#### รีวิวราชบุตรเขยเจ้าสำราญ Box Set - สนุกมาก ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยเขียน ####
สวัสดีจ้าาาาาาาา
มารีวิวหนังสืออีกเล่มกันนะค้าาา ซึ่งจำไม่ได้แล้วว่าอ่านรีวิวใคร แล้วก็เลยไปสอยตามมาค่ะ 555 (ใจง่ายจุงป้านี่)
ราชบุตรเขยเจ้าสำราญ 1-3 (Box Set)
เขียนโดย BiscuitBus
สำนักพิมพ์ อรุณ
จำนวนหน้า 325 +456+ 571
ราคา 950 บาท
เรื่องย่อ
ขอเอามาจากหนังสือเองเลยนะคะ
เล่ม 1 ลิขิตสวรรค์ไม่อาจคาดเดา
ไต้หยี่ บ่าวน้อยจากตระกูลบ้านนอก ปากกล้าทว่ามากน้ำใจยิ่ง ท่องเที่ยวทั่วหล้า สวมชุดรัดกุม คุ้มกันข้าวของ ทำงานสนองพระคุณนายท่าน ผู้คนไม่เห็นว่ามันป็นสตรี มันยิ่งลืมไปแล้วว่าตนเป็นสตรี กระทั่งได้พลกับองค์หญิงเจียงจูผู้อ่อนช้อยงดงามยิ่ง
เล่ม 2 เหตุใดสวรรค์ชมชอบกลั่นแกล้งนัก
ไต้หยี่ ที่คิดเพียงแต่จะเดินทางกลับบ้าน แต่จู่ๆ กลับได้เป็นบุตรบุญธรรมของอิงอ๋องจ้างฝาน
จากที่คิดจะมีชีวิตอย่างเรียบง่ายต่ำต้อย ยังต้องมาเป็น 'อ๋องน้อย' อยู่ในเมืองหลวง กลการเมืองวุ่นวายซับซ้อนอย่างยิ่ง ทุกก้าวย่างควรระแวดระวัง สวรรค์เอ๋ย...หากฮ่องเต้ทรงทราบว่าบ่าวน้อยล่วงเกินองค์หญิงไปอย่างไรแล้ว ต่อไปบ่าวน้อยมีสักสิบหัวก็ยังคงไม่พอให้กุดเป็นแน่
เล่ม 3 พบเพื่อเพียงผ่าน ทว่ายิ่งนานวันกลับยิ่งผูกพัน
สำหรับไต้หยี่ หากสามารอยู่อย่างสงบสุขไม่ต้องเข่นฆ่าทำร้ายผู้อื่น คบสหายดื่มสุราไม่ต้องแบ่งแยกเชื้อพันธุ์ ที่ย่อมเป็นชีวิตที่ประเสริฐยิ่ง กบฏเริงโลด สงครามคุโหม บ้านเมืองวุ่นวาย หากเป็นเพียงบ่าวน้อยคนหนึ่งยังสามารถหันหน้าหนี ไม่มอง ไม่ฟัง ไม่รับทราบ ทว่าหน้าที่ 'ราชบุตรเขย' บนบ่ากดทับ สถานที่อันสุขสงบมีเพียงอ้อมกอดของตัวโง่งมของมันเท่านั้น และมันยินดีปกป้องสิ่งนี้ด้วยชีวิต
ความรู้สึกที่ได้อ่าน
สนุกมากกกกกกกกกกกก
สารภาพว่าอ่านจนจบสามเล่มแล้วเพิ่งรู้ว่าคนเขียนเป็นคนไทยค่ะ 555 เขียนได้เนียนมาก เหมือนนิยายจีนแปลไทยจริงๆ ค่ะ สำบัดสำนวนไม่น่าเชื่อเลยว่าคนไทยเขียนอะค่ะ พอไปย้อนอ่านคำนำของคนเขียน ถึงได้เก็ทว่า อ้อ คนเขียนนี่เป็นทั้งแฟนซีรี่ส์หนังจีนกำลังภายใน เป็นทั้งแฟนหนังสือกำลังภายใน และใฝ่ฝันอยากเขียนนิยายจีนสักครั้ง ถึงได้กลายมาเป็นนิยายเล่มนี้นั่นเองหละค่ะ
