ช่วงนี้มีหลายๆคนพูดกับออยว่า โห!! แม่เป็นคนไทยเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่น พ่อเป็นคนจีน อย่างนี้จี้หมิงก็ต้องได้สอง-สาม-สี่ภาษาเลยซิคะ ดีจังเลย--- ไม่ค่ะ ออยจะไม่สอนภาษาใดๆให้ลูก นอกจากภาษาแม่ ภาษาอื่นถ้าอยากเรียน โตหน่อยให้เรียนด้วยตัวเองค่ะ--- และแอบคิดในใจด้วยว่า นี่ขนาดขวบครึ่งแล้ว ซักภาษาก็ยังไม่พูดเลย จะเอาสอง-สามภาษา จะมึนกันขนาดไหนเนี่ย
เมื่อก่อนออยเคยคิดเล่นๆว่า ถ้าฉันมีลูกคงไม่พยายามเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กสองภาษา ตามกระแสแน่นอน เพราะ
1. เราโอเคกับการที่โตมาพ่อแม่พูดกับเราภาษาเดียว ภาษาอังกฤษในโรงเรียนก็เรียนได้ไม่ขี้เหร่ โตขึ้นมาหน่อยชอบภาษาจีน ก็เลือกเรียนศิลป์-จีนตอนม.ปลาย ต่อมาก็ศึกษาภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเอง ไม่ได้ดีเริศสักภาษาแต่ก็ใช้ประกอบอาชีพได้ ไม่เคยรู้สึกมีปมด้อยทางด้านภาษา จึงความคิดว่า ถ้าพื้นฐานภาษาแม่ดีแล้ว จะเรียนภาษาอะไรตอนไหน ก็ไม่มีคำว่าสายเกินไปค่ะ
2. นอกจากเรื่องภาษาแล้ว เรามีอีกหลายอย่างที่ต้องสอนลูก เรื่องการใช้ชีวิต การแสดงออก เรื่องการเข้าสังคม มารยาท อยากอธิบาย พูดคุย ให้เค้าเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง ให้ลูกรู้สึกสนิทและสบายใจ ที่จะมีแม่เป็นเพื่อนพูดคุย ปรึกษาปัญหา ด้วยภาษาของแม่
ต่อมามีสามีเป็นคนจีนและมีลูกด้วยกัน ออยก็ยังยืนหยัดคำเดิมค่ะ ว่าจะไม่ยัดเยียดภาษาอื่นๆ นอกจากลูกจะขอให้สอน ตกลงกับสามีไว้ว่า ออยจะพูดและสอนภาษาไทยเป็นหลัก สามีก็พูดและสอนภาษาจีนเป็นหลัก ส่วนภาษาอังกฤษจะใช้เป็นสื่อบันเทิงแทน ฟัง-พูด เล่นๆขำๆค่ะ
อันนี้คือที่คิดไว้ตอนจี้หมิงเกิดใหม่ๆนะคะ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้จะออกมาเป็นอย่างไรเหมือนกัน ไม่แน่วันข้างหน้าอาจเปลี่ยนแนวคิดก็ได้ ซึ่งก็มีเปลี่ยนๆบ้างนิดหน่อยค่ะ
ตอนนี้จี้หมิงอายุ 1 ปี 6 เดือนแล้วค่ะ
ดูเหมือนจะเป็นเด็กพูดช้าด้วย ไม่รู้เกี่ยวกับที่บ้านใช้ทั้ง 2 ภาษาเลยหรือเปล่า
เวลาปู่ย่าช่วยเลี้ยงช่วงเย็น ก็จะเป็นจีนล้วน (ปู่ย่าพูดไทยไม่ได้เลย)
เวลาปะป๊าคุยกับจี้หมิงก็จีนล้วน แต่พอหันมาคุยกับแม่ต่อหน้าจี้หมิงแกก็จะพูดไทย
เวลาแม่พูดกับจี้หมิงก็จะเป็นไทยล้วน แต่มีบางทีแม่ก็พูดภาษาจีนเหมือนกัน เพราะฟังรู้เรื่อง จำคำศัพท์ได้ ทำตามคำสั่งได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาษาจีน (คนจีนในบ้านเยอะกว่า) แต่ไม่ยอมพูดตาม เด็กคงงงๆ ไม่รู้จะพูดภาษาอะไรกับใคร หรือเปล่า ก็เลยไม่พูดซะเลย
ช่วงวัยนี้เริ่มสอนคำศัพท์จริงจัง แต่จะเน้นภาษาจีนก่อน ส่วนมากจะเรียนรู้จากปู่ย่า และปะป๊า แม่ไม่ค่อยได้สอนอะไรเท่าไหร่ พูดเป็นภาษาไทยตลอด ไม่ถึงกับขนาดพูดพร้อมกัน 2 ภาษา แต่ถ้าพูดไทยแล้วจี้หมิงไม่เข้าใจก็จะพูดจีนอีกครั้งเช่น
แม่พูดว่า ปะ ขึ้นข้างบนไปอาบน้ำ นอนกัน ถ้าจี้หมิงไม่ฟัง ไม่สนใจ หรือไม่เข้าใจ แม่ก็จะพูดว่า ฉี๋จ่าว ซุ้ยเจี้ยว หรือบางทีจี้หมิง ถือขนมอยู่ แม่บอกว่า ป้อนแม่หน่อย จี้หมิงยื่นขนมมาที่ปากแม่ หลังจากนั้น ปะป๊าพูดว่า เก่ยป้าปะชือ จี้หมิงก็ยื่นขนมไปที่ปากปะป๊า อันนี้ไม่รู้ว่าฟังออกทั้ง 2 ภาษา หรือสถานการณ์มันพาไป แต่คิดว่า ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ หลากหลายสถานการณ์ เด็กก็จะค่อยๆเรียนรู้ทั้ง 2 ภาษาได้เองค่ะ
เรื่องเข้าโรงเรียนก็มีคุยๆกันไว้กับสามีเหมือนกันค่ะ ตอนแรกออยอยากให้ลูกเรียนที่ไทย ยังไงจี้หมิงก็เกิดที่ไทย สัญชาติไทย มีทะเบียนบ้าน มีเอกสารเรียบร้อย ทำอะไรๆคงสะดวกกว่า อีกอย่างออยอยากอยู่กับลูก ออยชอบความเป็นอยู่ที่ไทยมากกว่า มีบ้าน มีรถส่วนตัว ร้อนหน่อยแต่ อยู่ง่ายสะดวกสะบาย
หลังๆสามีนางบอกเพื่ออนาคตของลูก อยากให้ลูกเรียนที่จีน ญาติๆที่นั่นจะได้คอยช่วยเหลือจุนเจือ แต่เรื่องเอกสารอะไรคงวุ่นวายมากแน่ๆ แล้วลูกฉันต้องกลับมาเกณฑ์ทหารอะไรอย่างนี้หรอ หรือเขาเปลี่ยนสัญชาติกันได้ แต่ได้ยินมาว่ายาก หรือยังไง คงต้องหาข้อมูลเพิ่มกันอีกซักพักเลยค่ะ
ใครที่มีประสบการณ์เลี้ยงลูก 2 ภาษาแบบ พ่อแม่คนละภาษาคอมเมนต์มาแชร์ประสบการณ์ได้เลยนะคะ จี้หมิงเริ่มพูดได้เมื่อไหร่ จะมาอัพเดทอีกนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