กรรณิการ์ (Night Jasmine)
https://goo.gl/gAXkbFกรรณิการ์ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nyctanthes arbor-tristis Linn. arbor-tristis เป็นภาษาลาติน แปลว่า sad tree (https://goo.gl/VTiI9p)ชื่อสามัญ : Coral jasmine, Night Blooming Jasmine, Night Flower Jasmine, Tree of Sadness ชื่ออื่นๆ : กณิการ์, กรณิการ์, ปาริชาติ นิเวศวิทยา : มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย วงศ์ : Oleaceae (วงศ์มะลิ) กรรณิการ์ ไม้ดอกหอมในกลุ่มดอกมะลิ เป็นไม้พุ่มยืนต้นความสูงประมาณ 2-3 เมตร ทรงพุ่มแน่นทึบ แตกกิ่งเล็ก ๆ ที่ปลายยอดจำนวนมาก ปลายกิ่งโน้มลง กิ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยม ใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน รูปไข่ ยาว 4-10 เซนติเมตร แผ่นใบหนามีขน ผิวใบสาก มองเห็นเส้นแขนงใบเป็นร่อง ดอกทานได้ เป็นสมุนไพรรักษาโรคได้ นอกจากนั้นยังให้สีย้อมผ้าหรือสีผสมอาหารได้อีกด้วย เป็นชื่อ ดอกไม้ที่คนเอามาตั้งเป็นชื่อเยอะมาก แต่น้อยคนจะรู้จักดอกไม้ชนิดนี้  https://goo.gl/7uTauZ
กรรณิการ์ มาจากภาษาบาลี แปลว่า ช่อดอกไม้ ... มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในตอนกลางของประเทศอินเดีย เข้าใจว่าเข้ามาในไทยในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาหรือในสมัยตอนต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ สันนิษฐานว่าชื่อ "กรรณิการ์" มาจากคำว่า "กรรณิกา" ซึ่งมีความหมายว่า ช่อฟ้า กลีบบัว ดอกไม้ ตุ้มหู และ เครื่องประดับหู ซึ่งหากสังเกตจากรูปทรงของดอกกรรณิการ์แล้วก็จะเห็นว่าเหมาะจะใช้เป็นเครื่องประดับหูได้ดี เพราะมีหลอด ที่ใช้สอดในรูที่เจาะใส่ตุ้มหูได้นั่นเอง
 https://goo.gl/9L8jKn
ดอกสีขาว มี 5-7 กลีบ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดสีส้มแดง สีสันสดใสสะดุดตา ออกเป็นช่อที่ ปลายกิ่ง กระจายตามกิ่งก้าน ช่อหนึ่งมี 3-8 ดอก ทยอยบาน ดอกสีขาวคล้ายดอกมะลิ ต่างกันที่ปลายกลีบ ดอกมี 2 แฉก ขนาดไม่เท่ากัน กลีบดอกบิดเวียนไปทางขวาคล้ายรูปกังหัน ดอกจะตูมตอนกลางวันและ บาน ส่งกลิ่นหอมแรงในตอนกลางคืน จึงได้ชื่อสามัญว่า Night Jasmine
 https://goo.gl/gAXkbF
หากต้องการให้กรรณิการ์ออกดอกดก ๆ หมั่นตัดแต่งกิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกะกะทิ้งไป และตัดแต่งกิ่งให้เป็น ทรงพุ่มสวยงามอยู่เสมอ จะทำให้แตกยอดใหม่ได้มากขึ้น นั่นหมายถึงจะมีช่อดอกได้มากขึ้น เพราะกรรณิการ์ จะออกดอกที่ปลายยอด และออกดอกได้รอบทรงพุ่ม ดูสวยงามยิ่งขึ้นนั่นเอง
 https://goo.gl/z2t4xj
ดอกกรรณิการ์บานตอนเย็น และจะหลุดร่วงจากต้นในเช้าของวันรุ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เองใต้ต้น ของกรรณิการ์จึงเต็มไปด้วยดอกที่ร่วงหล่นสู่พื้น ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณ
 https://goo.gl/uDEPr6
ฤดูดอกบาน : สิงหาคม - ธันวาคม ทยอยออกดอกตลอดปี ดอกบานวันเดียวร่วง ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในเวลากลางวัน และหอมมากช่วงพลบค่ำ พอเช้าดอกจะร่วงหล่นไป
 https://goo.gl/XJqX2t
ใบ : หนา ค่อนข้างแข็ง โคนใบมน ปลายใบแหลม ใบมีขนาดเท่าใบมะยม พื้นผิวใบหยาบ สากระคายมือ
