CandyBee
Group Blog
 
All blogs
 

ไข่ม้วน ชวนชิม




วันนี้เล่นง่าย พักหลังรู้สึกว่าจะเน้นของแนวง่ายๆแฮะ ไข่ม้วนวันนี้ ไม่ใช่ไข่หวานที่แปะบนข้าวปั้นนะคะ
กรรมวิธีแบบเดียวกัน แต่เครื่องปรุงต่างกัน เราไม่ชอบทานไข่หวานแบบนั้น รู้สึกว่ารสมันประหลาด
เหมือนทานข้าวเหนียวสังขยาผสมซอสถั่วเหลือง
ครั้งแรกที่เราเห็นไข่ม้วนแนวๆนี้ คือในห้องครัวที่ Toad Hall หอพักที่เราเคยอยู่
เพื่อเกาหลีเป็นคนทำ หลายคนอาจจะเคยเห็นในซีรีย์เกาหลี ถ้าจำไม่ผิดเขาเรียกว่า เคระมารีน (ออกเสียงแนวๆนี้)
แต่กะทะที่ใช้ก็เป็นแบบวงกลมธรรมดา ส่วนกะทะวันนี้เป็นแบบสี่เหลี่ยม
ใช้ทำไข่หวานแบบญี่ปุ่น ถ้าต้องการให้เนื้อไข่แน่นมากๆ สามารถม้วนซ้ำแล้วบีบให้แน่นด้วยมู่ลี่ที่ใช้ทำข้าวห่อสาหร่ายค่ะ


ส่วนประกอบ
1. ไข่ไก่ 3 ฟอง
2.น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
3.ซีอิ๊วขาวหรือผงปรุงรส
4. น้ำมันเล็กน้อย





กรรมวิธีก็เหมือนทำไข่เจียวแบบบ้านๆ เอาข้อ 1- 3รวมกันแล้วตีให้เข้ากัน
ทิ้งระยะนิดนึงให้ฟองอากาศหายไป ถ้าเทตอนฟองอากาศอยู่ ไข่จะเป็นรูๆ



ตั้งกะทะ เทน้ำมันนิดหน่อย พยายามเอาน้ำมันออกให้ได้มากที่สุด ใช้ไฟอ่อนๆนะคะ
เทชั้นแรก อย่าให้หนามาก เพราะเวลาม้วนมันจะแตก



พอไข่เริ่มสุกนิดๆ ให้รีบม้วนจะใช้ตะเกียบหรือตะหลิวก็ได้ค่ะ
ถ้ายังเป็นน้ำอยู่จะม้วนยาก แต่ถ้าสุกเกินไปมันจะม้วนแล้วเนื้อไม่ติดกัน



ม้วนไข่จนหมดแล้ว พักไว้ด้านล่างกะทะ เทไข่ลงไปใหม่
ถึงตรงนี้ไข่ที่ม้วนกับไข่ที่เทไปจะเชื่อมต่อกัน



พอได้ที่ก็ม้วนกลับขึ้นมาด้านบนใหม่ ถ้าอยากให้หนามาก(รสนิยมส่วนตัวเราว่าหนามากอร่อยมาก)
ก็เทไข่แล้วม้วนอีก ทำเหมือนเดิมเป๊ะๆ จากภาพเราม้วนทั้งหมด 3 ครั้ง



เสร็จแล้วก็พลิกๆ กดๆ ให้ไข่สุกทั่วทั้งอัน



ไข่3ฟองทำได้ 3 อันค่ะ



แล้วก็เอามาตัดเป็นแว่นๆ



เพื่อนเกาหลีบอกว่า เอาไว้กินเป็นกับข้าว หรือเป็นกับแกล้ม(...เอ่อ แกกินไปคนเดียวเถอะ)
สำหรับเรา ปรุงรสให้เค็มนิดนึงเอาไว้กินกับข้าวต้มค่ะ




 

Create Date : 23 กันยายน 2552    
Last Update : 24 กันยายน 2552 13:27:48 น.
Counter : 3635 Pageviews.  

