CandyBee
Group Blog
 
All blogs
 

พิซซ่าหน้าน้ำพริกหนุ่มหมูยอ




แฮ่ๆๆ กลับมาอัพบล็อกอีกรอบ แล้วค่ะ
คือว่าเราได้วิธีทำพิซซ่าของเก๊ก๊อบปี้ได้ใกล้เคียง เกือบๆจะเหมือนจริงแล้ว แต่ไม่ใช่
เหมือนต้นฉบับจะมาจากบล็อก exteen แล้วก็ลามมาเรื่อยๆ
ใครคิดสูตรนี้ก็ไม่รู้ แต่ยังไงก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
(เอ...ฟังดูเหมือสูตรยาผีบอกแฮะ)

วันนี้ได้กฤษ์ ไหนๆคิดจะทำอะไรแบบนี้แล้ว อัดไอเดีย(ที่คิดเอาเองว่า..)สุดบรรเจิดลงไปด้วย
พอดีว่าเพิ่งไปเชียงใหม่กับภาระกิจฉุกเฉินมา
ไปตอนสายๆ สี่โมงเย็นกลับ โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ ไม่ได้ซื้อของเลย
แต่มีของฝากจากเจ้าภาพ เป็นเซ็ตของฝากกิ๊บเก๋ แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม หมูยอ และแหนม
เลยปิ๊งไอเดีย ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง
จับเอามาโปะๆๆๆ ทำเป็นพิซซ่าหน้าน้ำพริกหนุ่มหมูยอ
ที่...ไม่มีใครกล้ากิน นอกจากคนทำ

ไชโย!!!



ส่วนประกอบ
ขนมปัง
น้ำพริกหนุ่ม
หมูยอ
เนื้อมะเขือเทศเข้มข้น
เห็ด
มะเขือเทศ
ชีส





โฉมหน้ากล่องของฝากจากเจ้าภาพ ตอนแรกนึกว่ามีแคบหมูกับหมูยอ





เปิดมาเป็นแบบนี้ มีครบเลยค่ะ ฟังดูเหมือนกระทู้รีวิวเปิดถุงชอปห้องแป้งเลย
แต่อันนี้เปิดถุงออกมาเป็น....แหนม!!!





ส่วยประกอบโดยรวม มีครีมชีสเพิ่มมาทีหลังเพราะเพิ่งเจอตอนก่อนเข้าอบค่ะ





เอาขนมปังมาหั่นแล้วเรียงใส่ถาดอบค่ะ พอดีว่าเราใช้ถาดเซรามิคเหลี่ยม พิซซ่าเราเลยออกมาเหลี่ยมๆ แต่ตัดขนมปังง่ายดี
วางขนมปังแล้วกดๆเหนื้อขนมปังให้แน่นๆ จะได้ดูเหมือนแป้งพิซซ่า แล้วก็ละเลงน้ำพริกหนุ่มลงไป





ตามด้วยเนื้อมะเขือเทศเข้มข้น ณ จุดนี้ใครระวังอย่าหนักมือ เพราะเนื้อมะเขือเทศเข้มข้นมันเปรี้ยวมากค่ะ
ถ้าไม่ใช่สาวเปรี้ยว ใส่นิดเดียวพอค่ะ อย่าเกิน 1 ช้อนโต๊ะ แล้วละเลงทับลงไป





หั่นมะเขือเทศ และหมูยอบางๆแล้ววางลงไป สมมุติว่ามันคือ pepperoni...(ซึ่งมันเหมือนกันตรงไหน..ห๊า?)
วางให้มันปีนๆกันนะคะ เพราะจะช่วยเกาะพิซซ่าให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน





จินตนาการต่อ อย่าให้อะไรมาหยุดยั้งเรา เพื่อความเนียนมึน เอาเห็ดโรยกลบ pepperoni เก๊ (อดีตหมูยอ)





