~* ~* ~* ~* ~* ~* คิระคิระ งามระยับดั่งดวงดาว ~* ~* ~* ~* ~* ~*




เห็นผ่านตามาหลายครั้ง ทั้งจากท่ามกลางแผงหนังสือ บนชั้นหนังสือ และที่เพื่อนๆ พากันมารีวิว





หากแต่..ก็กลับไม่เคยได้มันมาครอบครอง


จนกระทั่งวันหนึ่ง...พี่ที่ทำงานก็เสนอหนังสือเล่มนี้เป็นการแลกเปลี่ยนให้ยืมอ่าน (หลังจากที่เราก็เที่ยวขนหนังสือหลายเล่มมาให้เขายืมอ่านเช่นกัน)




และแล้ว..



เราก็ได้รู้จักกัน















เขียนโดย : Cynthia Kadohata
แปลโดย : สุดากาญจน์ ปัทมดิลก
สำนักพิมพ์/จัดจำหน่าย : มติชน
จำนวนหน้า: 220 หน้า










เรื่องย่อ




เรื่องเล่าจากมุมมองของเคธี่ เด็กหญิงชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีพี่สาวอันเป็นที่รักที่ชื่อ ลีนน์ ลีนน์ผู้เป็นพี่สาวที่เป็นแบบอย่างอันดี เป็นลูกที่พ่อแม่ภาคภูมิใจ เรียนหนังสือเก่ง ดูแลน้อง แม้ว่าคนญี่ปุ่นในสังคมเมืองของอเมริกา มีชีวิตที่ค่อนข้างยากลำบาก การถูกดูถูก การถูกกระทำเสมือนเป็นเพียงฝุ่นผงในอากาศที่ทำให้พวกเขาอาจเจ็บปวดได้มากมาย

หากแต่..ความเจ็บปวดนั้นกลับถูกบรรเทาเบาบางลง ด้วยมุมมองของเคธี่และความพยายามของลีนน์ที่จะทำให้ได้รับการยอมรับ ความพยายามของพ่อกับแม่ที่จะทำให้ลูกๆ และครอบครัวตัวเองมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

หากแต่..เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ใครหลายคนต้องเจ็บปวด และความเจ็บปวดนั้นก็ทำให้ใครบางคนเติบโตขึ้น











ความรู้สึกที่ได้อ่าน



เรารู้สึกเหมือนตอนอ่าน "ความสุขของกะทิ" เลยค่ะ


กล่าวคือ..รู้สึกว่า..เป็นเรื่องราวที่มีความเจ็บปวด ความโหดร้ายบางอย่างแทรกซึมอยู่ในเรื่องราว แต่กลับถูกเล่าผ่านมุมมองที่กลั่นกรองโดยสายตาของเด็ก ทำให้ดูเหมือนไม่โหดร้ายเกินไปนัก (แต่กลับผู้ใหญ่ที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร มันยิ่งทำให้เจ็บปวด) ความสวยงาม ละเอียดอ่อนที่ห่อหุ้มหนังสือเล่มนี้ ทำให้คนอ่านสามารถที่จะ "ยิ้มทั้งน้ำตา" ได้


คนเขียนฉลาดที่เล่าเรื่องผ่านสายตาของเด็กอย่างเคธี่ ที่มีพี่สาวอย่างลีนน์ มีครอบครัวอย่างนี้ ทำให้คนอ่านค่อยๆ ซึมซับความรู้สึกและเรื่องราวต่างๆ ความผูกพันที่สองพี่น้องมีให้กัน ความรู้สึกดีๆ และความสัมพันธ์อันงดงามที่เด็กทั้งสองทำให้กัน มันทำให้เคธี่มีภูมิคุ้มใจที่ทำให้ไม่ต้องเจ็บปวดเกินไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น




และเมื่อ..สิ่งที่คุ้มครองเธอหนึ่งอย่าง..สูญหายไปตลอดกาล เคธี่ก็กลับกลายเป็นต้นไม้ที่เริ่มเติบโตได้เอง เติบโตและพร้อมที่จะเผชิญกับโลก พร้อมที่จะกลายเป็น "พี่" ให้กับน้องชาย เหมือนที่ลีนน์เคยเป็น "พี่" ให้กับน้องสาวอย่างเธอ







อ่านแล้วรู้สึกอุ่นๆ (แต่ก็เจ็บหน่วงๆ นิดๆ นะคะ) อ่านแล้วรู้สึกถึงความ "คิระ คิระ" ของหนังสือเล่มนี้ค่ะ





ใครที่ชอบอ่านงานแปลของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชอบอ่านงานแนวๆ นี้ (อุ่นๆ งดงาม แต่เศร้านิดๆ) ไม่ควรพลาดนะคะ













ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

315795/3946/331









Create Date : 17 เมษายน 2552
Last Update : 17 เมษายน 2552 9:04:43 น. 45 comments
Counter : 4670 Pageviews.

