###### รีวิวหนังสือ ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ - เศร้า ซึ้ง เสียดายที่ไม่ได้ดูหนังค่ะ ######
สวัสดีค่าาาาาาาาา
วันนี้ก็จะมารีวิวหนังสือชื่อแปลกเล่มนี้กันนะคะ
ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ
(Kimi no Suizo wo Tabetai)
เขียนโดย Yoru Sumino
แปลโดย ธีราภา ธีรรัตนสถิต
ราคาปก 345 บาท
จำนวนหน้า 332 หน้า
เรื่องย่อ
เรื่องราวของหญิงสาวแสนสดใสที่โรคร้ายกำลังคุกคามชีวิตเธอและเธอใกล้เสียชีวิตเข้าไปทุกวัน กับเด็กหนุ่มเพื่อนร่วมห้องที่ไม่เป็นที่สะดุดตาคนหนึ่ง ทั้งสองคนพัฒนาความสัมพันธ์และความผูกพันที่มีให้กันตามวันเวลาที่ผ่านไป จนวันหนึ่งโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น
ความรู้สึกที่ได้อ่าน
เป็นอีกหนึ่งเล่มที่เราอ่านแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ
โดยเฉพาะช็อตหักมุมนั่น ทั้งช็อคและสะเทือนใจมาก (พยายามจะไม่สปอยล์) มันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดจริงๆ ว่ามันจะจบเรื่องราวทุกอย่างลงแบบนี้...คนเขียนใจร้ายมากจริงๆ แต่จะว่าไป...มันก็อาจจะเป็นทางอออกที่ดีก็ได้ค่ะ
ตัวละครเอกฝ่ายหญิงอย่าง ยามาอุจิ ซากุระ นั้นเรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่ทำให้เราหลงรักได้ง่ายๆ เลยค่ะ เธอเผชิญกับโรคร้าย แต่เลือกที่จะรับมือและอยู่กับมันด้วยความสันติอย่างดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เลือกที่จะแทบไม่ให้ใครรู้ความลับนี้ (แม้กระทั่งเพื่อนรักที่สุดของตัวเอง...ที่ไม่ใช่พระเอก) เพื่อที่เธอจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติที่สุดเท่าที่เธออยากจะได้ใช้ มีทัศนคติที่เข้มแข็งมากๆ เรียกได้ว่าถ้าวันหนึ่งเกิดเราต้องเผชิญกับบางสิ่งเหมือนอย่างที่เธอเจอ เราก็อยากเป็นให้ได้เหมือนอย่างที่เธอเป็นนั่นแหละ
ขณะที่ตัวละครเอกฝ่ายชาย "เพื่อนร่วมชั้นที่รู้ความลับ" นั้น...เรียกได้ว่าเป็นคนซึนมากกกกก ซึนจนบางทีเราอยากจะเข้าไปบีบคอและเขย่าตัวเขาเลยค่ะว่า เฮ้ยยยยย แบบบบบบบ...ช่วยทำอะไรให้มันชัดเจนกว่านี้ได้มั้ยยยย แต่ก็...นะ ท้ายๆ ก็เรียกได้ว่าเขามีพัฒนาการแหละค่ะ ซึ่งที่จริงก็ต้องขอบคุณซากุระที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ และคนเขียนก็มาเฉลยชื่อเขา (ที่ทำเราแอบอมยิ้มทั้งกับชื่อและนามสกุล หลังจากเดามาทั้งเรื่อง) เอาตอนท้ายเรื่องเลยหละค่ะ
และสารภาพว่า ตอนอ่านนี่รู้สึกว่าตัวละครฝ่ายชายนี่มีหลายอย่างเหมือนน้องต่อ toor36 ณ บล็อกแกงค์ เราเลยหละค่ะ จริงๆ นะ อยากให้เจ้าตัวมาอ่านมาก (แต่ตัวเอกเขาเป็นหนอนหนังสือนะคะ ไม่ใช่หนอนการ์ตูน แฮร่...) อยากรู้ว่าอ่านแล้วรู้สึกว่าเหมือนเป็นเจ้าตัวอยู่บ้างมั้ย
