~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ รายงานความเสียหาย มหกรรมล้มละลาย (ของคนอ่านหนังสือ) แห่งชาติ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★
ไปมาเมื่อวานนี้ค่ะ (อาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2551) พร้อมกับคุณแม่และบอดี้การ์ด
ไปถึงปุ๊บก็หยิบคู่มือนั่นก็คือแผนที่บู๊ทต่างๆ แล้วก็ตรงไปยังบู๊ทประจำของแม่ก่อน แต่ระหว่างทาง อ๊ะๆ ผ่านบู๊ทของเวิร์คพอยท์ ก็เลยยุให้แม่ซื้อ ผจญภัยใต้อุโมงค์ เชียร์ว่าสนุก และใช้ชื่อผู้แปลเป็นตัวหลอกล่อ (เป็นลูกเลวจริงๆ ฉัน ) แม่ก็เลยซื้อมาตามคำยั่วยุ หุๆ (อย่างน้อยก็อ่านได้โดยไม่ต้องเสียตังค์เองแล้ววุ้ย ) จากนั้นก็ดันไปเจอบู๊ทสถาพรระหว่างทาง เลยรีบปรี่เข้าไปถามหาดราก้อนดีลิเวอรี่ ๓ เจอน้องคนหนึ่งก็ถามหาเลย ได้คำตอบมาว่า
หมดค่ะ
ฮ้า? หมดเหรอ?
ค่ะ หมดตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้วค่ะ
อ่า..แล้วจะเอามาอีกมั้ยคะ?
ไม่ทราบค่ะ
คืออาทิตย์หน้าจะมีมั้ยคะ?
ไม่ทราบค่ะ
เราก็เลยหันรีหันขวาง พยายามร้องเรียกอีกคนที่ดูแก่กว่า เผื่อจะได้คำตอบที่ชวนดิ้นรนให้ซื้อมากกว่านี้ (ระหว่างนั้นน้องคนแรกยังไปตอบคนถามหาเซวีน่าอีกคนว่า เซวีน่าออก ๒ เล่มแล้ว เอ่อ..น้องคะ พี่ว่ามันสี่เล่มแล้วนะคะ เราเลยยิ่งไม่มั่นใจกับคนแรกเข้าไปใหญ่เลย )
น้องคนที่สองนี่เค้าพยายามถามให้ แต่น้องคนเดิมพยายามย้ำว่า หมดแล้วค่ะพี่ ระหว่างนั้นแม่เราก็พูดขึ้นมาว่า ไปถามน้องเค้า เด็กเค้าก็ไม่รู้หรอก เราก็เลยบอกแม่ไปว่า ก็ถึงถามคนที่ดูเด็กน้อยกว่าไงแม่
น้องเค้าก็แทรกมาเลยว่า
แต่หนูก็อยู่ในออฟฟิศเหมือนกันนะคะ
อ้าว..งั้นเหรอ งั้นตกลงจะมีดราก้อนเล่ม ๓ มาอีกมั้ย เพราะพี่จะมาอีกเสาร์หน้า
น้องคนข้างๆ น้องคนนั้นก็เลยตอบว่า มาค่ะ น้องคนเดิมก็เลยย้ำตามว่า มาค่ะ
ก็เลยตอบไปว่า เออ..แค่นั้นแหละที่พี่อยากรู้
ให้ตาย...ไม่ได้หงุดหงิดกับคนขายหนังสือมานานแล้วนะคะ มาเจอเด็กคนนี้เข้าให้
คือเรารู้สึกว่า..คนขายหนังสืออ้ะ ต้องพยายามขายสิ ไม่ใช่มาตอบว่า ไม่ทราบน่ะ ถ้าหมด ก็ควรถามเพื่อให้ได้คำตอบมาบอกคนซื้อสักนิดหนึ่ง จะมาอีกเมื่อไหร่ ยังไง ตอบอย่างนี้เหมือนตัดโอกาสที่จะขาย ทำให้คนซื้อรู้สึกว่า ไม่มีอีกแล้วน่ะ ถ้าเราไม่ได้มางานหนังสือบ่อยๆ เราก็คงคิดว่า คงไม่มีหนังสือมาเพิ่มอีกแล้วเหมือนกัน แต่นี่มันเพิ่งต้นงาน แล้วหนังสือก็เพิ่งออก เราไม่อยากเชื่อว่าจะไม่มาอีกน่ะ เฮ้อ..เซ็งจิต แล้วนี่ถ้าไม่ใช่คนที่เค้าอยากอ่านหนังสือเล่มนี้จริงๆ มากๆ หละ เค้าก็คงไม่คิดจะกลับมาถาม มาซื้อหาอีกน่ะสิ..(หรือเปล่าหว่า?)
