~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ สี่เล่มรวดของโอตสึ อิจิ & แจ้งข่าวเพื่อนบล็อกแกงค์ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★
อะแฮ่มๆ
กลับมาหลังจากหายไปจากกรุ๊ปบล็อกนี้ซะนานกับสี่เล่มของโอตสึอิจิค่ะ
หนึ่งคือ นัดหมายในความมืด (ของตัวเอง ซื้อตั้งแต่เมษาฯ ปีที่แล้ว )
สองคือ Zoo ยืมมาจาก The White Rider
สามคือ Goth ยืมมาจาก The White Rider
สี่คือ รอยสักรูปหมา ยืมมาจาก The White Rider
การอ่านงานของโอตสึของเราได้แก่ ฉันหายไปในวันหยุด ฤดูร้อนดอกไม้ไฟกับร่างไร้วิญญาณของฉัน โทรศัพท์สลับมิติ แล้วก็มาที่สี่เล่มนี้เรียงตามลำดับค่ะ โดยการเรียงลำดับนี้เรียงตามที่มีเพื่อนๆ ในห้องนักสืบของห้องสมุดแห่งพันทิปแนะนำมาค่ะ ซึ่งถือว่าเรียงได้ค่อนข้างโอเคนะคะ ค่อยๆ พีคขึ้นเรื่อยๆ (มีซูอะค่ะ ที่แบบ...เอ่อ..อึ้งๆ นิดหน่อย)
เรียงตามลำดับเลยนะคะ
นัดหมายในความมืด
เนื้อเรื่อง (แบบย่อสุดๆ)
เรื่องราวของหญิงสาวตาบอดตัวคนเดียวที่อาศัยอยู่ในบ้าน กับผู้ต้องหาในการฆาตกรรมชายคนหนึ่งที่สถานีรถไฟ สองคนได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน และต่างฝ่ายต่างพัฒนา “บางสิ่ง” ในตัวเองขึ้นมาได้ หลังเหตุการณ์อันร้ายแรงนี้
เป็นเรื่องยาวเรื่องแรกของโอตสึ อิจิที่เราได้อ่านค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่า โอตสึน่าจะเขียนเรื่องยาวๆ เยอะๆ นะคะ เพราะอ่านแล้วมันอินและได้อารมณ์มากกว่าเยอะค่ะ จุด twist ของเรื่องไม่ได้น่าแปลกใจนัก (แต่ก็ถือว่า หักมุมใช้ได้อยู่ค่ะ ทั้งสองหักน่ะแหละ) แต่ชอบความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสองคน ที่ทำให้ต่างฝ่ายต่างเป็นตัวเติมเต็มของกันและกันไปได้ในที่สุด ชอบการดำเนินเรื่อง ชอบการสร้างความสัมพันธ์ รวมทั้งการสร้างตัวละครทุกตัวในหนังสือเล่มนี้ด้วยค่ะ
ตัวละครทั้งสองตัวต่างก็มีความแหว่งวิ่นบางอย่างในตัวเองน่ะ ตัวนางเอกทำให้เรานึกถึงนางเอกจากเรื่องคิทเช่นของป้ากล้วย – บานานา เลยแหละค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่คุณเธอชอบที่จะนอนนิ่งๆ และการได้อยู่เฉพาะในบ้านของตัวเองน่ะ ส่วนพระเอกของเรื่อง เราว่า ตัวละครเอกหลายๆ ตัวของโอ๊ตสึเขาเป็นลักษณะนี้นะคะ คือ แปลกแยกจากสังคมแต่มีความโหยหาบางอย่างอยู่ลึกๆ เสมอน่ะค่ะ
แต่การดำเนินเรื่องบางช่วงที่มีการสลับผู้เล่าในเหตุการณ์เดียวกัน อาจทำให้บางคนที่อ่านรู้สึกว่าอ่านอะไรซ้ำๆ และทำให้เหมือนน่าเบื่อได้ แต่สำหรับเรา..เราโอเคค่ะ เพราะคอยคาดเดาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น จริงๆ แล้วอีกฝ่าย “ทำ” หรือ เป็นเช่นนั้นด้วยเหตุผลอะไรน่ะค่ะ
