Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.
But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011
สรรคบุรี : วัดพระแก้ว
ในเมืองสรรค์นี้มีวัดที่ขึ้นชื่ออยู่ 5 วัดได้แก่ วัดพระบรมธาตุ วัดพระแก้ว วัดสองพี่น้อง วัดโตนดหลายและวัดพระยาแพรก ซึงหากหาจุดหมายจาก GPSเราจะพบรายชื่อเพียง 3 วัดแรกเท่านั้น เนื่องจากสองวัดหลังนั้นเป็นวัดร้าง หากเราจะจัดกลุ่มก็จะพบว่าวัดที่อยู่นอกเมืองที่สุดก็คือวัดพระแก้วนั่นเองเนื่องเพราะหากเราดูจากชื่อแล้ว มันมีที่มาจากวัดป่าแก้วนั่นเอง คุ้นไหมหากเป็นอยุธยาเราก็คงหมายถึงวัดใหญ่ชัยมงคล อารามสถานที่เป็นศูนย์กลางของฝ่ายอรัญวาสี พระสงฆ์ผู้เจริญในวิปัสนาธุระ ทำให้ตัววัดจำต้องตั้งอยู่ห่างไกลเพื่อให้เกิดความสงบเงียบวิเวก โดยมีเจดีย์ใหญ่เป็นหลักชัยของวัดเริ่มจากมองการวางผัง วัดในสมัยสุโขทัยต่อเนื่องไปยังอยุธยาตอนต้นนั้น จะมีเจดีย์องค์ใหญ่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเป็นประธาน ด้านหน้ามีวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปให้คนมากราบไหว้บูชาด้านหลังนั้นอาจจะมีอุโบสถ หรืออาจจะไม่มีก็ได้ เพราะไม่ใช่ส่วนสำคัญดังนั้นหากมองจากผังปัจจุบันที่มีวิหารหลวงพ่อฉายตั้งอยู่ จึงเป็นด้านหลังวัดส่วนหน้าวัดในอดีตคือวิหารที่เหลือเพียงซากอิฐโบราณ ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นแบบเปิดโล่ง โดยมีการก่อหลังคาคลุมเฉพาะส่วนอันเป็นที่ตั้งองค์พระทำให้วัดนี้นั้นหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งก็คงสอดคล้องกับการเดินทางในสมัยนั้นเมื่ออยุธยาเสียเมืองให้แก่พม่า สรรคบุรีก็กลายเป็นเมืองร้าง วัดวาอารามถูกทอดทิ้งจนถึง พศ 2440 ที่ชาวบ้านได้เข้ามาบูรณะและพัฒนาให้กลับมามีพระสงฆ์จำพรรษาแต่องค์เจดีย์ก็ยังอยู่ในสภาพดั้งเดิม จนถึงปีพศ. 2498 ที่กรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะที่ น ณ ปากน้ำได้เขียนไว้ว่า ทำลายความงามของเจดีย์ที่สวยที่สุดของประเทศไปตัวเจดีย์นั้นมี่ขนาดใหญ่และซับซ้อน รูปสีเหลี่ยมจตุรัสขนาด 12*12 เมตรและมีความสูง 37 เมตร ฐานเจดีย์เป็นสีเหลี่นมซ้อนกันสามชั้น ลดขนาดขึ้นไปสูงขึ้นไปเป็นฐานสีเหลี่ยมต่อด้วยส่วนสี่เหลี่ยมทรงสูงที่เรียกว่าท้องไม้ เหนือท้องไม้ก่ออิฐยื่นออกมา มีการพอกปูนเป็นบัวที่มีสันตรงกัน 2 ชั้นทำให้เราเรียกส่วนฐานนี้ว่า ฐานบัวลูกแก้วอกไก่คู่เหนือขึ้นไปเป็นชั้นที่เรียกว่าเรือนธาตุสี่เหลี่ยม