ขนมกุยช่ายไส้กระต่ายปลี ทำแล้ว...มีโมโห




เนื่องจากที่บ้านเพิ่งจะได้ครัวใหม่ เราและพี่สาวรู้สึกฮึกเหิม คันมือคันไม้ยิบๆอยากใช้ครัวใหม่นี้มาก
และเมื่อเดือนก่อนพี่สาวเราได้ถอยซึ้งสำหรับนึ่งอาหารมา ดูมันช่างใหม่เอี่ยวแวววาว น่าใช้เป็นที่สุด
มันเลยทวีความอยาก เพราะครัวก็ใหม่ ซึ้งก็ใหม่
อาหารวันนี้เป็นแรงบัลดาลใจจากครัว และอุปกรณ์ครัวล้วนๆ
เมนูที่คิดได้ว่าจะทำอะไรดีน๊อ....ที่จะได้ใช้ซึ้งอันใหม่ ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง...มันคือขนมกุยช่ายนั่นเอง
เมนูนี้เคยทำมาแล้วหนนึง เมื่อหลายปีก่อน นึ่งออกมาสวยงามน่ารับประทาน...แต่...
แต่มันแข็งโป๊ก จนไม่มีใครกล้าเอาสุขภาพฟันกับเหงือกไปเสี่ยงกับขนมกุยช่ายในครั้งนั้น
การทำกุยช่ายครั้งนี้เป็นเหมือนนัดล้างตา ทำออกมากินได้ รสชาดดี
แป้งอาจจะแข็งไปนิดนึง เหมาะสำหรับนึ่งแล้วเอาไปทอด
ถ้าจะทานแบบนึ่งคงต้องใส่แป้งข้าวเหนียวเพิ่มนิดหน่อยค่ะ


..........................ส่วนประกอบแป้ง
แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย
แป้งมัน 1/2 ถ้วย
แป้งสลิ่ม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 2 ถ้วย
น้ำมัน 1/4 ถ้วย
..........................ส่วนประกอบไส้กุยช่าย
ใบกุยช่าย
กระเทียม
ซีอิ๊วขาว
น้ำมันสำหรับผัด
..........................ส่วนประกอบไส้กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลี
เห็ดหอมแห้ง
กระเทียม
ซีอิ๊วขาว
น้ำมันสำหรับผัด
..........................ส่วนประกอบน้ำจิ้ม
พริกขี้หนูสับ
กระเทียมสับ
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ






นี่คือกระต่ายปลี??? หัวใจสำคัญของการทำไส้





ส่วนผสมของไส้กระต่ายปลี(...ยังจะด้านเล่นมุกนี้ต่ออีก -_-'') มีกะหล่ำปลีหั่นฝอย เห็ดหอมแห้งเอาแช่น้ำร้อนจนนิ่ม
แล้วเอามาหั่น แล้วก็กระเทียมสับ และซีอิ๊วขาว สัดส่วนประมาณเอาเองนะคะ





ตั้งกะทะ ใส่น้ำมันนิดหน่อย ใส่กระเทียมสับลงผัดให้เหลือง จากนั้นก็ใส่เห็ดหอม ผัดให้เข้ากัน
ตามด้วยกะหล่ำปลี ปรุงรสประมาณผัดผักที่เราเอาไว้ทานเป็นกับข้าวค่ะ





ผัดไปจนคนผัดสลบ...บ้าแล้ว ผัดไปจนผักสลบค่ะหน้าตาจะประมาณนี้





ต่อไปก็ไส้กุยช่าย เนื่องด้วยแถวบ้านหากุยช่ายแบบสีเขียวเข้มๆไม่ได้ หาได้แต่แบบใบอ่อนของโครงการหลวง
เอามาใช้แก้ขัดไปก่อน มันจะเละง่ายกว่าแบบใบสีเขียวแก่ แต่รสชาดก็ใกล้เคียงกัน
ตามตำราถ้าใช้แบบใบเขียวเแก่ เขาให้ใส่ผงโซดาใบคาร์บอนเนตลงไปเพื่อนรักษาความเขียวค่ะ





ล้างผักแล้วสะเด็ดน้ำพยายามให้แห้งที่สุด เพราะใบอ่อนมันจะมีน้ำออกมาเยอะมาก จากนั่นก็หั่นค่ะ
วิธีผัดแบบเดียวกับอันแรก