โรยชีสด้านบน ตอนแรกใช้เชดาห์ชีสแผ่น(ที่หาเจอ เหลือจากการทำเเซนวิส) ซึ่งมีอยู่น้อยมาก แล้วบังเอิญคุ้ยต่อเจอ ครีมชีสเลยจัดการหั่นโรยลงไปด้วย





อบไฟบนล่าง ประมาณ 220 องศาเซลเซียล พอให้ด้านบนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองน้ำตาลก็ใช้ได้แร้ววว





หั่นออกมาเตรียมโซย





หน้าตาเหมือนขนมปังพิซซ่า รสชาติแจ่มจรัสมากค่ะ มีความเค็มนิดๆเผ็ดหน่อยๆของน้ำพริกหนุ่ม
ผสมกันกับชีส และความเปรี้ยวของมะเขือเทศ ตีกันให้มั่วไปหมด แต่พอรวมๆกันแล้ว เราว่าอร่อยดี
เข้าตำรา ทำเอง กินเอง ชมตัวเอง!!!





เสียบใบโหระพา กินคู่กันก็เข้ากั๊นเข้ากัน ค่ะ!!!
สำหรับเมนูนี้ ใครใจถึงก็ลองทำดูค่ะ
แล้วมาบอกกันมั่งว่าเป็นยังไง




 

Create Date : 19 ตุลาคม 2553    
Last Update : 19 ตุลาคม 2553 19:30:26 น.
Counter : 6003 Pageviews.  

ห่อหมกกุ้งเผาหรูหราราคา 10 บาท





เมนูนี้ทำเอาไว้นานแล้ว ครั้นจะดองเอาไว้ต่อไปเดี๋ยวจะเข้าเทศกาลกินเจ
ถ้าเอามาลงช่วงนั้น เกรงว่าเราจะกลายเป็นคนบาปประจำเทศกาล
แถมบาปจะทวีความหนาเป็น 3 เท่า 4 เท่า
เลยรีบชิงเอามาลงเสียก่อน

เป็นห่อหมกแบบไร้ใบตอง ทำง่ายแป๊บเดียวเสร็จค่ะ
หน้าตาหรูหราอู่ฟู่มากๆ แต่ราคาเฉลี่ยแล้วตกถ้วยละ 10 บาท
ไซส์ประมาณถ้วยเครมบูเล่เส้นผ่านศูนย์กลาง 2 นิ้วนะคะ ทำได้ 7 ถ้วย
ทุกถ้วยมีกุ้งเผาตัวย่อมๆสีส้มแปร๋น วางตาจ้องหน้าคนกิน

กรรมวิธีสำหรับห่อหมกวันนี้ ใช้เตาอบทำแทนการนึ่ง
สะดวกไปอีกแบบ เหมาะกับคนที่อยู่ไกลบ้านอยากกินห่อหมก
ถึงจะไร้กลิ่นใบตอง แต่ก็พอจะทดแทนกันได้ค่ะ

ค่ากุ้งตลาดนัดบ้านๆตกตัวละ 5 บาท 7 ตัวก็ 35 หมูสับประมาณ 10 บาท
ไข่ไก่ 2 ฟอง แล้วก็น้ำพริกแกง 2 ช้อนโต๊ะ ราคารวมกันประมาณ 10 บาท
กะทิอีกราวๆ 15 บาท ผักตกแต่งหาเด็ดเอาในบ้าน
อ่อ ราคานี้ไม่รวมค่าไฟ และน้ำตาลน้ำปลา เสร็จสรรพแล้วอยู่ที่ 10 บาท/ถ้วย
แต่ราคาก็ไม่ได้มากไปกว่านี้สักเท่าไหร่ค่ะ เทียบกับหน้าตา คุณค่าทางจิตใจ และรสชาติแล้ว
เราว่า ......เลิศสะแมนแตน !!!



