Group Blog
 
All blogs
 

ชีวิต--เกิดมาก็ต้องเดินคนเดียวไปพลางๆก่อน




 

Create Date : 03 มกราคม 2557    
Last Update : 3 มกราคม 2557 11:05:13 น.
Counter : 4651 Pageviews.  

รับปริญาวันฝนพรำ + อวดรูปแต่งหน้าเอง

Concept รับปริญา ของเราก็อย่างที่บอก เอาง่ายๆ ไม่เวอร์มาก 
เรียนด้วยทำงานด้วย สไตล์ ม. ราม ก็อย่างว่า ไม่ค่อยมีเพื่อน 
ถ่ายรูปก็ถ่ายคนเดียว ก็เลยคิดว่าผมไม่ต้องทำเวอร์ หน้าพอแต่งเองได้ 
(ถ่ายคนเดียว ไม่มีเพื่อนมาแย่งซีนอยู่แล้ว เฮ่อๆ)


วันจริงรับกับพระเทพค่ะ ดีใจที่ได้รับพระราชทานใบปริญญาจากพระหัตถ์
(แอบเห็นบางที่ รับกับพระโอรสาฯแบบว่านั่งหลับ แล้ววางไว้ให้หยิบเองง่ะ)

อันนี้พระเทพท่านยื่นให้เลย 
ตอนนั่งรอให้ห้องKLB แล้วดูภาพจากกล้องวงจร เราก็ว่า ทำไมรับกันช้าจัง
รับแล้วไม่รีบออกมา จะยืนแช่กันอยู่ทำไม 
ตอนถึงตัวเองรับถึงได้รู้ ก็เพราะท่านจับแน่นไม่ปล่อยพระหัตถ์ 
คนรับเลยงงๆ แล้วไม่กล้ากระชากลากดึงออกมามั๊ง 55


พอรับเสร็จออกมาก็เจอฝนปรอย
คิดเอาเองว่ามันคือน้ำตาแห่งความภูมิใจของพ่อ หลั่งออกมาเป็นน้ำฝน
แต่ยังต้องเดินแถวต่อ เพื่อไปนั่งรอส่งเสด็จ
ส่งสัยว่าพ่อจะเลิกร้องให้ไปแล้ว ก็เลยแดดออกแรงตอนเราเข้าแถวส่งเสด็จพอดี
ครบค่ะ ฝน ลม แดด ทุกสิ่งที่ฉาบไว้บนหน้า ก็นะ ไหลเยิ้มตามระเบียบ

เจอทั้งแดดทั้งละอองฝน อากาศอบอ้าว อยู่ในที่แออัด ถ่ายรูปอย่างเดียว ไม่ยอมกินข้าว
กลับบ้านก็อาการแย่ค่ะ
ปวดหัว ปวดท้อง ปวดเท้า อวกแตก ไข้ขึ้น
เมื่อคืนตี2 แล้ว นอนไม่ได้ ปวดหัวมาก ร้องไห้ รื้อข้าวของ (หายากินอ่ะ อาการเหมือนคนอยากยา นึกดู)
คุณแฟนสุดทน เอายาไรไม่รู้ มากรอกปาก 5 เม็ด บอกยาจีน ยาจีน กินเหอะ ดี ดี
ดีจริงๆค่ะ เราเลิกอาละวาด แล้วหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว


ตื่นมาวันนี้ ก็อาการดี มีแรง มานั่งดูรูป เขียนบลอกนี่แหละค่ะ อิอิ










 

Create Date : 04 มีนาคม 2554    
Last Update : 22 กันยายน 2556 10:09:03 น.
Counter : 1118 Pageviews.  

คิดซะว่า"การเรียนภาษา"ก็เหมือนการคบหาดูใจกับ"แฟน"ซักคน

 


เรามีแนวคิดนี้มาจากครูสอนภาษาคนนึง น่าสนใจมากเราก็เลยเอามาขยายความแล้วก็เขียนไว้เผื่อว่าใครได้อ่าน จะได้เป็นแรงจูงใจในการเรียนภาษาบ้างเล็กๆน้อยๆ


"ตอนนี้เธอกำลังเริ่มเรียนภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาแม่ ให้คิดซะว่าเธอกำลังเริ่มรู้จักใครคนนึง ถ้าเราเริ่มสนใจในคนๆนั้น เราก็อยากที่จะอยุ่ใกล้เค้า อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากๆ จนเวลาผ่านไประยะนึงก็จะเกิดเป็นความรัก เราพร้อมที่จะทุ่มเทให้ทั้งแรงกายแรงใจ แต่แน่นอนมันต้องมีไม่เข้าใจกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง มีไม่น้อยที่ตัดสินใจเลิกกันเพราะปัญหาเพียงแค่นี้ แต่ก็มีบางคนหาหนทางสู้กับปัญหา พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ชนะใจเค้าให้ได้ บางคนอยู่ได้อยู่กันเป็นคู่ชีวิต ช่วยกันทำมาหากิน จนชีวิตประสบความสำเร็จได้ก็มี ภาษาก็เหมือนกับคนๆนั้นนั่นแหละ"


แต่สำหรับเจ้าของบลอกคนนี้ ค่อนข้างเป็นคนหลายใจซักหน่อย จับปลาหลายมือมาตลอด ยังไม่รู้เลยว่าสุดท้ายต้องนั่งร้องให้เสียใจกับการกระทำของตัวเองหรือป่าว...