หน้าตาจะออกมาประมาณนี้ ต่อไปก็มาเตรียมแป้งกันค่ะ





ต้มน้ำ 2 ถ้วยให้เดือด แล้วใส่น้ำมันลงไป
จากนั้นใส่แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย และแบ่งแป้งข้าวจ้าว 1 1/2 ถ้วยใส่ลงไป(จะเหลือแป้งข้าวจ้าวอยู่ 1/2 ถ้วย)

ในน้ำเดือด
กวนแป้งให้สุก แล้วยกลง
สังเกตจากภาพ อุปกรณ์ที่ใช้กวนมันตะหลิวชัดๆ ... หายนะอย่างแรง มันกวนไม่ได้ค่ะ 555





เมื่อกวนไม่ได้เลยยกลง แล้วเอามือบ้างตะหลิวบ้างคนๆให้มันจับเป็นก้อน...ร้อนนะเนี่ย
เราใช้กะทะเทฟล่อนในการกวนแป้ง ข้อดีคืออย่างที่เห็น มันไม่ติดกะทะเลย ดูปิ๊งปั๊งมาก





แต่ข้อเสียก็คือ ... แป้งมันมาติดมือแทน...แล้วก็ทำให้เราเริ่มมีโมโห
เพราะมันยังเป็นเม็ดๆอยู่ แล้วแป้งก็ร้อนมาก แต่ก็ต้องนวดไป
เมื่อความอดทนสิ้นสุด เราก็โกยแป้งลงเครื่องนวด แล้วตามด้วยแป้งทั้งหมดที่เหลือ
แหะๆ ใช้เครื่องซะตั้งแต่แรกก็ไม่เหนื่อยแล้ว





จากนั้นก็แบ่งแป้งเป็นก้อนเล็กๆ ทาน้ำมัน เตรียมตัวใส่ไส้





แป้งขนมกุยช่ายเป็นอะไรที่หนักใจ เพราะมันเหนียวและเละ แถมมีน้ำมันลื่นๆเลอะๆอีก
วิธีสุดคลาสสิกที่ช่วยได้คือ ถุงพลาสติก ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ขนมประจำตระกูลนะคะ
วิธีห่อที่เราเห็นๆมี 2 แบบ คือห่อแบบกลมๆทั่วไป กับห่อแบบครึ่งวงกลม
ถ้าเอาไปทอด แบบวงกลมจะดีกว่า แต่ถ้าทานแบบนึ่งทำแบบครึ่งวงกลมจะเหมาะกว่า เพราะสามารถรีดแป้งได้บางกว่าแบบแรก





ภาพนี้เห็นแล้วซึ้ง....(T-T) 555
อ่อ เอาซึ้งใส่น้ำต้มให้เดือด ตั้งไฟก่อนห่อไส้นะคะ ห่อเสร็จน้ำก็เดือดพอดี
เราก็เอาขนมที่ห่อมาเรียงแล้วนึ่งได้เลย





น้ำจิ้มทำง่ายมาก เอาน้ำตาลละลายน้ำร้อนเล้กน้อยก่อนก็ได้ค่ะ แล้วเอาที่เหลือ(ตามสูตรน้ำจิ้ม)เทรวมกัน
ชิมรสตามชอบนะคะ ออกหวานนำน่าจะดีสุด เพราะว่าไส้ขนมมีรสเค็ม





ภาพแถมขนมขี้เซา
แล้วเจอกันค่ะ




 

Create Date : 22 สิงหาคม 2552    
Last Update : 23 กันยายน 2552 21:59:29 น.
Counter : 4827 Pageviews.  

เต้าหู้ หัวเห็ด ซอสงา หน้าหมี หมี หมี หมี หมี....

เต้าหู้ หัวเห็ด ซอสงา หน้าหมี หมี หมี หมี หมี....



มาอีกแล้ว อาหารอะไรก็ไม่รู้อินเทร๊นด์ อินเทรนด์
พอหมีดัง...เจ๊ก็จับกระแสเก่งเหลือเกิน เอะอะก็หมี
ชื่อเมนูนี้มากจากไหน บอกได้คำเดียวว่า.....มั่ว
สูตรนี้มากจากไหน....มันมั่วกว่าชื่ออีก
แต่เป็นเมนูสุขภาพ ทำเร็ว และอาหย่อยยยคร๊า....