ส่วนประกอบ

กุ้งก้ามกราม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
หมูสับ 3 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 200 มิลลิลิตร
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล
น้ำปลา
ใบโหระพา
พริกชี้ฟ้าแดงซอย







กุ้งตลาดนัดแถวบ้านตัวย่อมๆ จุ๋มจิ๋มน่ารัก




โหระพาหาเก็บเอาในบ้านนี่แหละ




ผสมหมูสับกับไข่ไก่ ในภาพมีอยู่ฟองเดียว แต่จริงแล้วใช้ 2 ฟองค่ะ




จากนั้นใส่น้ำพริกแกงเผ็ด และ กะทิ แบ่งเอาไว้ทำกะทิหยอดหน้าสัก 3 ช้อนโต๊ะด้วยนะคะ
แล้วก็คนๆให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลเล็กน้อย ถ้าใครที่ชอบเผ็ดจัดๆก็ใส่น้ำพริกแกงลงไปเพิ่มโลด




เด็ดใบโหระพาวางรองก้นถ้วย




แล้วก็หยอดที่เราผสมเอาไว้ลงไป ค่อนถ้วย เกือบเต็ม
ถ้าหยอดเต็มพอเอาไปนึ่ง หรืออบมันจะล้นฟูออกมาค่ะ




จับกุ้งมาเรียงใส่ถาด เอาเข้าอบพร้อมกับห่อหมกไปเลย ประหยัดเวลา
ก่อนอบทาน้ำมันพืชบนหลังกุ้งสักหน่อย พอสุกแล้วจะออดมาแวววาวสวยงามค่ะ




เอาเข้าอบเราใช้ไฟบนล่าง 200 องศาเซลเซียส จำไม่ได้แล้วว่าอบกี่นาที T-T
แต่ใช้เวลาไม่นานคอยมองเวลามันฟูสุดๆ แล้วนั่งดูต่ออีกสัก2-3 นาทีก็ใช้ได้แล้ว
หน้าตาออกมาแลดูฟูเด้ง หอมฉุยน่ากินมากกก




กุ้งก็จะสุกในเวลาไล่เลี่ยกัน ถ้ายังไม่สุกก็จงอบต่อไป




พอเอาห่อหมกออกจากเตามันจะฟีบลงนิดนึง
เคี่ยวกะทิเอาหยอดหน้า ตกแต่งด้วยกุ้งเผา ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้าซอย




วางมันหลายๆแบบเพื่อความวาไรตี้...




ซ้ายหัน!!!




หน้าเดิน!!!


ทานให้อร่อยนะคะ บ๋ายบาย




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2553    
Last Update : 1 ตุลาคม 2553 16:56:19 น.
Counter : 3033 Pageviews.  

เฟรนชฟรายส์เต้าหู้





วันนี้มาแบบเมนูมังสวิรัติ กึ่งๆสุขภาพ
(ติดตรงที่ถ้าไม่เอาไปทอด ก็คงเป็นเมนูเพื่อสุขภาพแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย)
เต้าหู้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ใครๆก็รู้กัน มีประโยชน์เต็มไปหมด
ทานได้บ่อยๆก็ดีค่ะ แต่อาจจะเลี่ยงๆจากทอดเป็นผ่านกรรมวิธีอย่างอื่นแทน

มื้อนี้จับเต้าหู้เอามาแปลงโฉมหน้าตากระเดียดไปทางฝาหรั่ง
หน้าตาก๊อปปี้เฟรนชฟรายส์มาแบบเป๊ะๆ
ทำง่ายมากๆแต่ต้องระวังเต้าหู้หักป่นปี้แค่นั้นเอง
งานนี้ยกความดีความชอบให้แก่แป้งปรุงรสชุบทอด
เพราะทำให้เต้าหู้อร่อยขึ้นอีกเป็นกอง

เราได้ลองทอดแบบไม่คลุกแป้ง เป็นเต้าหู้แท่งทอดเพียวๆ
รสชาติจืดๆเหมือนอาหารปลาดุกที่เคยแอบกินตอนเด็กๆ
หนำซ้ำยังแห้งเเข็งทิ่มเหงือกอีก