ที่น่าจะเคยบรรจุพระบรมธาตุผนังด้านนอกเจาะเป็นช่องเว้าเข้าไปเพื่อบรรจุพระพุทธรูปปูนปั้น เรียกว่าซุ้มจรนำ โดยในแต่ละด้านของเจดีย์วัดพระแก้วจะมีซุ้มจรนำขนาดใหญ่ตรงกลางและซุ้มขนาดเล็กขนาบข้างรวมเป็น 3 ซุ้ม ส่วนกรอบปูนปั้นเหนือซุ้มหายไปด้านทิศตะวันออกและตก พระพุทธรูปที่ประดิษฐานนั้นเหลืออยู่เพียงบางส่วนด้านเหนือและใต้ สมบูรณ์กว่าเป็นเห็นได้ชัดว่าเป็นปางถวายเนตร ส่วนพระพุทธรูปขนาดเล็กที่อยู่ด้านข้างเป็นปางประทานอภัย บริเวณฐานที่มุมเฉียงทั้งสี่ด้าน เชื่อว่าเคยมีสถูปเจดีย์ขนาดเล็กประดับอยู่ส่วนสูงไปคือชั้นเรือนธาตุแปดเหลี่ยม ที่มีฐานย่อลงกว่าเรือนธาตุที่อยู่ชั้นล่างลักษณะนั้นคล้ายกันเพียงแต่มีเพียงพระพุทธรูปองค์หลักประดิษฐานในซุ้มจรนำโดยไม่มีซุ้มขนาดเล็กขนาดข้าง กรอบเหนือซุ้มเป็นแบบหน้านางของสุโขทัยมุมเฉียงทั้งสี่นั้นมีเจดีย์ขนาดเล็กประดับอยู่ พระพุทธรูปส่วนใหญ่ผ่านการบูรณะเหนือเรือนฐาตุแปดเหลี่ยมเป็นชั้นรองรับองค์ระฆัง แบบฐานบัวลูกแก้วอกไก่คู่ซ้อนกันสองชั้นบนฐานทรงกลม เหนือขึ้นไปอีกเป็นองค์ระฆังที่สูงชะลูดซึ่งเป็นส่วหนึ่งที่ทำให้เจดีย์แห่งนี้ได้รับการกล่าวขานว่างามเหนือกว่าเจดีย์ทั้งมวลจากภาพถ่ายก่อนการบูรณะจะเห็นช่องขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านเจาะเพื่อหาสมบัติส่วนยอดของเจดีย์ในปัจจุบันเหลือส่วนฐานระฆังและบางส่วนของปล้องไฉน ส่วนปลียอดและเครื่องประดับอื่นๆ ได้หายไป จากการผสมผสานระหว่างเจดีย์สองแบบนั่นก็คือเจดีย์แบบยอดปราสาทของสุโขทัยเข้ากับเจดีย์แบบแปดเหลี่ยมสมัยอยุธยาตอนต้น ทำให้มันงามล้ำค่าจนได้รับสมญานามว่าราชีนิย์เจดีย์แห่งสยามการบูรณะของกรมศิลปากรนี้อาจทำให้มันสวยงามในสายตาของนักท่องเที่ยวแต่ได้ทำลายสิ่งล้ำค่ามากมาย ที่ควรถูกเก็บรักษาไว้เพื่อรอการศึกษาจากคนรุ่นหลังด้านหลังของเจดีย์เป็นวิหารหลังหลังใหม่ที่เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อฉายหนึ่งใน unseen ของเมืองไทย เพราะที่ด้านหลังขององค์พระ มีทับหลังหินทรายสมัยบาปวนติดแนบแน่นอยู่โดยเป็นรูปสลักภาพพระศิวะหลั่งน้ำลงมายังช้างที่นอนหงายอยู่แล้วสมัยบาปวนนี่คือสมัยไหน คำตอบคือสุริยะวรมันที่ 1 พ.ศ.1553-1623แล้วรู้ได้อย่างไร ว่าเป็นศิลปะบาปวน คำตอบคือ ดูจากวิวัฒนาการทางศิลปะที่แกะสลักเรื่องราวเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังดูลวดลายของดอกไม้ที่เป็นส่วนประกอบเพียงวัดแรกก็น่าตื่นใจแล้ว อยากเก็บกระเป๋าแล้วไปสรรคบุรีกันแล้วหรือยัง ?
วัดเยอะมากครับ อ.สรรบุรี