:: ศึกชิงบัลลังก์ยุทธ์ มังกรพยัคฆ์บูรพา ตอนที่ 18 ::
:: ศึกชิงบัลลังก์ยุทธ์ มังกรพยัคฆ์บูรพา ตอนที่ 18 ::เรื่องและภาพ : กะว่าก๋า
ห่างจากหมู่บ้านที่เกิดเหตุราว 10 ลี้ ทหารโฉดชั่ว 50 นายกำลังนั่งพักผ่อนหย่อนใจกันอย่างไร้ระเบียบวินัย เสียงพูดคุยดังโขมงโฉงเฉงราวกับทะเลาะถกเถียงกันตลอดเวลา
“ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าท่านนายกองจะพิศวาสยายป้าคนนั้นได้”
ทหารคนหนึ่งพูดยั่วเย้าขึ้นมา คนที่ล้อมฟังอยู่โห่ฮาด้วยความครื้นเครง ดูเหมือนจะเมามายกันอย่างหนักทุกคน เสียงนายกองตะโกนดังอ้อแอ้
“ข้าฝืนใจทำไปอย่างนั้นเอง ทั้งหมู่บ้านมันเหลือแต่หญิงชรากับเด็ก พวกเจ้าฉุดคร่าเด็กหญิงไปจนหมด ข้าเหลือแต่หญิงแก่ เลยต้องมอบสวรรค์ชั้นเจ็ดให้นางยังไงเล่า”
พูดจบก็หัวเราะดังลั่นด้วยความสะใจ
“ข้ายังไม่ทันเสร็จกิจ ยายเฒ่าดันชิงกัดลิ้นตัวเองตายไปซะก่อน ยังไม่สาใจเลย”
ทหารซึ่งนั่งล้อมวงอยู่พากันวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่ได้กระทำมาสด ๆ ร้อน ๆ ทั้งปล้น ฆ่า ข่มขืน ราวกับเป็นเรื่องธรรมดาและเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
“เสียดาย....หมู่บ้านนี้มันมีแต่คนจน ไม่คุ้มเหนื่อยกับการปล้นเลย”
ทหารหนุ่มท่าทางกักขฬะอีกคนกล่าวขึ้น พรรคพวกต่างส่งเสียงอือออเห็นด้วย
โดยไม่มีใครคาดคิดและรู้ตัว สูงขึ้นไปบนยอดไม้ มีร่างของชายผู้หนึ่งยืนฟังถ้อยคำสนทนาอย่างเงียบเชียบราวกับพยัคฆ์รอตะปบเหยื่อ แววตาแข็งกร้าวแฝงความดุดันโหดร้ายอย่างที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน ไป่จิงเหวินคลายความเหี้ยมโหดไปมากหลังจากบรรลุเพลงยุทธ์ เขาแทบไม่ได้สังหารใครอีกเลย แต่ครานี้สิ่งที่ทหารซ่งกลุ่มนี้ได้ทำ ช่างเป็นสิ่งชั่วช้าเลวทรามอย่างยิ่งยวด จนไป่จิงเหวินมิอาจให้อภัยได้
เสียงพูดคุยยังดังขึ้นต่อเนื่อง นายกองคนเดิมยิ่งเมายิ่งคึก
“ครั้งหน้าข้าจะพาพวกเจ้าไปปล้นบ้านเศรษฐี เราจะได้เสพสุขกับหญิงงามกันบ้าง”
พูดยังมิทันจบความดี ร่างหนึ่งถลันพุ่งลงมาจากยอดไม้อย่างรวดเร็ว ไป่จิงเหวินกระทืบเท้าลงไปบนศีรษะนายกองผู้โฉดชั่วทันที พริบตาเดียวทหารชั่วก็กลายเป็นผีเฝ้าป่า หัวขาดกระเด็นไปในทันที !