สรุปแล้วเป็นอีกเล่มที่ค่อนข้างประทับใจค่ะ เชียร์ให้อ่านพอๆ กับโทรศัพท์สลับมิติค่ะ
Zoo
อ่า..อันนี้เรียกว่า หลากหลายสมเป็นสวนสัตว์จริงๆ ค่ะ (ในสี่เล่มชอบเล่มนี้น้อยที่สุดง่ะ )
ทั้งตัวละคร เนื้อเรื่องแต่ละเรื่อง บรรยากาศแต่ละเรื่องนี่แบบ...หลากหลายโคตรๆ ค่ะ เรื่องที่ประทับใจสุดๆ มีสองเรื่องคือ บทกวีในมุมอุ่นไอแดด กับ 7 Rooms ค่ะ
เรื่องบทกวีฯ ชอบบรรยากาศของเรื่องถ้อยคำบางถ้อยคำ และการดำเนินเรื่องแบบเริ่มต้นจนสิ้นสลาย การหักมุมไม่ได้พลิกความคาดหมาย (จริงๆ เรื่องของโอตสึแทบทุกเรื่องสำหรับเรา ไม่มีจุดหักมุมอันไหนเกินคาดเดาเลย แต่จุดแข็งของงานเขียนของเขามันไปอยู่ที่อื่นน่ะ) แต่การสร้างตัวละครและการดำเนินเรื่องมันบอกไม่ถูก มีเสน่ห์น่ะ
แม้จะมีบางรายละเอียดที่ออกจะขัดๆ อยู่บ้าง แต่ก็มองข้ามไปได้ค่ะ
ส่วน 7 Rooms ทั้งๆ ที่หน้าหายไป ๘ หน้าแต่ก็ยังพอรู้เรื่องอยู่ค่ะ จบได้แบบสะเทือนใจและสะใจมาก แบบ..โอ้..เว้ย..โอเคเลย เอางี้เลยนะ ประมาณนั้นเลยค่ะ (ท่านใดไม่เข้าใจ กรุณาอ่านเองนะคะ อิอิ) คือถามว่าจบแบบเกินคาดหมายอีกมั้ย ก็ไม่..แต่สะเทือนใจมั้ย..สะเทือนใจค่ะ
อ่านไปก็นึกถึงแต่หนังเรื่อง Cube ไปน่ะ (เวอร์ชั่นแรกดั้งเดิมอะนะ) แต่เรื่องนี้ทำได้สะเทือนใจกว่าสำหรับเราค่ะ
ถ้าถามเราว่า ถ้าเป็นตัวละครสองตัวจะเลือกทำอย่างทั้งคู่มั้ย ไม่ว่าเราเป็นพี่สาวหรือน้องชาย เราว่าเราเลือกทำอย่างตัวละครทั้งคู่ค่ะ
คำเตือน – อย่าอ่านคำนำของผู้แปล เพราะสปอยล์ตอนจบของ 7 Rooms ซะงั้น
Goth คดีตัดข้อมือ
นิยายเรื่องแรกของโอตสึ อิจิ (ที่เราได้อ่าน) ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นตอนๆ เป็นเรื่องๆ โดยมีตัวพระเอกกะนางเอกในทุกตอน ซึ่งแบบ..โอ้..สร้างตัวละครแบบนี้มาได้ไงเนี่ย นางเอกแบบนี้กับพระเอกแบบนี้ให้เป็นพระเอกนางเอกได้ด้วยเรอะ ๕๕๕
เรียกว่าทั้งพระเอกและนางเอกนี่ “แหว่งวิ่น” เอาการเลย แถมเป็นแบบ..เอ่อ..ใครที่ชอบพระเอกนางเอกแบบคนปกติ มีศีลธรรมก็คงไม่ชอบเอามากๆ ค่ะ เพราะเรียกได้ว่าถ้าเอามาตรฐานของสังคมทั่วไปมาตัดสินสองคนนี้แล้วคงเรียกได้ว่า สองคนนี้เป็น “โรคจิต” อย่างแรง..จริงๆ นะคะ
แต่เราอ่านด้วยความเพลิดเพลินเป็นอย่างยิ่ง
ที่ชอบอีกอย่าง คือ การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครสองตัวนี้ค่ะ โอตสึเขียนได้ดีจริงๆ แบบ..อืมม์..กึ่งๆ กึ่มๆ ครึ้มๆ มัวๆ บอกไม่ถูก (ต้องอ่านเองค่ะ เหอๆ)