(อ่า..โทสะเข้าคุมจริตอีกแล้วตรู เฮ้อ..)
หลังจากเซ็งกับบู๊ทสถาพร ก็เลยพาท่านแม่ตรงไปจากบู๊ท ณ บ้านวรรณกรรม คราวนี้แม่ไม่เจอนักเขียนขวัญใจ (ป้าอี๊ด) แต่ก็ยังขนซื้อหนังสือของทมยันตีมาอีกเอ่อ..ราวๆ สี่ชุดมั้ง เรายุให้ซื้อข้าบดินทร์ โดยบอกว่าคนเขียนคนเดียวกับฤกษ์สังหารและจันทราอุษาคเนย์ (ซึ่งแม่อ่านจบแล้วทั้งสองเล่ม) แม่ก็เลยซื้อมา แล้วก็ยุให้ซื้อเซลส์เกิร์ลฯ ที่ได้รางวัลทมยันตีอวอร์ดอีกเล่ม แล้วแม่ก็ซื้อของคุณหมอกมุงเมืองเรื่อง ศัสตราฯ อีกเล่ม รวมแล้วแม่ก็หมดไปกับบู๊ทนี้ ๒,๕๒๗ บาท จากนั้นก็เลยให้บอดี้การ์ดพาแม่ไปที่แบล็คแคนยอน ไปนั่งพัก ส่วนเราก็ตระเวนหาหนังสือที่เราต้องการต่อไป
ไปแวะบู๊ท a book (คนเยอะโคตร) ได้หนังสือ ณ, กัมพูชา และนั่งรถไฟไปตู้เย็นของนิ้วกลมมา ได้เจอนิ้วกลมตัวเป็นๆ แล้ว ก็เลยได้ลายเซ็นมาด้วย (เอ่อ..สารภาพว่าตอนแรกจำไม่ได้อ้ะ นิ้วกลมไม่เหมือนในรูปที่เคยเห็นแฮะ เลยถามไปว่า อ้วนขึ้นหรือเปล่า? เค้าบอกว่า มีแต่คนทักว่าผอมลง แป่ว ) แล้วก็ถามหานวนิยายมีมือกับ mud นิ้วกลมเลยบอก (ตั้งแต่ก่อนหน้าจะให้เซ็นแล้วล่ะ) ว่า ไปซื้อได้ที่บู๊ทโอเพ่นหลังใยไหม พร้อมกับบอกข่าวร้ายว่า เพลงรักฯ หมดเกลี้ยงแล้ว แล้วก็ซื้ออะเดย์เล่ม ๘๘ มาอีกเล่ม หมดไปกับบู๊ทนี้ 460 บาท (ยังไม่ได้ของทรงศีลกับทรงกลดอีกหลายเล่มเลย ต้องรองานหน้าหรือนอกงานแล้วแหละ เฮ้อ..)
ไปที่บู๊ทโอเพ่น ได้ mud กับ นวนิยายมีมือมาสมใจ แต่เพลงรักฯ หมดจริงๆ ก็เลยหมดไปแค่ 270 บาท
จากนั้นเดินไปนานมี ไปอุดหนุนน้องชายนักเขียนคนโปรด ลำนำหกพิภพ โดยพงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์ (คนเขียนเกิดวันจันทร์หรือเปล่านี่?) จากราคา 395 เหลือ 316 บาท
ฝ่าฝูงคนไปสู่มติชนต่อไป หยิบเทพนิยาย 2 โลกมาก่อนเพื่อน จากนั้นเนื่องจากบู๊ทนี้จะรับบัตรเครดิตก็ต่อเมื่อซื้อ ๕๐๐ บาทขึ้นไป ก็เลยเดินไปดูซุ้ม ๕๐ เปอร์เซ็นต์กับ เล่มละ ๕๐ บาท เลยได้เด็ดหัวทัวริสต์ สุริยาศศิธร และฝั่งแสงจันทร์ (ลดครึ่งราคา) แล้วก็ได้ปฏิบัติการพิทักษ์ฮูก (ตามคำแนะนำของคนแปล) มาในราคาเล่มละ ๕๐ บาท หมดไปกับบู๊ทนี้ 538 บาท
