อุ้มสีฉายเดี่ยวตะลอนทัวร์ไปชมความงามของพระสมุทรเจดีย์ที่ จ.สมุทรปราการ
 | |  | |
 หมดช่วงโปรโมชั่นแล้วค่ะ คราวนี้เป็นการสมน้ำหน้าคุณที่เข้ามาเม้นท์ในวันเกิดอุ้ม ของขวัญสมนาคุณน้อยๆ ที่มอบให้จากใจ
 1. สำหรับเม้นท์ที่ 6 เพราะอุ้มเกิดปีมะเส็งเป็นนักษัตรที่ 6 2. สำหรับเม้นท์ที่ 7 เพราะอุ้มเกิดเดือน 7 กรกฎาคม 3. สำหรับเม้นท์ที่ 8 เพราะอุ้มเกิดปี พ.ศ.2508 4. สำหรับเม้นท์ที่ 21 เพราะอุ้มเกิดวันที่ 21 5. สำหรับเม้นท์ที่ 47 เพราะปีนี้อุ้มอายุครบ 47 ปี 6. สำหรับเม้นท์ที่ 65 เพราะปีสากลคือปี 1965
 เพราะฉะนั้นขอแสดงความยินดีที่จะมอบให้ เม้นท์ที่ 6 : คุณ ไก่ Schnuggy ชนุ๊กกี้ ส่งต่อให้น้องสาว sawkitty เม้นท์ที่ 7 : คุณ Dingtech เม้นท์ที่ 8 : คุณ littleboy-littlegirl เม้นท์ที่ 21 : คุณบี กรุ๊ปบีราศีสิงห์ (สละสิทธิ์) เม้นท์ที่ 47 : คุณ simplyusana เม้นท์ที่ 65 : คุณสองหนุ่มเนื้อหอม
 ชิ้นนี้สำหรับน้องสาว sawkitty เพราะรู้ว่าน้องสาวชอบคิตตี้ก็เลยจัดคิตตี้ให้ แถมด้วยซองใส่เอกสารโดเรม่อน แล้วรอรับวันนี้ส่งมาให้จ๊ะ
 ชิ้นนี้สำหรับคุณ Dingtech คนบ้านเดียวกัน เพิ่งรู้ว่าอยู่ห้วยขวางเหมือนกัน จะแตกต่างกันตรงยางลบค่ะ
 ชิ้นที่ 3 นี้สำหรับคุณ littleboy-littlegirl
 ชิ้นที่ 4 แตกต่างจากท่านอื่นๆ เป็นแสตมป์ เนื่องจากคุณ simplyusana อยู่แดนไกล งดงามและล้ำค่ามากๆ ค่ะ
 ชิ้นสุดท้ายนี้เป็นของคุณสองหนุ่มเนื้อหอม แล้วรอรับทางไปรษณีย์ไทยนะคะ จะส่งมาให้พร้อมกันวันนี้แบบเต็มใจให้ค่ะ
| |  | |  |
 | |  | |
 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2555 เป็นวันครบรอบ 119 ปี ของร.ศ.112 คุณนายอุ้มสีชีอยากไปป้อมพระจุลจอมเกล้ามาก วันงานไม่สามารถไปได้ จึงได้มีโอกาสได้ไปมาเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2555
 แต่ก่อนจะไปป้อมพระจุลฯ ชีขอแวะลงข้างทาง แต่ไม่ได้ลงมานอนอ่านหนังสือพิมพ์ดอกนะคะ (555 ขอยืนไว้อาลัยมุกตัวเองหน่อยคิดได้ไงมุกนี้) ชีขอแวะลงมาสักการะพระสมุทรเจดีย์ก่อนค่ะ หลังจากนั่งทานก๋วยเตี๋ยวเรือหน้าวัดพระสมุทรเจดีย์ คุณนายอุ้มสีก็เดินลุยเดี่ยว เข้าไปชมความงามของพระสมุทรเจดีย์ค่ะ
 พระสมุทรเจดีย์ตั้งอยู่ ถ.สุขสวัสดิ์ ในวัดพระสมุทรเจดีย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงกันข้ามกับศาลากลางจังหวัด เดินทางตามทางหลวงหมายเลข 303 (ถนนสุขสวัสดิ์) การเดินทางมายังพระสมุทรเจดีย์ มาได้โดยง่ายหลายทางมากค่ะ คุณนายอุ้มเลือกที่จะมาโดย ขสมก. ตั้งต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั่งรถปอ.140 ขึ้นทางด่วน จำง่ายๆ ว่าพอรถลงจากทางด่วนป้ายแรกลงเลยค่ะ หากสังเกตก็คือป้ายหน้าวัดสน จากนั้นไม่ต้องไปไหนไกลให้เมื่อยตุ้ม รถตู้มาจอดแช่รอรับคุณเลยที่ป้ายรถเมล์ โดยที่ข้างรถตู้ที่เขียนว่าท่าน้ำพระสมุทรเจดีย์ 15 บาทส่งถึงพระสมุทรเจดีย์แห่งนี้ค่ะ
