#### รีวิวหนังสือโอลด์แมนด์วอร์ (Old Man's War) ปฐมบทสงครามข้ามเอกภพ ####



สวัสดีค่ะะะะะะะ










วันนี้มารีวิวหนังสืออีกแล้วกับหนังสืออีกเล่มที่ได้มาจากงานหนังสือตุลาหกศูนย์ค่ะ





โอลด์แมนด์วอร์ (Old Man's War) ปฐมบทสงครามข้ามเอกภพ
เขียนโดย John Scalzi
แปลโดย ดาวิษ ชาญชัยวานิช
สำนักพิมพ์ Solis Books
จำนวนหน้า 330 หน้า
ราคาปก 295 บาท




เรื่องย่อ


จะเป็นอย่างไร เมื่อในอนาคต คุณอายุแก่ชรามากพอแล้วเลือกที่จะสมัครเป็นทหารที่จะไปต่อสู้กับเหล่าบรรดาสัตว์ประหลาดต่างๆ ในอวกาศได้ โดยมีการแลกเปลี่ยนคือ คุณจะได้ร่างใหม่ที่เป็นหนุ่มสาว แต่ต้องแลกกับการไม่ได้กลับมายังโลกอีกเลย




ความรู้สึกที่ได้อ่าน


โอยยยย สนุกมากค่าาาา


ตอนต้นเรื่องจะดำเนินเรื่องค่อนข้างช้าไปหน่อยนะคะ แต่พอเริ่มขึ้นสู่อวกาศ เข้าสู่การฝึกและอื่นๆ แล้ว สนุกมาก ซึ่งคนที่อ่านต้องชอบนิยายแนวไซไฟหน่อยนะคะ ที่มีการใช้จินตนาการและต้องไม่ใช้ทฤษภีแบบที่ความรู้ ณ ปัจจุบันมีอยู่ไปจับแบบเป๊ะๆ 


ความสนุกของนิยายเรื่องนี้คือ เป็นนิยายที่มีความฮาสอดแทรกอยู่เป็นระยะๆ (แต่ต้องเข้าใจมุขด้วยนะคะ 555) อ่านไปก็อมยิ้มไป จะขอยกมาให้อ่านสักหน่อยแล้วกันนะคะ



หน้า 18

...ทรัพย์สินใดที่ยังเหลืออยู่จะถูกจัดสรรตามกฎหมาย ภาระและความรับผิดชอบทางกฎหมายต่างๆ ที่ถูกไถ่ถอนด้วยการเสียชีวิตจักถูกไถ่ถอนทันที ประวัติในทางกฎหมาย (ไม่ว่าจะเป็นคุณงามความดีหรือความอัปยศอดสู) จะถูกขีดฆ่าทิ้งด้วยประการฉะนี้ หนี้สินจะได้รับการปลดเปลื้องตามกฎหมาย ข้าพเจ้ารับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีว่าถ้าหากข้าพเจ้ายังไม่เตรียมการเรื่องการถ่ายโอนทรัพย์สินไปยังบุตรหลาน ข้าพเจ้าสามารถขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายและการเงินจากกองกำลังป้องกันอาณานิคมได้ เพื่อจัดการให้แล้วเสร็จภายในเจ็ดสิบสองชั่วโมง" 

ผมลงชื่อ ฉะนั้นจะว่าไปแล้ว ตอนนี้ผมมีชีวิตเหลืออีกแค่เจ็ดสิบสองชั่วโมง

"แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมไม่ออกจากโลกภายในเจ็ดสิบสองชั่วโมง" ผมถามขณะยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่

"ก็ไม่เกิดอะไรค่ะ" เธอรับเอกสารไป "ก็แค่ว่าคุณถือว่าเสียชีวิตไปแล้วในทางกฎหมาย ข้าวของทั้งหมดจะถูกจัดแบ่งตามพินัยกรรม ประกันชีวิตและประกันสุขภาพจะถูกยกเลิกหรือถ่ายโอนไปยังทายาท และเมื่อเสียชีวิตไปแล้วตามกฎหมาย คุณจะไม่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายอีก ทั้งจากการหมิ่นประมาทไปจนถึงการฆาตกรรม"

"งั้นถ้ามีใครเดินเข้ามาฆ่าผมตาย คนคนนั้นก็จะไม่ต้องรับโทษตามกฎหมายเลยเหรอ"

"ก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะคะ" เธอว่า "ถ้าเกิดมีใครมาฆ่าคุณในภาวะที่คุณเสียชีวิตในทางกฎหมายไปแล้ว ดิฉันเชื่อว่าในรัฐโอไฮโอ คนคนนั้นอาจถูกดำเนินคดีในข้อหา 'ย่ำยีศพ' ได้ค่ะ"


