:: ศึกชิงบัลลังก์ยุทธ์ มังกรพยัคฆ์บูรพา ตอนที่ 22 ::
:: ศึกชิงบัลลังก์ยุทธ์ มังกรพยัคฆ์บูรพา ตอนที่ 22 ::เรื่องและภาพ : กะว่าก๋า
สามปีผ่านไป สงครามระหว่างสองอาณาจักรค่อยรามือกันไปเอง หลังจากปลดแม่ทัพใหญ่ไปพร้อมกัน ทั้งไป่จิงเหวินและเตมูบูจินคล้ายว่าหายสาบสูญไปจากโลกนี้ ไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใดใดจากบุคคลทั้งสอง ส่วนเหตุการณ์บ้านเมืองกลับมิต่างกัน สองอาณาจักรเต็มไปด้วยความวุ่นวายในแผ่นดิน ต้าซ่งเกิดภัยพิบัติธรรมชาตินานนับปี ฝนแล้งจนแผ่นดินแห้งเหือด ผลิตผลการเกษตรตกต่ำซ้ำทรุด อีกฝูงแมลงนับล้านยังโจมตีไร่นาจนย่อยยับ ประชาชนจนยากลำบากกาย ไร้อาหารประทังชีพ บางพื้นที่ถึงกับต้องกัดกินรากไม้ ต้มเปลือกไม้ประทังชีวิต แต่ราชสำนักหาได้ใส่ใจ ยังอยู่กินกันอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยทุกมื้อ ใช้จ่ายเงินสร้างพระราชวังใหม่ใหญ่โต เกณฑ์แรงงานหนุ่มสาวเข้าวัง จนบ้านนอกคอกนาเหลือแต่เด็กและคนชราว้าเหว่ ขุนน้ำขุนนางต่างโกงกินกันสนุกปาก รีดนาทาเร้นเก็บส่วยจากประชาชนอย่างหนัก แต่ยักยอกทรัพย์เข้าพกเข้าห่อ กลายเป็นคนร่ำรวยกันถ้วนหน้า ในขณะที่ประชาราษฎร์น้ำตานอง ขุนนางดีมิอาจรับใช้บ้านเมืองได้ เนื่องเพราะขุนนางโฉดต่างใช้เส้นสายฝากฝังญาติพี่น้องคนสนิทชิดใกล้ ให้เข้ารับราชการแล้วกอบโกยโกงกินเอื้อประโยชน์กันอย่างสนุกมือ จนนับวันราชสำนักยิ่งอ่อนแอ ขันทีกลับเรืองอำนาจ เมื่อจับมือกับขุนนางใหญ่ร่วมกันปิดหูปิดตาองค์เหนือหัว สรรหาสุราดีนารีงามปรนเปรอองค์จักรพรรดิจนลุ่มหลงมัวเมาในกามกิเลส ไม่สนใจออกว่าความราชการใดใด ปล่อยอำนาจในมือและการตัดสินใจให้อยู่ภายใต้เงื้อมเงาของเหล่าข้าราชการชั่ว เหตุการณ์บ้านเมืองจึงหม่นมัว ผู้คนหวาดกลัวในการดำเนินชีวิต สิ่งถูกกลายเป็นสิ่งผิด สิ่งผิดกลายเป็นความชอบธรรม ความยุติธรรมไม่ปรากฏในศาล ทหารถืออาวุธครองเมืองก่อเหตุปล้นสะดมไปทั่วโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ความฟอนเฟะยิ่งมายิ่งปรากฏชัดแก่สายตาประชาราษฎร์ จนดูเหมือนความอดทนของประชาชนใกล้จะสิ้นสุดลงเต็มที
............................................