 พระสมุทรเจดีย์ หรือที่ชาวปากน้ำเรียกว่า พระเจดีย์กลางน้ำ เป็นปูชนียสถาน และเป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่ที่ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ อยู่ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรปราการเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญมาแต่โบราณ เนื่องจากที่ตั้งนั้นเป็นเขตยุทธศาสตร์ทางน้ำ จังหวัดสมุทรปราการหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเมืองปากน้ำ เพราะตั้งอยู่ปากน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่โบราณกาล โดยเป็นเมืองหน้าด่านทางทะเลที่มีความสำคัญมาตลอด คำว่า สมุทร แปลว่า ทะเล และ ปราการ แปลว่า กำแพง ดังนั้น สมุทรปราการ จึงแปลได้ว่า กำแพงชายทะเล หรือ กำแพงริมทะเล ซึ่งหมายถึงเมืองหน้าด่านชายทะล หรือ ริมทะเลที่มีกำแพงมั่นคงแข็งแรง สำหรับป้องกันข้าศึกนั่นเอง
 โดยมีประวัติความเป็นมา ดังนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี ได้ทรงตระหนักว่า หลังจากมีการสร้างเมืองสมุทรปราการเสร็จ ในปี พ.ศ. 2365 และได้มีการสร้างป้อมที่สำคัญขึ้นมา 6 ป้อมนั้น อันได้แก่ ป้อมประโคนชัย ป้อมนารายณ์ปราบศึก ป้อมปราการ ป้อมกายสิทธิ์ ป้อมนาคราช และป้อมผีเสื้อสมุทรซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่สมบูรณ์ป้อมเดียว โดยมีแม่กองในการก่อสร้างป้อมทั้ง 6 คือ พระเจ้าลูกเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ และเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุญนาค)
 รัชกาลที่ 2 ได้มีพระราชดำริว่า การที่พระองค์ได้สละพระราชทรัพย์ในครั้งนี้ ก็เพื่อสวัสดิภาพของชาติและพระศาสนา จึงควรจักได้มีอนุสาวรีย์ไว้ ให้ปรากฏพระเกียรติยศสืบไป พระองค์ทรงเห็นว่า ที่เกาะหาดทรายอยู่ท้ายป้อมผีเสื้อสมุทร (ป้อมผีเสื้อสมุทรเป็นเกาะกลางน้ำ) เหมาะแก่การที่จะประดิษฐานพระเจดีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์
 แต่เดิมพระเจดีย์นี้ตั้ง อยู่บนเกาะกลางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ท้ายป้อมผีเสื้อสมุทร แต่ต่อมาชายตลิ่งฝั่งขวาของแม่น้ำตื้นเขิน เป็นดินงอกออกมาจนเชื่อมติดกับเกาะเป็นเนื้อเดียวกัน ปัจจุบันพระสมุทรเจดีย์จึงไม่มีสภาพเป็นเกาะอีกต่อไปค่ะ