มามะ...พร้อมแล้วก็เข้าครัวกันค่ะ




ส่วนประกอบ
เต้าหู้แข็ง (วันนี้ใช้เต้าหู้ญี่ปุ่นเป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า)
น้ำมันสำหรับทอด
ซอสพริก
แป้งชุบทอดปรุงรส*
*หมายเหตุ : ถ้าไม่มีใช้แป้งชุบทอดแบบธรรมดาหรือ แป้งสาลี แล้วใส่เกลือกับพริกไทเพิ่มรสชาติก็ได้ค่ะ




วิธีทำ



หน้าตาเต้าหู้วันนี้ค่ะ แกะออกมาจากกล่องแล้ว พยายามซับน้ำออกให้มากที่สุดค่ะ




หั่นเป็นแท่งๆ หน้าตัดประมาณ เกือบๆ 1 x 1 cm. ถ้าเล็กไปเต้าหู้จะหักง่ายค่ะ




เสร็จแล้วเอามาคลุกแป้งแห้ง ตรงนี้คลุกทีละน้อย คลุก 1 ครั้งต่อการทอด 1 กระทะ
ถ้าคลุกไว้นาน เต้าหูจะแต่งงานกับจาน ติดกันจนดึงไม่ออก ...และหักในที่สุด




ตั้งน้ำมันกะให้ท่วมเต้าหู้ ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนแล้วก็ค่อยหย่อนทีละอัน
ทอดเต้าหู้แบบนี้เราใช้ตะเกียบช่วยทอด แบบว่าจับถนัดมือมากๆ
ต้องคอยเขี่ยไม่ให้มันติดกันเป็นแพ




ทอดจนกรอบ พลิกกลับไปกลับมาให้กรอบทั่วๆกัน




เหลืองได้ที่แล้วก็สะเด็ดน้ำมันแล้วเอามาถ่ายรูปก่อน
แช๊ะ!!!




แป้งจะเคลือบให้เต้าหู้กรอบนอก แต่ข้างในจะกรอบนิดๆ
ถ้าไม่คลุกแป้งเลย มันจะแห้งกรอบไปทั้งอัน




เสร็จแล้วเสิร์ฟร้อนๆ ถ้าชอบแบบเย็นๆ ก็รอเสิร์ฟตอน 4 - 6 โมงเย็น....ตรึ่กโป๊ะ!!!




จับมัดตกแต่งอย่างสมเกียรติ
ที่ป้ายปั๊มคำว่า TOFU แต่ดูแล้วเหมือน TO..EU มากกว่า
กลายเป็นเต้าหู้แท่งทอดกรอบแด่สหภาพยุโรปไปเสียแล้ว...T^T




เสิร์ฟกับซอสพริก ในภาพเราโรย Pepper Steak Seasoning ลงไปด้วย




อ่อ เดือนหน้ามีเทศกาลกินเจ เมนูนี้น่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจใครหลายๆคนค่ะ
อย่าลืมเอาไปลองกันนะคะ
เจอกันคราวหน้า บ๋ายบายค่ะ




 

Create Date : 17 กันยายน 2553    
Last Update : 17 กันยายน 2553 14:42:54 น.
Counter : 4174 Pageviews.  

ยำใบโหระพาปลาย่าง




จานนี้สำหรับผู้ร่วมชะตากรรมไดเอ็ตอันเป็นนิรันดร์(รอบที่พันกว่าๆในชีวิต)
ปกติเราไม่ชอบทานปลา เพราะเป็นคนจมูกไวรู้สึกว่ามันเหม็นคาวโดยเฉพาะพวกปลาน้ำจืด
แถมมีก้างที่เวลาทานทีไรมันก็มักจะจำเพาะเจาะจงมาติดที่คอเราทุกทีไป
แต่...สำหรับบุคคลที่ปรารถนาการลดน้ำหนักแล้ว เนื้อปลาเป็นอาหารที่คุณคู่ควรเพราะให้พลังงานต่ำ
ถ้าจะต้องทานเรามักจะเลือกปลาทะเล เพรากลิ่นคาวจะน้อยกว่าปลาน้ำจืดอยู่หลายขุม