คือแบบ...อ่านแล้วอมยิ้มมาก ซีนตอนที่จอห์น เพอร์รี่ไปเซ็นสัญญาเพื่อเป็นทหารให้กับซีดีเอฟนี่มีหลายช็อตมากที่ทำให้เรารู้สึกว่าคนเขียนมีอารมณ์ขันค่ะ แต่เป็นอารมณ์ขันแบบยิ้มๆ นะคะ ไม่ใช่แบบหัวเราะก้องเสียงดังแบบนั้น ซึ่งทำให้การอ่านหนังสือเล่มนี้ (แม้จะมีหลายฉากที่สยอดสยอง (ตามมาตรฐานของคนไม่ชอบสิ่งสยดสยองใดๆ ทั้งสิ้นอย่างข้าพเจ้า) และดราม่า (แบบอ่านแล้วก็น้ำตาซึม) อยู่เป็นระยะๆ) ค่อนข้างเป็นบรรยากาศการอ่านที่รื่นรมย์เลยหละค่ะ



ซึ่งตอนอ่านหนังสือเล่มนี้ มีหลายอย่างที่ทำให้เราคิดและถามตัวเองนะคะ ไม่ว่าจะเป็น...คือ ต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกตัวเองรู้สึกว่าการที่แก่แล้วทนตัวเองไม่ได้ ต้องไปสมัครเป็นทหารเพื่อแลกกับความหนุ่มสาวเนี่ย...มันจำเป็นถึงขนาดนั้นเลยเหรอ เราไม่คิดว่าจะทำนะ แต่เพอร์รี่ก็ให้คำตอบแบบที่ชวนคิดกับเราค่ะ...



หน้า 20

"ตอนยังหนุ่มๆ ผมก็ไม่เคยรังเกียจที่จะต้องแก่" ผมบอก "แต่พอแก่เข้าแล้วจริงๆ นี่สิ ตอนนั้นหละที่ผมรับไม่ได้"



คือไงดีอะคะ มันมีหลายเรื่องในชีวิตนะ ที่ครั้งแรกเคยบอกว่า เราจะไม่เป็นอย่างนั้น (เช่นเราจะไม่รักผู้ชายเจ้าชู้ เป็นต้น 555) แต่พอถึงเวลา ก็กลับกลายเป็นเรากลับทำสิ่งนั้นๆ ไปได้ โดยที่บางที...มันก็ใช้สติและเหตุผลไม่ได้ (เดี๋ยวค่ะป้า กลับมาแป๊บ) คือ เอาเป็นว่า บางเรื่องต่อให้ตอนเรามีสติและปัญญาตั้งใจว่าถ้าเป็นเรา เราจะทำ (หรือไม่ทำ) อย่างไร แต่พอถึงเวลาจริงๆ เราอาจจะไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจก็ได้ค่ะ ประมาณนั้น






นอกจากนั้นตอนที่เราสงสัยว่า...แล้วผู้คนรอบข้างหละ เขาไม่ห่วงหาอาวรณ์เหรอ? ก็มีคำตอบให้เช่นกันค่ะ คือ ภรรยาของตัวเอกเสียชีวิตไปแล้ว (ทำให้เธอไม่ได้ไปเป็นทหารด้วยกัน เพราะตายก่อนอายุครบ) ลูกชายเองตอนแรกก็คัดค้านแล้วท้ายที่สุดก็ต้องยอมรับ เพราะ...พ่อเองก็ไม่เหลือใคร และชีวิตมันก็ต้องเป็นไป (ซึ่งเราว่า...ความสัมพันธ์ในครอบครัวฝรั่งระหว่างรุ่นกับรุ่นและคนรอบข้างมันไม่ชุกชุมหนาแน่นเท่าทางเอเชียด้วยล่ะนะ) ซึ่งการที่เพอร์รี่ได้ไปร่ำลา และสะสางเรื่องค้างคาใจทั้งหลายตั้งแต่ 1 ปีก่อนจะไปเข้าร่วมกับกองกำลัง มันทำให้เราคิดนะคะว่า...จำเป็นไหมที่เราต้องรอเวลาให้ (เหมือนจะ) ตายไปจากโลกแบบนั้นถึงจะสะสาง ทำไมเราจะไม่สะสางเรื่องค้างคาใจทั้งหลายตั้งแต่วันนี้ แต่ก็นั่นแหละค่ะ...เราดันคิด (ผิดหรือเปล่า?) แค่ว่า เรายังมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน และยังไม่มีเวลาสำหรับเรื่องเหล่านั้น (จริงหรือ?) บางทีถ้าเราคิดว่าเราจะตายในอีกหนึ่งอาทิตย์ ในอีกหนึ่งเดือน เราก็คงจะทำสิ่งที่มันค้างคาใจ สะสางกับผู้คนต่างๆ ที่เรารู้สึกติดค้างกันไว้ก็ได้นะคะ...




