Group Blog
 
All blogs
 

| | | ช็อปเครื่องประดับใช้เองที่ ซอยวานิช1 สําเพ็ง | | |

ปกติเราเป็นคนแต่งตัวน้อยมากค่ะ ยิ่งเรื่องเครื่องประดับนี่เมื่อก่อนเรานิสัยเสียตรงที่ซื้อมาใช้แล้วเก็บไม่เป็นระเบียบ เวลาจะใช้หาไม่เจอทิ้งขว้างไปก็เยอะ รู้สึกเสียดายเงินก็เลยตั้งกฎให้ตัวเองว่าจะไม่ซื้อเครื่องประดับที่ไม่จำเป็น 

เครื่องประดับที่เราขาดไม่ได้เลยก็คือ ต่างหูค่ะ สร้อยข้อมือมีบ้าง แต่จะไม่ใส่สร้อยคอกับแหวนค่ะ (รู้สีกถ้าใส่อีสองอย่างนี้ จะมีปัญหากับการใช้ชีวิตประจำวันค่ะ เฮ่อๆ)

ส่วนข้าวของที่ใช้ก็ไม่ได้ใช้ของแพงอะไรมากมาย อย่างที่บอกค่ะ เราเป็นคนไม่ค่อยรักษาของ แพงสุดเคยซื้อต่างหูเคาน์เตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ เคาน์เตอร์น้ำหอมเครื่องสำอางในห้าง ก็คู่ ละ 400 กว่าๆ สวย ใส่แล้วดูดีสมราคา แต่จะให้ใส่คู่เดียวทุกวันมันก็น่าเบื่อไม่เข้ากับชุดด้วยใช่มะ ของแบบนี้มันต้องมีหลายแบบ 

หลังๆค้นพบว่าคู่ละ 100-200 ตามตลาดนัด ก็แบบเดียวกัน คุณภาพพอๆกัน ก็เลยเลิกซื้อในห้างค่ะ แต่ส่วนใหญ่เราจะสั่งจากเว็บTaobao ของจีน สั่งทีเดียวสิบยี่สิบคู่ แล้วก็รอให้ญาติหิ้วมาให้ (แล้วก็ได้ค้นพบอีกว่า ของตามตลาดนัดก็รับมาจากจีน ซึ่งมีแหล่งกระจายสินค้าที่สำเพ็งไทยแลนด์นั่นเอง)

เพราะฉนั้นช่วงไหนที่ไม่มีญาติเดินทางมาจากจีน (ช่วงนี้ไง) ก็จะไปซื้อที่สำเพ็งเองเลยค่ะ ไม่ค่อยได้อุดหนุดร้านปลีกตามตลาดนัดเท่าไหร่ พูดยาวไปและ มาดูเลยค่ะว่าวันนี้สอยอะไรมาบ้าง

85 บาท

115 บาท

115 บาท
สามคู่บนเอาไว้ใส่ไปเที่ยว ไปปาร์ตี้ หรือใส่ถ่ายรูป selfie เกร๋ๆ ค่ะ

75 บาท

95 บาท

75 บาท
สามอันนี้เอาไว้ใส่ทำงานค่ะ จริงๆบริษัทไม่ซีเรียสเรื่องแต่งกาย แต่เราเป็นไปเอง คือเวลาทำงานต้องการความทะมัดทะแมง (แต่ก็อยากสวย) อะไรมันใหญ่ตุ้งติ้งเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาข้างๆแก้มจะรู้สึกเวียนหัว ทำงานไม่รู้เรื่อง เลยเลือกแบบเล็กๆ(แต่ก็อยากแอบหรู)


เราจะถูกใจกับต่างหูรูปสัตว์ และตัวอักษรเป็นพิเศษ รูปหัวใจมีบ้าง แต่จะไม่ค่อยซื้อดาวกับดอกไม้ หรือวงๆเหลี่ยมๆอะไรที่ไม่ได้สื้อความหมาย และจะวิ่งเข้าใส่ทันทีถ้าเจอต่างหูที่ขายแบบแผงเดียวหลายคู่รวมกัน

เราซื้อร้านนี้ประจำค่ะ ร้าน Gold star ซอยวานิช1 แบบเหมือนของในTaobao เจ้าของร้านเป็นคนจีน คิดว่าน่าจะนำเข้ามาเองเลย แบบมาใหม่เรื่อยๆน่ารักถูกใจเรามากๆ ชอบๆ

ขอจบเรื่องต่างหู มาต่อกันที่เรื่องหมวกค่ะ

ปกติเราไม่ใส่หมวกเพราะคิดไปเองว่าเราไม่เหมาะกับหมวก และจะโหยหาหมวกก็เฉพาะไปเที่ยวทะเลเท่านั้น 