ส่วนประกอบ
เต้าหู้อ่อนก้อนสี่เหลี่ยม
มิโสะ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
งาขาคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา..นิดๆหน่อยๆ
เห็ดเข็มทอง ปริมาณตามฐานะทางบ้านค่ะ






งาขาวเอามาคั่วให้เป็นสีเหลืองใช้ไฟอ่อนๆนะคะ ประเดี๋ยวจะกลายเป็นงาดำทะมึน




คั่วได้ที่แล้วเอามาเขี่ยๆ เขี่ยไปเขี่ยมา..............โอ้วววว หน้าหมี ชั๊ด ชั๊ด(มุกด๊านนนด้านนน)




จากนั้นเทใส่ครกแล้วตำให้ละเอียด งาที่คัวใหม่ๆกลิ่นจะหอมมมมฟุ้ง
บางคนรักความสะดวกอาจจะใช้เครื่องบดอาหาร แต่กลิ่นและสัมผัสมันจะไม่เริ่ดเท่าครกค่ะ




พองาละเอียดยิบแล้วก็ใส่น้ำตาลทราย แล้วตำต่อไปจนละลายค่ะ
จากนั้นก้ตามด้วยมิโสะและน้ำส้มสายชู บดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
ถ้าข้นไปก็เติมน้ำเปล่า ส่วนรสชาดก็ปรับแต่งเอาตามรสนิยมค่ะ



จากนั้นก็เอาเห็ดเข็มทองไปนาบบนกะทะให้สุก เคล็ดลับที่จะทำให้เห็ดสุกก็คือ...อย่าลืมเปิดเตาแก๊สค่า....!!!

..ถึกโป๊ะ!!!




แกะเต้าหู้ใส่จาน ถ้าชอบร้อนๆก็เอาไปนึ่งก่อน แต่เราชอบทานแบบเย็นๆ
ตามด้วยซอสงา แล้วแปะด้วยเห็ดเข็มทอง สะบัดน้ำมันงานิดๆหน่อยๆค่ะ
...
ช่ะแว๊งงงงงง์!!!




เขาว่าหนูว่าหน้าเต้าหู้...T-T

...

พบกันมื้อหน้าค่ะ




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 23 กันยายน 2552 21:59:23 น.
Counter : 2101 Pageviews.  

แคนดี้กลับมาแล้วค่า..มาพร้อมกับไก่ทอดดดใบเตย




วันนี้ลุกขึ้นมาคว้ากล้องเข้าครัว
หลังจากห่างเหินและเหินห่างจากการทำบล๊อกมานานแสนนนน นานนน...
นอกจากจะผลัดวันประกันพรุ่งแล้ว ยังหน้าด้านสัญญากะคนโน้นคนนี้ จะทำโน่นทำนี่
สัญญาแล้วก็เปิดตูดหายจ้อย...ฮิ ฮิ
เนื่องจากสอบเสร็จแล้ว ผ่านแล้ว อาจารย์อนุมัติจบแล้ว
เหลือแก้เล่มให้เรียบร้อยก็เป็นอันว่าเรียนจบ
งานนี้บอกตรงๆ โคตรจะทรมาน

งานวิจัยครั้งนี้เล่นเอาน้ำหนักหายไปหลายกิโลฯ...ก็ดี (แต่ตอนนี้มันกลับมาอีกแล้ว)
เหมือนลงทะเบียนเรียนหนังสือแล้วแถมคอร์สลดความอ้วนฟรีๆ
แต่สารรูปยังเหมือนวัวไบซั่นท้อง 8 เดือนอยู่ค่ะ ไม่ต้องห่วง!!!
อ้าวเตลิดไปไหนแล้ว...วนกลับเข้ามาในครัวกันก่อน
วันนี้ทำไก่ทอดใบเตยใส่งาขาว ทำง่ายและอร่อย...จริงจริ๊ง ไม่ได้โม้ววว์



ส่วนประกอบ
1. ข้อปีกไก่ 9 ข้อ
2.น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
4.พริกไท 1/2 ช้อนโต๊ะ
5. งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ
6.กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
7. ผงกระหรี่ 1/2 ช้อนโต๊ะ
8. แป้งชุบทอด 2 ช้อนโต๊ะ
9. ใบเตยหั่น 4 ใบ
9.น้ำมันสำหรับทอด
เครื่องปรุงต่างๆเพิ่มลดได้ตามใจปรารถนา งาขาวนี่เทใส่ได้ตามฐานะทางบ้านได้เลยค่ะ ไม่ว่ากัน
แต่ระวังกระเทียม พริกไท แล้วก็ผงกระหรี่ อย่าอวดรวยใส่มากไป...มีเฮแน่ๆ...เตือนแล้วนะ
สำหรับใบเตย เอาไปทอดกรอบอร่อยเหาะ มีทั้งกระถางก็ใส่ได้ทั้งกระถางค่ะ...เชิญ...อ่อ อย่าลืมเอากระถางออกก่อนนะก๊ะ