วันนี้โชคดี รื้อช่องแช่แข็งแล้วเจอเนื้อปลานิลทะเลแล่ให้แล้วเสร็จสรรพนอนแข็งเด่อยู่ในนั้น
สมัยนี้มันดีจริงๆ ไม่ต้องมานั่งทุบหัวปลาโป๊กๆ รอดูมันแน่นิ่งแล้วถึงจัดการชำแหละ
กรรมวิธีสำเร็จโทษปลามันช่างติดตาตรึงใจเหลือเกิน
ถึงแม้ว่าจะได้ฉายาว่าเป็นเจ้าแม่ SM แต่เป็นงานหนึ่งที่ไม่เคยทำ และไม่คิดจะลองทำ
....เค้ากลัวง่ะ T^T
เนื้อปลาแช่แข็งวันนี้ถึงไม่ได้สดเปรี๊ยะเหมือนปลาเป็นๆ
แต่รสชาติก็พอกล้อมแกล้มไปได้ ไม่ยุ่ยเป็นกระดาษทิชชู่แช่น้ำ และไม่เหม็นคาว เท่านี้ก็โอเคแล้วค่ะ

ส่วนยำจานนี้จริงๆแล้วตั้งใจจะให้เป็นพล่า
แต่ณ จุดนี้ ข้างของเครื่องปรุงมันมีไม่ครบ เลยทำเท่าที่จะทำได้
มีในสิ่งที่ไม่ควรจะมี และดันไม่มีในสิ่งที่ควรจะมี
หันเจออะไรก็ฉีกโปรย ฉีกโปรยลงไปตามมีตามเกิด
กลายเป็นยำที่หนักใบโหระพา แล้วมีปลาย่างหย่อมเล็กๆวางอยู่ด้านล่าง
ใบโหระพาในจานที่เห็นเยอะๆนี่ไม่ใช่เพราะชอบกิน
แต่เสียดายของ คิดว่าถ้าใส่ไม่หมดทิ้งเอาไว้มันคงจะเน่า
ดูไปดูมาเหมือนกระถางปลูกโหระพามากกว่าจานใส่อาหารเสียอีก!!!


ส่วนประกอบ
เนื้อปลานิลทะเลแล่
ใบโหระพา
กระเทียม
พริกขี้หนูสด
ข่า
น้ำตาลทราย
น้ำมะนาว
น้ำปลา





เนื้อปลานิลทะเลแล่ ซื้อแบบแช่เเข็งมาค่ะ มีจำหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป





เหง้าข่า ขุดมาจากหลังบ้านค่ะ ฟังดูเหมือนอยู่ในป่าเเฮะ
แต่เป็นส่วนประกอบที่เราช๊อบชอบ เหมือนที่บ้านมีซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นดี ได้ใช้ของสดใหม่ ปลอดสารพิษ และ ฟรี๊!!!





ตอนแรกตำน้ำยำเสร็จแล้วนึกขึ้นได้ว่าใส่ข่าดีกว่า เพราะกลัวจะคาว
ครกเลยดูเลอะเทอะแบบนี้เพราะมาตำข่าทีหลัง





น้ำยำเราทำเหมือนน้ำจิ้มอาหารทะเล
ใส่พริก กระเทียม แล้วก็น้ำตาลทรายลงไปตำให้ละเอียด แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลากับมะนาว





ใบโหระพาเอามาล้างแล้วก็เด็ดๆๆ





ตั้งกระทะ ทาน้ำมันนิดเดียว ทามากเดี๋ยวจะกลายเป็นปลาทอด





เอาปลาวางแล้วย่างแฉ่ๆ รอให้อีกด้านนึงสุกซะก่อน มันจะร่อนหลุดออกมาเอง
ถ้ารีบพลิกเนื้อปลาจะติดกระทะนะเออ จะได้กินยำปลาหยองแทนนะจ๊ะ





