เอื้องกะเรกะร่อน (Cymbidium)
https://www.gotoknow.org/file/papangkorn/view/541413
กะเรกะร่อน Cymbidium aloifolium (L.) Sw.
ออกดอก มีนาคม-พฤษภาคม
ภาคเหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ, ตะวันออก, ตะวันตก, ใต้
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cymbidium aloifolium ( L.) Sw. EO
วงศ์ : Orchidaceae
สกุล : Cymbidium
ถิ่นกำเนิด : กล้วยไม้สกุล Cymbidium พบตั้งแต่ประเทศอินเดีย แถบเชิงเขาหิมาลัย
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ตอนเหนือของออสเตรเลีย
Cymbidium ราชาแห่งกล้วยไม้กลิ่นหอม (King of Fragrance) เป็นกล้วยไม้ที่มีใบเขียวชอุ่มตลอดปี
ได้รับการตั้งชื่อโดย Olof Swartz ในปี ค.ศ. 1799 มาจากภาษากรีก คำว่า คัมโบ (kumbos)
หมายถึง โพรง (hole) ตามลักษณะฐานของปาก (lip) หรือกลีบดอกล่าง
https://www.bansuanporpeang.com/node/571
กะเรกะร่อนจุหลันสายพันธุ์แฮมาโทดส์
(Cymbidium ensifolium ssp. haematodes)
กล้วยไม้สกุลนี้มีทั้งหมดประมาณ 44 ชนิด ประเทศไทยพบประมาณ 18 ชนิด ที่เห็นอยู่ทั่ว ๆ ไป ได้แก่
กะเรกะร่อน (Cymbidium finlaysonianum) เป็นพืชเขตร้อนในเอเชีย เช่น ทางเหนือของอินเดีย ญี่ปุ่น
มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาะบอร์เนียว (Borneo) รวมทั้งทางเหนือของออสเตรเลีย เติบโตได้ในที่มี
อุณหภูมิต่ำในพื้นที่สูง แม้จะเป็นพืชเมืองร้อนแต่ก็สามารถอยู่รอดได้ในอุณหภูมิหนาวเย็นต่ำกว่า
7 องศาเซลเซียส ปัจจุบันนิยมปลูกเป็นไม้ตัดดอก โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นระบบรากดิน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ราก มีทั้งระบบรากดินและรากกึ่งอากาศ ส่วนใหญ่หนาไม่ต่ำกว่า 5 มิลลิเมตร
ลำต้น มีลำต้นเทียม (sympodial) หรือมีลำลูกกล้วย (pseudobulb) ลำต้นสูงประมาณ 60 เซนติเมตร
บางชนิดอาจสูงได้ถึง 90 เซนติเมตร ลำลูกกล้วยมีกาบหุ้มอยู่ เจริญเติบโตโดยการแตกกอ มีลำต้น
เจริญทางด้านข้างลำลูกกล้วย
ใบ ใบแคบยาวตั้งขึ้น ปลายใบมน แข็งและหนา บางชนิดใบโค้งลง สีเขียว
ปลายแหลม และมีแนวหรือร่องกลางใบ
https://www.free-webboard.com/view.php?
กะเรกะร่อนปากเป็ดเผือก (Cymbidium aloifolium var.alba)
ดอก กลีบดอกมีทั้งสีขาว เขียว เหลืองปนเขียว สีครีม น้ำตาล ชมพู ไปจนถึงแดง ขาดแต่สีฟ้าและสีดำเท่านั้น
ที่ไม่มีการค้นพบ เมื่อออกดอกแล้วจะบานอยู่ประมาณ 10 สัปดาห์ กลีบเป็นมันคล้ายเคลือบด้วยขี้ผึ้ง
ดอกออกจำนวนมาก กลีบดอกชั้นนอกและกลีบดอกชั้นในมีขนาดใกล้เคียงกัน ปาก (lip) มี 3 แฉก
ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5–10 เซนติเมตร มักบานในฤดูหนาว ช่อหนึ่งมีประมาณ 15 ดอกขึ้นไป
กล้วยไม้สกุล Cymbidium นี้มีอยู่ด้วยกันประมาณ 44 ชนิด แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
- พวกที่ขึ้นเกาะอาศัยตามต้นไม้ กลุ่มนี้มีดอกขนาดเล็ก สีสันไม่ค่อยสะดุดตา ช่อดอกห้อยลง
ใบหนาและแข็ง ทนต่ออากาศร้อนได้ดี เพราะขึ้นอยู่ตามพื้นที่ราบสูงจากระดับน้ำทะเลไม่มากนัก
เช่น กะเรกะร่อน ซึ่งพบขึ้นเกาะตามต้นตาลแถบจังหวัดเพชรบุรี
- พวกที่ขึ้นอยู่ตามพื้นดิน กลุ่มนี้มีดอกขนาดใหญ่สะดุดตา ช่อดอกตั้งขึ้น ใบเรียวยาว
เนื้อใบบางกว่าพวกแรก ดูเหมือนใบตะไคร้ใบหญ้า ไม่ทนต่ออากาศร้อน ชอบอากาศเย็น เพราะขึ้นอยู่
ตามดอยสูง ฝรั่งนำเอาซิมบิเดียมกลุ่มนี้ไปผสมพันธุ์จนได้ลูกผสมสวยงาม ดอกใหญ่ จำนวนมาก
ใช้เป็นไม้ตัดดอกและปลูกดูดอก กลุ่มนี้เช่น เอื้องสำเภางาม ที่พบแถบภูหลวง ภูกระดึง เป็นต้น
https://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?