พักหลังที่เริ่มสนใจการแต่งตัว อ่านเจอมาว่า อย่าดูถูกดูแคลนหมวกเชียวนะ เพราะหมวกน่ะ มีแต่ข้อดีกับข้อดีและข้อดีนะเออ หนึ่งช่วยเสริมให้ใบหน้าดูโดดเด่น สองช่วยเพิ่มความสูงได้ 3-5 ซม. สามช่วยปกป้องผมและผิวหน้าจากแสงแดด 

เออ งั้นเรามาฝึกใส่หมวกบ้างดีมั๊ย ค่อยๆหาทรงและสีที่เหมาะกับเรา เดี๋ยวก็เจอหมวกเนื้อคู่เองแหละเนอะ วันนี้มาสำเพ็งก็เลยกะว่าจะสอยหมวกกลับบ้านไปด้วยเลย 

ร้านขายหมวกมีหลายร้าน บางร้านลองได้ บางร้านห้ามลอง เราเลือกเข้าร้านใหญ่สุดเพราะมีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ แต่มันเสียตรงลองไม่ได้นี่สิ (เราไม่เคยใส่หมวกมาก่อนนะ จะรู้ได้ไงว่าทรงไหนสีไหนเหมาะกับเรา) เอาไงเอากัน เลือกมาซักสามทรงแล้วกัน (สามใบลด 20%)


260 บาท

140 บาท

280 บาท
ร้าน Ribbon จะอยู่ชั้นสองของร้าน MUCH-MORE ค่ะ

พอซื้อเสร็จก็งัดใบแรกมาใช้งานก่อนเลย ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงความเหมาะหรือสวยงามอะไร (ถึงแม้ในใจจะแอบคิดว่าคนอื่นจะมองฉันเหมือนแม่ค้าขายผลไม้มั๊ยก็ตาม) คือวันนี้แดดแรงมาก แล้วเราต้องเดินไปขึ้นรถเมล์ไกลมาก ถ้าไม่มีปีกน้องหมวกกำบัง หน้าฉันดำแน่ๆ แถมตอนเดินผ่านภัตรคารอาหารจีน บ๋อยหน้าร้านคิดว่าเราจะเข้าร้าน ฝายมือเตรียมเปิดประตูให้ อุ๊ย ใส่แล้วดูมีราศรีซินะ รักเลย




 

Create Date : 21 กันยายน 2557    
Last Update : 21 กันยายน 2557 17:44:15 น.
Counter : 3222 Pageviews.  

เปิดถุงเห่อ>>> กระโปรงทำงาน8ตัว (ซื้อมาแล้ว ก็ขอให้กล้าใส่เถอะนะ)

ก่อนไปเห่อ ขอบ่นระบายอารามณ์ นิสส์นะคะ ^^

 คือเราเป็นคนน่องใหญ่ขาใหญ่ ตอนม.ตัน เคยเป็นนักวิ่ง นักกระโดดสูงน่ะค่ะ พอม.ปลายเริ่มแตกสาวก็ค้นพบว่าตัวเองกล้ามเนื้อขาเป็นมัดๆ ใส่กระโปรงไม่สวยเอาซะเลย

ขนาดใส่กระโปรงนักเรียน ก็โดนผู้ชายในโรงเรียนล้อแซว จนอายหลายครั้งเลยค่ะ เลยตั้งกฎให้กับตัวเองมาตลอดว่า ชีวิตนี้ฉันจะไม่ใส่กระโปรงอีก

พอเรียนจบทำงาน ไม่ค่อยได้วิ่งไม่ค่อยได้เดิน ขาก็เล็กลงค่ะ พอจะกลับมากล้าใส่กระโปรงได้บ้าง แต่เหมือนพระเจ้ากลั่นแกล้ง เรามอไซค์ล้ม หัวเข่าเป็นแผลเป็นนูนๆ สีคล้ำๆ ขนาดเท่าเหรียญสิบวางติดกันสองเหรียญ มันหน้าเกลียดมาก อย่าว่าแต่กระโปรง กางเกงอะไรที่มันสั้นเหนือเข่าก็โยนทิ้งไปหมดเลย

เราใส่ขายาวทุกวันมาเป็นเวลา4-5ปี ตอนนี้แผลที่หัวเข่าก็ยังเป็นรอยนูนอยู่ แต่รอยคล้ำจางลงมาก ผลพลอยได้อีกอย่างคือ ขาขาวจั๊ว ขาวกว่าหน้าซะอีก

การซื้อกระโปรงรวดเดียว8ตัวในครั้งนี้ บอกได้เลยว่าเป็นครั้งแรกในรอบ5-6ปี เหตุที่ทำให้อยากกลับมาใส่กระโปรงอีกก็คือ...

