เสาวรส (Passion fruit)
 https://goo.gl/4f3bEy
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Passiflora Edulis Frederick ชื่อสามัญ : Jamaica honey-suckle, Passion fruit, Yellow granadilla ชื่ออื่น : สุคนธรส (ภาคกลาง) กะทกรกฝรั่ง กะทกรกสีดา กะทกรกยักษ์ วงศ์ : Passifloraceae
 https://goo.gl/basT6U
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของเสาวรส
เสาวรส เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็งมีอายุหลายปี ลำเถาค่อนข้างใหญ่เกาะเกี่ยวเลื้อยพันโดยใช้มือจับที่เป็นเส้น ออกมาตรงซอกใบ ลักษณะดอกเป็นดอกเดี่ยวสมบูรณ์เพศ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางดอก 6-8 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีขาวหรือสีเขียว กลีบรูปรี มีรยางค์เรียงเป็นวง สีขาวปลายม่วง มีดอกตลอดปี ดอกมีกลิ่นหอมมากและหอมตลอดทั้งวัน
 https://goo.gl/GjLrqO
ดอกเสาวรสจะเกิดที่ข้อบริเวณโคนก้านใบของเถาใหม่พร้อมกับการเจริญของเถา โดยต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ด จะออกดอกติดผลเมื่อต้นมีอายุประมาณ 4-5 เดือน หลังปลูกลงแปลง แต่ถ้าเป็นต้นที่เสียบยอดหรือปักชำ จะสามารถออกดอกติดผลได้เร็วขึ้น
 https://goo.gl/0n0zuB
 https://goo.gl/Gb4mJZ
 https://goo.gl/qYKyJk
ผล เป็นรูปไข่หรือไข่ยาว ขึ้นกับสายพันธุ์ มีทั้งผิวผลสีม่วง สีเหลือง สีส้มอมน้ำตาล เปลือกผลเรียบ เนื้อรับประทานได้ มีเมล็ดจำนวนมากอยู่ตรงกลาง ชั้นในสุดของเปลือกเป็นเยื่อสีขาวที่เรียกว่า รก (เป็นทีมาของชื่อกระทกรก) เมล็ดมีสีดำ อยู่ในเยื่อหุ้มเมล็ดเป็นถุง กลิ่นคล้ายฝรั่งสุก รสเปรี้ยวจัด บางพันธุ์มีรสเปรี้ยวอมหวาน
 https://goo.gl/s0uCNH
เสาวรส สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ไม่ควรปลูกในดินที่ระบายน้ำเลว พันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากในประเทศไทยมี 3 พันธุ์ คือพันธุ์ผลสีม่วง พันธุ์ผลสีเหลือง และ พันธุ์ลูกผสม
พันธุ์ผลสีม่วง มีรสชาติดีกว่าพันธุ์ผลสีเหลือง แต่ข้อเสียของพันธุ์นี้คือ ค่อนข้างจะอ่อนแอต่อโรค
พันธุ์ผลสีเหลือง รสเปรี้ยวจัดเหมาะสำหรับแปรรูปมากกว่าการรับประทานผลสด ข้อดีของพันธุ์นี้คือ ให้ผลดก และมีความต้านทานโรคและแมลงสูงกว่าพันธุ์ผลสีม่วง พันธุ์ผลสีเหลืองส่วนใหญ่ผสมตัวเองไม่ติดต้องผสมข้ามต้น