ก่อนอื่นขอชมเรื่องการสร้างตัวละครก่อน (ซึ่งคนเขียนบอกว่า ออกจะเพี้ยนๆ ประหลาดทั้งคู่ ฮา) ซึ่งแบบว่า..เฮ้ยยย ไม่คิดว่าจะสร้างตัวละครแบบนี้ได้ นั่นก็คือการสร้าง ไต้หยี่ ผู้มีรูปลักษณ์นิสัยใจคอราวผู้ชาย (แต่เป็นผู้หญิง) และองค์หญิงเจียงจู ซึ่งแบบบบบบบ....ต้องอุทานว่า คิดได้ไงฟระ!! แถมกว่าเราจะรู้ความเป็นจริง ก็ผ่าเข้าไปครึ่งค่อนเล่มหนึ่งแล้วอะค่ะ
คือนอกจากความแปลกไม่เหมือนใคร (ที่ตอนหลังมาอ่านนิยายจีนแท้ๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งก็ใช้การสร้างตัวละครที่คล้ายคลึงกัน แต่ของจีนพิมพ์ในไทยคือ ตุลาคม 2558 ขณะที่เรื่องนี้พิมพ์มีนาคม 2558 แต่ก็ไม่รู้ว่าต้นฉบับจีนพิมพ์เมื่อไหร่นะคะ) แล้ว เราว่าคนเขียนเขาสร้างตัวละครให้คนอ่านรักได้ น่ะค่ะ
ไต้หยี่เป็นคนฉลาด น้ำใจกว้างขวาง มีมนุษยสัมพันธ์ สนุกสนาน ไม่คิดมากคิดมาย ไม่คิดเล็กคิดน้อย ทำให้มีมิตรไปทั่ว คือ อ่านไปแล้วเราเข้าใจเลยว่า ทำไมใครๆ ถึงได้ยินดีที่จะเป็นมิตรกับไต้หยี่ เพราะความไม่มีพิษไม่มีภัย อยู่ด้วยแล้วสบายใจนี่แหละค่ะ
หรืออย่างองค์หญิงเอง นอกจากความสวยหยาดเยิ้มแทบล่มบ้านล่มเมืองแล้ว ตัวเธอเองก็มีความน่ารักน่าแกล้ง (เข้าใจไต้หยี่เลยว่าทำไมอดใจไม่ได้ 555) ในแบบที่ถ้าเราเป็นผู้ชายเราก็คงแบบ...นะ 555 แบบที่ใครหลายคนในเรื่องนี้ทำกันนั่นแล
แต่ขณะเดียวกัน เมื่อเรื่องดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ ตัวละครแต่ละตัวก็เริ่มมีพัฒนาการ จากไต้หยี่ที่ใช้ชีวิตสนุกสนานไปวันๆ กับชะตาที่พลิกผันให้กลายเป็นบุตรบุญธรรมจนท้ายที่สุดไปอยู่ในครอบครัวเชื้อพระวงศ์ และเริ่มที่จะคิดถึงบ้านเมืองมากขึ้น นับว่ามีพัฒนาการที่ดีค่ะ หรืออย่างองค์หญิงเอง เราว่าคนเขียนทำถูกแล้วที่ไม่ได้ให้เธอกลายมาเป็นคนเก่งพลังยุทธ แต่ใช้ความสามารถในการรักษาหรือการยิงธนู (ซึ่งไม่ได้ใช้พละกำลังอะไรมากเกินรูปร่างของตัวเอง) ช่วยในการศึก (แต่ยอมรับนะคะว่าช็อตลอบสังหารนี่...เราไม่ค่อยอินง่ะ เราว่ามันเกินตัวเธอไปนิด)
หรือแม้กระทั่งตัวละครหลายๆ ตัว ก็ไม่ได้ขาวหรือดำ แต่มีความเป็นเทาๆ แบบที่มนุษย์ควรจะเป็น อย่างมู่หลง ซึ่งเลือกที่จะส่งไต้หยี่ไป (เพราะคิดว่าจะส่งไปตายแทนลูกชายตัวเอง) ซึ่งแบบ...นะ จะเกลียดก็ไม่เต็มร้อย เพราะเราก็จะเข้าใจว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้นายท่านของไต้หยี่ต้องทำอย่างนั้นน่ะ
นอกจากนั้นการผูกเรื่องต่างๆ ก็ค่อนข้างสอดคล้องและสนุกสนานชวนติดตามได้ดี มีกลการประพันธ์ที่ถือว่าน่าอ่านเลยแหละค่ะ