 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์นี้ขึ้น แต่ยังไม่ทันเสร็จก็สิ้นรัชกาล ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อเป็นพระเจดีย์สูง 20 เมตร ต่อมาในรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนรูปทรงพระเจดีย์แล้วก่อให้สูงขึ้นอีกเป็น 38 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระชัยวัฒน์ และพระปางห้ามสมุทรไว้ค่ะ
 ประวัติพระสมุทรเจดีย์ จะเขียนลงหินอ่อนจะมีอยู่ 2 ที่ค่ะ คิอ ด้านหน้าคือภาพนี้ กับ ด้านฝั่งที่หันหน้าไปที่แม่น้ำเจ้าพระยา
 อันนี้เป็นประวัติพระสมุทรเจดีย์ค่ะ แต่แทบจะจมหายไปกับต้นไม้เลยค่ะ
 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระสมุทรเจดีย์ เป็นโบราณสถานของชาติ จากปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการซ่อมแซมค่ะ
 ด้วยความเคารพค่ะ วันที่อุ้มไปถ่ายภาพเมื่อวันเสาร์ที่ 15 กค. 55 นั้น ไม่มีใครมาเที่ยวชมเลยค่ะ มีแต่คนงานกำลังซ่อมแซมค่ะ เพราะฉะนั้นเดินถ่ายอย่างสบายใจ ก็เลยไม่มีภาพอุ้มที่นี่เลยค่ะ
 มาต่อประวัติพระสมุทรเจดีย์ต่อนะคะ เมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ฯ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีธรรมราช กับเจ้าพระยาพระคลังเป็นแม่กองจัดสร้างก่อสร้างต่อ เมื่อวันอังคาร ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งตรงกับวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 แล้วเสร็จเมื่อวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2371 โดยรูปลักษณ์ขององค์พระสมุทรเจดีย์ ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 นี้ เป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ต่อมาได้มีผู้ร้ายลักลอบขุดองค์ระฆัง ลักเอาพระบรมธาตุที่บรรจุอยู่ภายใน
 ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างไปถ่ายแบบพระเจดีย์ ที่กรุงศรีอยุธยา มาจัดการก่อสร้างสวมทับพระเจดีย์รูปเดิมไว้ โดยมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลม วัดจากฐานล่างจนถึงยอดสูงสุด 19 วา แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 12 องค์ จากพระบรมมหาราชวังมาบรรจุแทนของเดิมที่สูญหายค่ะ
 พระสมุทรเจดีย์ เป็นชื่ออำเภอหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ชื่ออำเภอนี้ได้มาจากพระสมุทรเจดีย์ (เจดีย์กลางน้ำ) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นบนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อปี พ.ศ.2370
