สาละลังกา (ลูกปืนใหญ่) vs สาละอินเดีย (ซาล)
https://is.gd/tgbh06
สาละลังกา หรือ ลูกปืนใหญ่ ชื่อสามัญเรียก : Cannon Ball Tree ชื่อพฤกษศาสตร์ : Couroupita guianensis Aubl. วงศ์ : Lecythidaceae (วงศ์ต้นจิก, ต้นกระโดน)
สาละลังกา หรือ ลูกปืนใหญ่[1] (Cannon Ball Tree) เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบสูง 15-25 เมตร เรือนยอดทรงกลมหรือรูปไข่ หนาทึบ เปลือกขรุขระสีน้ำตาลแกมเทา ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ แตกเป็นร่องและสะเก็ด
https://is.gd/tgbh06
ใบเดี่ยว เรียงเวียนเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง ลักษณะใบยาวรูปหอกหรือรูปไข่ ขอบใบจักตื้น กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 12-25 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบหรือมน ใบหนา
https://is.gd/6jG2jC
ผลมีขนาดกลมใหญ่ เปลือกแข็ง ลักษณะคล้ายลูกปืนใหญ่สมัยโบราณ ขนาด 10-20 เซนติเมตร สีน้ำตาลปนแดง มีเมล็ดจำนวนมาก ผลสุกมีกลิ่นเหม็น มีเมล็ดจำนวนมาก รูปไข่[2]
https://www.oknation.net/blog/print.php?id=629552
ดอกสีชมพูอมเหลืองหรือแดง ด้านในสีม่วงอ่อนอมชมพู มีกลิ่นหอมมาก ออกดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ตามลำต้น ช่อดอกยาว 30-150 เซนติเมตร ดอกโน้มลง กลีบดอกแข็งหนา 4-6 กลีบ กลางดอกนูน ขนสั้นสีเหลือง คล้ายแปรง เกสรเพศผู้เป็นเส้นยาวสีชมพูแกมเหลืองจำนวนมาก ทยอยบานจากโคนไปหาปลายช่อ นานเป็นเดือน ดอกบานเต็มที่กว้าง 5-10 เซนติเมตร ดอกตูมจะเป็นสีเหลือง เมื่อบานดอกจะมีสีแดง หรือสีชมพูอมเหลือง กลิ่นหอมฉุนออกดอกเกือบตลอดปี ดอกมักดกมากในช่วงหน้าฝน ดอกบานและร่วงตอนเย็นในวันเดียว ชอบแดดจัด น้ำปานกลาง
https://www.boringdays.net/cannonball-tree/
ความสับสนระหว่างต้นไม้ 2 ชนิด คือ ลูกปืนใหญ่ (Cannon Ball Tree; Couroupita guianensis Aubl.) บางครั้งเรียกว่า สาละลังกา เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ต่อมามีผู้นำไปปลูกในดินแดนต่าง ๆ รวมทั้งประเทศศรีลังกา กระทั่งมีการนำจากศรีลังกาเข้ามาปลูกในประเทศไทย เราสามารถพบเห็น ปลูกตามวัดต่าง ๆ ในประเทศไทย
ต้นสาละลังกา มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอเมริกาใต้ในประเทศเปรู, โคลัมเบีย, บราซิล และประเทศใกล้เคียง[3] ในปี พ.ศ. 2424 สวนพฤกษศาสตร์ศรีลังกาได้นำเข้าต้นลูกปืนใหญ่จากตรินิแดดและโตเบโก ต่อมาได้ขยายพันธุ์ ไปทั่วศรีลังกา[4] แต่ชาวศรีลังกากลับเรียกต้นลูกปืนใหญ่นี้ว่า ซาล (Sal) โดยไม่ปรากฏเหตุผลและไม่ทราบ ความเป็นมาของต้นลูกปืนใหญ่[5] ส่วนมากอ้างว่านำมาจากอินเดีย เนื่องจากมีดอกตลอดปี ประกอบกับ กลิ่นหอมที่ทนนาน ชาวศรีลังกาจึงนิยมใช้บูชาพระเช่นดอกไม้อื่น ๆ[5]
https://is.gd/ohUxRI
ต้นสาละลังกา หรือตันลูกปืนใหญ่ มิใช่พืชพื้นเมืองของศรีลังกาและอินเดีย และต่างจากต้นสาละอย่างสิ้นเชิง ทั้งถิ่นกำเนิดและพฤกษศาสตร์ จึงได้มีการจำแนกชื่อที่พ้องกันเพื่อเรียกให้ถูกต้องว่าต้นสาละ (Sal Tree) หรือ สาละอินเดีย (Sal of India) และต้นลูกปืนใหญ่ (Cannon Ball Tree) หรือสาละลังกา (เรียกเฉพาะในไทย) แต่ด้วยความไม่รู้ความเป็นมาและชื่อเดิม ชาวไทยจึงนิยมเรียกสาละอินเดียกับสาละลังกา
อนึ่ง ต้นสาละลังกาหรือต้นลูกปืนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติแต่อย่างใด เนื่องจากต้นลูกปืนใหญ่มีดอก และผลตลอดปี ออกเป็นงวงยาวตามลำต้นตั้งแต่โคนขึ้นไป ซึ่งผลของต้นสาละลังกามีเปลือกแข็งขนาดส้มโอ ย่อม ๆ ซึ่งไม่เหมาะแก่การนั่งพักหรือทำกิจได้ หากตกใส่ก็อาจทำให้บาดเจ็บได้
เกี่ยวกับสาละลังกา
สาละลังกาเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยชินวัตรและในอดีตเคยเป็นต้นไม้ประจำ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นต้นราชพฤกษ์แล้ว)
สาละลังกาเป็นต้นไม้ประจำ โรงเรียนสารวิทยา
https://kom-ranad-ake.blogspot.com/
ซาล, สาละ (สาละอินเดีย) ที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Shorea robusta C.F. Gaertn. ชื่อสามัญ : Shal, Sakhuwa, Sal Tree, Sal of India ชื่ออื่น ๆ : สาละใหญ่ มหาสาละ สาละอินเดีย วงศ์ : Dipterocarpaceae (วงศ์ต้นยาง)
https://is.gd/2bVqzS Sal flowers in bloom (Shorea robusta), Bhandhavgarh NP, India
สาละที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติคือ สาละใหญ่ หรือ มหาสาละ หรือ สาละอินเดีย ... สาละ เป็นคำสันสกฤต อินเดียเรียก ต้นสาละใหญ่ ว่า "Sal" เป็นไม้ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้อง กับพระพุทธเจ้าโดยตรง ทั้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
https://www.payer.de/amarakosa/amara205b.htm Sal fruit
มีลักษณะคล้ายต้นยาง ลูกคล้ายลูกยาง ต้นสาละใหญ่มีใบแก่ที่ร่วงหล่นเป็นสีเหลือง เกสรเพศผู้จำนวน 15 อัน เส้นแขนงใบย่อยมี 10-12 คู่ ผลมีเส้นปีก 10-12 เส้น มีขนสั้น รูปดาวปกคลุมประปราย
https://www.payer.de/amarakosa/amara205b.htm
ถิ่นกำเนิด พบในประเทศเนปาล และพื้นที่ทางเหนือของประเทศอินเดีย มักขึ้นเป็นกลุ่ม ในบริเวณที่ค่อนข้างจะชุ่มชื้น เป็นไม้ที่อยู่ในวงศ์ยาง พบมากในลุ่มน้ำยมุนา แถบแคว้นเบงกอล ตะวันตก และแคว้นอัสสัม
https://www.payer.de/amarakosa/amara205b.htm
ลักษณะพืช เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ ลำต้นตรง เปลือกสีเทาแตกเป็นร่อง เป็นสะเก็ด ทั่วไป เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ ปลายกิ่งมักจะลู่ลง กิ่งอ่อนเกลี้ยง ใบ เดี่ยว ดกหนาทึบ รูปไข่กว้าง โคนใบเว้าเข้า ปลายใบเป็นติ่งแหลมสั้น ๆ ผิวใบเป็นมันขอบใบเป็นคลื่น ดอก ออกเป็นช่อสั้น ๆ ตามปลายกิ่งและง่ามใบ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ กลีบดอกสีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอม ผล เป็นผลชนิดแห้ง แข็ง มีปีก 5 ปีก ปีกยาว 3 ปีก ปีกสั้น 2 ปีก บนแต่ละปีกมีเส้นตามความยาวของปีก 10-15 เส้น
https://is.gd/qNDxkk
สาละเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีประโยชน์มาก ชาวอินเดียนำมาสร้างบ้านเรือน ต่อเรือ ทำเกวียน ทำไม้หมอน รถไฟ ทำสะพาน รวมถึงทำเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น ส่วนเมล็ดนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ และน้ำมันที่ได้จากเมล็ดนำมาทำอาหาร เช่น ทำเนย และใช้เป็นน้ำมันตะเกียง รวมทั้งใช้ทำสบู่ด้วย
https://is.gd/qNDxkk
สรรพคุณด้านสมุนไพร ของต้นสาละ พบว่า ยาง สามารถใช้เป็นยาสมานแผล ยาห้ามเลือด ใช้แก้โรคผิวหนัง ตุ่มพุพอง โรคซิฟิลิส โกโนเรีย วัณโรค โรคท้องร่วง บิด โรคหูอักเสบ ผล ใช้แก้โรคท้องเสีย ท้องร่วง เป็นต้น
https://www.gotoknow.org/blogs/posts/296511
เป็นไม้ที่มีความสง่างาม ด้วยว่ามีลำต้นตรง เปลือกสีน้ำตาลอมดำ แตกเป็นร่องสะเก็ดทั่วไป เรือนยอดเป็นพุ่มหนาทึบ ใบดกหนา รูปไข่ ปลายใบหยักเป็นติ่งแหลมสั้น ผิวใบเป็นมันเกลี้ยง กิ่งอ่อนเกลี้ยง ปลายกิ่งห้อยลู่ลง ดอกจะออกในช่วงต้นฤดูร้อน มีสีเหลืองอ่อน ออกรวมกันเป็นช่อสั้นตามปลายกิ่งและง่ามใบ กลีบดอกและกลีบรองกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ ผลแข็ง มีปีก 5 ปีก ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง
Create Date : 11 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 18 มกราคม 2564 18:57:10 น. |
|
86 comments
|
Counter : 61622 Pageviews. |
|
|