https://www.onopen.com/suankikran/09-04-25/4750
หอมดอกกาแฟ










ชื่อวิทยาศาสตร์ : Coffea spp.
วงศ์ : Family Rubiaceae
สกุล : Genus Coffea


กาแฟเป็นไม้พุ่มยืนต้น ขนาดปานกลางสูงประมาณ 3-4 เมตร ใบสีเขียวแตกออกจากข้อเป็นคู่ ๆ
ดอกออกตามข้อของกิ่งมีสีขาวบริสุทธิ์ กลิ่นหอม ต้นกาแฟในประเทศไทยเริ่มออกดอกในเดือนตุลาคม–กุมภาพันธ์
ระยะเวลาตั้งแต่การออกดอกถึงการเก็บเกี่ยวใช้เวลาประมาณ 8-12 เดือน ต้นกาแฟชอบน้ำกับแสงแดด
อุณหภูมิประมาณ 15-25 องศาเซลเซียสต่อปี และปริมาณน้ำฝนประมาณ 2,000-3,000 ต่อปี





https://www.roytawan.com/topic/view.php?id=1



หลังจากปลูกกาแฟได้ 2-3 ปี กาแฟจะเริ่มออกดอกและติดผล ผลของกาแฟเรียกว่า “Coffee Cherry”
มีลักษณะค่อนข้างกลม ขณะที่ผลยังอ่อนมีสีเขียว และเมื่อผลแก่จัดจะมีสีแดง ในแต่ละข้อของกิ่งกาแฟ
ติดผลประมาณ 10-60 ผล แต่ละผลมีเมล็ดกาแฟอยู่ 2 เมล็ด




 
https://www.iqraforum.com/forum/index.php?topic=1802.75



ดอกกาแฟสีขาว ... หอม และออกตามกิ่ง แต่ไม่พร้อมกัน ดอกจะเริ่มร่วงภายใน 2-3 วัน ผลกาแฟมีสีเขียว
ขนาดเท่าหัวไม้ขีดไฟ จะเริ่มปรากฏให้เห็นเมื่อดอกร่วง และผลจะค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น จนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณไม่เกิน 1 ซม. เมื่อใกล้สุกก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดง ไปจนถึงแดงเข้มคล้ายผลเชอรี่สุก
นั้นหมายความว่าถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว





https://keawsritong.multiply.com/photos/album/13/coffee?&



ดอกกาแฟจะออกดอกเป็นกลุ่ม ๆ ตรงโคนใบบน ข้อของกิ่งแขนงที่ 1 , 2 หรือ 3 กลุ่มดอกแต่ละข้อ
มีดอก2–20 ดอก ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของต้น ตาดอกออกจากกิ่งแขนงจากข้อที่อยู่ใกล้ลำต้น
ออกไปหาปลายกิ่งแขนง





https://www.thailantern.com/main/boards/lofiversion



ช่วงระยะเวลาในการออกดอกกาแฟประมาณเดือนกุมภาพันธ์–มีนาคม ของทุกปี ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้น
หากสวนกาแฟที่มีระบบการจัดการน้ำที่ดี จะออกดอกสีขาวสดพร้อมกัน ส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งดอย
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ดอกกาแฟมีระยะเวลาการออกดอกให้ผู้คนได้ชื่นชมเพียง 3 วันเท่านั้น





https://stillness.diaryis.com/2009/01/15?



พันธุ์กาแฟ

 กาแฟอราบิก้า ชื่อวิทยาศาสตร์ Coffea arabica เป็นพันธุ์กาแฟที่ปลูกมากที่สุดในโลก
ผลผลิตกาแฟของโลกประมาณร้อยละ 70 มีปริมาณคาเฟอีน (caffeine) 1% ของน้ำหนัก
จำนวนโครโมโซม 2n = 44 ลักษณะลำต้นทรงพุ่มขนาดเล็ก กิ่งยาว ใบสีเขียวเป็นมัน ดอกสีขาว
กลิ่นคล้ายมะลิป่า เมล็ดกาแฟค่อนข้างแบนและยาวสีเขียวเข้ม บางครั้งพบว่ามีสีน้ำเงินเข้ม
เพาะปลูกมากแถบจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และตาก





https://www.weekendhobby.com/offroad/toyota/question.asp?



ดอกสมบูรณ์เพศ สามารถผสมตัวเองได้ ดอกออกเป็นช่อลักษณะกลุ่ม
ลักษณะผลรูปทรงค่อนข้างแบนและเมล็ดเล็ก ระยะออกดอกถึงผลแก่ใช้เวลา 6-9 เดือน
เจริญเติบโตได้ดีในสภาพที่มีอากาศเย็น ประมาณ 15-25 เซลเซียสและที่สูงประมาณ
1,000-2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ปริมาณน้ำฝน 1,500-2,000 มิลลิเมตร / ปี ต้องการร่มเงา





https://www.thaicoffeemaster.com/index.php?