ฟากฝั่งจินหาได้ดีไปกว่ากัน หลังปลดเตมูบูจินจากตำแหน่งรัชทายาท ลูกชายคนรองมิอาจทนรองรับอารมณ์พระราชบิดาได้ ถึงกับฆ่าตัวตายด้วยความเศร้าจับจิต แม้มีบุตรชายมากกว่า 30 คนจากนางสนมนับร้อย แต่หามีใครถูกใจต้องตาจินข่านเหมือนเตมูบูจินไม่ พี่น้องต่างมารดาช่วงชิงอำนาจกันอย่างรุนแรง ทั้งเปิดเผยและกระทำซ่อนเร้น เข่นฆ่ากันแทบทุกวี่วัน โดยจินข่านหาได้ห้ามปราม ปล่อยให้พี่น้องเข่นฆ่ากันราวสัตว์ป่า เพื่อสรรหาผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุด
หลังส่งคณะทูตจากต้าซ่งกลับไปในวันนั้น จินข่านกลับถูกชะตาข้าราชการคนหนึ่งซึ่งติดสอยห้อยตามมาด้วยในขบวนส่งตัววิวาห์ขององค์หญิงชุนเหลียน
สวินจ้างมีชาติกำเนิดไม่แน่ชัด แต่พูดภาษาจินได้ชัดราวกับเจ้าของภาษา อีกมีนิสัยประจบประแจงช่างเจรจา จึงพูดคุยถูกคอกับจินข่านมากเป็นพิเศษ จนจินข่านถึงกับออกปากขอรั้งตัวไว้ทำงานในอาณาจักรจิน สวินจ้างก้าวหน้ารวดเร็วเกินใคร แซงหน้าเสนาบดีและขุนนางใหญ่แบบไม่เห็นหัวใคร กุมอำนาจมากขึ้นทุกวัน ๆ ภายในราชสำนักจิน
สวินจ้างเร่งขจัดศัตรูการเมืองผู้เห็นต่าง ด้วยวิธีการอันแยบยล แอบอ้างชื่อจินข่านลงมืออย่างแนบเนียน นับวันคำพูดจึงยิ่งมีน้ำหนัก ไม่ต่างอะไรกับวาจาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแผ่นดิน
แม่ทัพคนใหม่ของอาณาจักรซ่ง คือ คูบูไก น้องชายต่างมารดาของเตมูบูจิน ฝีมือเพลงรบบนหลังม้าไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน หากแต่ด้วยอายุยังน้อย มีความกล้าบ้าบิ่นมากเกินควร จึงมักกระทำการรบโดยขาดความรอบคอบ
3 ปีที่ผ่านมาคูบูไกนำทัพเข้าสู่สงครามต่างเผ่าหลายครั้งหลายครา ชนะศึกเกือบทุกครั้ง แต่ยังไม่เคยนำทัพใหญ่เคลื่อนไปตีต้าซ่งเลยแม้แต่ครั้งเดียว เนื่องจากสองอาณาจักรยังคงดำรงสัมพันธไมตรีทางการทูตกันอย่างต่อเนื่อง แม้ทางจินจะรู้ดีว่าเรื่องการเมืองภายในต้าซ่งมีปัญหามากมาย ประชาชนไม่ศรัทธาองค์เหนือหัว เกลียดชังข้าราชการ แต่ยังไม่อาจทำอะไรได้มากนัก เนื่องจากชนเผ่าที่เคยรวมเป็นหนึ่งภายในอาณาจักรจิน บัดนี้มีความแตกแยกเกิดขึ้น ชนเผ่าต่าง ๆ หวังขึ้นเป็นใหญ่ เพื่อครองตัวเป็นข่าน หลังปลดเตมูบูจิน ทหารกล้าเริ่มตีตัวออกหาก ศึกช่วงชิงอำนาจจึงเกิดขึ้นมิเว้นวัน จนบ้านเมืองระส่ำระสาย ไฉนเลยจะรวบรวมอำนาจเป็นหนึ่งเพื่อไปตีชิงแผ่นดินซ่งได้
สองแผ่นดินจึงอยู่ในสถานการณ์คับขันยากลำบากไม่ต่างกัน !
.............................................
ปลายปีนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างไม่คาดคิด !