แอบชอบหนุ่มที่ทำงานค่ะ เค้าเคยบอกว่าชอบผู้หญิงอ่อนหวานน่ารัก ผมยาวใส่กระโปรง เราก็ไม่ใช่ว่าจะลงทุนเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เค้ามาชอบหรอกนะ(ยังจะปากแข็งอีก) คิดว่าเปลี่ยนสไตล์บ้างก็ดีเหมือนกันน่ะค่ะ เค้าจะชอบไม่ชอบก็อีกเรื่องเนอะ

อีกอย่างเดือนนี้วาเลนไทน์ด้วย ทำตัวน่ารักเข้าไว้ ไม่เค้าก็ใคร ต้องมาชาวนเราออกเดทแน่เลย เฮ่อๆ (เพ้อเจ้อ คนเดียว)

มาดูกันเลยค่ะ









เราลองกับเสื้อโปโล เสื้อที่บริษัทบังคับใส่น่ะค่ะ
ความจริงก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ ยังไม่ค่อยกล้าใส่ เพราะมันเห็นรอยแผลเป็นที่หัวเข่า(อาย) แต่ยังไงก็ซื้อมาแล้ว ต้องใส่ซิโน๊ะ จะลองสู้กับมันดูค่ะ^^




 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2557 22:30:28 น.
Counter : 1502 Pageviews.  

คุณครูขี้กั๊ก>>> เปิดถุง shopping เสื้อกั๊กคุณครู

หลังจากช็อปกระหน่ำเมื่อสองอาทิตย์ก่อน จนกระเป๋าตังคนข้างๆแทบแหก ก็เลยสัญญากับคนข้างๆเค้าไว้ว่า "ก็ได้ ก็ได้...ฉันจะไม่shoppingพวกเสื้อผ้ารองเท้าไปอีก4เดือน" แต่มันก็มีอันต้องช็อปอีกจนได้แหละค่ะ เฮ่อๆ


เรื่องของเรื่องคือเมื่อไม่นานนี้ มีบริษัทเอกชนแห่งนึงติดต่อเราไปสอนภาษาญี่ปุ่นให้กับพนักงานของเค้า กรุ๊ปประมาณ 15-20 คน เมื่อสองสามวันก่อนก็เข้าไปตกลงกันเรียบร้อยแล้วค่ะ แค่เกี่ยวก้อยสัญญากันเฉยๆ ยังไม่มีเซ็นเอกสารใดๆ แต่ด้วยความเห่อน่ะค่ะ ได้ยินมาว่านักเรียนเป็นระดับผู้บริหาร อายุก็รุ่นๆป่ะป้า ม่ะม้า ก็เลยกลัวว่าเราเองจะเกร็งๆ แต่ถ้าเตรียมตัวพร้อมและมั่นก็เชื่อว่าเราเองทำได้


และสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือ "อือ...ไปซื้อเสื้อใหม่ดีกว่า เอาดูดี เอามั่นใจไว้ก่อนดีกว่า" 555

คิดเอาเองว่าเสื้อผ้าหน้าผม ของคนที่ยืนเด่นที่สุดในห้องอย่างผู้สอน ก็สำคัญไม่แพ้เนื้อหาความรู้ที่ต้องการถ่ายทอดให้กับนักเรียน ยิ่งนักเรียนวัยวุฒิและคุณวุฒิในระดับที่กล่าวมาแล้วล่ะก็ เด็กน้อยอย่างเราที่กำลังจะไปเป็นผู้สอน ควรจะแต่งตัวสะอาด สุภาพ กึ่งๆทางการไว้ก่อนดีกว่า อย่างน้อย ก็ช่วยเสริมสร้างภาพพจน์เชิงวิชาการ ให้น่าเชื่อถือได้บ้าง ถ้าแต่งตัวอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เค้าจะหาว่าเด็กกะโปโลคนนี้ มายืนบ่นอะไรหน้าห้องเนี่ย...

อีกอย่างเราเองก็เป็น ที่เวลาแบบ ครูของเราวันนี้ใส่เสื้อสวย หน้าสวยบุคลิคดี เราก็จ้องมอง มองได้ตั้งแต่ต้นจนจบชั่วโมง ไม่ได้จะอะไร ก็แค่แกน่ามอง มองแล้วสบายตา ก็เหมือนกัน เราก็อยากให้นักเรียนทุกคนมองมาที่เรา สนใจที่เราพูด ให้ความร่วมมือ การสอนคงจะราบรื่นดีโน๊ะ...