 พันธุ์โรบัสต้า ชื่อวิทยาศาสตร์ Coffea canephora var.robusta พันธุ์ที่ปลูกมากเป็นอันดับสอง
รองจากอราบิก้า ผลผลิตกาแฟของโลกมีประมาณร้อยละ 30 มีจำนวนโครโมโซม 22 คู่ ต้านทานโรคสูง
เติบโตเร็ว มีรสชาติเข้มข้น หอมกว่ากาแฟพันธุ์อราบิก้า มีปริมาณคาเฟอีน (caffeine) ประมาณ 2% ของน้ำหนัก
กลิ่น-รสชาติ และราคาต่ำกว่าพันธุ์อราบิก้า เมล็ดนูนและกลม สีเขียวอ่อนปนเทา หรือ สีน้ำตาลอ่อน

ดอกไม่สามารถผสมตัวเองได้ ต้องผสมข้ามเท่านั้น โดยอาศัย ลม แมลง ช่วยผสมพันธุ์
ดอกกาแฟโรบัสต้าจึงมีกลิ่นที่หอมมาก ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ยืนต้นแข็งแรงใหญ่กว่ากาแฟพันธุ์อราบิก้า
มีกิ่งก้านสาขามาก ใบใหญ่สีเขียวเข้มแต่ไม่มัน รูปใบเป็นวงรี





https://www.tongtomyai.com/board/index.php?



ดอกเกิดเป็นช่อ ระยะเวลาในการออกดอกสั้น 2-3 วัน ในสวนกาแฟจะออกดอกปีละ 2-3 ครั้ง
ผลรวมกันเป็นช่อลักษณะกลม เกิดตรงข้อ เมล็ดเล็กและมีกลิ่นหอมน้อยกว่าอราบิก้า ปลูกได้ในพื้นที่
อากาศร้อนชื้น อุณหภูมิประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส ปลูกได้ตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึงความสูง 1,200 เมตร
เจริญเติบโตได้ทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี คายน้ำน้อย
เมื่อใบโดนแสงแดดจัดปากใบจะปิดรวดเร็วมาก ทำให้ทนต่อสภาพแดดจ้าได้ดี แต่คุณภาพเมล็ดด้อยกว่า
พันธุ์อราบิก้า แต่ให้ผลผลิตสูงกว่า เหมาะสำหรับส่งโรงงานอุตสาหกรรมกาแฟผงสำเร็จรูป
หรือใช้ผสมกับกาแฟอราบิก้าทำให้รสชาติเข้มขึ้น

 

https://goo.gl/ywXhlF



ระยะเวลาตั้งแต่ดอกบานถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 9-11 เดือน ในประเทศไทยมีการปลูกแถบภาคใต้
จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ และมีบางส่วน
ปลูกในจังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ผลผลิตประมาณร้อยละ 95 ของผลผลิตกาแฟทั้งประเทศ





https://blog.thecoffeebump.com/2009



การเพาะพันธุ์กาแฟ จะต้องทำจากเมล็ดกาแฟเท่านั้น ไม่สามารถต่อตาหรือตัดกิ่งชำและไม่สามารถ
ผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ นั่นคือ อาราบิก้าจะไม่สามารถนำมาผสมพันธุ์กับโรบัสต้า เพราะทั้งสองพันธุ์
มีโครโมโซมแตกต่างกัน โรบัสต้ามีโครโมโซม 22 โครโมโซม ส่วนอราบิก้ามีถึง 44 โครโมโซม

เมล็ดกาแฟจะถูกนำมาเพาะในแปลงอนุบาล เมื่ออายุได้ประมาณ 1 ปี จึงย้ายมาปลูกในแปลงที่เตรียมไว้
และอีกประมาณ 3-4 ปี กาแฟจึงจะเริ่มออกดอกออกผล ปกติกาแฟต้นหนึ่งจะสามารถให้ผลผลิตได้
ในปีที่ 4 ถึงปีที่ 5 และหลังจากนั้นผลผลิตกาแฟต่อต้นก็จะค่อย ๆ ลดลง
ชาวไร่ก็จะโค่นทิ้งและปลูกต้นใหม่ทดแทน









https://4.bp.blogspot.com/_CIRBn1Vfd2w/TL-oHnkTCNI



Kopi Luwak หรือ กาแฟขี้ชะมด

คำว่า Kopi ในภาษาอินโดนีเซีย แปลว่า กาแฟ ส่วน Luwak หมายถึง ชะมดพันธุ์ Paradoxurus
ที่อาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อรวมทั้งสองคำ ก็คือ Kopi Luwak (อ่านว่า โกปิ ลูวะ) หมายถึง
กาแฟขี้ชะมดนั่นเอง สาเหตุที่เรียกชื่อเช่นนี้ก็เพราะกาแฟชนิดนี้นี่แหละเป็นผลผลิตที่ออกมาพร้อมกับขี้ชะมด



กาแฟมาจากตัวชะมดได้ยังไง?