 ชอบค่ะ ชอบมุมอ่านประวัติพระสมุทรเจดีย์มุมนี้ค่ะ
 กำแพงแก้วสวยดีนะคะ
 สามารถเดินชมความของพระสมุทรเจดีย์ได้โดยรอบ และเมื่อเดินมาถึงข้างหลังก็จะเจอต้นโพธิ์ค่ะ ซึ่งเป็นต้นโพธิ์ที่รัชกาลที่ 5 ทรงปลูกไว้ค่ะ
 ชอบมากมีประวัติอธิบายให้เรียบร้อยค่ะ แหล่มค่ะแหล่ม
 ต้นโพธิ์สวยมากค่ะที่ไม่เข้าไปถ่ายภาพใกล้ๆ เนื่องจากในนั้นมีคนงานก่อสร้างนอนอยู่ช่วงพักของเขา สังเกตว่าอุ้มไม่ค่อยถ่ายภาพเจาะเท่าไหร่
 ครั้นเมื่อ พ.ศ.2403 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จประพาสเมืองสมุทรปราการ ได้เสด็จไปนมัสการพระสมุทรเจดีย์ และทรงทอดพระเนตรพระสมุทรเจดีย์ และทรงมีพระราชปรารภว่า พระสมุทรเจดีย์นี้มีความสำคัญ แต่รูปทรงต่ำเตี้ยไม่สง่างาม หากจะสถาปนาให้สูงใหญ่ขึ้นไปอีก เวลาเรือของชาวต่างชาติเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา จะได้มองเห็นแต่ไกล
 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริว่า เดิมพระสมุทรเจดีย์สร้างแบบสี่เหลี่ยมย่อไม้สิบสอง โดยมีองค์ระฆังเล็กเรียวข้างปลายฐาน เป็นบัวหงายซ้อนกันเป็นชั้นๆ ประกอบทั้งที่คอระฆัง ซึ่งบรรจุพระบรมธาตุไว้ไม่แน่นหนา ผู้ร้ายจึงถือโอกาสปีนป่ายขึ้นไปทำลายได้โดยง่าย
 เมื่อรัชกาลที่ 4 ตกลงพระทัย ที่จะจัดสร้างพระสมุทรเจดีย์ขึ้นใหม่แล้ว จึงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างไปถ่ายแบบเจดีย์ลอมฟาง ที่พระนครศรีอยุธยามาแล้วโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาระวิวงศ์มหาโกษาธิบดีเป็นแม่กอง กรมหมื่นสีหวิกรมเป็นนายช่าง พระยามหาอรรคนิกรและพระยาอมรมหาเดช ผู้คุมเลขทหารปืนใหญ่เมืองสมุทรปราการเป็นนายงาน โดยให้ทหารปืนใหญ่เมืองสมุทรปราการ เป็นผู้ช่วยเหลือก่อสร้าง แม่กองเจ้าของการได้ซื้อหินถมพื้นเพิ่มไปจนรอบนเกาะ โดยต่อออกไปทางด้านใต้ แล้วรื้อศาลาลงจัดสร้างพระวิหารใหญ่ หันหน้าพระสมุทรเจดีย์ออกสู่ทะเล
 ส่วนองค์พระเจดีย์แบบลอมฟางนั้น ได้สร้างสวมรูปพระเจดีย์องค์เดิมไว้ โดยเพิ่มส่วนสูงขึ้นไปอีก 6 วา รวมเป็นสูง 19 วา 2 ศอกคืบ หรือเท่ากับ 39.75 เมตร และสร้างพระเกี้ยวสี่องค์บนชั้นที่สอง สร้างพระแท่นทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ สำหรับตั้งเครื่องสังเวย ส่วนทางทิศตะวันออกทรงโปรดเกล้าฯ ให้ช่างสลักแผ่นทอง แจ้งประวัติการก่อสร้างและจุดประสงค์ ตลอดจนพระราชทรัพย์ที่ได้ทรงบริจาคไปโดยพร้อมมูล เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้ทราบ
 เห็นภาพพระเกี้ยวชัดๆ เลยค่ะภาพนี้
 ชอบ...แหล่ม ตรงที่ไม่ว่าเดินไปไหนจะทราบประวัติที่นี่เลยค่ะ