ความจริงก็คิดสไตล์ของตัวเองไว้แล้ว วาดไว้เรียบร้อยว่าเราจะเป็นคุณครูแบบไหน พอดีกับระยะนี้คลั่งซีรี่ย์เรื่องนี้อยู่ค่ะ 素直になれなくて






นางเอกเป็นเด็กเพิ่งจบ ได้งานเป็นคุณครูเฉพาะการ ชอบคาแรกเตอร์นางเอก และการแต่งกายเค้ามากๆ






คือท่อนบนเป็นเชิต หรือเสื้อคลุมออกแนวสาวออฟฟิศทางการๆ ตัดด้วยกางเกงขาสามส่วนทำให้ทุกอย่างดูsoftลง ส่วนรองเท้าหุ้มส้นแบบสุภาพทั่วไป แสดงให้เห็นถึงความเป็นวิชาการ ขณะเดียวกันก็แฝงความเรียบง่าย สนุกๆ ตรงไปตรงมาเข้าใจง่าย นี่แหละเราจะเป็นครูแบบนี้ love...


**แต่เราคงไม่ได้น่ารักอะไรเหมือนนางเอกหรอกนะคะ สิ่งที่ทำตามไม่ได้อย่างนึงและคือกางเกงขาสั้นขนาดนี้ ... ขาและหัวเข่าไม่สวยค่ะ เอาเป็นเดปขายาวหรือยีนส์แก้ขัดและก็น เฮ่อๆ 


เข้าเรื่องตัวเองซักทีดีกว่า ก็คือเพิ่งไปช็อปมาสดๆร้อนๆค่ะ เลือกดูเสื้อผ้าไป ก็นึกถึงหนังเรื่องนี้ไป ซึ่งสิ่งที่ได้มาทั้งหมดในวันนี้เป็นของเซลทั้งนั้น ขึ้นชื่อว่าแบรนเนม แต่ก็ไม่ได้หรูหราไฮโซแพงอะไรมาก ก็อยากลงทุนแต่เอาแค่พอตัวดีกว่าโน๊ะคะ



1. เสื้อตัวนอก AⅡZ ลด 50% เหลือ 745 บาท >>> The mall Ramkhumhang

2. เสื้อตัวนอก ZEIN จำไม่ได้ว่าลดกี่% แต่เหลือ 399 บาท >>> The mall Ramkhumhang

3. เสื้อตัวใน AⅡZ ขุดมาจากกองที่ลด50-80% เหลือ 369 บาท >>> The mall Ramkhumhang

4. เสื้อตัวใน จำไม่ได้ว่าลดกี่% แต่เหลือ 475 บาท >>> The mall Ramkhumhang

5. เสื้อตัวใน มือสอง หน้าราม 50 บาท



ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็จะเอามาmixกับสิ่งที่มีอยู่ตามความเหมาะสมค่ะ (สีอาจแรง ไปนิด อยากเน้น สดใสๆ น่ะค่ะ)
แล้วอีก4เดือนมาเปิดถุงกันอีกค่ะ เฮ่อๆ





 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2554 17:47:13 น.
Counter : 2010 Pageviews.  

[เห่อหนังสือใหม่] การสอน+MBA+หุ้น ล่าสุดทั้ง6เล่ม (บ่นๆ)

ตั้งใจจะสถาปนาสัปดาห์นี้ให้เป็นสัปดาห์แห่งการเริ่มศึกษาเรื่องการลงทุนสำหรับตัวเองกันเลยทีเดียวค่ะ
แต่ก่อนที่จะอวดของใหม่ ขอเล่า(แฉ)ความเป็นมาเป็นไป ของตัวเองพอหอมปากหอมคอค่ะ


ปกติเราเป็นคนชอบชื้อหนังสือค่ะ ชอบซื้อนะค่ะ ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนรักการอ่านมากมายอะไร 
บางเล่มซื้อมายังอ่านไม่จบ บางเล่มอ่านได้หน้าสองหน้าก็ไม่ได้เปิดมันอีกเลย
แนวที่ชอบและซื้อบ่อยก็พวก หนังสือเรียนภาษา,วัฒนธรรมจีน-ญี่ปุ่น
หนังสือเกี่ยวกับอาชีพที่เราอยากเป็น(ณ ช่วงเวลานั้นๆ)
และที่เคยซื้อมาอ่านบ้างก็จะมีไม่กีเล่ม
เช่นพวกวรรณกรรมแปล,ประวัติศาสตร์และสังคมจีน-ญี่ปุ่น