"ภาษาจีน" รักแรก แต่มันก็กลายเป็นแค่อดีตไปแล้ว
เราเลือกคบกับภาษาจีนเป็นคนแรก เรียกได้ว่ารักมากๆ ทุ่มให้ทุกอย่าง ทั้งเงิน ทั้งเวลา ทั้งแรงกายและแรงใจ เราเข้าใจกันดี ไม่เคยมีทะเลาะกัน เราพยายามเอาใจใส่ภาษาจีนอย่างสม่ำเสมอหวังว่าซักวันเราจะชนะแบบทดสอบ ชนะใจภาษาจีนให้ได้ แต่ผลคือเราแพ้ ตอนนั้นสับสนไปหมด ทั้งที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ทำไมเราต้องมาอกหักแบบนี้ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า เวลาที่เรามีให้กันคงน้อยไป เราต้องพยายามต่อไป คงจะชนะใจภาษาจีนได้ จนมาวันนึงเราไปรู้จักกับภาษาญี่ปุ่น ก็รู้สึกชอบภาษาญี่ปุ่น ตอนแรกคิดว่าคบกันไปพร้อมๆคงไม่เป็นไร แต่บางทีเราแบ่งเวลาไปให้ภาษาญี่ปุ่นเยอะเกินไป จนห่างเหินกับภาษาจีนไปทีละน้อย ความพยายามที่จะเอาชนะใจภาษาจีนก็ค่อยๆหมดไป จนเลิกกันไปในที่สุด รวมแล้วก็คบกันได้ เกือบ 4 ปี


"ภาษาญี่ปุ่น" รักนี้ชั่วนิรันด์
ตัดใจจากภาษาจีน มาเลือกคบกับภาษาญี่ปุ่นได้ก็ประมาณ เกือบ 2 ปีแล้ว ถึงเวลามันจะยังสั้น แต่ก็มั่นใจว่าเราจะอยู่กับภาษาญี่ปุ่นไปให้ได้ตลอดชีวิต ถึงแม้ว่าภาษาญี่ปุ่นจะเข้าใจยากกว่า มีทะเลาะ เสียใจบ้างเป็นบางครั้ง แต่เราเชื่อมั่นว่าถ้าเราชนะใจภาษาญี่ปุ่นได้ ถ้าเรามีภาษาญี่ปุ่นเป็นคู่ชีวิตเราได้ ชีวิตเราต้องดีกว่าที่เป็นอยู่นี้แน่นนอน ถึงตอนแรกจะดูเห็นแก่ตัวที่เปลี่ยนใจทิ้งภาษาจีนมาคบกับภาษาญี่ปุ่น เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ในอนาคตของตัวเอง แต่เราก็มีภาษาญี่ปุ่นเป็นเพื่อนแก้เหงา สนุกและมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน อย่างนี้จะไม่ให้รักได้อย่างไร...


"ภาษาอังกฤษ" รักหลอกๆ แต่ก็ทำให้ช้ำได้ถึงทรวงใน...
จริงๆเคยเห็นหน้าเห็นตาภาษาอังกฤษมานานมากๆ ตั้งแต่สมัยประถม แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำความรู้จักแบบจริงจังซักที เพราะมันเจอกันจนชินตาล่ะมั้ง ไม่มีอะไรแปลกใหม่น่าค้นหา ก็เลยไม่ค่อยสนใจยัยดี พอโตมาก็ได้เห็นว่า ภาษาอังกฤษมันจำเป็นเป็นภาษาสากลที่ใครๆเค้าก็คบกัน มีภาษาอังกฤษอยู่กับตัวเป็นเพื่อนเป็นแฟน จะได้ไม่อายใคร เราก็เลยจำเป็นต้องคบด้วย แต่เพราะคิดว่ายังไงก็เห็นน่าเห็นตากันมานานแล้ว คงไม่มีอะไรต้องใส่ใจมากก็ได้ เจียดให้เวลานิดหน่อยก็คงจะชนะใจภาษาอังกฤษได้ไม่ยาก แต่พอถึงเวลาไปทดสอบก็แพ้ แพ้แบบไม่ได้ตั้งตัวด้วย เรื่องนี้ก็ไม่อยากโทษใคร ตัวเองนั่นแหละที่หลายใจ ไม่ได้มีใจจริงให้ภาษาอังกฤษผลมันก็ต้องเป้นแบบนี้เป็นธรรมดา จริงๆก็แค้นเหมือนกัน อยากจะกลับไปสู้ใหม่ให้รู้กันไปว่าใครเป็นใคร แต่ก็เอาเหอะตอนนี้ยังมีความสุขดีกับภาษาญี่ปุ่น ยอมแพ้ และถอยหลังออกมาก่อนดีกว่า แต่ไม่แน่นะเราอาจจะเจอกันอีกซักตั้งก็ได้



นิสัยเราอาจจะแย่ ไม่ได้ดีไม่พอใจ ก็หันไปสนใจสิ่งอื่น กลบเกลื่อนความรับผิดชอบของตัวเอง บางคนบอกว่าเราไม่มีจุดยืน ต่อให้คบอีกกี่คนกี่ภาษาก็ไม่มีทางชนะใจเค้าได้ บางคนบอกว่าเราแพ้แล้วก็ไม่สู้ แพ้แล้วหนี มันก็คงไม่มีวันชนะ เราก็ยอมรับนะ แต่ต่อไปนี้เราจะไม่ใช่คนแบบนั้นแล้วนะ "เราเลือกภาษาญี่ปุ่น" ไม่ว่าเราจะแพ้ภาษาญี่ปุ่นอีกกี่ครั่ง เราก็จะสู้จนชนะให้ได้....

จะมีใครเป็นอย่างเราบ้างนะ




 

Create Date : 17 ธันวาคม 2552    
Last Update : 17 ธันวาคม 2552 21:34:25 น.
Counter : 2361 Pageviews.  


BeeryKiss
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 81 คน [?]








New Comments
Friends' blogs
[Add BeeryKiss's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.