เรื่องต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในเล่ม ชอบค่อนข้างมากก็มี Goth (ที่ทำให้เห็นแง่มุมของพระเอกที่แบบ..เอ่อ..คือว่า..อะนะ) กับเรื่องสุดท้ายที่ทำให้เห็นว่า สองคนนี้ที่แท้รู้สึกเช่นไรต่อกันน่ะค่ะ เรื่องสุดท้ายนอกจากจะทำให้เราได้รับรู้ถึงพัฒนาการทางความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ด้วยแล้ว อีกอย่างคือ เรื่องของพี่-น้องซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องซึ่งเราว่าสะเทือนใจใช้ได้เลยหละค่ะ
ติดใจตัวละครที่เป็นน้องสาวของพระเอกด้วยค่ะ คิดว่าน่าจะเขียนต่อนะคะ ตัวละครน่าสนใจดีค่ะกับความสามารถพิเศษที่เธอมี
สรุปแล้วเป็นอีกเล่มที่คิดว่า ถ้าได้อ่านก็น่าจะชอบกันนะคะ
รอยสักรูปหมา
อีกหนึ่งหนังสือรวมเรื่องสั้นที่น่าสนใจค่ะ มีทั้งหมด ๔ เรื่อง ได้แก่ ดวงตาศิลา ฮาจิเมะ BLUE และรอยสักรูปหมา ซึ่งแต่ละเรื่องก็สร้างความประทับใจได้ค่อนข้างดีเลยหละค่ะ เรียกได้ว่า รู้สึกได้เลยว่าเป็นเล่มที่ค่อนข้างมีการพัฒนาทางด้านการสร้างเรื่องสั้นของโอตสึ (เมื่อเทียบกับหนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มอื่นๆ ของนักเขียนคนเดียวกัน) มีบางเรื่องที่จบท้ายได้แบบไม่สุดนัก แต่โดยรวมแล้วถือว่าค่อนข้างโอเค ลงตัวเลยทีเดียวค่ะ
แต่ละเรื่องมีบรรยากาศเหงาๆ เศร้าๆ แฝงอยู่ตลอด เรื่องที่ชอบที่สุดคือ BLUE ค่ะ แบบ..สะเทือนใจ (แม้จะรู้ว่ามันต้องจบอย่างนี้แหละ) สะเทือนใจกับชะตากรรมของตัวละคร สะเทือนใจกับความรู้สึกของตุ๊กตาตัวเล็กขี้ริ้วขี้เหร่ตัวหนึ่ง สะเทือนใจกับความสัมพันธ์ระหว่างตุ๊กตากับเจ้าของ เรียกได้ว่าลงตัวในแทบทุกอย่างสำหรับเรา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างตัวละคร การสร้างเรื่องราว และการดำเนินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ
ไม่รู้สิคะ อ่านรวมเรื่องสั้นเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า โอตสึ “ถักทอ” ความสัมพันธ์และสร้างความรู้สึกให้กับคนอ่านได้ “ลึก” ขึ้นน่ะค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าเขียนเรื่องนี้หลังเรื่องอื่นๆ จริงหรือเปล่า แล้วก็เขียนหลังนานแค่ไหน (เพราะบางทีสนพ.ไทยก็ไม่ได้ตีพิมพ์ตามลำดับที่ต้นฉบับออกมาสู่สายตาคนอ่านหรอก ใช่มั้ยคะ?)
โดยสรุปแล้วถ้าสี่เล่มนี้ชอบตามลำดับก็ นัดหมายในความมืด รอยสักรูปหมา โกธ (จริงๆ แล้วสองเล่มนี้พอๆ กันนะคะ) แล้วก็ซูเป็นอันดับท้ายสุดค่ะ
แต่ถ้าให้เชียร์ให้อ่าน ก็ยังเชียร์โทรศัพท์สลับมิติกับรอยสักรูปหมา สำหรับคนชอบเรื่องสั้น
และนัดหมายในความมืดกับโกธ สำหรับนิยายค่ะ
สำหรับข่าวคราวที่จะแจ้งให้เพื่อนๆ ทราบก็ครืออออออ...