มาพูดต่อเรื่องหนังสือที่ช็อปมาในรอบสัปดาห์นี้ค่ะ

เล่มแรก
MBA WORLD GUIDE 2010

ตามแผนการที่ว่าหลังจากกลับจากปักกิ่งจะลงเรียนป.โทต่อ
ก็ไม่รีรอค่ะรีบหาข้อมูล เรื่องที่ว่าจะเรียนต่อสาขาอะไรก็เป็นที่หนักใจสำหรับเราเหมือนกัน
เพราะจบรัฐศาสตร์ แต่เบื่อการเมือง(ไทย)พอเข้าทำงานที่บ.เอกชน
ก็เกลียดการเป็นลูกน้อง อยากเป็นผู้บริหาร
ก็เลยเป็นประเด็นที่ทำให้อยากเรียน MBA
แต่ก็อีกแหละเพราะตัวเองไม่ชอบตัวเลข ไม่ชอบท่องสูตร
ไม่ชอบคำนวนไม่ใช่หรอที่ทำให้เราเลือกเรียนศิลป์-ภาษาตอนม.ปลายน่ะ
พอเข้ามหหาลัยก็จับพลัดจับผลูต้องมาเรียนรัฐศาสตร์
ก็เลยไม่ได้ลึกซึ้งอะไรกับเรื่องเศรษฐศาตร์การตลาด การเงิน-บัญชีอะไรบวกนี้เลย
ทำไงดี...
























ระหว่างนี้ก็พยายามหาสถาบันที่เปิดโอกาศ
และค่าเล่าเรียนไม่สูงมาก
หนังสือเล่มนี้ซึ่งไปขุดมาจากร้านนายอินทร์
เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ช่วยคนไม่รู้อะไรได้เยอะเลยค่ะ



เล่มต่อมาซื้อวันเดียวกัน แต่คนละร้านค่ะ
สอนเก่งสอนเป็น 


เห็นชื่อหนังสือ+ชื่อสนพ.ก็สนใจ คว้าหมับ
แล้วเดินไปจ่ายตังเลย ชอบแบบเรียนภาษาญี่ปุ่นของสนพ.นี้อยู่แล้วและเล่มนี้ก็ออกแนวคล้ายๆ "จำเก่งจำแม่นจำนาน"
ที่ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว (ซื้อมา แต่ก็อ่านวนไปวนมา
ไม่จบซักที สำหรับเรานะ ยิ่งอ่านยิ่งจำไรไม่ได้เลย เฮ่อๆ)
สำหรับเล่มนี้อ่านได้แค่20-30หน้าเองค่ะ
แต่ก็รู้สึกว่ามีประโยชน์ ไม่ใช่ว่าสอนคนอื่นเก่งอย่างเดียว
แต่ต้องสอนตัวเองเป็นด้วย
ชอบค่ะ







อีกเล่มซื้อพร้อมกันกะเล่มข้างบนค่ะ
ญี่ปุ่นตะแคงซ้าย


ซื้อมาเพราะแอบอยากไปเรียนญี่ปุ่นอยู่เหมือนกันค่ะ
แต่เป็นเพราะยังไม่มีเวลา+เงิน มันก็เลยเป็นยังเป็นภาพความฝันลางๆอยู่
ไปขุดเล่มนี้จากในหมวดท่องเที่ยว
แต่เนื้อหาไม่ใช่แค่ไปถ่ายรูปที่เที่ยวสวยๆมาล่อกิเลสคนอ่าน
เล่มนี้บอกเราตั้งแต่ขั้นตอนการไป ขั้นตอนการอยู่
จะอยู่แบบนักเรียนหรืออยู่แบบนักท่องเที่ยว
รวมถึงแง่คิดมุงมองที่มีต่อญี่ปุ่นด้วย



เล่มต่อไป สดๆร้อนๆ เมื่อวานนี้เองค่ะ
เล่นหุ้นออนไลน์ไม่ยาก


พอพูดเรื่องหุ้นก็ต้องเล่ากันอีกยาวหน่อยนะคะ
(อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ)
เราซึ่งปกติเป็นผู้หญิงชอบเรียนภาษา
ชอบการท่องเที่ยว ชอบแต่งหน้า
รักสวยรักงาม ชอบช็อปปิ้ง
(เผาผลาญเงินคุณแฟน)
แล้วเหตุอันใดทำให้เรา
มาสนใจเรื่องการเงินได้ล่ะนี่