กาแฟชนิดนี้มาจากไร่บนเกาะสุมาตรา โดยเริ่มต้นจากชาวไร่กาแฟจะเลี้ยงชะมดพันธุ์พื้นเมืองนี้ไว้ในไร่กาแฟ
และปล่อยให้มันกินผลของกาแฟสุกที่อยู่ในไร่ เมื่อชะมดถ่ายมูลออกมาก็จะมีเมล็ดกาแฟติดออกมาด้วย






https://www.iqraforum.com/forum/index.php?topic=1802.75
ดูกันชัด ๆ จะเห็นได้ว่า เมล็ดกาแฟไม่ได้ถูกย่อย ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ทุกเมล็ด


กาแฟขี้ชะมด แต่เดิมเป็นกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าราคาถูก มีชาวอินโดนีเซีย ไปเดินป่า แล้วพบเห็นขี้ชะมด
มีกาแฟที่ไม่ถูกย่อย ยังคงเป็นรูปเมล็ดอยู่ จึงเกิดความเสียดาย เอามาล้าง และลองคั่วชงทานดู
ปรากฏว่าได้รสชาติและกลิ่นที่หอมหวน แปลกใหม่ เข้มข้น แบบที่โรบัสต้าเดิมให้ไม่ได้ (กาแฟโรบัสต้า
ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้นของ Body แต่อ่อนเรื่องกลิ่นและรสชาติ) ต่อมาจึงเกิดการเพาะเลี้ยงชะมด
ในไร่กาแฟเป็นล่ำเป็นสันขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าโรบัสต้า คอกาแฟหลายคนเล่าว่ามีราคาแพงและหายากที่สุด
เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่าการปลูกกาแฟทั่วไป

ชะมดเป็นสัตว์ที่กินยาก เลือกกินเฉพาะเมล็ดกาแฟที่สุกดีแล้วเท่านั้น ขณะที่ผลกาแฟอยู่ในท้องของตัวชะมดนั้น
เมล็ดจะผสมกับเอนไซม์และสารเคมีที่อยู่ในกระบวนการย่อยของมัน ทำให้กาแฟชนิดนี้มีกลิ่นและลักษณะเฉพาะตัว
ผู้เชี่ยวชาญกาแฟบางรายระบุว่ากาแฟที่เก็บจากมูลชะมดทำได้ยากกว่าเก็บจากต้น จึงทำให้กาแฟชนิดนี้มีราคาสูง





https://icedlatte.exteen.com/20080619/entry
kopi luwak



บรรจุภันฑ์หรูหรา ถูกเก็บรักษาอย่างดี แถมขี้ชะมดในแท่งแก้ว
เพื่อยืนยันว่าเป็นของจริง

 

 

ชนิดของกาแฟในรูปแบบต่างๆ มีดังนี้
https://happycup.igetweb.com/index.php?

เอสเปรสโซ (Espresso) เป็นกาแฟที่ถูกเตรียมด้วยเครื่องพิเศษจากเมล็ดกาแฟบดละเอียด
ถูกขับผ่านออกมาในรูปของไอน้ำภายใต้ความดันสูง กรรมวิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 18-25 วินาที 1 ช็อทของเอสเปรสโซ
มีปริมาณ 1-2 ออนซ์ ผิวหน้าของกาแฟจะเป็นฟองครีมสีทอง ซึ่งควรจะใส่ด้วยถ้วยที่จะเสิร์ฟโดยตรง

คาปูชิโน (Cappucino) เป็นเครื่องดื่มเอสเปรสโซที่มีการใส่นมแ
ละฟองนมลงไปในส่วนที่เหลือของถ้วยในอัตราส่วนที่เท่ากัน

ลาเต้ (Latte) เป็นเครื่องดื่มเอสเปรสโซที่เติมนมร้อนลงไป
แล้วปิดหน้าด้วยฟองนมจำนวนเล็กน้อย (ประมาณ 1/2 นิ้ว)

มอคคา (Mocha) เป็นเครื่องดื่มเอสเปรสโซที่มีการผสมน้ำเชื่อมช็อกโกแลตและนมร้อนลงไป
ก่อนที่จะปิดด้วยวิปครีม มอคคา ก็คือลาเต้ที่แต่งกลิ่นรสด้วยน้ำเชื่อมรสช็อกโกแลตนั่นเอง

อเมริกาโน (Americano) ก็คือเครื่องดื่มเอสเปรสโซที่ถูกทำให้เจือจางลงด้วยน้ำร้อน
เพื่อทำให้ได้กาแฟรสชาติเยี่ยมเต็มถ้วย