 
ตอนแรกที่เห็นหนังสือ
เรานึกถึงเรื่องคิระคิระของบลิสอะ

แต่ตอนอ่าน ชอบนะ หนังสือมันให้อารมณ์เหมือนทุ่งสีทองบนหน้าปกเลย อุ่น


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:10:00:58 น.  

 
ไม่เคยอ่านเลยค่ะ ความสุขของกะทิก็ไม่เคยอ่าน 5555
หนังสือแนวนี้มีน้อยมากเลยอ่ะ
หนักไปทางสืบสวน ฆาตกรรมซะมากกว่า


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:10:11:03 น.  

 
หวัดดีค่ะพี่ไกด์

หนังสือน่าอ่านจังค่ะ หน้าปกสวยดี

เท่าอ่านความรู้สึกของพี่ที่อ่านมาแล้ว ทำให้หยิงอันอยากอ่านขึ้นมาเลยค่ะ ขอจดไว้ในลิสก่อน กลับไทยค่อยตามไปซื้อดีกว่า


โดย: sailamon วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:10:33:41 น.  

 
ไม่ใช่แนวเลยอ่ะครับ แบบนี้ แหะๆ


โดย: McMurphy วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:10:58:30 น.  

 
น่าสนใจจัง
แต่ตอนนี้หนังสือที่ณ มน ยังไม่ได้อ่าน กองเต็มเลย
จะอ่านหมดเมื่อไหร่ไม่รู้เนี่ย


โดย: ณ มน วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:11:01:04 น.  

 
เป็นเพราะเราพลาดอ่านงานความสุขของกะทิ
ว่าแล้วเลยอยากอ่านทั้งสองเล่มเลยค่ะ
ช่วงนี้ยิ่งอารมณ์กรุ่นๆ ละมุนๆ เล็ก ๆ
เราว่ากำลังเหมาะกับการอ่านหนังสือ
แนวนี้ดีเหมือนกันนะคะ


โดย: JewNid วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:11:04:25 น.  

 
ขอบคุณที่ทำให้รู้จัก คิระ คิระ ไปด้วยนคะ

ไปร้านหนังสือจะแวะไปสอยมาครองค่ะ



โดย: เอื้องสามปอย วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:11:36:07 น.  

 
ตอนนี้ผมกำลังอ่าน The Catcher in The Rye อยู่ครับ อ่านไปได้ค่อนเล่มแล้ว ยังงงๆอยู่เลยว่ามันจะพาผมไปไหน


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:13:47:31 น.  

 
นึกว่าหมายถึง คิระ คิระ เป็นประกาย 5555


โดย: merveillesxx วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:14:11:48 น.  

 
ดูเหมือนจะเศร้าแต่
อยากอ่านทั้งสองเล่มเลยคะ
เสียแต่ทางนี้คงหาอ่านไม่ได้

ตอนนี้กําลังอ่านThe Blue Hour ของ Parker
ค้างอยู่ หวังว่าคงอ่านจบวันหยุดนี้
.
.
.


โดย: marinesnow วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:14:23:47 น.  

 
อ่าน Catcher จบแล้ว


เอ่อ... นี่มันนิยายอะไรกันเนี่ย? (อันนี้เป็นความรู้สึกอย่างสุภาพ จริงๆแล้วผมสบถออกมาเลยด้วยซ้ำตอนอ่านจบ)


โดย: แฟนผมฯ IP: 114.128.112.51 วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:16:31:20 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ สงสัยคงต้องหาเล่มนี้มารอเข้าคิวหลังจากอ่านตั้งนั้นจบค่ะ


โดย: P-IHR วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:18:09:41 น.  

 
หนังสือหรือหนังแนวชีวิตๆนี่ ถ้าเป็นญี่ปุ่นจะบีบอารมณ์ทุกทีเลย


โดย: ปลายเทียน วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:19:12:15 น.  

 
หนังสือแนวนี้ชอบอ่านค่ะ สงสัยว่าอ่านแล้วต้องเสียน้ำตาแน่เลย


โดย: haiku วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:22:23:37 น.  

 

เลือกอยู่หลายตัวแย้ว
เอาตัวนี้มาฝากละกัง
ก๊ากๆๆๆๆๆๆ


โดย: พลังชีวิต วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:22:38:53 น.  

 
เรื่องนี้ท่าทางจะเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ค่ะ ได้ยินชื่อเสียงมานานตั้งแต่ตอนเรียนเลยค่ะ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างโด่งดังในวงการของหนังสือแปลญี่ปุ่น
แต่เราก็ยังไม่เคยได้อ่านซะที


โดย: arcoiris วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:23:50:41 น.  