ร่อนแล้วก็พลิกได้ แล้วก็รอไปให้มันสุก ระหว่างรอก็เต้นไปด้วยค่ะ แนะนำเพลงบางปะกง น้ำลงขึ้นๆลงๆ
เพราะเร้าใจเป็นที่สุด ไหนๆจะทานอาหารไดเอ็ทแล้ว ก็ควรออกกำลังกายไปด้วย





จับมาเรียงใส่จาน





ราดน้ำยำลงไป





ประเดใบโหระพาลงไป





อ้า...พัชราภา!!!
วุ้ยยย มุกตลกคาเฟ่มาก.....อ้ำ!!!
แซ่บ!!!






 

Create Date : 31 สิงหาคม 2553    
Last Update : 31 สิงหาคม 2553 23:34:54 น.
Counter : 2384 Pageviews.  

Mulberry Cheesecake ชีสเค้กลูกหม่อน





เมื่อสักครู่มีน้องมาสะกิด เจ้ๆเมื่อไหร่จะอัพเมนูใหม่ล่ะคะ
สะกิดมาเราก็จัดให้ทันทีตามประสาคนบ้ายุบ้ายอ
เห็นว่าน้องกำลังไดเอ็ต เลยจัดเมนูของหวานให้ !!!
เอ๊ะยังไง ... ออกแนวหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ฮา
เอาเป็นว่าถ้าจะทำกินก็กินทีละนิดๆหน่อยๆ กินแล้วก็ไปออกกำลังกายนะจ๊ะ

ส่วนชีสเค้กวันนี้ เป็นการทำลงบล๊อกครั้งที่ 2 แล้ว
ครั้งแรกจะเป็นชีสเค้กมะม่วง ก็ค่อนข้างต่างกันพอสมควรกับชีสเค้กวันนี้
ท๊อปปิ้งที่ใช้เป็น ท๊อปปิ้งลูกหม่อน
เป็นของกำนัลจากญาติโยมคนใดคนหนึ่ง ซึ่งเราเองก็จำไม่ได้
รสชาติดี พี่เราบอกว่าอร่อยกว่าบลูเบอรี่อีก แถมราคาก็ถูกกว่า
เป็นของไทย ยี่ห้อกำนันจุลค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาขออภัยด้วย
อาจจะหาซื้อยากสักหน่อยนะคะ แต่คิดว่าคามซุปเปอร์มาร์เก็ตน่าจะพอหาได้บ้าง

แล้วก็มีแถมๆแปะหน้าชีสเค้กด้วย Lemon และ Lime
ก็แต่งไปเรื่อยเจื้อย เห็นว่าสวยดี แต่คงเปรี้ยวสะเด็ด

สุดท้ายนี้ มีข้อสงสัยนิดนึงว่า ชีสเค้กที่ทำนี่ เขาเรียกว่าชีสเค้ก หรือชีสพาย?
ทำมาก็หลายรอบแล้ว ....มีใครรู้บ้างคะ?


ส่วนประกอบ

แครกเกอร์บดละเอียด 250 กรัม
เนยจืดละลาย 1/4 ถ้วย
ครีมชีส 250 กรัม
นมข้นหวาน 200 กรัม
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
Mulberry Topping
เลมอน หรือมะนาว






แครกเกอร์ หรือจะใช้ขนมปังบุหรี่ก็ได้ค่ะ อีกถ้วยเป็นเนยเอามาหั่นเป็นก้อนเล็กๆ จะได้ละลายง่ายๆ





เอาแครกเกอร์ใส่ถุงพลาสติก แล้วใช้ขวดซอสหรืออะไรก็ได้บดให้ละเอียด





เสร็จแล้วเอาแครกเกอร์บดผสมกับเนยละลาย





กรุใส่พิมพ์ เราใช้พิมพ์แบบถอดได้ค่ะสะดวกดี อัดให้แน่นแล้วเอาไปแช่เย็น





เอาครีมชีสมาหั่น(เตรียมตั้งแต่ตอนแรกเลยก็ได้ค่ะ)พักเอาไว้ให้อ่อนตัว





ตีครีมชีสกับนมข้นหวาน และน้ำมะนาวให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน





เทใส่พิมพ์ที่กรุเเครกเกอร์บด เคาะไล่ฟองอากาศแล้วนำไปแช่เย็นประมาณ 2 ชม.