หลังจากที่นิยายปูให้เรารู้ที่มาที่ไปของการไปเป็นทหาร การแปลงสภาพเป็นหนุ่มเป็นสาวให้เรารู้สึกเริงร่า คนเขียนก็ทุบหัวเราด้วยความเป็นจริงอีกด้านที่ต้องแลกมา นั่นก็คือการฝึกอย่างหนัก การมีโอกาสที่จะเสียชีวิตแบบโหดร้าย (ที่ตรงกับคำว่าโหดร้ายจริงๆ นะคะ) ที่เล่นเอาอึ้งเลยค่ะ จนอย่างที่ตัวเอกคิดหละว่า ถ้าเอาคลิปทหารที่ตายอย่างอนาถแบบนั้นให้ดูก่อน อาจจะไม่มีการสมัครก็ได้ เหอๆ


ซึ่งมันก็ทำให้เราคิดนะคะว่า...การที่เขาเอาคนแก่มาเป็นทหาร ส่วนหนึ่งก็คือ...การที่จะต้องมาตายง่ายดายในการรบ มันก็...อาจจะไม่ได้เร็วไปกว่าใช้ชีวิตต่อโดยไม่เป็นทหารก็ได้ คือ ไม่มาเป็นทหารก็ต้องแก่ตาย (ในไม่ช้า) อยู่ดีนั่นแหละ แต่คนเขียนก็มีคำตอบว่า นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวนะคะ แต่เหตุผลนี้...ก็สำคัญเช่นกัน



"...พูดให้ตรงกว่านั้นก็คือ พวกนายควรจะแคร์เพราะอาณานิคมเป็นตัวแทนของอนาคตแห่งมนุษยชาติ และไม่ว่าจะอยู่ในร่างกายใหม่หรือร่างกายเดิม พวกนายก็มีความใกล้ชิดผูกพันกับมนุษย์ยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตทรงภูมิเผ่าพันธุ์ใดๆ ก็ตามในเอกภพ

"แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกนายควรจะแคร์เพราะพวกนายแก่พอที่จะรู้ว่าต้องแคร์ นี่เป็นเหตุผลข้อหนึ่งที่ซีดีเอฟเลือกคนแก่มาเป็นทหาร...มันไม่ใช่เพราะว่าพวกนายเกษียณแล้วและเป็นตัวถ่วงทางด้านเศรษฐกิจหรือว่าอะไรหรอก แต่เป็นเพราะพวกนายอยู่มานานจนรู้ว่าในโลกนี้มันมีอะไรบางอย่างที่สำคัญกว่าชีวิตของตัวเอง พวกนายส่วนใหญ่มีครอบครัว เคยเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน และเข้าใจดีถึงคุณค่าของการทำอะไรสักอย่างเพื่อสิ่งที่เหนือล้ำกว่าเป้าหมายส่วนตัว ต่อให้พวกนายจะไม่เคยเป็นชาวอาณานิคม พวกนายก็ยังตระหนักได้ว่าอาณานิคมคือสิ่งที่ดีสำหรับมนุษยชาติ เป็นสิ่งที่มีค่าควรแก่การปกป้อง มันยากที่จะฝังแนวคิดนี้เข้าไปในสมองของเด็กวัยรุ่นอายุสิบเก้า แต่พวกนายมีสิ่งนี้อยู่แล้วจากประสบการณ์ที่ผ่านมา และในเอกภพนี้น่ะนะ ประสบการณ์ก็พอจะมีควาหมายอะไรอยู่บ้าง"





แต่แม้ว่าคนเขียนจะแทรกอารมณ์ขันไว้เป็นระยะๆ แต่เวลาถึงคราดราม่า ก็ทำเอานักอ่านอย่างเราน้ำตาตกนะคะ อย่างเพื่อนคนหนึ่งที่อบรมรุ่นเดียวกันกับเพอร์รี่ที่ต้องเสียชีวิตไป ซึ่งเราถือว่าเป็นการเสียชีวิตที่งดงามและสะเทือนใจมากค่ะ (ยกมาแค่นี้คนที่ไม่ได้อ่านคงไม่อินนะคะ แต่ก็อยากยกมาให้อ่านแค่นี้ ไม่งั้นจะยาวเกินและสปอยล์เกินด้วยค่ะ)



แล้วแม็กกีก็หันไปหาดาวเคราะห์ดวงนั้นที่กำลังจะคร่าชีวิตเธอ และเฉกเช่นศาสตราจารย์ทางด้านศาสนาตะวันออกผู้เก่งกาจอย่างที่เธอเคยเป็น เธอได้แต่ง จิเซย์ หรือบทกวีแห่งความตายในรูปแบบกลอนไฮกุขึ้นมาบทหนึ่ง


สหายเอยอย่าได้อาลัย
ข้าฯ ร่วงหล่นดั่งดาวตก
ไปสู่ชีวิตใหม่


เธอส่งบทกวีนี้พร้อมกับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตมาให้พวกเรา แล้วเธอก็ตาย ตายอย่างเจิดจ้าเหนือท้องฟ้าดำมืดของดาวเทมเพอแรนซ์

เธอเป็นเพื่อนผม และถึงกับเป็นคนรักของผมในช่วงเวลาสั้นๆ ในช่วงเวลาแห่งความตายของเธอ เธอกล้าหาญยิ่งกว่าที่ผมจะทำได้ในช่วงเวลาของผมเอง และให้ตายเถอะ เธอจะต้องเป็นดาวตกที่สวยงามมากแน่ๆ