เท้ายังไม่ทันแตะพื้น ไป่จิงเหวินหมุนตัวซัดฝ่ามือมังกรพยัคฆ์บูรพาใส่เหล่าทหารที่รายล้อมอยู่ใกล้ ๆ ทั้งหมดสิ้นใจตายภายในฝ่ามือเดียว ไป่จิงเหวินยิ่งลงมือยิ่งเหี้ยมโหดอำมหิต ไล่ฆ่าทหารชั่วชาติอย่างมันมือ เศษเลือด เศษมันสมอง เศษกระดูก กระจัดกระจายเกลื่อนกราด ทหาร 50 คนล้มตายภายในชั่วไม่กี่อึดใจ เลือดนองเต็มฝ่ามือของไป่จิงเหวิน กลิ่นเลือดคละคลุ้งเต็มทุ่งสังหาร ไม่มีใครรอดชีวิตไปได้แม้แต่คนเดียว !!!
กรรมต้องชดใช้ด้วยกรรม คนชั่วโฉดไม่สมควรมีชีวิตอยู่อีกต่อไป !
……………………………………
ไป่จิงเหวินตัดสินใจเดินมุ่งหน้ากลับไปยังเมืองหลวงอีกครั้ง ระหว่างทางหากพบเห็นการกระทำอันต่ำช้าของทหารซ่ง ไป่จิงเหวินจะกระทำตนเป็นศาลเตี้ย พิพากษาความยุติธรรมให้ชาวบ้านผู้เดือดร้อนจากการถูกข่มเหงรังแก ด้วยการมอบความตายอันเหี้ยมโหดน่าหวาดหวั่นกลัวให้กับเหล่าทหารนอกรีตเหล่านั้น จนเกิดเป็นกระแสข่าวลือไปทั่วแผ่นดิน ว่าบัดนี้นักโทษประหารไป่จิงเหวิน กำลังก่อกบฏโค่นล้มราชสำนักด้วยตัวคนเดียวโดยลำพัง ในช่วงนี้สถานการณ์คุกคามทำร้ายชาวบ้านจึงเบาบางลงอย่างไม่น่าเชื่อ เหล่าทหารชั่วโฉดต่างหวาดกลัวการลงทัณฑ์อันโหดร้ายทารุณของไป่จิงเหวิน จนไม่กล้าทำร้ายรังแกกดขี่ชาวบ้าน ส่วนทหารซึ่งอยู่ในกฎระเบียบวินัยหาได้หวั่นกลัวไม่ ทุกคนกลับดีใจเสียอีกที่มีคนยืนหยัดเพื่อผดุงความถูกต้องดีงามให้คงอยู่ต่อไป
ทุกหมู่บ้านเมื่อเห็นบุรุษท่าทางทระนงองอาจเดินดุ่มมาโดยลำพัง ทุกคนต่างเชื่อมั่นว่านั่นคือ ไป่จิงเหวิน วีรบุรุษผู้ปราบปรามคนชั่ว อภิบาลคนดี เขาได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านร้านช่องเป็นอย่างดี ชายหนุ่มบางคนถึงกับร้องขอให้ไป่จิงเหวินยกตนขึ้นเป็นผู้นำ ในการสร้างแนวร่วมเพื่อปฏิวัติโค่นล้มราชสำนัก ซึ่งที่ผ่านมาได้กดขี่ข่มเหงชีวิตและทรัพย์สินประชาชนจนแทบอดทนอดกลั้นไม่ไหว ใบประกาศจับจากทางการหาได้มีใครนำพาอีกต่อไป ทุกคนพากันช่วยฉีกทึ้งทำลายทิ้งจนหมดสิ้น
.................................................