จากที่เห็นตัววิ่งที่หัวบล็อก และจากการไปตอบตามบล็อกเพื่อนๆ หลายคนคงจะทราบแล้วว่า สิ้นเดือนนี้สาวไกด์ฯ จะออกจากงานประจำที่ทำอยู่ เนื่องด้วยเหตุผลที่คงจะดูงี่เง่าสำหรับคนวัยเท่านี้แล้วก็คือ “ไม่มีความสุขกับการทำงาน” (จริงๆ มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายค่ะ แต่ขอไม่นำมากล่าวถึงแล้วกันนะคะ ) คือ จริงๆ สาวไกด์ฯ คิดว่าตัวเองเหมาะและรักที่จะเป็นครูหรืออาจารย์ค่ะ แต่ปัญหาสำคัญก็คือ สาวไกด์ฯ มีประสบการณ์ซึ่งมั่นใจที่จะสอนได้คือเรื่องของการท่องเที่ยว แต่ตามวุฒิที่เรียนมากลับเป็นด้านนิเทศศาสตร์ มันก็เลยอิหลักอิเหลื่ออยู่อย่างนี้ค่ะ (ไปทางไหนก็ไม่ได้สักทาง เหอๆ )
แล้วก็สำหรับงานรองๆ ต่อๆ มาที่อยากทำก็คือ งานที่ทำความดีให้สังคม (เอ่อ..กรุณาอย่ามองด้วยสายตาอย่างนั้น หน้าตาไม่ให้ใช่ปะ กร๊ากกกกก ) คือรู้สึกว่าอยากทำงานอะไรที่มันมีประโยชน์ต่อผืนแผ่นดินและประเทศชาติที่เราอาศัยเกิดบ้างน่ะค่ะ แต่ก็..นะ ด้วยความที่สาวไกด์ฯ เองก็มีครอบครัวแล้ว งานที่ว่านี่ก็คงหายากพอสมควร (คือเท่าที่เห็นก็ควรเป็นงานครูด้วยแหละค่ะ) อีกอย่างภาระของความเป็นครอบครัวมันก็เยอะขึ้นด้วย รายได้ก็ต้องพอสมควร (ไม่ต้องมากขนาดรวยหรอกค่ะ) ให้พอจะอยู่รอดได้น่ะนะคะ ก็เลยยิ่งเป็นข้อแม้ที่ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ (ตั้งเงื่อนไขให้ตัวเองเยอะไปเปล่าเนี่ย เจ๊ )
สาธยายมาซะเยอะ ๕๕๕ แค่อยากจะบอกว่า วันนี้จะทำงานประจำที่นี่เป็นวันสุดท้ายค่ะ แล้วก็เดือนหน้าก็คงจะหางานไปเรื่อยๆ พร้อมกับการออกทริปแต่เพียงอย่างเดียวจนกว่าจะได้งานใหม่
ดังนั้น...โอกาสที่จะอยู่หน้าจอคอมฯ ได้อ่านบล็อก ได้อัพบล็อกก็คงจะห่างเหินไปแหละค่ะ งานใหม่ที่จะได้ ก็ไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ แล้วจะได้อยู่หน้าจอคอมฯ มากน้อยแค่ไหนด้วย ก็เลยขออนุญาตแจ้งเพื่อนๆ บล็อกให้รับทราบนะคะว่าเราคงจะห่างๆ กันไปแล้วล่ะค่ะ ก็ได้แต่หวังว่า คงได้งานใหม่ที่ทำให้มีโอกาสที่จะได้อยู่หน้าจอคอม ได้เข้าบล็อกแกงค์บ้างอะนะคะ
คิดถึงกันบ้างนะคะเพื่อนๆ แล้วเจอกันเมื่อชาติต้องการค่ะ
ขอบคุณสำหรับการแวะมาอ่านค่ะ
หมายเหตุ บลอกนี้ rebel รับฝากอัพนะคะ พี่สาวไกด์แจ้งว่าจะติดภาระกิจอีกนาน คงจะไม่สามารถมาตอบบลอกได้อีกระยะหนึ่งค่ะ
Create Date : 04 มิถุนายน 2550 |
|
155 comments |
Last Update : 4 มิถุนายน 2550 19:18:15 น. |
Counter : 2333 Pageviews. |
|
|
|