ความงดงามอีกอย่างหนึ่งของเรื่องนี้คือ มันเป็นความรักในมิตรภาพที่งดงามมากนะคะ ถึงได้ทำให้เวลาเจอจุดที่พลิกผันนั้น เราถึงสะเทือนใจมาก แบบว่า...โหดร้ายยยยย (อีกรอบ กรีดร้อง) มันแค่อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวจริงๆ ทำไมต้องจบแบบนี้ ทำไม ทำไม แงงงงงงงงง (ฟูมฟายมาก 555) ยิ่งตอนอ่านบันทึกของซากุระในตอนท้ายแล้วนี่ น้ำตาเราไหลพรากๆ จริงๆ (มียกมาให้อ่านส่วนหนึ่งในตอนท้ายบล็อกนะคะ อ่านแล้วถ้ายังไม่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้อาจจะไม่อินมาก แต่รับรองว่าถ้าอ่านมาก่อน อินสุดๆ ค่ะ)
คือ ที่จริงแล้วบรรยากาศของนิยายเรื่องนี้จะออกแนวเรียบๆ ซึนๆ ทั้งเรื่องนะคะ (ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะการเล่าเรื่องผ่านสายตาของตัวเอกฝ่ายชาย (ซึ่งซึนมากอย่างที่บ่นมาแล้ว) เป็นหลักด้วยหละค่ะ) แต่พอไปๆ ก็จะค่อยๆ มีชีวิตชีวามากขึ้น ซึ่ง...ทำให้คนที่ไม่คุ้นชินกับนิยายบรรยากาศซึนๆ อาจจะเบื่อไปก่อนได้ แต่สำหรับเรา...เราอ่านได้สนุกนะคะ และชอบด้วย 555
ที่ออกจะขัดใจไปบ้างก็เรื่องของการแปลค่ะ บอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่มันไม่ค่อยลื่นไหลตลอดเวลา แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าต้นฉบับเป็นยังไง ก็ขอไม่ตำหนิการแปลหรอกนะคะ เพราะต้นฉบับอาจจะเป็นอย่างนี้มาก็ได้...มั้งนะ จะขอยกตัวอย่างที่อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ มาให้อ่านแล้วกันนะคะ
หน้า 52
เธอดูดีใจที่ได้เสียบหลอดลงไปในแก้วและดูดคาเฟ่โอเล่ ขึ้นมา - อืมม์...เราคิดว่าควรแปลเป็นคำอื่นได้อ้ะ อ่านแล้วสะดุดเลยค่ะ
หน้า 99
"ดูหงุดหงิดนะเนี่ย การไปเที่ยวมันต้องร่าเริงกว่านี้สิ"
"คิดว่าเป็นการลักพาตัวมากกว่าเป็นการไปเที่ยวนะ"
"ถ้าจะจ้องมองตัวเองอย่างนั้น จ้องมองฉันเถอะ"
"นี่เธอ ถามจริง แกล้งพูดอย่างนั้นเพื่ออะไรกันเนี่ย"
สำหรับเราประโยคที่ขีดเส้นใต้มันดูเป็นบทสนทนาที่แปลกๆ ผิดที่ผิดทางอย่างบอกไม่ถูกค่ะ
หน้า 129
"ภาษาท้องถิ่นนี่ก็น่าสนใจดีนะ อยากกิ๋นหลาย พูดอะไรแบบนี้ก็เหมือนกับนักรบในสมัยก่อนเลย..."
คือ จากในเรื่อง สองคนไปฟุกุโอกะที่เป็นทางใต้ของญี่ปุ่นค่ะ ควรแปลโดยใช้ภาษาใต้ของไทย (ถ้าอยากจะให้คนอ่านเข้าใจอะนะ) มากกว่ามาใช้ภาษาของภาคอื่นในการแปลแบบนี้อะนะคะ
นิยายเรื่องนี้ได้รับการสร้างเป็นหนังด้วยค่ะ ซึ่งตัวสายคาดของหนังสือเล่มนี้ก็มีภาพนักแสดงด้วย อันนี้ตามความคิดของเรา เราว่าตัวเอกฝ่ายชายหล่อไปหน่อย กร๊ากกก คือ อ่านหนังสือแล้วไม่ได้คิดว่าดูดีขนาดนี้อะนะคะ แต่ยังไงก็ตามปกติหนังญี่ปุ่นจะแคสต์ไม่ค่อยผิดหรอกค่ะ เสียดายว่าไม่ได้ไปดูหนังเรื่องนี้อ้ะ ไม่งั้นน่าจะเป็นอีกเรื่องที่ได้เขียนถึงค่ะ
ปิดท้ายด้วยข้อความที่เราชอบๆ จากหนังสือเรื่องนี้นะคะ
".....ไม่ใช่สิ คือว่า..."
"อืม" "จะดีเหรอที่ใช้เวลาของชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิดไปกับการทำความสะอาดห้องสมุด?"
เธอเอียงคอให้กับคำถามที่แทบจะไม่มีความรู้สึกอะไรอยู่เลยของผม
"ดีอยู่แล้วสิ"
"ไม่เสมอไปนะ"
"เหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะให้ทำอะไรดีล่ะ?"