และในขณะเดียวกัน ตัวเอกของเราก็ตกอยู่ในภาวะแบบที่ทหารหลายคนประสบกับสงครามค่ะ ซึ่ง...เมื่อสมัยเรายังใสซื่อ เราไม่เคยเข้าใจเลยนะคะว่า ทำไมถึงจะมีอะไรเปลี่ยนคนๆ หนึ่งได้ (แต่ตอนนี้แก่พอจะรู้แล้ว 555) ซึ่งสิ่งที่เพอร์รี่พูด คือสิ่งที่เราเห็นด้วยมากเลยค่ะ



"...ในการสู้รบกับพวกเขา เราต้องรู้เกี่ยวกับพวกเขาแค่เท่าที่จำเป็น สำหรับเราแล้ว พวกเขาไม่ได้เป็นอะไรอย่างอื่นนอกจากศัตรู ยกเว้นแค่ว่าพวกเขาฉลาดพอที่จะตอบโต้ และมันก็ไม่ต่างอะไรกับการต่อสู้กับสัตว์เลย"

"นั่นทำให้พวกเราส่วนใหญ่ทำใจได้ง่ายขึ้นนะ" อลันพูด "ถ้าคุณไม่คิดว่าแมงมุมมันเป็นคน ฆ่าทิ้งสักตัวคุณก็ไม่รู้สึกแย่อะไร ต่อให้มันจะเป็นแมงมุมตัวใหญ่ๆ ที่ฉลาดๆ ก็ตาม ความจริงแล้วโดยเฉพาะพวกที่ตัวใหญ่ๆ และฉลาดๆ เลยล่ะ"

"บางทีนี่ล่ะคือสิ่งที่ทำให้ผมไม่สบายใจ" ผมพูดต่อ "ผมไม่รู้สึกถึงผลลัพธ์อะไรเลย ผมเพิ่งจะฆ่าสิ่งมีชีวิตโดยการเหวี่ยงมันกระแทกตึกไปเองนะ และถึงอย่างนั้นผมก็ยังรู้สึกเฉยๆ การที่ผมรู้สึกเฉยๆ นี่ล่ะ ที่ทำให้ผมไม่สบายใจ คนเราควรจะมีความตระหนักถึงผลลัพธ์จากการกระทำของตัวเองบ้างสิ อย่างน้อยเราควรรับรู้ถึงความสยดสยองของสิ่งที่เราเพิ่งทำลงไปบ้าง ไม่ว่าจะทำเพราะมีเหตุผลอันควรหรือไม่ก็ตาม แต่ผมไม่รู้สึกสยดสยองอะไรกับสิ่งที่ทำลงไปเลย อันนั้นล่ะที่ผมกลัว ผมกลัวนัยยะของมัน ผมเพิ่งจะกระทืบเมืองนี้จนเละเหมือนเป็นปีศาจ และตอนนี้ผมก็เริ่มคิดแล้วว่าตัวเองอาจจะเป็นปีศาจจริงๆ ก็ได้ ผมกลายเป็นปีศาจไปแล้ว คุณก็เป็นปีศาจ พวกเรา ทุกคน ล้วนเป็นปีศาจอันไร้มนุษยธรรม แถมยังไม่รู้สึกว่ามันผิดตรงไหนอีกต่างหาก"




แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกรักและประทับใจในตัวเพอร์รี่ ไม่ใช่แค่เรื่องของความฉลาด ความมีอารมณ์ขันของเขา แต่เป็นเรื่องของความรักที่เขามีต่อภรรยาของเขาค่ะ...มันลึกซึ้งมากๆ เลย ยกมาให้อ่านให้เห็นอย่างชัดเจนละกันนะคะ



"...ในชีวิตแต่งงานของผมมันไม่มีอะไรให้น่าเขียนถึงหรอก"

ผมมองไปรอบๆ "ในห้องนี้ไม่มีใครมีคู่ชีวิตที่มาสมัครด้วยกันบ้างเลยเหรอ พวกคุณไม่ได้ติดต่อพวกเขาเลยเหรอ"

"สามีฉันสมัครก่อนฉัน" วีเบอร์บอก "แต่เขาตายก่อนที่ฉันจะเข้าประจำการ"

"ภรรยาฉันประจำการอยู่บนยาน บอยซี" คีย์สว่า "นานๆ เธอก็ส่งข้อความมาที ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ได้คิดถึงฉันมากมายอะไรนักหรอก สงสัยอยู่กับฉันมาสามสิบแปดปีก็คงจะเกินพอแล้วมั้ง"

"คนส่วนใหญ่พอออกมาอยู่บนนี้ก็ไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเก่าอีกแล้ว" เจนเซนบอก "แน่นอนว่าเราคิดถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางอย่าง...อย่างที่เอมมี่บอกนั่นแหละ มันเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราไม่บ้าไปซะก่อน แต่มันเหมือนกับการถูกดึงกลับไปในอดีต เสี้ยววินาทีก่อนการตัดสินใจจนทำให้ชีวิตของเรากลายเป็นแบบที่มันเป็น ถ้าย้อนกลับไปได้ คุณจะเลือกแบบเดิมอีกทำไม คุณเคยใช้ชีวิตแบบนั้นไปแล้ว แต่อย่าไปสนใจความเห็นเมื่อกี๊ของผมเลย ผมไม่ได้สำนึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองหรอก ก็แค่ว่าผมคงไม่รีบร้อนที่กลับไปเดินเส้นทางเดิมอีกครั้ง แน่นอน ภรรยาของผมก็อยู่ในอวกาศด้วย แต่เธอก็มีความสุขกับชีวิตใหม่ของเธอโดยปราศจากผม และต้องขอบอกเลยว่าผมคงไม่รีบร้อนจะกลับไปประจำการอยุ่ที่ฐานเดิมฐานนั้นอีกครั้งหรอกนะ"