จินข่านเกิดสวรรคตกะทันหัน เนื่องจากสะสมความโกรธความเครียด เสวยน้ำจัณฑ์โดยมิหยุดหย่อน กร่อนร่างกายให้อ่อนแอโรยราลงอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากการช่วงชิงตำแหน่งรัชทายาทดำเนินไปอย่างยืดเยื้อยาวนาน จนเหล่าราชบุตรกลับต้องมาเข่นฆ่ากันเอง คนที่อยู่รอดเหลือแต่บุตรผู้อ่อนแอไม่เอาไหน ที่เก่งกล้าสามารถก็ตายจากไป จนไม่หลงเหลือผู้เหมาะสมในการครองบัลลังก์ เมื่อหมดท่าหมดความ จึงต้องทำพิธีเชิญเจ้าชายคูบิไลผู้เป็นหลานของจินข่าน ให้ขึ้นดำรงรับตำแหน่งข่านแทน ท่ามกลางความขัดแย้งและเห็นต่างอย่างรุนแรงของเหล่าขุนนางในราชสำนัก เนื่องเพราะบางคนเห็นว่าเจ้าชายคูบิไลมีความนอบน้อมนุ่มนวลเกินไป ไร้ความเด็ดเดี่ยวแข็งกร้าว ในสถานการณ์ที่อาณาจักรกำลังแตกเป็นก๊กเป็นเหล่า ผู้นำเช่นนี้จะสร้างเสถียรภาพทางการเมืองขึ้นมาได้อย่างไร
แต่สุดท้ายเนื่องจากไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่าเหลือให้เลือก เจ้าชายคูบิไลจึงเข้ารับการสถาปนาเป็นข่านองค์ต่อไป !
.............................................
ฟากฝั่งอาณาจักรซ่งกลับอ่อนแอลงเรื่อย ๆ การทหารถูกลดทอนบทบาท เนื่องจากองค์จักรพรรดิมีความหวาดระแวงว่าตนจะถูกยึดอำนาจรัฐประหาร แม่ทัพใหญ่ไร้อำนาจในการตัดสินใจ ทุกอย่างต้องรอฟังคำสั่งจากเมืองหลวงเท่านั้น ด้วยวิธีการนี้การเมืองจึงมั่นคงจากภายใน เนื่องเพราะขุนนางกุมอำนาจในการบริหาร แม้ด้านการทหารจะอ่อนแอลง แต่ด้วยเหตุผลว่าต้าซ่งยังคงมีกำลังทหารอยู่เป็นจำนวนมาก แม่ทัพบางคนยังจงรักภักดีต่อแผ่นดิน พร้อมปกป้องต้าซ่งจนตัวตาย ทำให้อาณาจักรจินเองก็มิกล้าบุ่มบ่ามบุกโจมตีความเดิมจากตอนที่แล้วตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 ตอนที่ 4 ตอนที่ 5
ตอนที่ 6 ตอนที่ 7 ตอนที่ 8 ตอนที่ 9 ตอนที่ 10
ตอนที่ 11 ตอนที่ 12 ตอนที่ 13 ตอนที่ 14 ตอนที่ 15
ตอนที่ 16 ตอนที่ 17 ตอนที่ 18 ตอนที่ 19 ตอนที่ 20
ตอนที่ 21
Create Date : 05 กันยายน 2562 |
Last Update : 5 กันยายน 2562 6:10:02 น. |
|
14 comments
|
Counter : 3249 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณRananrin, คุณmultiple, คุณธนูคือลุงแอ็ด, คุณkae+aoe, คุณสองแผ่นดิน, คุณThe Kop Civil, คุณอุ้มสี, คุณtuk-tuk@korat, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณJinnyTent, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณตะลีกีปัส, คุณhaiku, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณTui Laksi, คุณnewyorknurse |
โดย: Rananrin วันที่: 5 กันยายน 2562 เวลา:6:29:03 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 5 กันยายน 2562 เวลา:7:57:48 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 5 กันยายน 2562 เวลา:8:12:54 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 5 กันยายน 2562 เวลา:8:30:09 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 5 กันยายน 2562 เวลา:11:38:29 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 5 กันยายน 2562 เวลา:18:47:14 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 กันยายน 2562 เวลา:22:10:08 น. |
|
|
|
| |
รินไม่ค่อยถนัดเรื่องแนวนี้เท่าไหร่
แต่รู้ว่าถ้าอ่านแล้วจะได้กลวิธี
และแนวคิดที่คาดไม่ถึง
นำมาปรับใช้ในชีวิตได้ค่ะ
มีเวลาจะมาตามอ่านนะคะ