พันธุ์ลูกผสม เป็นพันธุ์ที่เกิดจากการผสมระหว่างพันธุ์ผลสีม่วงกับพันธุ์ผลสีเหลือง เพื่อคัดเลือกต้นพันธุ์ใหม่ ที่รวมลักษณะผลที่เด่นของแต่ละพันธุ์ไว้ ทำให้มีลักษณะผลใหญ่ ให้ผลดก มีรกห่อหุ้มเมล็ดมาก เปลือกบาง ต้านทานโรค และมีช่วงเวลาในการให้ผลที่ยาวนาน พันธุ์นี้จะให้ทั้งผลที่มีสีม่วงและผลสีเหลือง พันธุ์ลูกผสมนี้ เหมาะสำหรับปลูกเพื่ออุตสาหกรรมการทำน้ำเสาวรส เพราะสามารถเก็บผลผลิตป้อนเข้าโรงงานได้ตลอดทั้งปี

มีดอกไม้ที่คล้ายกับเสาวรสมากและอยู่ในวงศ์เดี่ยวกันคือ สร้อยฟ้า ซึ่งนิยมปลูกกันมากในปัจจุบัน ดอกมีขนาดเล็กกว่าเสาวรสเล็กน้อย สีม่วงแกมน้ำเงินหรืออมฟ้า เมื่อดอกบานจะหงายขึ้น ดอกมีกลิ่นหอมแรงเช่นกัน
เสาวรสและสร้อยฟ้ามีลักษณะดอกที่คล้ายกันมาก แต่เสาวรสดอกมีกลีบสีขาว โคนเกสรเป็นสีม่วง ส่วนสร้อยฟ้าทั้งกลีบดอกและเกสรมีสีม่วงหมด ที่สำคัญผลของเสาวรสคนนิยมนำมารับประทาน แต่ผลของสร้อยฟ้าจะไม่นิยมนำมารับประทาน
 https://goo.gl/PEcecZ
การขยายพันธุ์ https://goo.gl/xbkLxh
การขยายพันธุ์ โดยการปักชำและเสียบยอดจะทำให้ได้ต้นพืชที่มีลักษณะตรงตามพันธุ์และให้ผลผลิตเร็วกว่า การปลูกโดยใช้เมล็ด การเสียบยอดนิยมใช้กับพันธุ์สีม่วงโดยใช้พันธุ์สีเหลืองเป็นต้นตอ
ดอกเสาวรสจะบานในช่วงบ่าย ๆ เนื่องจากเป็นดอกสมบูรณ์เราจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเหล่าแมลงภู่ และผึ้ง ทำหน้าที่ผสมเกสร
 https://goo.gl/npW6Yg
การให้น้ำ
เสาวรส มีความต้องการน้ำมากในช่วงของการออกดอก ติดผลไปจนถึงระยะเก็บเกี่ยว ในพื้นที่ปลูกที่อาศัย น้ำฝนเสาวรสจะให้ผลผลิตมาก ตั้งแต่เดือน กันยายน - ธันวาคม หลังจากนั้นจะกระทบแล้ง ผลเสาวรสจะร่วงหล่น ก่อนแก่ และชะงักการเจริญเติบโต พอเข้าฤดูฝนก็จะแตกกิ่งก้านสาขาใหม่ ถ้าหากสามารถให้น้ำแก่เสาวรสได้ตลอดปี จะทำให้มีผลผลิตทยอยออกทั้งปีได้ เสาวรสเป็นพืชที่มีระบบรากตื้น ดังนั้นจึงควรมีการคลุมโคนต้นในช่วงฤดูแล้ง เพื่อรักษาความชื้นในดิน

สรรพคุณของเสาวรส
ผลเสาวรสสุกมีไลโคพีนในชั้นเพอริคาร์บ เบตาแคโรทีน โพแทสเซียมและเส้นใยสูง น้ำเสาวรสมีวิตามินซีสูง มากกว่าที่พบในมะนาว เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง อีกทั้งผลเสาวรสยังมีวิตามินเอสูงและสารแคโรทีนอยด์ ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ สาร Albumin homologous protein จากเมล็ด แก้อาการนอนไม่หลับ ลดไขมันในเส้นเลือดและโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
-------------------------------
อ้างอิง : https://goo.gl/Li3zhv https://goo.gl/qWsptr
บทเพลงบรรเลงชโลมใจ
Create Date : 26 พฤษภาคม 2559 |
Last Update : 16 มกราคม 2564 17:29:53 น. |
|
25 comments
|
Counter : 23932 Pageviews. |
 |
|
น้ำเสาวรส ผลไม้มหัศจรรย์ คลิกที่นี่ค่ะ