"นี่ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยทุกคน" ผมบอก

"แล้วคุณคิดถึงอะไรเกี่ยวกับการแต่งงานล่ะ" อลันถาม

"อืม ผมคิดถึงภรรยาน่ะ" ผมบอก "แต่ก็คิดถึงความรู้สึกอีกอย่างด้วย ไม่รู้สินะ คงเป็นความรู้สึกสบายใจล่ะมั้ง มันเป็นความรู้สึกที่ว่าเราอยู่ในที่ที่ควรอยู่ อยู่กับคนที่ควรอยู่ด้วย ที่แน่ๆ คือผมไม่รู้สึกถึงมันตอนอยู่บนนี้ พวกเราเดินทางไปตามที่ต่างๆ เพื่อไปต่อสู้ร่วมทางไปกับคนที่อาจจะตายวันตายพรุ่งได้ทุกเมื่อ อย่าถือสากันนะ"

"ไม่เลย" คีย์สบอก

"บนนี้มันไม่มีความรู้สึกมั่นคงนั้นเลย" ผมว่า "มันไม่มีอะไรที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย ชีวิตแต่งงานผมก็มีขึ้นมีลงเหมือนของคนอื่นนั่นแหละ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมั่นคง ผมคิดถึงความรู้สึกอุ่นใจแบบนั้น ความรู้สึกผูกพันกับใครสักคนแบบนั้น คุณค่าที่เรามีต่อคนอื่นคือสิ่งที่ทำให้เรายังเป็นมนุษย์อยู่ได้ เช่นเดียวกับคุณค่าที่คนอื่นมีต่อเรา ผมคิดถึงการได้มีคุณค่าต่อคนอื่น การมีส่วนนั้นของความเป็นมนุษย์อยู่กับตัว นี่ล่ะคือสิ่งที่ผมคิดถึงเกี่ยวกับการแต่งงาน"



อืมม์...คืออ่านแล้วรู้สึกถึงความเป็นจริงของชีวิตยังไงบอกไม่ถูกค่ะ 5555 คือ ชีวิตคู่ส่วนใหญ่คงเป็นอย่างนั้น และเรารู้สึกอิจฉาเพอร์รี่เล็กๆ ที่เขามีชีวิตแต่งงานและได้พบคนที่ตัวเองรักและให้ความรู้สึกแบบนั้นได้น่ะค่ะ (ทั้งอยากมีและอยากเป็นกันเลยทีเดียว) 

ซึ่งการปูเรื่องความรักที่เพอร์รี่มีต่อภรรยานี้ ทำให้เซอร์ไพรซ์อย่างหนึ่งของนิยายเรื่องนี้นี่ยิ่งทำให้คนอ่านรู้สึกแบบบบบบบ เฮ้ยยยยยยย แล้วก็เลยเข้าใจในสิ่งที่เพอร์รี่มีปฏิกิริยาต่อมันได้อย่างชัดเจนมากๆ ค่ะ


ขอยกตัวอย่างอีกอันที่แสดงให้เห็นถึงความรักระหว่างเพอร์รี่กับภรรยานะคะ (สารภาพว่าเป็นอย่างหนึ่งที่ชอบมากจริงๆ ในนิยายเรื่องนี้ค่ะ)



"เธอกำลังทำวอฟเฟิลในตอนเช้าวันอาทิตย์วันหนึ่ง แล้วเกิดเป็นโรคหลอดเลือดสมองขึ้นมาขณะกำลังมองหาวานิลลา" ผมเล่า "ตอนนั้นผมอยู่ในห้องนั่งเล่น จำได้ว่าเธอถามหาวานิลลาอยู่ดีๆ เสร็จแล้วก็มีเสียงล้มตึง ผมวิ่งไปที่ห้องครัวเป็นเธอนอนตัวสั่นและมีเลือดไหลตรงจุดที่หัวกระแทกโต๊ะเคาน์เตอร์ ผมโทร.เรียกรถฉุกเฉินขณะกอดเธอเอาไว้ ผมพยายามห้ามเลือดให้เธอ ปากพร่ำบอกแต่ว่าผมรักเธอๆ จนกระทั่งหน่วยกู้ชีพมาถึงและดึงเธอออกไป แต่ระหว่างนั่งรถไปโรงพยาบาล พวกเขาก็ยอมให้ผมจับมือเธอ เธอตายบนรถพยาบาลโดยที่ผมจับมือเธอไว้ ผมเห็นประกายชีวิตเลือนหายไปจากดวงตาของเธอ ผมเอาแต่บอกว่าผมรักเธอๆ อยู่อย่างนั้นจนกระทั่งพวกเขาเอาตัวเธอไป"