แล้วชะตาฟ้าลิขิตก็ทำให้ไป่จิงเหวินได้พบกับนางในดวงใจของเขาอีกครั้ง ที่ตำบลฉิงซุย ขบวนแห่ขององค์หญิงชุนเหลียนเดินทางผ่านมา ประจวบเหมาะกับไป่จิงเหวินเองก็เดินทางมาถึงตำบลนี้โดยบังเอิญ แม่ทัพใหญ่ผู้คุ้มกันขบวนจำไป่จิงเหวินได้แต่ไกล รีบถ่ายทอดคำสั่งคุ้มกัน เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าไป่จิงเหวินจะบุกเดี่ยวเพื่อชิงตัวองค์หญิงไป ทั้งสองฝ่ายต่างยืนหยุดนิ่งห่างกันราว 30 ก้าว แม่ทัพจิงตู้ตะโกนเจรจากับไป่จิงเหวินว่า
“ไป่จิงเหวิน นี่เป็นขบวนเสด็จของเชื้อพระวงศ์ เห็นดังนี้เจ้ายังกล้าขวางทางอีกหรือ จงหลีกทางไปเดี๋ยวนี้ !!!”
ไป่จิงเหวินแกล้งยืนนิ่ง กล่าวโต้ตอบไปว่า
“นี่เป็นทางเดิน ใครจะไปใครจะมา ข้าหาได้ใส่ใจ ทางมีไว้เดิน ไม่ได้มีไว้หลบ”
จิงตู้โกรธจนหน้าแดง
“บัดซบสิ้นดี คิดว่าตัวเองเป็นใคร เจ้าไม่ไว้ไมตรีกับข้า อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
พูดจบจิงตู้กระตุกม้าให้พุ่งตรงเข้าหาไป่จิงเหวินอย่างรวดเร็ว กระชับง้าวในมือแน่น เมื่อเข้าใกล้ระยะฟัน เพลงง้าวอันดุดันเกรี้ยวกราดฟาดเปรี้ยงไปตรงหน้าอกของไป่จิงเหวินเต็มแรง เขาเจตนาไม่หลบเลี่ยง เกร็งพลังวัตรไว้ที่หน้าอก ออกแรงใช้กำลังภายในต้านเพียงนิด จิงตู้แม่ทัพใหญ่ก็ถูกแรงกระแทกใส่จนกระเด็นตกจากหลังม้าทันที
จิงตู้ตระหนกตกใจจนหน้าถอดสี เหตุใดใยง้าวคมกริบกลับฟันแทงไม่เข้าเช่นนี้ หรือไป่จิงเหวินคือปีศาจอสูรกายซึ่งฆ่าไม่ตาย ทำอะไรไม่ได้ !!!
จิงตู้ชักกระบี่หมายสังหารไป่จิงเหวินให้ได้ กระบี่ทิ่มพรวดแทงเข้าไป ไป่จิงเหวินใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางหนีบปลายกระบี่ไว้แน่น จิงตู้ออกแรงเต็มที่แต่ดึงยังไงก็ดึงกระบี่ไม่หลุด ไป่จิงเหวินแกล้งปล่อยสองนิ้วให้อ้าออกจากกัน จิงตู้ถึงกับหงายหลังผลึ่งเสียหลักล้มลงอย่างน่าอับอายขายหน้า
ไป่จิงเหวินยิ้มอ่อนราวกับการต่อสู้เบื้องหน้าเป็นเพียงการละเล่นระหว่างเด็กน้อยกับผู้ใหญ่เจนศึก จิงตู้อับอายเหลือแสน เขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ ได้รับมอบตำแหน่งแทนไป่จิงเหวิน แต่ตอนนี้กลับถูกสอนเชิงจนแทบแทรกแผ่นดินหนี แม้รู้ตัวดีว่าสู้ไม่ได้ แต่จะให้ยอมแพ้ต่อหน้าลูกน้องนายกองย่อมไม่มีวัน จิงตู้กระโจนแทงกระบี่ซ้ายขวาอย่างน่าดูชม แต่ไป่จิงเหวินหลบหลีกได้อย่างแคล่วคล่องว่องไว
เมื่อจิงตู้แทงพลาดถลำเข้ามาใกล้ ไป่จิงเหวินใช้ฝ่ามือกระแทกเพียงเบา ๆ จิงตู้ถึงกับลอยละลิ่วปลิวตกไปที่ข้างเกี้ยวใหญ่สลบเหมือดในทันที ทหารคุ้มกันขบวนไม่มีใครกล้าขยับเข้าต่อสู้ เนื่องจากรู้ดีว่าวรยุทธ์ที่ตนมีนั้นห่างชั้นจากฝีมือของไป่จิงเหวินราวฟ้ากับเหว เข้าไปสู้เหมือนเข้าไปตาย ทุกคนจึงทำได้เพียงหยุดยืนนิ่งรอดูสถานการณ์