 
เมื่อตอนที่หยิบหนังสือเรื่องนี้ฉบับภาษาอังกฤษมาอ่าน อ่านจบแล้วรู้สึกดีมาก เลยตามอ่านหนังสืออีกเล่มของนักเขียนคนเดียวกัน เรื่อง Cracker!: the best dog in Vietnam เป็นเรื่องราวของสุนัขทหารชื่อ Cracker จากอเมริกา ที่ถูกเกณฑ์มารบในเวียดนาม คนรักหมาต้องชอบเรื่องนี้ค่ะ //www.amazon.com/Cracker-Best-Vietnam-Cynthia-Kadohata/dp/1416906371


แปลกดีที่เมื่อตอนอ่านเรื่อง Kira Kira นี่ึจบใหม่ๆ มาเจอในเนทพอดีว่าหนังสือเรื่องนี้แปลเป็นไทย โดยเพื่อนสนิทสมัยมัธยมของดิฉันเอง


โดย: offita วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:1:02:35 น.  

 
น่าจะเศร้าๆซึมๆนืดนึงนะคะเนี่ย ตอนอ่านกะทิยังมีร้องไห้เลยค่ะ


โดย: Too Optimistic วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:8:32:56 น.  

 
เห็นชื่อ คิระ คิระ
นึกถึงหนัง เดธโน๊ต เลยค่ะ ^^

คำว่า เจ็บหน่วงๆ ที่จขบ.ให้ความเห็นไว้นี่...ทำให้ความอยากอ่านเพิ่มพูนหลายเท่าเลย

ไว้หามาอ่านบ้าง



โดย: renton :: IP: 125.26.126.115 วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:8:51:36 น.  

 
เป็นความสุขของกะทิ
ในภาคอินเตอร์เหรอครับ
เนี่ย แสดงว่าไม่ว่าคนชาติไหน
ก็มีลักษณะทางอารมณ์คล้ายๆ
กันน้อ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:14:11:28 น.  

 
แล้วเจ้า "เจ็บหน่วงๆ"
ที่ท่านทิ้งคอมเมนต์ให้ผม

สมมติฐานอาการของโรค
มันเป็นอย่างไรหว่า?


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:15:40:35 น.  

 
หนังสือแนวมีข้อคิดที่น่าสนใจดีค่ะ จะไปหาอ่านดู ปกติไม่่อยอ่านแนวนี้เท่าไหร่ มันซึ้งใจเกินไป ทำให้อารมณ์อ่อนไหวมากๆ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อคค่ะ

เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้ามีเวลา่ว่างขวัญจะเขียนถึงหนังสือเล่มล่าสุดที่อ่าน เรื่อง the luxe คุณพี่สาวไกด์ใจซื่อน่าจะชอบ อิอิ


โดย: The Gargoyle วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:21:03:24 น.  

 
เล่มนี้อ่านแล้วแต่เหมือนจะเลือนๆ ไป สงสัยต้องหามาอ่านใหม่อีกรอบ


โดย: สายลมอิสระ วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:21:38:01 น.  

 
ผมลองไปหาข้อมูลและรีวิวของคนอื่นๆเกี่ยวกับ Catcher มาแล้วครับ ไว้คุณสาวไกด์อ่านจบแล้วค่อยมาแลกเปลี่ยนกันอีกทีนะครับ (อยากคุยเรื่องนี้เร็วๆจัง)


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:22:44:48 น.  

 
เห็นผ่านตาหลายครั้งเหมือนกันแต่ก็ยังไม่เคยอ่านสั๊กที


โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:23:39:24 น.  

 
เรื่องนี้ผมว่าจะอ่านหลายทีแล้ว


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:0:53:57 น.  

 
น่าสนใจจังแต่อดใจไว้ก่อน เพราะที่บ้านไม่มีที่วางแล้วค่ะ แถมท้ายยังโดนแม่บ่นอีกกระบุงใหญ่ๆ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:8:26:13 น.  

 
แค่ชื่อเรื่องก็น่าอ่านแล้ว ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟัง มีความสุขในวันหยุดนะคะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: sawkitty วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:11:09:24 น.  

 
น่าอ่านมากทีเดียว สงสัยต้องมีไว้ครอบครอง
อ่านความสุขของกะทิก็ชอบเช่นเดียวกันค่ะ ซึ้ง จนอินเลยล่ะ


โดย: ladycreep วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:11:47:33 น.  

 
"ใครที่ชอบอ่านงานแปลของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชอบอ่านงานแนวๆ นี้ (อุ่นๆ งดงาม แต่เศร้านิดๆ) ไม่ควรพลาดนะคะ"

เพราะประโยคนี้เลย ทำให้คิดว่าต้องไปหามาอ่านค่ะ


โดย: cottonbook วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:19:41:13 น.  