เราเข้าใกล้คำว่าหุ้นครั้งแรกเมื่อสองสามปีก่อนตอนไปเยี่ยมญาติคุณแฟนที่ปักกิ่ง พี่ชายเค้า"เล่นหุ้น" ได้เห็นเค้านั่งจ้องตัวเลขสีต่างๆที่วิ่งไปวิ่งมา บนแบลกกราวน์สีดำ เช้ามาพอเปิดคอมได้พี่ชายเค้าก็จะไอ้โปรแกรมนี้แหละ เราก็อ่อ...คนเล่นหุ้นคือต้องนั่งดูไอ้ตัวเลขพวกนี้ เวลาเราจะใช้คอมเข้าเฟสบุ๊คบ้างอัพบอลกแชทกับเพื่อนบ้าง เราก็ปิดไอ้โปรแกรมนี้ลงไป ไม่ได้สนใจอยากอะไรอีกเลย


พอได้มาเห็นเล่มนี้ครั้งแรกที่ชั้นหนังสือแนะนำของร้านซีเอ็ดเมื่อปลายเดือนก่อน ก็สะดุดคิดถึงเรื่องของพี่ชายคุณแฟน บวกกับหนังญี่ปุ่นที่โหลดมาดูเรื่อง お爺さんは25歳 เด็กวัยรุ่นผู้ชายหมกตัวแต่ในห้อง เล่นหุ้นออนไลน์ จนได้เงินก้อนใหญ่ เนื้อหาหนังไม่ได้เน้นเรื่องหุ้น เน้นเรื่องการให้เวลากับครอบครัวมากกว่า แต่หนังสนุกชอบมากค่ะ เรื่องนี้ก็เลยทำให้เรารู้ขึ้นมาอีกนิดว่า อ่อ หุ้นเล่นแล้วจะรวย มีรถหรูขับเหมือนพี่ชายคุณแฟน และได้เงินมาง่ายๆเหมือนเด็กในหนังนั่น


แต่ตอนนั้นไม่ได้หยิบมา และยังไม่ได้สนใจเรื่องหุ้น จนมาวันนึงคุณแฟนซึ่งยังไม่ค่อยรู้ศัพท์เฉพาะทาง มาบอกว่าถามให้หน่อยที่ไทยเปิดบัญชีหุ้นอย่างไร เราก็งงค่ะ ถามว่าจะเปิดทำไม เค่าก็พูดง่ายๆว่า จะเล่นหุ้นกับพี่ชาย เรายิ่งงงใหญ่ เธอจะบ้าหรอ เราไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับหุ้นกันเลย แล้วจะเล่นได้ไง โดนเค้าโกงเป็นหนี้ไม่รู้ด้วยนะ เตือนคุณแฟน


เรื่องทั้งหมดก็เลยทำให้เราตัดสินใจหยิบหนังสือเล่มนี้มา คิดว่าเราควรศึกษาพื้นฐานง่ายๆไว้บ้าง ยังไงก็ยังหางานทำ หรือยังหาที่เรียนต่อไม่ได้ มีเวลาค่อนข้างมาก แต่ยังอ่านไม่จบค่ะเปิดดูแล้วเป็นภาษการ์ตูนอ่านง่ายแทรกเนื้อหาสำคัญๆ เป็นระยะๆ เหมาะกับคนหลังเขาเรื่องหุ้นอย่างเรามาก

















อีกเล่มก็มาพร้อมกันค่ะ
การลาออกครั้งสุดท้าย

ขณะที่เราถือเล่นหุ้นออนไลน์ไม่ยากอยู่ในมือ และเดินเพื่อไปเปรียบเทียบดูหนังสืออื่นๆที่เกี่ยวกับหุ้น ก็ได้ยินบทสนทนาของหญิงสาวสองคน "ไม่เคยอ่านเล่มไหนจบเร็วเท่าเล่มนี้เลย" เราก็เหล่ไปดูหนังสือเล่มที่ว่าในมือหล่อนค่ะ แล้วก็ทำเป็นเดินผ่าน พอเห็นว่าเดินออกไปกันเลยเราก็หยิบมันขั้นมาดู โอ้ว...ชื่อหนังสือก็โดนใจค่ะ อนุมาณเอาเองว่า การลาออกจากการเป็นลูกจ้างครั้งนั้นคือครั้งสุดท้ายของเราใช่ไหม เปิดดูลวกๆในเล่มสะดุตากับหลายสำนวนมากๆ ซื้อเลย ซื้อๆ แต่ยังไม่ได้เปิดอ่านจริงจังค่ะ


 