แกะออกจากพิมพ์ แล้วตัดเสิร์ฟ ราดด้วยท๊อปปิ้งก่อนเสิร์ฟ
ถ้าเป็นเค้กแบบตัดราดเอาไว้นานๆหน้าชีสจะเละค่ะ ต้องหาพลาสติกมาหุ้มด้านข้างก่อนเทท๊อปปิ้ง





อันนี้แบบไม่เทท๊อปปิ้ง ใช้เลมอนฝานบางๆมาม้วนตกแต่ง
ฝานเลมอนตามขวางแล้วผ่าแค่ครึ่งวง ม้วนเป็นกรวยแล้ววางแหมะ





ส่วนลูกสีแดงๆส้มๆนี่ ถ้าดูหลายๆเมนูจะเห็นบ่อยมาก มันคือมะนาวเทศค่ะ
เป็นของตกแต่งใกล้มือ ใช้ตกแต่งจริงๆ คงไม่มีใครอุตริเอาเข้าปาก
กินได้นะคะ แต่ไม่เคยเห็นใครกินนอกจากนกปรอท =_="





ส่วนอะนนี้เป็น Lime หรือมะนาวเขียวบ้านเรา
ฝานเหมือนเลมอนเด๊ะๆ แต่บิดในทิศตรงกันข้ามแล้ววาง..แหมะ





คู่หูดูโอ้...มะนาว แอ่นด์ มะนาว





เริ่มหาสาระอะไรไม่ได้แล้ว ถ่ายอะไรนักหนา !!!





จบกันดื้อๆแบบเรียง 3 แล้วถ่าย แช๊ะ!!!

ขอความสุขสวัสดีจงมีแต่ท่านผู้ชมบล๊อกเอย
โย่ว!!!




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2553    
Last Update : 27 สิงหาคม 2553 16:14:36 น.
Counter : 10735 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

CandyBee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





สวัสดีทุกๆคนที่หลงคลิกเข้ามาในนี้นะคะ
ถึงวันนี้คงไม่มีอะไรจะบอกไปมากกว่า
คำว่า "ขอบคุณ" ทุกคนที่คลิกเข้ามาเยี่ยม
ที่มีคอมเม้นต์ไว้ เราก็แวะไปเยี่ยมเยียน
เปิดได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วแต่เน็ตรุ่นเต่า
ขาด้วนของที่บ้านเราจะอำนวย...
ทุกอย่างที่ทำลงบล๊อกนี้ ทำด้วยความตั้งใจ
อยากให้อาคันตุกะที่คลิกเข้ามาได้อ่าน
ได้เห็นแล้วรู้สึกสุขใจ ยิ้มบ้างขำบ้าง
เราคนทำ ก็มีความสุขแล้วค่ะ ขอขอบคุณ
ทุกท่านอีกครั้งที่ติดตามผลงานนะคะ



ภาพและข้อเขียนที่ปรากฏในเวปไซด์แห่งนี้เป็นของ
Candybee แต่ผู้เดียว ผลงานได้รับการคุ้มครองตาม
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้ามทำการแอบ
อ้างใช้ หรือดัดแปลง หรือกระทำการใดๆเพื่อก่อให้
เกิดความเสียหายแก่เจ้าของผลงานโดยมิได้รับอนุญาติ
จากเจ้าของที่เป็นลายลักษณ์อักษรโดยเด็ดขาด

Friends' blogs
[Add CandyBee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.