"ก็แบบว่าไปเจอคนที่เป็นรักแรกหรือไปโบกรถที่เมืองนอกเพื่อกำหนดสถานที่สำหรับวาระสุดท้ายในชีวิต มีเรื่องที่อยากทำอยู่มากมายไม่ใช่เหรอ?"
คราวนี้ เธอเอียงคไปด้านตรงข้ามกับเมื่อสักครู่นี้
"อืม ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจสิ่งที่อยากจะบอกนะ ตัวอย่างเช่นนาย 'เพื่อนร่วมชั้นที่รู้ความลับ' ก็มีเรื่องที่อยากทำก่อนที่จะตายเหรอ?"
"....จะว่ามีก็มีแหละ"
แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำสิ่งนั้นใช่ไหม ทั้งที่ทั้งฉันและเธออาจจะตายในวันพรุ่งนี้ก็ได้ ในความหมายนี้ ทั้งฉันและเธอก็ไม่ต่างกันหรอก จริงๆ แล้ว คุณค่าของหนึ่งวันก็เหมือนกันหมดแหละ เพราะฉะนั้น คุณค่าของหนึ่งวันของฉันไม่ได้เปลี่ยนไปตามสิ่งที่ทำหรอก วันนี้ฉันสนุกมากนะ"
"ในต่างประเทศเหมือนมีความเชื่อว่า การที่ให้คนอื่นกินชิ้นส่วนของร่างกาย วิญญาณก็จะมีชีวิตอยู่ในร่างคนนั้นต่อไป" ... "อย่างนั้นเหรอ น่าเสียดายจัง ให้ตับอ่อนเธอไม่ได้เลย"
"ไม่อยากได้หรอก"
"ไม่อยากกินเหรอ?"
"เธอจะตายเพราะตับอ่อนไม่ใช่เหรอ? ชิ้นส่วนของวิญญาณของเธอน่าจะต้องเหลืออยู่ในนั้นเยอะที่สุด แล้ววิญญาณของเธอน่าจะเสียงดังหนวกหูมากเลย"
ไม่มีทางร้องไห้แน่นอน ผมไม่มีทางทำเรื่องผิดที่ผิดทางอย่างนั้นแน่นอน ไม่เศร้าเสียใจ แล้วก็ไม่มีทางแสดงความรู้สึกอย่างนั้นต่อหน้าของเธอด้วย ทั้งๆ ที่เธอไม่แสดงสีหน้าเสียใจต่อหน้าคน การที่ใครคนอื่นมาทำสิ่งนั้นแทนเธอเป็นเรื่องที่ผิดที่ผิดทาง
"สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับความตายก็คือสิ่งนั้นแหละ สามารถใช้ชีวิตอยู่ทุกวันโดยระลึกว่ากำลังมีชีวิตอยู่ได้"
..... เธอแลบลิ้นออกมา คงตั้งใจจะพูดล้อเล่น แต่ผมรับรู้ว่าเป็นเรื่องที่เธอรู้สึกจริงๆ ในการเดินทางของคำพูดนั้น ความหมายทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับวิธีการรับความรู้สึกของผู้รับสัญญาณ ไม่ใช่ของผู้ส่งสัญญาณ
"...คนส่วนใหญ่มักจะพูดว่าความรักในช่วงมอต้นเป็นเรื่องเล่นๆ แต่คนที่พูดแบบนั้นคือคนโง่เง่าที่ไม่รับผิดชอบกับหัวใจรักของตัวเองก็เท่านั้นเอง"
"ยอมรับใครบางคน ชอบใครบางคน เกลียดใครบางคน อยู่กับใครบางคนแล้วรู้สึกสนุกสนาน อยู่กับใครบางคนแล้วรู้สึกน่าเบื่อ จับมือกับใครบางคน กอดใครบางคน ผ่านพบกับใครบางคน เรื่องพวกนั้นคือการมีชีวิตอยู่ เพียงแค่ตัวเองเพียงคนเดียวจะไม่รู้เลยว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ ฉันที่ชอบใครบางคนแต่ก็เกลียดใครบางคน ฉันที่คิดว่าอยู่กับใครบางคนแล้วสนุกสนาน แต่อยู่กับใครบางคนแล้วรู้สึกน่าเบื่อ ความสัมพันธ์ระหว่างคนอย่างนั้นกับฉัน ทำให้คิดว่าฉันมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่คนอื่น หัวใจของฉันที่มีอยู่ก็เพราะว่ามีทุกคนอยู่ ร่างกายของฉันที่มีอยู่ก็เป็นเพราะทุกคนมอบให้ ฉันที่ถูกประกอบขึ้นมาอย่างนั้น ตอนนี้มีชีวิตอยู่และก็ยังมีชีวิตอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นการที่คนมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่มีความหมายนะ เหมือนกับที่ทั้งเธอและฉันเลือกด้วยตัวเองและกำลังมีชีวิตอยู่ที่นี่"
ฉันคิดว่าเธอเป็นมนุษย์ที่ยอดเยี่ยมนะ
คนยอดเยี่ยมที่ตรงข้ามกับฉันโดยสิ้นเชิง
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะตอบคำถามก่อนหน้านี้ของเธอให้ด้วยนะ บริการให้เป็นพิเศษเลย
ที่ว่าฉันคิดยังไงกับเธอ ไม่อยากรู้เป็นพิเศษเหรอ? (หัวเราะ) อ่านข้ามไปก็ได้นะ
ฉันน่ะ...