กะเรกะร่อนสำเภางาม (สำเภางาม) Cymbidium insigne Rolfe
พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ / ภาคเหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ
https://pohmie.exteen.com/20081006/cymbidium-super-freak
กะเรกะร่อนอินทนนท์ (เอื้องกำเบ้อ) Cymbidium tracyanum O'Brien
ออกดอก พฤศจิกายน-มกราคม / ภาคเหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ
กล้วยไม้พันธุ์กะเรกะร่อนอินทนนท์นี้ เป็นกล้วยไม้ที่มีลักษณะอิงอาศัย และเป็นกล้วยไม้ที่มีหัวแบบเผือก ใบ
ลักษณะของใบจะเป็นใบเรียง ยาว แหลม ใบก็จะออกจากโคนหัว ขนาดของใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร
และมีความยาวถึง 50–90 เซนติเมตร
ลักษณะของดอกกล้วยไม้พันธุ์กะเรกะร่อนอินทนนท์มีเสน่ห์จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือสีสัน
ดอกกะเรกะร่อนอินทนนท์ จะออกดอกเป็นช่อตั้ง และทอดเอียงไปตามแนวใบ มีดอกย่อยจำนวนมาก
กลีบดอกเป็นรูปแถบยาว ปลายกลีบแหลม กลีบเลี้ยงเป็นรูปเหมือนหอก และขอบกลีบบิดเป็นคลื่นเล็กน้อย
ส่วนขอบกลีบปาก ก็หยักเป็นคลื่นเช่นกัน และมีสีเหลืองอมเขียว มีจุดสีน้ำตาลเป็นจำนวนมาก
ขนาดความใหญ่โตของแต่ละดอกประมาณ 5–8 เซนติเมตร
https://www.gotoknow.org/posts/353562
กล้วยไม้พันธุ์นี้พบได้ตามป่าดิบเขาทั่วไป มักชอบแสงแดดรำไร ออกดอกในช่วงเดือน
พฤศจิกายน ถึง ต้นมกราคม และดอกที่ออกก็จะอยู่ทนนานมาก แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย
https://www.oknation.net/blog/print.php?id=121661
กะเรกะร่อนเขา หรือ กะเรกะร่อนปากแดง (Cymbidium dayanum Rchb. f.)
ออกดอก เมษายน - ภาคเหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ, ตะวันออก
https://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2006/10
กะเรกะร่อนปากเป็ด (Cymbidium simulans Rolfe)
ออกดอก มีนาคม-เมษายน
ภาคเหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ, ใต้
https://www.magnoliathailand.com/webboard/index.php?
กะเรกะร่อนปากนกแก้ว (Cymbidium lowianum Rchb. f.)
ออกดอก กุมภาพันธ์-มิถุนายน - ภาคเหนือ
https://beauty13orchids.skyrock.com/2364589249
กะเรกะร่อนแดง (Cym. dayanum)
ออกดอกกระจายได้ทั้งปีแต่ดกมากใน เดือนสิงหาคม
https://muangsiri.com/showdetail/30/73
กะเรกะร่อนตุ๊กตาร่อนเร่ (Cymbidium lancifolium Hook.)
ออกดอก พฤษภาคม
ภาคเหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ, ตะวันออก
https://muangsiri.com/showdetail/84/194/Phal.
กะเรกะร่อนด้ามข้าว (Cymbidium bicolor Lindl.)
ออกดอก เมษายน-พฤษภาคม
ภาคเหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ, ตะวันออก, ตะวันตก, ใต้
https://www.pskorchid.com/board/index.php?
กะเรกะร่อนจุหลันสายพันธุ์แฮมาโทดส์
(Cymbidium ensifolium ssp. haematodes)
หรือจุหลันพื้นเมืองอิสานเรานี่เอง เป็นสายพันธุ์ที่ทนร้อนจึงนิยมนำมาพัฒนา
สายพันธุ์ซิมบิเดียมทนร้อน
https://board.212คาเฟ่.com/view.php?user=pairin&id=1590
กะเรกะร่อนลูกผสมจุหลัน-กะเรกะร่อนปากเป็ด
อ้างอิง :
https://www.gotoknow.org/blog/palmseed/353562
ชื่อ และชนิดกล้วยไม้ ชื่อทางวิทยาศาสตร์
https://www.loveorchid.com/index.php?topic=22.0
https://cortun9.blogspot.com/2011/05/cymbidium-aloifolium
Just for you - GIOVANNI MARRADI
สนใจเรื่องกล้วยไม้อื่น ๆ ในบล็อกนี้ :
กล้วยไม้รองเท้านารี (Paphiopedilum) คลิกที่นี่
กล้วยไม้ ... รู้หน้าไม่รู้ใจ คลิกที่นี่
วานิลลา ... กล้วยไม้มหัศจรรย์ คลิกที่นี่
กล้วยไม้ช้างกระ คลิกที่นี่
กล้วยไม้ช้างกระ เราก็มี คลิกที่นี่
เอื้องผึ้ง (Dendrobium lindleyi) คลิกที่นี่
กล้วยไม้แคทลียา (Cattleya) คลิกที่นี่
ฟาแลนนอปซิส (Phalaenopsis) คลิกที่นี่
| Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2555 |
| Last Update : 9 มกราคม 2564 18:38:58 น. |
|
60 comments
|
| Counter : 55502 Pageviews. |
 |
|
..HappY BrightDaY.. 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 144 คน [
: Users Online
ชอบมาก ค่ะ ตระกูลกล้วยไม้ทั้งหลาย
ตอนนี้ก็พยามเลี้ยงอยู่ค่ะ