เมื่อคิดจะลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักที่ถูกต้อง คือการลดอย่างช้าๆ แต่สม่ำเสมอ และเมื่อลดได้แล้วก็ไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ ถ้าไม่สามารถควบคุมน้ำหนักของตัวเองให้คงที่ตลอดไป
อาหารลดน้ำหนักที่ดี จะต้องมีสารอาหารครบถ้วนและไม่ทำให้เสียสุขภาพ
แบบแผนการลดน้ำหนักควรยืดหยุ่นให้แต่ละคน สามารถปรับนิสัยให้เข้ากับอาหาร และจะต้องช่วยลดความหิวและอ่อนเพลียได้ ที่สำคัญคือควรได้รับพลังงาน
แนวทางการบริโภคเพื่อลดน้ำหนักได้ในระยะยาว
● กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ เพราะการงดมื้ออาหาร จะทำให้หิวก่อนเวลาอาหารมื้อถัดไปและรับประทานมากเกินอัตรา การงดอาหารเช้าเป็นนิสัย จะทำให้อัตราการเผาผลาญลดลงจากปรกติ 1-5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ปีละ 4 กิโลกรัม แม้จะรับประทานอาหารน้อยก็ตาม เช่นเดียวกับการงดมื้อเย็นซึ่งจะทำให้หิวกลางดึก
● อาหารมื้อเย็นควรมีไขมันต่ำและไม่หนักมาก เช่น สลัดกุ้งหรือปู (น้ำสลัดชนิดใส) ข้าวโพด ½-1 ฝักเล็ก และผลไม้เล็กน้อย
● เคี้ยวช้าๆ ขณะกินอาหารจะช่วยให้อาหารย่อยดีขึ้น ขณะเดียวกันร่างกายมีเวลาที่จะส่งสัญญาณไปที่สมอง เพื่อให้รับรู้ถึงความรู้สึกอิ่ม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที
● เลี่ยงกินจุบจิบ และไม่กินอาหารในขณะอ่านหนังสือหรือดูทีวี เพราะจะทำให้ขาดความสนใจกับปริมาณ ทำให้กินเกินโดยไม่รู้ตัว เลี่ยงอาหารที่มีไขมันซ่อนรูป เช่น ช็อกโกแลต ไอศกรีม เบเกอรี่ และพวกขนมไทย อาหารพลังงานว่างเปล่า เช่น น้ำตาล น้ำอัดลม เพราะจะเพิ่มพลังงานส่วนเกินกับร่างกาย ควรใช้น้ำตาลเทียม
● จำกัดปริมาณถั่วเปลือกแข็งประมาณ 30 กรัม เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง อัลมอนด์ ใช้นมจืดพร่องมันเนยหรือนมขาดไขมันแทนการใช้ครีมเทียมเติมกาแฟ เพราะให้คุณค่าทางอาหารดีกว่า
● เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งให้พลังงานสูงเกือบเท่ากับไขมัน นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว แอลกอฮอล์ยังไม่ดีต่อการลดน้ำหนัก เพราะร่างกายเปลี่ยนแอลกอฮอล์ให้เป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์ได้
● กินอาหารเส้นใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืช คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนช่วยควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากมีไขมันต่ำมากและมีเส้นใยสูง ช่วยลดน้ำหนักได้ ใช้เวลาเคี้ยวนานกว่า (ทำให้อิ่มเร็ว) ย่อยช้า
● ลดอาหารเค็มจัด อาหารที่มีเกลือโซเดียมสูง ทำให้ร่างกายเก็บน้ำไว้มากกว่าปรกติ ดังนั้น ผู้ที่ชอบบริโภคอาหารรสเค็มจัดจึงลดน้ำหนักยาก ควรลดอาหารเค็ม อาหารหมักดอง เลือกผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงช่วยลดการเก็บน้ำในร่างกาย ไม่ตุนอาหารไขมันและน้ำตาลสูงไว้ในบ้าน เพราะอาจกระตุ้นความอยาก
● กินอาหารนอกบ้านน้อยลง อาหารมื้อใหญ่นอกบ้านอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ½-1 กิโลกรัมได้ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากเกลือโซเดียมในเครื่องปรุง
● ให้รางวัลตัวเองด้วยวิธีอื่น เช่น การซื้อเสื้อผ้าใหม่ หรือดูหนัง แทนการกินอาหารมื้อใหญ่
● ติดตามการควบคุมน้ำหนักอยู่เสมอ และจดสมุดบันทึกการกินอาหาร การออกกำลังกาย อย่าชั่งน้ำหนักทุกวัน เพราะน้ำหนักแต่ละวันเปลี่ยนได้ในช่วง 1 กิโลกรัม อาจทำให้เสียกำลังใจคิดว่าน้ำหนักไม่ลด
● แยกแยะความหิวและความอยากอาหาร และอย่าเครียด เพราะความเครียด ความเบื่อ ความหงุดหงิด อาจกระตุ้นความอยากอาหารได้ นอกจากนี้ฮอร์โมนความเครียดยังเพิ่มการสะสมไขมันในร่างกาย ฉะนั้นอย่าแก้ปัญหาด้วยการกิน
การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้ ควรเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทีละน้อยอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ร่างกายเสียสมดุล
ที่มา : //www.dailyworldtoday.com ภาพจาก : //healthji.wordpress.com
สารบัญลดอ้วน ลดน้ำหนัก
Create Date : 24 มิถุนายน 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 24 มิถุนายน 2553 16:42:54 น. |
Counter : 808 Pageviews. |
|
|
|