มาดูที่เล่มสุดท้าย
เคล็ดลับความมั่งคั่ง


หยิบมันขึ้นมาเพราะมันวางอยู่ใกล้ๆกัน เนื้อหาเป็นภาพการ์ตูนน่ารักดี ซื้อเพราะอยากให้มันครบ500บาท จะได้แสตมป์สองดวง ระหว่างรอคุณแฟนมารับก็อ่านได้ครึ่งเล่ม ความคิดที่จะศึกษาเรื่องหุ้นอย่างจริงจังก็ผุดขึ้นมาเต็มหัวเราเลย ประจวบเหมาะกับที่จะลงเรียนMBAอยู่พอดี ขอทุนคุณแฟนเรียนต่อ สอนภาษาหารายได้ไปพลาง เรียนจบเป็นนักบริหารสาวในบ.เล็กๆ เป็นนักลงทุนสาวตัวน้อยๆ มีอิสระภาพทางการเงิน เป็นที่พึ่งให้แม่ ให้น้อง (คิดไกล..จังเลย)






ตะขิดตะขวงใจนิดน่อยตรงที่เราเกิดในครอบครัวฐานนะไม่ค่อยดี แถมมีแค่เราคนเดียวในบ้านที่หัวสูงอยากรวย ตอนนั้นคิดไปเองว่าเรียนภาษาจะได้ตังเยอะ ได้ไปเมืองนอก น่าเสียดายที่ไม่เรียนเศษฐศาสตร์ตั้งแต่แรก อยากรวยต้องทำใจอยู่กับเรื่องตัวเลขเรื่องคำนวนให้ได้ซิ เพิ่งสำเหนียกตัวเองได้อายุก็ปาไป23แล้ว สายเกินไปมั๊ย


ถ้างั้นไม่รอช้าแล้วค่ะ เริ่มวันนี้เลย วันแห่งการเรื่มต้นเรียนรู้เรื่องหุ้น และการเงิน คงจะได้เปิดกรุ๊ปบลอกใหม่เร็วๆนี้ เห็นมีกูรูในบลอกมากมาย ยังไงขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ แล้วจะมาเล่าต่อค่ะ


 








 

Create Date : 12 มิถุนายน 2554    
Last Update : 12 มิถุนายน 2554 12:35:36 น.
Counter : 1376 Pageviews.  

Shopping อะไร ในปักกิ่ง ฉบับShopไปบ่นไป

บูทสีดำ
ซื้อที่ : 华联สาขา上地 
ราคา : 299元


>>>เลือกบูทไม่เป็นจริงๆค่ะ  จริงๆอยากได้ยาวใต้เข่า(จะได้ดูต้วสูงๆหน่อย) แบบไม่มีส้น พื้นราบเดินลุยๆ แต่คนขายมันเชียร์อันนี้ บอกไม่เตี้ยๆ เราสูงอยู่แล้ว และขาไม่ใหญ่เท่าคนจีน ใส่แล้วสวย(พูดดีนี่ คิดในใจ) ส้นสูงหน่อยใส่แล้วดูเปรี้ยวเหมาะกะเรา สูง1นิ้วส้นไม่แหลมมากเดินสบายไม่เหนื่อยเท้า ถ้าใส่แล้วเราสวยมั่นใจ เดินไกลแค่ไหนก็ไม่เหนื่อย จริงมั๊ย (นั่น..อีกหนึ่งดอก เคลิ้ม..)
ใส่วันแรกไม่ชอบเลย มันดูเตี้ยจริงๆ ตรงที่มันย่นๆ ก็บวมใหญ่แข่งกะน่องโตๆ แต่พอใส่ได้ซักอาทิตก็ชอบค่ะ ทน ไปไหนทุกที่ก็อุ่นเท้า ไม่หนาว เดินไกลๆได้ ชอบๆ
คลิกดู REVIEW


☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.


เสื้อผ้า


>>>ส่วนมากเราจะไปช็อปตึกตรงข้าม动物园(จำชื่อไม่ได้ง่ะ) ของถูกกว่าข้างนอก ขายเป็นราคาขายส่ง คล้ายแพลตตินั่มบ้านเราแต่เล็กกว่าหน่อย+สกปรกกว่ามวาก !!! ซื้อตัวเดียวก็ได้ แต่ดูแล้วราคาก็ไม่ได้ถูกอะไรมาก อยากได้ถูกต้องต่อรองเอาเอง แล้วบางร้านแม่ค้าดุมาก นิสัยคนไทยอย่างเราๆ พอเจอแม่ค้าพูดไม่ดีด้วยก็ไม่อยากซื้อใช่มะ แต่ถ้าเป็นคนจีนด้วยกันก็ยืนต่อ ยืนเถียงพ่นน้ำลายกันไปมา ไม่มีใครยอมใครซักที เฮ้อ... เหนื่อย กลับบ้านเราไปช็อปที่ไทยสุขใจกว่า



☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.