อย่างตัวอย่างหนึ่งที่ยกเรื่องการผูกเรื่อง คือตอนแรกที่เราอ่าน เราก็คิดว่าไต้หยี่ต้องคู่กับมู่ตงซินแหงๆ (จนลืมชื่อเรื่องของนิยายไปซะแล้ว 555) แต่พอไปๆ อ้าวววว เอ๊ะ แล้วไปๆ มาๆ จะมากลายเป็นราชบุตรเขยได้อย่างไรฟระ ท้ายที่สุดก็มีการเฉลย ซึ่ง...เออ คนเขียนเก่งค่ะ
และยอมรับว่า clue สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งที่คนเขียนซ่อนไว้จนมาเฉลยเอาท้ายเล่มสามนี่ เราคาดไม่ถึงเลยค่ะ เซอร์ไพรซ์เราเลยแหละ เรียกว่าพอเฉลยนี่อึ้งเลย ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องราวอย่างนี้มาก่อนค่ะ ถือว่าโอเคเลยสำหรับเงื่อนปมในเรื่องนี้ค่ะ
และขณะเดียวกันก็มีช็อตที่ทำเราน้ำตาร่ว งด้วยนะคะ กับการที่ท้ายที่สุดแล้วไต้หยี่ก็ต้องฆ่าคนอันไม่ควรฆ่า มันเจ็บปวดจริงๆ ค่ะ ด้วยความที่วิชาที่ไต้หยี่ได้รับมาเป็นวิชามาร เข้าใจในเหตุผล และเผื่อใจที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ในสงครามแล้ว แต่พอเกิดขึ้นจริงๆ แล้วเราอ่าน เราก็ร้องไห้นะ โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงมิตรภาพที่ทั้งสองคนเคยมีให้กัน (นี่พิมพ์ไปก็ร้องไห้ไป) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรยายในซีนนั้นนี่...เออ...มันสะเทือนใจแบบไม่ได้บีบเค้น แต่อ่านแล้วน้ำตาไหลจริงๆ ค่ะ (ใบ้ว่าเล่ม 3 หน้า 471-472 ค่ะ )
อีกช็อตหนึ่งที่ทำเราน้ำตาร่วง คือ ตอนฮ่องเต้ได้ข่าวของสนมที่ตัวเองรักมากที่สุด โห...คนเขียนบรรยายได้แบบ...ขอยกมาให้อ่านแล้วกันค่ะ (แต่ถ้าไม่อ่านเรื่องราวมาก่อน อาจจะไม่อินค่ะ แต่ถ้าอ่านมาจนถึงช็อตนี้ อินแน่ๆ)
เฉินคุนถวายบังคมล่าถอยออกไปโดยรวบรัด กระโจมกว้างขวางครบครัน ครานี้ปรากฏองค์เหนือหัวประทับอยู่เพียงผู้เดียว กระดาษจดหมายวางอยู่บนโต๊ะ ฮ่องเต้ไม่ทอดพระเนตร กลับเหม่อมองไปยังผนังผ้าใบเบื้องหน้า
ครั้นแล้วค่อยปิดพระเนตรลง พระหัตถ์ลอยขึ้นทาบทับพระอุระ ทรงค่อยกดลงทีละนิดจนกลายเป็นหนักหน่วง ฉลองพระองค์ถูกจับกำจนยู่ยี่ พระขนงขมวดเข้าราวเจ็บปวดแสนสาหัส ทว่าสีพระพักตร์ยังฝืนคงความเรียบนิ่ง มีเพียงพระสุรเสียงอึกอักบางเบาในพระศอ ลมหนาวพัดลอดผ่านม่านผ้าใบบังกระโจมเข้ามาในที่ประทับ โปร่งโล่ง เยียบเย็นเดียวดายไปถึงกระดูก
แต่นิยายเรื่องนี้ ไม่ค่อยมีคำคมๆ กระทบใจนักนะคะ เท่าที่มีชอบก็อันที่ยกมานี่แหละค่ะ แหะๆ
"....อย่างนี้ถูกต้องแล้ว เป็นชายต้องรู้จักรักหยกถนอมบุปผาเข้าไว้ สวรรค์จึงเอ็นดู"
ส่วนคำผิด มีค่อนข้างน้อยค่ะ เท่าที่เจอมีดังนี้นะคะ