"ทำไมคุณถึงทำอย่างนั้น" เจนถาม

"ผมอยากให้แน่ใจว่าสิ่งสุดท้ายที่เธอจะได้ยินคือคำพูดของผมที่บอกว่าผมรักเธอมากแค่ไหน"



สารภาพว่าตอนอ่านถึงตรงนี้นี่ น้ำตาไหลพรากๆ ค่ะ (เป็นเอามากนะป้า) มันเป็นเหมือนความรู้สึกงดงามที่เราก็รู้สึกว่า...มันทั้งน่าชื่นชมและน่าอิจฉาน่ะนะ ถ้าเราจะต้องตายเราก็คงอยากเป็นแบบภรรยาเพอร์รี่นี่แหละ หรือถ้าคนที่เรารักตาย เราก็อยากทำแบบเพอร์รี่เช่นกัน...นั่นแหละค่ะ ไม่พูดต่อดีกว่า รู้สึกว่ารีวิวนี้ป้าเพ้อเจ้อเอามากค่ะ 555




ที่ต้องชมอีกอย่างคือ การแปลค่ะ แปลได้ดีมาก อ่านแล้วไม่สะดุดเลย และอารมณ์ขันก็ยังคงไว้ด้วยค่ะ (หลายคนน่าจะคุ้นชื่อนักแปลจากชุดนิยายเรื่องดังอีกเรื่องน้าา) แล้วนิยายเล่มนี้ก็เป็นนิยายเล่มนี้ของสนพ.ใหม่เอี่ยมอย่าง Solis Books ด้วย ซึ่งเราถือว่าเลือกเรื่องมาเปิดตัวได้ดีนะคะ ปกก็ซ้วยสวย (ตอนสนพ.มาโพสต์ปกนี่มีแต่คนมาชม) ถือว่าเป็นงานผลิตที่ดีเลยค่ะ ขอให้รักษามาตรฐานแบบนี้กับเล่มต่อๆ ไปนะคะ




สรุปแล้วก็เป็นนิยายไซไฟ แบบฮาๆ ดราม่าและรักสะเทือนใจ (มันหลากหลายจริงๆ ท่านผู้โช้มมมม) ที่ถ้าใครอ่านรีวิวอย่างละเอียดแล้วชอบ ก็อยากให้ไปหามาให้อ่านกันค่ะ โดยส่วนตัวแล้วชอบนะคะ 




ปฏิทินธรรม




วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2561

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)



วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคา
2561
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447


2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/




วันอาทิตย์ที่ 11 และ 25 มีนาคม 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts




วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2561 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้


วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)

1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน

เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 24 และ 25 มีนาคม 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร











ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1469696+5957619=7427315/13136/1630





Vote Book Blog  




Create Date : 11 มีนาคม 2561
Last Update : 11 มีนาคม 2561 19:58:50 น. 32 comments
Counter : 3757 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเกศสุริยง, คุณThe Kop Civil, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณJinnyTent, คุณtuk-tuk@korat, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณยังไงก็ได้ว่ามาเลย, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณmambymam, คุณkae+aoe, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณ**mp5**, คุณhaiku, คุณชีริว, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณสองแผ่นดิน, คุณruennara, คุณfor a long time


 
ชอบหน้าปกเล่มนี้จัง ดูมีสตอรี่ดีจังอ่ะ
เนื้อหาของหนังสือก็น่าสนใจ
มีฮาหน่อยๆ แบบนี้ชอบจ้ะ
แต่คงไม่ได้อ่าน อิอิ

เพิ่งเห็นว่าอัพใหม่
โหวตหมดมะกี้เองจ้ะ
ไว้พรุ่งนี้น้า




โดย: mambymam วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:10:54:42 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
แอบสงสัยเหมือนกันว่า น้องเต้ยเดินทางตลอด แต่ยังมีเวลาอ่านหนังสือ เยี่ยมจริงๆค่ะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:13:18:35 น.  

 
น่าจะสร้างเป็นหนังได้เลยนะครับ สนุกมาก

บัตร M Gen เอาไว้เป็นส่วนลดเวลาดูหนังนะครับ เอาแต้มไปแลกดูหนังฟรีได้ด้วยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:15:07:43 น.  

 
เนื้อเรื่องถ้าเจอแบบนั้นของ พักอย่างสงบบนโลกดีกว่าครับ

หน้า 18 หนังหลายๆ เรื่องพวก จนท. ชอบตอบประมาณนี้นะ แล้วต้องตอบแบบทำหน้าตายด้วย


การแต่งงานแล้วได้เจอคู่ที่รักนี่เป็นเรื่องที่ดีมากๆ แต่การแต่งงานมันก็เหมือนซื้อหวยแหละครับ เราไม่รู้หรอกว่ามันจะถูกหรือไม่


เรื่องนี้อาจจะมีเป็นหนังในอนาคตก็ได้

หนังสือตุลาหกศูนย์ ผมเคลียร์หมดทุกเล่มแล้ว ตอนนี้กำลังไล่จัดการของเก่าก่อนหน้า ต้องเร่งหน่อยเพราะสิ้นเดือนนี้จะมีงานหนังสืออีกแล้ว มหากรรมล้มละลายแห่งชาติจริงๆ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:17:14:10 น.  