องค์หญิงชุนเหลียนค่อย ๆ แง้มผ้าม่านประตูเกี้ยวออกมา หลังเสียงการต่อสู้เงียบลง เมื่อเห็นว่าผู้บุกรุก คือ ชายที่นางรักสมัครใจ ถึงกับดีใจลืมตัวรีบกระโดดลงมาจากเกี้ยวและโผเข้ากอดไป่จิ่งเหวิน โดยลืมตัวไปว่ามีเหล่าทหารและข้าราชบริพารติดตามมาด้วยเป็นจำนวนมาก
“พี่จิงเหวิน” นางร่ำไห้ด้วยความรู้สึกยากจะอธิบาย
“ข้าจำเป็นต้องทำตามคำสั่งท่านพ่อ ต้องเดินทางไปยังอาณาจักรจินเพื่อ....เพื่อ”
พูดมาถึงประโยคนี้องค์หญิงชุนเหลียนมิอาจเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดได้อีก ร้องไห้โฮออกมาอย่างน่าสงสารและน่าสะเทือนใจ
“องค์หญิง....ข้าเองมิอาจทำสิ่งใดได้ นอกจากยินยอมรับโชคชะตาที่เกิดขึ้น ชาตินี้ข้าบุญน้อยนัก แม้นมีรักก็มิอาจรัก แม้นอยากอยู่ใกล้ก็มิอาจทำได้ ข้าขอให้องค์หญิงมีความสุขในชีวิตคู่ตลอดไป”
กล่าวมาถึงคำนี้ เหมือนหัวใจโดนมีดกรีดเฉือน น้ำตาลูกผู้ชายที่คลออยู่กลับรินไหลลงมาอย่างรั้งไม่อยู่ ทั้งคู่ยืนกอดกันแน่นราวกับเป็นกอดสุดท้ายในชีวิต ไป่จิงเหวินขยับตัวถอยออกมา จ้องหน้าองค์หญิงชุนเหลียนเต็มสองตา
“ข้าขออำลาองค์หญิงด้วยใจเจ็บร้าวอย่างถึงที่สุด ขอองค์หญิงรักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”
พูดจบคำเขาก็กระโดดเหินลอยไปด้วยกำลังภายในอันล้ำเลิศ หายลับตาไปอย่างรวดเร็ว !ความเดิมจากตอนที่แล้วตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 ตอนที่ 4
ตอนที่ 5 ตอนที่ 6 ตอนที่ 7 ตอนที่ 8
ตอนที่ 9 ตอนที่ 10 ตอนที่ 11 ตอนที่ 12
ตอนที่ 13 ตอนที่ 14 ตอนที่ 15 ตอนที่ 16
ตอนที่ 17
Create Date : 01 กันยายน 2562 |
Last Update : 1 กันยายน 2562 6:21:07 น. |
|
18 comments
|
Counter : 3173 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณThe Kop Civil, คุณmultiple, คุณtuk-tuk@korat, คุณเนินน้ำ, คุณkatoy, คุณJinnyTent, คุณhaiku, คุณชีริว, คุณสองแผ่นดิน, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณSweet_pills, คุณอุ้มสี, คุณnewyorknurse |
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:7:24:04 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:7:29:30 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:11:07:00 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:11:41:14 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:12:04:39 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:12:13:55 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:16:11:30 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:21:16:22 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:23:19:30 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:23:38:46 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 1 กันยายน 2562 เวลา:23:57:58 น. |
|
|
|
| |