เซ็ทแปรงแต่งหน้า
ซื้อที่ : www.taobao.com
ราคา : 159元


BOBBI BROWN : LUXURY BRUSH SET
>>>คลิกดู REVIEW



☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.


ถุงมือ สีชมพูหวานอมเปรี้ยว
ซื้อที่ :  www.taobao.com
ราคา : 24元


>>>คลิกดู REVIEW



☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.


วิกผมปลอม สีน้ำตาลบลอน ดัดลอนยาว + สีดำ ตรงยาว
ซึ้อที่ : ตึกตรงข้าม动物园
ราคา : อันละ 80元 (ขาตั้งอีก 10元)


>>>คลิกดู REVIEW




☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.


ตราประทับประจำตัว แบบจีน
ซื้อที่ : ร้านข้างทาง
ราคา : แท่น+ค่าแกะเลเซอร์ 25¥


>>>พูดซะอลังฯ เอาง่ายๆมันก็คือตรายางชื่อตัวเองที่คนจีนแทบทุกคนจะมีใช้แทนหรือคู่กับการเซ็นชื่อในเอกสารต่างๆ เหมือนกับคนญี่ปุ่น ก็เลยอยากทำเป็นของตัวเองเท่ๆ ตอนแรกอยากได้วงกลมแบบญื่ปุ่นๆ แต่หาทื่ถูกใจๆยาก คนจีนมักใช้สี่เหลียม เพราะชื่อแซ่ 3ตัว รวมกับคำว่า 印 จะพอดีในช่องสี่เหลียม เลือกไปมาก็ได้แมวเจ็ดสีน่ารักสมใจ แต่ยังไงมันก็เป็นสี่เหลียม ก็เลยแกะชื่อแบบจีนไปตามระเบียบ



☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.


หนังสือ


>>>ถึงSummerนี้จะเราพลาดงานหนังสือที่ศูนย์สิริกิต ก็ไม่ระคายเคืองจิตใจ เพราะเรามาถึงแหล่งหนังสือของจริง ครั้งที่แล้วก็แบกกลับไปหลายกิโล 中关村图书大厦เป็นร้านโปรดของเรา ใกล้สะดวก ถูกใจ ส่วนมากเราจะซื้อหนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่น และข้อสอบ ของเค้าราคาถูก และมีให้เลือกเยอะมาก แถมได้บัตรลดมาฟรีๆ ลดได้อีก 20% ไม่มีเงื่อนไข วู้ ฮู้ เลิฝฝฝฝ
>>>คลิกดู วีดีโอ REVIEW หนังสือเรียนญี่ปุ่นของตัวเอง (ฉบับยัยเพิ้ง)



ตั้งใจซื้อไม่เกิน10เล่ม แค่พอหอมปากหอมคอและกัน (ที่มีอยู่ก็แทบจะไม่ได้อ่านอยู่แล้ว)
1. 新题型日语能力考试 考前冲刺模拟试题 N2 >> ข้อสอบจำลอง N2 ราคา 25元
2. 新日本语能力考试 N2 文字词汇 练习篇 >> แบบฝึกหัด N2 พาทคำศัพท์ ราคา 28元
3. 你也能一次通过日语能力考试 N2 读解 >> คุณก็สามารถผ่าน N2 ราคา 27元
4. 日本语能力考试 阅读理解 N2 >> การอ่าน N2 ราคา 21.80元
5. 日语语法新思维 >> ไวยากรณ๋ภาษาญึ่ปุ่นแนวคิดใหม่ ราคา 22元
6. 365天日语口语大全 >> 360วันสนทนาภาษาญี่ปุ่น N2 ราคา 35元
7. OSHARE手给日语流行馆 >>หนังสือภาพคำศัพสำหรับช็อปปิ้งและแฟชั่น ราคา 22元
8. 60天攻克新HSK5级模拟题库 >> 60 วันพิชิต HSK L5  ราคา 26元



☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.☆•:*´☆`*:•.





 

Create Date : 01 มิถุนายน 2554    
Last Update : 1 มิถุนายน 2554 14:38:31 น.
Counter : 3354 Pageviews.  

1  2  

BeeryKiss
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 81 คน [?]








New Comments
Friends' blogs
[Add BeeryKiss's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.