 
พล็อตเรื่องน่าสนใจดีนะพี่ เท่าที่อ่านเรื่องย่อแล้วก็น่าสนใจ ได้แง่คิดหลายอย่างค่ะ


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:19:42:39 น.  

 
โหวตครับคุณเต้ย

ไม่เคยเห็นปกนี้มาก่อนเลยครับ
แต่เป็นแนวหนังสือที่ผมไม่เคยอ่านเลย

ชอบไฮกุบทนี้ครับ

สหายเอยอย่าได้อาลัย
ข้าฯ ร่วงหล่นดั่งดาวตก
ไปสู่ชีวิตใหม่

แล้วก็ชอบฉากที่เพอร์รี่จับมือภรรยาแล้วบอกรัก
ซึ้งครับ เขียนบรรยายได้ดีเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:19:52:15 น.  

 
ดีครับ ไม่เชิงว่าย้อมสี แต่ลดสีบางสีอยู่บางภาพครับ
อยากอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น
eko eko asarak


โดย: ลุงแมว วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:20:10:01 น.  

 
ว๊าววววว น้องเต้ยบอกสนุก
ต้องไปหามาอ่านมั่ง


โดย: อุ้มสี วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:20:15:42 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเต้ย
คุณเต้ยอ่านหนังสือหลายแนวมากนะคะ
พี่เคยพยายามที่จะอ่านหนังสือแปล
แต่ลองกี่เล่ม ๆ ก็ไม่ติดค่ะ

อ่านติดแต่นิยายจีน
พอเป็นนิยายฝรั่งปุ๊บไม่ติดเลย
นี่เพื่อนก็แนะนำอีกเรื่อง
ซื้อมาแล้วด้วยเป็นบ็อกเซท
แต่ยังไม่คิดจะลองเอามาอ่าน
เพื่อนก็เชียร์ที่ซื้อเพราะเพื่อนเชียร์นี่แหละ 555

จากนิยายที่คุณเต้ยพูดถึง
ถ้าแลกกับกลับมาเป็นหนุ่มสาว
แต่ไม่ได้กลับมายังโลก
เป็นพี่พี่ไม่เอานะ
จะมีประโยชน์อะไรถ้าอยู่แบบท่ามกลางคนที่รัก
เหงาตายเลยแบบนั้น อิอิ


โดย: JinnyTent วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:20:38:15 น.  

 
ใช่จ้ะ ขนุนสมัยนี้จืดชืด รสหวานไม่มี
บางทียังไม่สุกดีก็เอามาขายละ
กินแล้วเซ๊งเซ็งอ่ะ
สู้ขนุนหลุมไม่ได้ หวานเจี๊ยบ คริๆ
ขอบคุณโหวตจ้ะ



โดย: mambymam วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:20:49:52 น.  

 
ไซไฟอยากดูเป็นหนังอะ ไม่อยากอ่าน


โดย: ลุงแมว วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:20:55:57 น.  

 





โดย: mambymam วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:21:38:35 น.  

 
นิยาย ไซไฟ แฟนตาซี อวกาศ
ประมาณนี้ผมไม่ได้อ่านเลยครับคุณเต้ย

ผมชอบอ่านแต่หนังสือที่คนไม่ค่อยอ่านกันครับ 555
หยิบมารีวิวในบล็อกทีไร
โดนแซวตลอดว่าคุณก๋าอ่านแต่หนังสือแปลกๆ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2561 เวลา:22:11:21 น.  

 
เป็นแนวที่ชอบอ่านเลยค่ะ
เดี๋ยวจะไปมองๆ ตามร้านหนังสือดูค่ะ
ตอนนี้มีหนังสือดองมากมายจริงๆ
ไปหามาดองเพิ่มอีกซักเล่มสองเล่มค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Education Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ann_shinchang (ยังไงก็ได้ว่ามาเลย ) วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:5:38:19 น.  

 
เห็นชื่อหนังสือ คิดว่า เป็นเรื่อง
เดียวที่ แฮมมิงเวย์เขียน..อ้าว
ไม่ใช่...

เป็นเรื่องที่ คิดอันบรรเจิด ไป
อีกแนว.. นั่งอ่านแล้วคล้อย
ตาม น่าอ่าน เป็นแนวคิด
ที่คงมีหลายคน อยากหนุ่มอยากสาวอีกครั้ง 555

งั้น

v

อ้อ..มาบอกว่า เขียนถึงวัด
โป่งแยง เฉลิมพระเกียรติ แล้ว
ยังเที่ยววนเวียนแถวนั้นอีกนิด
หน่อย เพราะ สวย..หมายถึง
ภูมิประเทศนะครับคุณเต้ย 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:6:10:18 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับคุณเต้ย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:6:35:08 น.  