ใส่ทุกอย่างลงในกาละมัง ยกเว้นแป้ง - ใบเตย -น้ำมัน จากนั้นก็คลุกๆๆๆ เสร็จแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
ถ้าไก่เย็นจัด ก็ตั้งทิ้งไว้นอกตู้เย็นนะจ๊ะ ไก่เย็นเกินไปทอดแล้วเดี๋ยวข้างในไม่สุก กลายเป็นไก่กระสือ
ถ้าหมักนานกว่านั้นคงไม่ต้องบอกล่ะนะ เอาเข้าตู้เย็นซะ...มิฉะนั้นจะกลายเป็นแหนมไก่เน่า




เสร็จแล้วโรยไปเตยหั่น แล้วโรยแป้ง...เวอร์ชั่นของเราโรยแป้งนะคะ ไม่ได้ชุบทอด ชอบแป้งบางๆค่ะ




จากนั้นก็เอาไปทอด ไฟปานกลางค่ะ ถ้าไฟแรงมากจะกลายเป็นไก่ดำข้างในดิบ...ซึ่งเราไม่ชอบอะไรแบบนั้น
ส่วนไปเตย แยกเอามาทอดทีหลังค่ะ...ไม่รู้เหมือนกันว่าทำแบบนั้นทำไม???




ไก่จ๋าาาา ได้ยิลลลไหมว่าเสียงครายยยยยย




งานนี้เกือบมีเตะน้องหมา...เดินถืออยู่ดีๆมากระโดดงับไก่เรา...หนอย
พ่อยังมาบอกว่า เปื้อนน้ำลายหมาแล้วก็ให้มันไป......................ชิชะ
ฝัลลล ไป เถอะ...ว่าแล้วก็แทะไก่ต่อ




ปกติก็ลากโครงไก่ดิบไปสะบัดกินในคลอง...วันนี้อิชั้นได้ทานไก่ทอดค่ะ
ลาล่ะค่ะ




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 23 กันยายน 2552 21:59:18 น.
Counter : 1366 Pageviews.  

มะยงชิด...ลอย...ถ้วยยยย และเคล็ดลับสุดยอดในการปอก และคว้านมะยงชิด




หลังจากหายหัวไปเสียนาน นานจนมีแฟนๆสะกิดว่า..อัพบล๊อกซะทีสิจ๊ะ
สูตรคาราเมลที่เคยสัญญิง สัญญา ก็ไม่เห็นเอามาลงซักที....จ้า จ้า เดี๋ยวจะทำให้นะจ้ะ
ที่อัพบล๊อกช้าเพราะช่วงนี้ยุ่งนักหนา รื้อบ้าน ปลูกบ้าน...ปวดหัวจริงๆ
พ่วงด้วยงานเรียน...ช่วงนี้กำลังเข็น Thesis ขึ้นภูเขา..แหม๋...มันช่างยากเย็นจริงๆหนอ
เรื่องที่จะแก้ตัว เพราะอัพบล๊อกช้าก็มีเท่านี้ ส่วนวันนี้มีเมนูมะยงชิดลอยถ้วย...
...เพราะว่ามันลอยอยู่ในถ้วย นั่นเอง....แหะๆ
วันนี้อากาศร้อนมากๆ ช่วงบ่ายๆนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านก็มีมอเตอร์ไชค์มาจอด ปื๊ดดดด
มาพร้อมกล่องกระดาษใบโต แปะเทปกาวรอบกล่อง....ละม้าย...คล้าย....ระเบิด
แต่ไม่ใช่ค่ะ ... ในกล่องมีมะยงชิดจำนวนมหาศาล ลูกโต๊ โต อ๊วบ อวบ
เปล่งประกายสีส้มแปร๊ด...เป็นของฝากจากคุณป้าที่สุดแสนจะใจดี จัดให้ถึงที่
ร้อนขนาดนี้ คิดอะไรไม่ออกแล้ว จะปลอกเปลือกแช่เย็นก็รอไม่ไหว..ตะกละนั่นเอง
เอามาลอยถ้วยลอยแก้วนี่แหละ กระชับฉับไว....แฮ่....ชื่นใจ