 
+ กร๊ากกก พี่เห็นชื่อ คิระ แล้วนึกถึง เดธโน๊ต เหมือนคุณ renton เช่นกันขอรับ

+ อ่านพล็อตย่อแล้ว ทำให้นึกถึงหนังเรื่องนึงขึ้นมาเลยครับ คือ In America ไม่ทราบครูเต้ยเคยดูรึยัง เป็นการมองสภาพครอบครัว (ผู้อพยพชาวไอร์แลนด์ เข้าไปอยู่ในอเมริกา) ผ่านสายตาของน้องผู้หญิงคนเล็กเช่นกัน อิ่มอุ่นหม่นเศร้าดีอ่ะครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:20:22:28 น.  

 
ปกติไม่ค่อยได้อ่านเรื่องแปลทำนองนี้ค่ะ

แต่ที่ได้อ่าน "ความสุขของกะทิ" รัชชี่ยังไม่ถึงกับประทับใจมากค่ะ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะส่วนหนึ่งเกิดจากการ promote มากหรือเปล่า

เพราะอะไรก็ตามเวลาเขาบอกว่าดีมาก รัชชี่คงคาดหวังมากมังคะ



โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:22:51:28 น.  

 
เอ พอบอกเหมือนความสุขของกะทิ
แล้วน่าสนใจเลยค่ะพี่เต้ย

สวัสดีปีใหม่ไทยที่เพิ่งผ่านไปนะคะพี่
ขอบคุณสำหรับพรวันเกิดค่ะ ^^


โดย: BeCoffee วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:8:38:28 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


กลับมาประจำการแล้วจ้า
แวะมาทักทายกันหลังวันหยุดยาวแสนยาวจ้าครูเต้ย



โดย: หอมกร วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:9:39:18 น.  

 
เนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะ
หน้าปกเห็นแล้วชวนอ่านดีนะคะ



โดย: vanilla_ole วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:12:18:43 น.  

 
ไม่พลาดแน่ค่ะเล่มนี้ น่าอ่านมาก ๆ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:13:57:47 น.  

 
ถ้าไม่มีฆาตกรรมลึกลับ สยองขวัญ ซ่อนเงื่อน
เอ็มคงต้องขอบิวด์อารมณ์ละเมียดก่อน ถึงจะอ่านได้อะพี่ อิอิ


โดย: The White Rider วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:15:06:39 น.  

 

เมื่อเช้าลืมเม้นท์ ยังไม่ค่อยตื่น - -"
ทางกลับกัน เราดูเดธโน๊ตแล้วคิดถึงเรื่องนี้มากกว่า
มันเศร้าแบบอิ่มๆ รู้ว่าจะเกิดอะไรและยอมรับได้ แต่ก็ยังเศร้าอยู่ดีเนอะ

ตอบอาสาสมัครเล่นกับหมา มันมีแต่หมาแมวป่วย อย่ามาเลย เดี๋ยวจิตตก พวกดูดี ฟรี และเป็นปกติ แบบโมจิน่ะ นานๆ หน


โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:16:35:23 น.  

 
น่าอ่านจังค่ะ


โดย: ปณาลี วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:19:07:12 น.  

 
แวะมากู้ดไนท์ค่ะ


โดย: arcoiris วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:20:48:36 น.  

 
มาอีกที
มาบอกว่าอ้อนชอบนะคะความสุขของกะทิ
ชอบเล่มแรกมากกว่าเล่มสอง
เหมือนมนต์ขลังจะมีมากกว่าค่ะ
แล้วพี่เต้ยไม่ชอบเหรอคะ?


โดย: BeCoffee วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:20:51:01 น.  

 
เป็รความสุขที่ได้เข้ามาในblog1นี้..เช่นกันค่ะ



After

และแล้วนักเทนนิสขวัญใจของเรา"ราฟาเอล นาดาล"
ก้คว้าแชมป์ Monte Carlo Master(บนคอร์ทดิน)สมัยที่ 5 ติดต่อกัน


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:22:53:39 น.  

 

ได้เวลาร่วมลุ้นร่วมเชียร์แล้วค่ะ!!

ขอเชิญชวนร่วมโหวด นางงามวุ้นไทยที่บ้านแพรวานะคะ

ปิดรับการดหวดวันที่ 21 เวลาเที่ยวคืนค่ะ






โดย: praewa cute วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:1:22:01 น.  

 
ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับผม


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:3:18:07 น.  

 
อยากอ่านเล่มนี้เหมือนกันครับ แต่พอไปซื้อหนังสือ กลับไม่ค่อยเจอ ก็เลยลืมไปเลย

คุณสาวไกด์ฯ อ่านโรงเรียนที่เงียบที่สุดในโลกยังครับ สนุกดี


โดย: คุณม้าม วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:5:28:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
17 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.