 https://goo.gl/U6qV94
กรรณิการ์ เป็นพืชสมุนไพร : ใบช่วยบำรุงถุงน้ำดี ดอกแก้ไข้ แก้ปวดตามข้อ เป็นลม วิงเวียนศีรษะ ก้านของดอกสีส้ม หากนำมาคั้นเอาน้ำไปทำสีขนมหรือสีย้อมผ้าได้เป็นอย่างดี เปลือกชั้นในต้มกิน แก้ปวดศีรษะ ราก ช่วยบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ แก้เป็นลม แก้ท้องผูก แก้ไอ แก้ผมหงอก และยังช่วยบำรุงผิวหนังให้สดชื่นอีกด้วย
 https://goo.gl/Og14ya
โคนกลีบดอกมีสาร nyctanthin ให้สีเหลืองอมแสดใช้แต่งสีขนมให้มีสีเหลือง เช่น ขนมนํ้าดอกไม้ และยังใช้ย้อมผ้าให้มีสีเหลืองทอง ในสมัยโบราณใช้ย้อมจีวรพระ
วิธีเตรียมสีเหลืองจากดอกกรรณิการ์
เด็ดเอาส่วนของโคนดอกที่เป็นหลอดสีส้มแสด นำไปบดพอหยาบ กรองเอาน้ำสีเหลืองออกมา จะได้สารละลายสีเหลืองใส ใช้แต่งสีอาหารและขนม เติมน้ำมะนาวหรือสารส้มลงไปนำไปย้อมผ้า ก็จะทำให้ ได้สีที่ติดทนนานยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงนิยมนำไปย้อมสีจีวรพระ
 https://goo.gl/U6qV94
ดอก มีน้ำมันหอมระเหย ประมาณร้อยละ 1 ใช้ใบสดตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ใช้เป็นยาขมเจริญอาหาร ถ้ากินมากทำให้ระบาย https://goo.gl/qlOuZ3
 https://goo.gl/emeuul
ผล มีลักษณะแบบแคปซูล กลม แบน คล้ายรูปหัวใจ ปลายมีติ่งสั้น ๆ มีเส้นผ่าศูนย์กลางของผลประมาณ 2 เซนติเมตร ผิวผลเรียบ ผลอ่อนสีเขียว ผลเมื่อแก่จะแตกอ้าออกเป็น 2 ซีก ข้างในผลมีเมล็ดซีกละหนึ่งเมล็ด เมล็ดมีลักษณะกลมแบนและเป็นสีน้ำตาล
การขยายพันธุ์ : ปักชำกิ่ง เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง
 https://goo.gl/VTiI9p
"กรรณิการ์ด่าง" กลายพันธุ์มาจากกรรณิการ์ธรรมดา ใบมีลวดลายด่าง สีขาวครีม สีเหลือง ตัดกับสีเขียว นอกนั้นเหมือนกับกรรณิการ์พันธุ์ธรรมดาทั่วไป
 https://goo.gl/j3djfo
การปลูกกรรณิการ์ ควรปลูกกลางแจ้ง หรือแดดครึ่งวันเช้า ใบจะใหญ่ สีเขียวเข้ม แตกกิ่งก้านมากมาย ไม่เป็นระเบียบ จนดูเหมือนปะการัง จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "Coral Jasmine"
 https://goo.gl/c7n66D
สรรพคุณทางสมุนไพร : ในประเทศอินเดียใช้ใบเป็นยาขับประจำเดือน ในประเทศไทยใช้ใบตำคั้นเอาแต่น้ำ ใช้เป็นยาระบาย ยาขมช่วยเจริญอาหาร บำรุงน้ำดี และแก้ปวดตามข้อ เปลือกต้น นำมาต้มดื่มแก้ไข้ แก้ไอ แก้ปวดศีรษะ ราก ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ เป็นยาอายุวัฒนะ ป้องกันผมหงอก แก้อ่อนเพลีย และบำรุงผิวหน้าให้สดใส ดอก นำมาทำยาหอม แก้ลม แก้ไข้ และแก้พิษทั้งปวง
อ่านเพิ่มเติม https://goo.gl/uy3Acr
 https://goo.gl/mAuGc5
กรรณิการ์ บางครั้งจะถูกเรียก (ในต่างประเทศ) ว่า "tree of sorrow (tree of sadness)" หรือ "ต้นไม้แห่งความโศกเศร้า" เพราะดอกกรรณิการ์จะบานและส่งกลิ่นหอมเฉพาะตอนกลางคืน ไม่ทันได้รับแสงสว่างในตอนเช้า ดอกก็ร่วงหล่นไป https://goo.gl/T7gl23
------------------------------------
อ้างอิง : https://goo.gl/7uTauZ https://goo.gl/vyymp0 https://goo.gl/T7gl23
มันคงเป็นความรัก
Create Date : 13 มีนาคม 2559 |
Last Update : 13 มกราคม 2564 10:52:31 น. |
|
36 comments
|
Counter : 18059 Pageviews. |
 |
|
ดอกแก้วเจ้าจอม หรือ น้ำอบฝรั่ง (Lignum Vitae) คลิกที่นี่ค่ะ