ฉัน...ปลื้มเธอนะ
ตั้งแต่ก่อนหน้านี้มีเรื่องที่คิดมาอยู่โดยตลอด
ถ้าฉันเป็นเหมือนกับเธอแล้วคงจะไม่ต้องรบกวนใครได้มากกว่านี้ ไม่ต้องแจกความเศร้าให้กับเธอหรือกับครอบครัว คงมีเสน่ห์เฉพาะตัวเองและสามารถอยู่ได้เพื่อตัวเอง และด้วยความรับผิดชอบของตัวเอง
แน่นอนว่าชีวิตตอนนี้มีความสุขที่สุดเลย แต่ฉันก็ปลื้มเธอที่มีชีวิตอยู่ได้ในฐานะมนุษย์เพียงคนเดียวแม้จะไม่มีคนรอบข้างอยู่
ชีวิตของฉันมีเงื่อนไขว่ารอบข้างจะต้องมีใครอยู่ด้วยตลอดเวลา
ครั้งหนึ่งก็เกิดรู้สึกตัวขึ้นมา
ว่าเสน่ห์ของฉันจะไม่เกิดขึ้นถ้ารอบข้างของฉันไม่มีใครอยู่
แต่ก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องแย่ ก็แบบว่าทุกคนก็เป็นอย่างนั้นใช่ไหม? ความสัมพันธ์กับคนจะสร้างคนขึ้นมาใช่ไหมล่ะ เพื่อนร่วมชั้นของพวกเราก็ไม่สามารถรักษาความเป็นตัวเองเอาได้ถ้าไม่มีเพื่อนหรือคนรักอยู่ด้วยอย่างแน่นอน
เมื่อถูกเปรียบเทียบกับใครสักคน เปรียบเทียบกับตัวเองแล้วจึงจะค้นพบตัวเองได้เป็นครั้งแรก
สิ่งนั้นคือ "การมีชีวิตอยู่สำหรับฉัน"
แต่เธอ เธอเท่านั้นที่อยู่กับตัวเองตลอดเวลา
เธอสร้างเสน่ห์ออกมาด้วยการมองทบทวนตัวเอง ไม่ใช่จากการมีความสัมพันธ์กับผู้อื่น
ฉันก็อยากมีเสน่ห์เฉพาะของตัวเอง
เพระาฉะนั้นในวันนั้น หลังจากที่เธอกลับไป ฉันก็ร้องไห้
วันที่เธอเป็นห่วงฉันอย่างจริงจัง วันที่เธอบอกว่าอยากจะให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไป
เธอที่ไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์แบบเพื่อนหรือคนรักกับฉันคนนี้
ไม่ใช่ใครสักคน แต่เลือกฉันคนนี้
เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้ว่าฉันมีความจำเป็นในฐานะตัวฉันเอง
เป็นครั้งแรกที่ฉันคิดได้ว่าตัวเองเป็นฉันที่มีอยู่เพียงแค่คนเดียว
ขอบใจนะ
สิบเจ็ดปี ฉันอาจจะรอให้ตัวเองมีความจำเป็นสำหรับเธอ
ราวกับซากุระ รอให้ฤดูใบไม้ผลิมาถึง
ปฏิทินธรรม
วันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2561
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2561 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561
1. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันอาทิตย์ที่ 14 และ 28 มกราคม 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2561 (จัดทุก อาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน
เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 27 และ 28 มกราคม 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1469696+5733146=7202842/13068/1599
Book Blog
Create Date : 29 มกราคม 2561
Last Update : 29 มกราคม 2561 7:31:22 น.
41 comments
Counter : 1884 Pageviews.