 

 

 


6 ทิปส์ จิบกาแฟเพื่อสุขภาพ
https://www.fisho.com/blog/pig/blog.php?id=5747

อัพเดทความรู้ใหม่ และสลัดความเชื่อเก่าที่ผิด ๆ เรื่องกาแฟทิ้ง ... เพราะมันให้คุณมากกว่าโทษ
ถ้าคุณรู้จักดื่มและนี่คือ 6 ข้อเท็จจริงที่เราเอามาป่าวประกาศ

1. ไม่จริงว่าการดื่มกาแฟทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิต เป็นหมัน ทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์แท้งได้
ส่งผลให้ทารกแรกคลอดน้ำหนักน้อย เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งรังไข่ ซีสต์ในเต้านม และกระดูกพรุน
ถ้าคุณดื่มเพียงวันละ 1-2 ถ้วย

2. ไม่รู้ใช่มั้ย ... กาแฟช่วยลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคพาร์คินสัน
ลดอันตรายจากตับในผู้ที่มีความเสี่ยงโรคตับ ลดอาการหอบในผู้ที่มีโรคหอบหืด เพิ่มความจำ
และสำหรับนักกีฬาจะช่วยเพิ่มความทนและความอึดในกีฬาที่ต้องใช้เวลานาน

3. ต้องดื่มบ่อย ๆ ... สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเพราะต้องการแก้ง่วง แนะนำให้ดื่มปริมาณน้อยๆ
แต่กระจายการดื่มออกไปตลอดวัน เช่น แทนที่จะดื่มถ้วยใหญ่ 16 ออนซ์ (500 มล.) ในตอนเช้า
ให้ดื่มเพียงครั้งละ 2-3 ออนซ์(60-90 มล.) แต่บ่อยขึ้น กาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 15 นาที
และจะอยู่ในร่างกายนานหลายชั่วโมงและต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงกว่าที่จะถูกขจัดออกจากร่างกาย

4. กาแฟดีกว่าไวน์และชาสมุนไพร ... เมล็ดกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียว
ถึง 4 เท่า และยังมากกว่าโกโก้ ชาสมุนไพร และไวน์แดง ที่มากกว่าเพราะผู้บริโภคดื่มกาแฟ
มากกว่าเครื่องดื่มอื่น ๆ แต่สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟ แต่ละถ้วยและแต่ละยี่ห้อนั้นก็ไม่เท่ากัน
ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของกาแฟ

5. ระวังไว้นิดก็ดี ... องค์ประกอบหลักของกาแฟคือ สารคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นที่มีผลต่อระบบ
หลอดเลือดและหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น หรือเต้นผิดปกติในบางครั้ง และเพิ่มความดันโลหิต
งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยโทรอนโทเปิดเผยว่า การดื่มกาแฟมากอาจเพิ่มความเสี่ยงหัวใจวาย
เฉียบพลัน ในผู้ที่มียีนขจัดคาเฟอีนช้า ทำให้คาเฟอีนอยู่ในกระแสเลือดนานขึ้น
แต่สำหรับคนที่มียีนปกติที่ขจัดคาเฟอีนได้เร็ว กาแฟก็จะไม่มีผล

6. ดีแคฟ ...ไม่ช่วยอะไร ผู้ที่ดื่มกาแฟสกัดคาเฟอีน อาจคิดว่าปลอดภั แต่นักวิจัยเตือนว่า 
กาแฟสกัดคาเฟอีนอาจเพิ่มระดับกรดไขมันในเลือดให้สร้างแอลดีแอลซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลตัวร้ายได้
เพราะในกระบวนการสกัดคาเฟอีนจะสกัดเอาสารฟลาโวนอยด์ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และสารอื่น ๆ ที่ให้รสชาติ
กาแฟแท้ ๆ ออกไปด้วย ดังนั้น การดื่มดีแคฟ นอกจากจะอร่อยน้อยลงแล้วยังมีผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย

อะไรที่มากหรือน้อยเกินพอดีล้วนมีโทษทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากดื่มกาแฟให้ได้ประโยชน์
ก็ต้องเลือกในปริมาณและรสชาติที่เกินพอดี แล้วจะมีความสุขกับกาแฟแก้วโปรดไปอีกนาน ๆ

 

 

ประโยชน์หรือโทษจากกาแฟ ???
https://www.vcharkarn.com/vblog/40058/2
กาแฟมูลชะมด
https://icedlatte.exteen.com/20080619/entry
ประวัติและความเป็นมาของกาแฟ (Coffee History)
https://happycup.igetweb.com/index.php?
สายพันธุ์กาแฟ
https://www.uttaradit.go.th/KM/coffee/5.htm

Just for you - GIOVANNI MARRADI