 
ส่งกำลังใจค๊าบบบบ



โดย: mambymam วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:7:14:26 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายค่ะ คุณเต้ย
ไซไฟนี่แนวโปรดอยู่เหมือนกันค่ะ
เมื่อก่อนตามอ่านเกือบทุกเรื่องเลย
ถ้าเป็นแนวรักๆ ดราม่า พออ่านได้ แต่ไม่ถนัดค่ะ
เดี๋ยวนี้หนังสือมีให้เลือกเยอะมาก
บางทีก็เลือกอ่านไม่ถูกเลยค่ะ


โดย: ann_shinchang (ยังไงก็ได้ว่ามาเลย ) วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:12:48:47 น.  

 


โดย: mambymam วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:13:37:04 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับคุณเต้ย

คนเราตายไป
นำไปได้แค่กรรมเท่านั้นจริงๆครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:13:43:33 น.  

 
วันนี้งานยุ่ง แต่คิดถึงคุณเต้ย "รอดูคลิป.." นี่รีบจัดให้เลย 55555


โดย: kae+aoe วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:15:51:28 น.  

 
อ่อ ไม่ใช่ครับ รายการนี้ทีมไทยไม่ได้ขึ้นแท่นรับรางวัลเลยครับ มีแต่รุ่นเยาวชนที่เด็กไทยคว้าไป 2 แชมป์ครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:15:52:01 น.  

 
ไว้กลับมาอ่านนะคะ
กำลังเป็นไข้ ค่ะ เคืองตา



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:15:54:17 น.  

 
คุณเต้ยสนใจธรรมะ
และฝึกปฏิบัติธรรมตลอด
ผมว่าไม่น่าห่วงครับ
แต่จิตสุดท้ายสำคัญจริงๆ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:18:54:30 น.  

 
หนังสือน่าอ่านครับ


โดย: **mp5** วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:20:57:11 น.  

 
อ่านได้สมวัยดีครับ สงครามคนแก่ //โดนเตะ
โครงเรื่องน่าสนุกดีแฮะ คนแก่กลับเป็นหนุ่มสาว แต่ต้องไปสู้กับสัตว์ประหลาด คิดถึงเรื่องกันซึ คนตายจะถูกดูดมาที่ที่ต้องออกไปสู้กับมนุษย์ต่างดาว ถ้าเก็บแต้มครบก็ฟื้นได้
ทฤษภี ต้องแก้เป็น --> ทัพพี ครับ //โดนต่อย
ฟังพี่เต้ยเล่าแล้วเรื่องนี้ท่าทางอ่านได้ลื่นไหลน่าสนุกแฮะ แต่ให้เอามาอ่านไม่มีคิวอ่านแน่ๆจ้า เพื่อนท้าดูบุพเพ ดูไปได้ตอนนึง ย้าววววว!! ตอนละสองชั่วโมงเลยเรอะ!!!
ว่าแต่ออเจ้าไปรักผู้ชายเจ้าชู้คนไหนเข้ารึ?

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog
toor36 Education Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
haiku Fanclub Blog ดู Blog
Kavanich96 Funniest Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Review Food Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ชีริว วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:23:08:34 น.  

 
ประสบการณ์สินะ อ่านตอนต้นก็นึกอย่างนั้นเหมือนกันค่ะคุณเต้ย
อย่างน้อยนะถ้าไม่ใช่แก่กะโหลกกะลา
เมือเอาไปทำให้เป็นหนุ่มอีกครั้ง มันน่าจะได้เปรียบคนหนุ่มปกติรึป่าว

นึกอยู่ว่าถ้าภรรยาของเค้ายังไม่ตาย เค้าจะไปเป็นทหารมั๊ย



โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:23:09:54 น.  

 
ส่งกำลังใจไว้ก่อนครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 12 มีนาคม 2561 เวลา:23:34:19 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณเต้ย


ลุ้นมากๆ เลยค่ะ
อยากไปทะเล 555
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยค่า


โดย: ann_shinchang (ยังไงก็ได้ว่ามาเลย ) วันที่: 13 มีนาคม 2561 เวลา:5:51:14 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับคุณเต้ย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มีนาคม 2561 เวลา:6:18:03 น.  

 
ขอบคุณที่แนะนำหนังสือกันนะคะ

ปล.เด็กๆ ซ้อมทั้งอาทิตย์ค่ะปิดเทอมกว่าจะพร้อมกัน


โดย: kae+aoe วันที่: 13 มีนาคม 2561 เวลา:8:06:45 น.  

 
สวัสดีครับ เล่มนี้ผมยังลังเลว่าจะหยิบหรือไม่หยิบดี คือไม่รู้เลยว่าเกี่ยวกับอะไร อ่านรีวิวแล้วรู้สึกว่ามันน่าอ่านเหมือนกันครับ
ปล.ผมต้องลองจับกระดาษด้วย เพราะกระดาษบางชนิดมันไม่ถูกจริตผมเอาเสียเลยครับ


โดย: ruennara วันที่: 20 มีนาคม 2561 เวลา:4:16:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
<<
มีนาคม 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
11 มีนาคม 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.