จากนั้นตรงไปที่อมรินทร์ (นายอินทร์) ซื้อชุดจอมโจรยูเจฯ ๓ เล่ม สุดขอบจักรวาล (จุฑารัตน์) และ นิยายที่หายไป (เห็นห้องสมุดกรี๊ดกันเหลือเกิน) ทั้งหมด ๑๑๘๕ บาท เลยได้หนังสือฟรี ๑ เล่ม (ซึ่ง...เอ่อ...เลือกยากมาก ไม่มีเล่มไหนน่าสนใจเลย) แต่ก็เลือก ดีนี่ สาวน้อยไม่หยุดฝันมา แล้วก็ได้คูปอง ๓ ใบ ได้ลด ๓๐, ๕๐ และ ๗๐ เปอร์เซ็นต์ (แค่ได้อันหลังนี่ก็กรี๊ดแล้ว) พอหันไปดูหนังสือที่เลือกซื้อเพื่อลดได้ปุ๊บ ยิ่งกรี๊ดกว่า หยิบ Abarat มาทันที ๒ เล่ม (กรุณาอย่าอิจฉา ๕๕๕) และ ๘ ๑/๒ ของคุณอนุสรณ์ ขวัญใจใครแถวนี้ก็ไม่รุ (๑ คูปองซื้อได้แค่ ๑ เล่มค่ะ ใช้เปอร์เซนต์มากน้อยตามราคาหนังสือค่ะ แหะๆ)
ไปปิดท้ายที่บู๊ทคบไฟ ได้สมัญญาดอกกุหลาบ ราคาเต็ม ๓๕๐ แต่จำไม่ได้ว่าลดเหลือเท่าไหร่ ราวๆ ๒๗๕ มั้งนะคะ ไม่แน่ใจ
รวมรอบแรกหมดไป ๓,๔๔๔ บาท (เลขสวยทีเดียว เหอๆ) ๒๐ เล่ม เกินงบที่ตั้งไว้นิดหน่อย
แต่อย่างไรยังมีหนังสือที่อยากได้แต่ยังไม่ได้ เช่น ดราก้อนฯ (อันนี้เกินงบยังไงก็ต้องไปซื้อ เป็นเล่มเดียวที่ยอมซื้อแม้ว่าจะเกินงบ) 20th Century Boy (ไปถามที่บู๊ทเนชั่นแล้ว ทั้งชุดขายที่ ๘๘๐ บาท) ทุ่งฝัน (Catcher in the Rye มีใครเห็นบ้างมั้ยนี่ แวะเวียนไปดูหลายบู๊ทแล้ว แต่ไม่เจอเลยอ้ะ ถ้ามี ก็คงเป็นอีกเล่มที่ยอมผิดกฎเกินงบน่ะ) รองเท้าบัลเล่ต์ เพลงรักประกอบชีวิต ของนิ้วกลม พุ่มรักฯ ของคุณวินทร์ นิยายที่ตั้งใจจะซื้อหลายเรื่องของแจ่มใส โปสการ์ดของหมี (ข้าน้อยขออภัย งบหมดว่ะเพื่อนหมี ฮือออออ ) ซึ่งนอกจากดราก้อนฯ แล้ว ที่เหลือคงต้องเอาไว้นอกงานหรืองานหน้านั่นแล
อ้อๆ ลืมไป เจ้าคุณแม่ ขณะไปเข้าห้องน้ำ เลยไปซื้อหนังสือที่นายอินทร์สาขาด้านล่างหมดไปอีกแปดร้อยกว่าบาท (ซะงั้น) โธ่..เจ้าคุณแม่ทำไมไม่บอกหละ ถ้าไปซื้อนายอินทร์สาขาโน้น รวมกับที่เราซื้อมาก็ได้กระเป๋าแล้ว โอ๊ยยยยย แงงงงงง
สำหรับงานนี้ เราใช้ถุงพลาสติกไป ๓ ใบ (ลืมเอาถุงผ้าไปง่ะ) เป็นของ a book ๑ ใบ ของมติชน ๑ ใบ แล้วก็ของนายอินทร์ ๑ ใบ นอกนั้นใส่รวมกันหมด แม่ใช้อีก ๒ ใบ เมื่อเทียบกับปริมาณหนังสือแล้วก็ถือว่าโอเคอยู่นะ แหะๆ
แน่นอน..จน กินแกลบไปอีกระยะหนึ่ง เช่นเคย
ขอบคุณสำหรับการแวะมาอ่านนะคะ
174017/3250/250
Create Date : 31 มีนาคม 2551 |
Last Update : 31 มีนาคม 2551 0:08:02 น. |
|
87 comments
|
Counter : 1722 Pageviews. |
|
|
|