เล่ม 2 หน้า 185
ฮ่องเต้เสด็จขึ้นที่ประทับว่าราชการ บนโต๊ะทรงอักษรเบื้องหน้าปรากฏราชโองการรอประทับตราตั้ง เบื้องข้างเป็นมหาขันที่รีรอ สนองพระโอษฐ์ - มหาขันทีที่รีรอ
เล่ม 3 หน้า 90
ไต้หยี่หัวเรา ฮาๆ ลู่เหวินปลดปล่อยมันออก - หัวเราะ
สรุปแล้วเป็นนิยายที่คนไทยเขียนที่เราถือว่าเป็นงานดีงานหนึ่งเลยค่ะ สมควรแล้วที่ทำบ็อกเซ็ต จำไม่ได้ว่าใครรีวิวจนทำให้ไปสอยตาม ซึ่งต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะ สนุกไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ
ปฏิทินธรรม
วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2561 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันพุธที่ 4 เมษายน 2561
1. ฟังธรรมพระอาจารย์บุญมี ธัมมรโต วัดป่าศรัทธาถวาย จ.อุดรธานี
ณ ชมรมพระพุทธศาสนา บริษัท เอไอเอ จำกัด ชั้น 8 อาคาร เอไอทาวเวอร์ ถ.สุรวงค์
วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2561
1. บำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร ครบ 50 วัน การละสังขาร น้อมถวายองค์หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
ณ วัดอรัญญวิเวก (บ้านปง) จ.เชียงใหม่
วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561
1. พระอาจารย์มานพ อุปสโม ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เขาดินหนองแสง จ.จันทบุรี
แสดงธรรมและนำปฏิบัติกรรมฐาน
ตั้งแต่เวลา 9.30-13.30 น. พัก 11.00-12.00 น.
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2
วันอาทิตย์ที่ 14 และ 28 เมษายน 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2561 (จัดทุก อาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน
เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28 และ 29 เมษายน 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561
1. พระภาวนาเขมคุณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) วัดมเหยงคณ์ จ.อยุธยา อบรมปฏิบัติธรรม
ตั้งแต่เวลา 15.00 - 16.30 น.
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1469696+6134468=7604164/13213/1654
Create Date : 30 เมษายน 2561
Last Update : 30 เมษายน 2561 8:50:43 น.
34 comments
Counter : 1741 Pageviews.
เรื่องนี้ซื้อมาเก็บไว้นานนนแล้ว
ยังไม่มีโอกาสได้อ่่านเลยค่ะ
อยากอ่านเหมือนกันแต่ช่วงนี้งานยุ่งมากมายเลยค่ะ