามให้กำลังใจตัวเองว่า นี่เธอคุณนายอุ้มเธอจะเดี้ยงแบบนี้ไม่ได้นะ แล้วกัดฟันบอกแม่ว่าอุ้มจะเป็นลม อุ้มต้องนอนแล้วล่ะว่าแล้วก็สลบเหมือด ตื่นมาอีกทีตอน 10 โมงครึ่งค่อยยังชั่วหน่อย พอพี่ๆ ทราบข่าวอาเจียนของคุณนายอุ้ม ห้าทุ่มของเมื่อคืนพี่อ้อมก็เลยมาเปลี่ยนให้พัก คุณนายอุ้มเลยได้นอนเต็มอิ่มในรอบเดือนนี้
 ว่าแล้วก็ตื่นมาตอน 7 โมงเช้า พี่อ้อแวะมาบ้านด้วยความเป็นห่วงน้อง พร้อมซื้อกับข้าวกับปลามาให้ทาน จากนั้นพี่อ้อมมาบอกตอนสายๆ ว่า วันนี้จะอยู่โยงดูแลคุณแม่ให้ และบอกว่า ให้ไปถวายต้นเทียนแทนในนามของครอบครัว ที่วัดพระแก้ว แล้วไปต่อวัดโพธิ์ แล้วไปรีแล๊กซ์ พี่อ้อมจะดูแลคุณพ่อคุณแม่เองวันนี้จนถึงตอนเย็น นั่นก็เลยเป็นที่มาของการไปทำบุญวันนี้ค่ะ
 หลังจากที่คุณนายอุ้มนั่งเป็นนางเอก MV ก็เกิดพุทธิปัญญาว่า ครั้นจะไปถวายเทียนพรรษาใน กทม. นั้น กรุงเทพมหานครเรานั้นมีแต่วัดรวยๆ สู้ไปวัดถวายเทียนพรรษาที่วัดในตจว. จะดีกว่า ว่าพลางก็นึกถึงจังหวัดหนึ่งในดวงใจของอุ้ม จ.พระนครศรีอยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน ก็เลยเป็นทริปนี้ 3 ตอนรวดที่อยู่ในกรุงเก่าค่ะ
 จากนั้นไปขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ค่ารถ 60 บาท/คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว โดยมีโจทย์ในใจว่าทริปนี้คุณนายอุ้มจะไปไหว้พระนอน เนื่องจากทั้งอุ้ม คุณพ่อ และคุณแม่เกิดวันอังคารค่ะ เห็นเขาบอกว่า "คนวันอังคารใจร้อน ให้นอนเสียบ้าง จะได้ใจเย็น" ดังนั้น เมื่อคุณนายนวยนาดลงจากรถตู้แล้ว ก็ถามกูรูแถวนั้นทันที (วินมอเตอร์ไซด์เจ้าค่ะ) จะไปไหว้พระนอน แถวนี้มีวัดพระนอนที่ไหนบ้าง ก็ได้ใจความว่าให้ไปไหว้พระนอนที่วัดพนมยงค์ เพราะงดงามและเก่าแก่ค่ะ ว่าพลางคุณนายอุ้มก็ขึ้นรถตุ๊กตุ๊ก ซิ่งมาวัดพนมยงค์ในบัดดล
 การเดินทางการเดินทางจาก กทม. ใช้เส้นทางหลวงของแผ่นดิน 309 ไปทางเดียวกันกับวัดภูเขาทองน่ะค่ะ อยู่ด้านทิศเหนือของกรุงเก่าริมคลองเมือง เยื้องกับโรงเรียนประตูชัย โดยใช้เส้นทางหลวงอยุธยาอ่างทอง วัดพนมยงค์อยู่ก่อนถึงวัดภูเขาทอง ไม่ต้องห่วงป้ายชื่อวัดบอกตามเส้นทางเด่นเห็นชัดเลยค่ะ
 วัดพนมยงค์ ตั้งอยู่ริมคลองเมือง ปัจจุบันเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา โดยเป็นวัดโบราณ สร้างขึ้นในราวรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในระหว่าง พ.ศ.2173-2198