ส่วนประกอบ
มะยงชิด
ผลไม้อื่นๆ
น้ำแข็งทุบ
ครีมเทียม (คอฟฟีเมต) 1 ส่วน
น้ำตาลทราย 1 ส่วน
น้ำร้อน





มะยงชิดลูกอวบ สีสดแปร๊ดดดมากๆ




ปอกเปลือกแล้วคว้านเมล็ดออก เคล็ดลับสุดยอดในการปอกมะยงชิดก็คือ
แถ่น แถ่น แถ่น แท๊นนนนนนน .....เอาไปให้แม่ปอก...อ่ะฮ๊า ทั้งสวยทั้งเร็ว
ฮี่ ฮี่...ขออภัย ไม่ถนัดเรื่องปอกผลไม้ เจ้า....




ทุบน้ำแข็งใส่ลงไปครึ่งถ้วย ถ้าจะกินแบบดั้งเดิมก็ใส่น้ำเชื่อมลงไป




แต่ถ้าอยากได้รสชาติคล้ายๆ Ice Monster ก็ผสมน้ำตาลและครีมเทียม
อย่างละ 1 ส่วน ละลายกับน้ำร้อนเล็กน้อย อย่าใส่น้ำมาก แล้วเอาไปปั่น
กับน้ำแข็ง ปั่น ปั่น ปั่น ให้ละเอียดที่สุด




เทใส่ถ้วย โรยผลไม้อื่นๆลงไป เพิ่มความงาม และคุณค่าทางจิตใจ แบล๊กเบอร์รี่แช่แข็งที่ทุกท่านเห็น
รุ่นเดียวกับไอศครีมคราวที่แล้ว...ของเขาทนจริงๆฮ่ะ โชคดีที่ราไม่ขึ้น




นับ 1 - 10...ให้มันเย็นก่อนเซ่...จะรีบกินไปถึงไหน มะยงชิดเปรี้ยวๆหวานๆ เย็นชื่นใจ
ใส่เกล็ดน้ำแข็งหวานมันปั่นละเอียด..ร้อนแบบนี้..มันสุดยอสส
ปล. มะยงชิดกินพอประมาณนะคะ เพราะยางมันกัดปาก ... เราโดนมาแล้วค่ะ




 

Create Date : 15 มีนาคม 2551    
Last Update : 23 กันยายน 2552 21:59:13 น.
Counter : 5701 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

CandyBee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





สวัสดีทุกๆคนที่หลงคลิกเข้ามาในนี้นะคะ
ถึงวันนี้คงไม่มีอะไรจะบอกไปมากกว่า
คำว่า "ขอบคุณ" ทุกคนที่คลิกเข้ามาเยี่ยม
ที่มีคอมเม้นต์ไว้ เราก็แวะไปเยี่ยมเยียน
เปิดได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วแต่เน็ตรุ่นเต่า
ขาด้วนของที่บ้านเราจะอำนวย...
ทุกอย่างที่ทำลงบล๊อกนี้ ทำด้วยความตั้งใจ
อยากให้อาคันตุกะที่คลิกเข้ามาได้อ่าน
ได้เห็นแล้วรู้สึกสุขใจ ยิ้มบ้างขำบ้าง
เราคนทำ ก็มีความสุขแล้วค่ะ ขอขอบคุณ
ทุกท่านอีกครั้งที่ติดตามผลงานนะคะ



ภาพและข้อเขียนที่ปรากฏในเวปไซด์แห่งนี้เป็นของ
Candybee แต่ผู้เดียว ผลงานได้รับการคุ้มครองตาม
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้ามทำการแอบ
อ้างใช้ หรือดัดแปลง หรือกระทำการใดๆเพื่อก่อให้
เกิดความเสียหายแก่เจ้าของผลงานโดยมิได้รับอนุญาติ
จากเจ้าของที่เป็นลายลักษณ์อักษรโดยเด็ดขาด

Friends' blogs
[Add CandyBee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.