 แหล่มเน๊าะ ศาลาทรงยุโรป
 อยากให้บูรณะซ่อมแซมเสร็จไวไว เพราะชอบที่นี่มีป้ายบอกชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร แหล่มค่ะแหล่ม
 ขณะถ่ายภาพศาลาทรงยุโรปไป อุ้มคิดไปถึงเขาวัง คิดไปถึง พระราชวังพญาไท
 ภาพนี้ถ่ายภาพกระจกค่ะ เอาแทปเล็ทวางแปะไปกับกระจก เพื่อจะถ่ายภาพพระบรมสาวรีย์รัชกาลที่ 2 โชคดีที่กระจกไม่สะท้อน...ภาพแหล่มเลยค่ะ
 ประตูทางเข้าสวยมากนะคะ
 ภาพนี้อุ้มเอาแทปเล็ทวางแปะไปที่กระจกเลยค่ะ เลยได้ภาพสวยภาพนี้มาก ชอบภาพเขียนสีน้ำมากๆ ค่ะ
 ถ่ายภาพความงามของศาลารายหรือเก๋งจีน ที่อยู่รายรอบพระสมุทรเจดีย์
 อ่านเองเลยค่ะ
 ไม่กล้าซียูเพราะคนงานก่อสร้างนอนอยู่ แล้วเริ่มๆ เมียงมองมายังอุ้ม คงกลัวเรามาจับผิดหรือเปล่าหนอ คุณนายอุ้มเลยไม่กล้าเข้าไปถ่ายเก๋งจีนใกล้ๆ น่ะค่ะ
 ช้างเผือกรายรอบน่ารัก
 กำแพงแก้ว ทึ่งในความเป็นศิลปะเลยค่ะ
 แม้แต่เสาก็ยังเขียนอธิบายบอก แหล่มค่ะ
 อ่านเลยค่ะ
 ทายสิคะว่าสถานที่นี้คืออะไร มันคือสุขาค่ะเป็นสุขาจริงๆ ค่ะ จะอยู่ด้านหลังของพระสมุทรเจดีย์ค่ะ สุขาแห่งนี้ยังเข้าห้องน้ำได้อย่างสบายใจ ไม่เหมือนที่ด้านหน้าจากประตูเข้ามา ตรงนั้นสุขาหญิงค่อนข้างอันตรายยิ่งนัก เพราะสุขาชายจะอยู่ด้านหน้าเดินไปเห็นได้เลย แต่สุขาหญิงจะอยู่ด้านหลังซึ่งมืดและเปลี่ยว แถมยังติดกับป่าเลยค่ะยังไม่มีรั้วรอบขอบชิดเลยค่ะ น่ากลัวมาก เพราะอุ้มไปเข้ามาแล้ว วันนั้นไปคนเดียวแถมวันนั้นไม่มีคนเลย มีอุ้มมาเดินถ่ายภาพคนเดียวจริงๆ เลยค่ะ นอกนั้นก็เป็นช่วงพักของคนงานก่อสร้าง
 ภาพสุดท้ายของเอนทรี่นี้ ก็จะเป็นอาคารประชาสัมพันธ์ของพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งหากเดินเข้ามาก็จะเห็นเลยค่ะติดประตูทางเข้า วันนั้นเป็นอีกวันที่ประทับใจ มาถ่ายภาพพระสมุทรเจดีย์ไม่มีคนเลยค่ะ ทั้งๆ เป็นวันเสาร์ตอนบ่ายโมง ซึ่งหากบูรณะปฏิสังขรณ์เสร็จคงงดงามมากๆ ค่ะ เอาไว้เสร็จเมื่อไหร่อุ้มจะไปเก็บตกมาฝากอีกทีนะคะ
ขอขอบคุณ BG : น้องญามี่ banner : คุณ no filling กรอบ : น้อง KungGuenter เพลง : ลาทีปากน้ำ : นพดฬ ชาวไร่เงิน กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย ของแต่ง BLOG : คุณชมพร & น้องญามี่ & คุณเนยสีฟ้า
| |  | |  |
Create Date : 31 กรกฎาคม 2555 |
|
67 comments |
Last Update : 6 สิงหาคม 2555 8:49:10 น. |
Counter : 4947 Pageviews. |
|
 |
|
สองหนุ่มเห็นของรางวัลจากคุณอุ้มคงได้ร้องกรี๊ดแย่งกันแน่ค่ะ
เค้าชอบแองรี่เบิร์ดมากๆ
ขอบคุณคุณอุ้มล่วงหน้าเลยนะคะ
พระสมุทรเจดีย์ยังไม่เคยไปเลยค่ะ
ดูจากภาพแล้วสวยดีนะคะ