 เดิมบริเวณที่ตั้งของวัดพนมยงค์นั้น เป็นสวนของพระนมในราชสำนัก ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีนามว่า โยง หรือ ยง เมื่อพระนมโยงได้ถึงแก่อนิจกรรมลงแล้ว เจ้านายบางองค์ได้ระลึกถึงอุปการคุณ จึงได้สร้างวัดขึ้นที่สวนของพระนม เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่พระนม วัดที่สร้างขึ้นจึงได้มีนามว่า "วัดพระนมโยง" ต่อมาเรียกว่าวัดพนมโยง, วัดจอมมะยงค์ จนมาเป็นวัดพนมยงค์ในปัจจุบันค่ะ ภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2310 วัดพนมยงค์แห่งนี้ได้ถูกทิ้งร้าง ต่อมาได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาตระกูลพนมยงค์ได้เป็นโยมอุปถัมภ์วัดนี้ มาจนถึงในปัจจุบัน
 ซึ่งเมื่ออุ้มมาถึงวัดพนมยงค์ ก็ได้เข้ามาถวายเทียนพรรษาที่กุฏิข้างๆ พระนอน ให้คนขับรถตุ๊กตุ๊กถ่ายภาพให้ไหวไปหน่อย อิอิอิ
 อุ้มในฐานะตัวแทนของครอบครัววิเสโส ก็เลยเอาบุญมาฝากพี่น้องผองเพื่อนชาว BLOGGANG ค่ะ
 วัดพนมยงค์ หรือวัดแม่นมโยง ตั้งอยู่อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา อันเป็นนามของแม่นมของพระมหากษัตริย์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้ปฎิบัติดี มีใจสัตย์ซื่อ และยึดถือคุณธรรมในการดำเนินชีวิต เมื่อหมดอายุขัยลงพระมหากษัตริย์พระองค์นั้น จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัด พระอุโบสถ และพระวิหารพระนอนองค์ใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของกรุงเก่า ริมคลองเมือง เยื้องหน้าโรงเรียนประตูชัย ต.ท่าว่าสุกรี ในเขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาค่ะ
 สันนิษฐานว่าสร้างพระนอนองค์ใหญ่ ด้วยปูนปั้นสวยงาม ซึ่งมีพุทธลักษณะละม้ายไปทางสมัยสุโขทัย
 เพราะพระศกขององค์พระนอนนั้น สังเกตว่ามีลักษณะคล้ายก้นหอยขม และทำให้เข้าใจได้ว่า แม่นมยงค์น่าจะเกิดวันอังคาร ถึงได้สร้างพระนอนองค์ใหญ่ไว้ประจำวัด เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความดีงามของแม่นมยงค์ค่ะ
 ซึ่งเป็นความเชื่อกันว่า ถ้าใครได้มาสักการะพระนอนที่วัดพนมยงค์ ถือได้ว่าผู้นั้น จะได้รับในเรื่องโชคลาภและหายจากการเจ็บป่วยค่ะ
 ซึ่งอุ้มก็เพิ่งจะทราบ เมื่อมากราบไหว้สักการะพระนอนนี่แหละค่ะ แหล่มเลยขอพรให้คุณพ่อคุณแม่และพี่ๆ ซะ ซึ่งมีความคิดว่าเอาไว้ว่างๆ เหมารถตู้มาไหว้พระนอนที่กรุงเก่าน่าจะดี เพราะมีพระนอนให้ได้กราบไหว้ถึง 12 วัดด้วยกันค่ะ
 ว่าแล้ว BLOG หน้า ก็จะเป็นภาพพระนอนที่วัดโลกยสุทธาตอนที่ 2 ค่ะ
| |