กันยายน 2557
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
28 กันยายน 2557

:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องเสือย้อมแมว ::



:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องเสือย้อมแมว ::



พี่ก๋าดูแตกต่างจากคนอื่นนะครับ
เห็นเค้าเน้นฐานะ เน้นความมั่นคงทางการเงิน เน้นหน้าที่การงาน
ถ้าเราไม่มีเงิน ก็ต้องหาเงินให้ตัวเองก่อน
พอมีมากพอแล้วจึงให้
หรือว่าควรแบ่งปันตั้งแต่ตอนยังไม่มี

พี่ก๋าไม่อยากเป็นคนพิเศษเหรอครับ
หรือพี่ก๋าอยากเป็นคนธรรมดา ๆ

ใครก็อยากดูดี
ใครก็อยากเป็นฮีโร่
อยากเป็นที่ยอมรับ
อยากได้ผลประโยชน์ของตัวเอง

ทุกคนสนใจแต่ตัวเอง
ขนาดเรายังไม่เข้าใจตัวเองเลย
แล้วจะเข้าใจคนอื่นได้อย่างไร


คำถามโดย : เสือย้อมแมว


















พี่ก๋าไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นเลยครับ
ยังเป็นปกติดี 555
อยากรวย อยากมีบ้านหลังโตๆ อยากมีรถคันโก้
มีเงินฝากในแบ๊งค์เป็นร้อยล้าน อยากส่งลูกเรียนเมืองนอก ฯลฯ

ยังอยากอยู่ครับ
เพียงแต่ยังไม่มี 5555

เพียงแต่สิ่งที่มีอยู่ตอนนี้
พี่ก๋าไม่ได้ฟูมฟายหรือรู้สึกว่าตัวเองมีน้อยแต่อย่างใด
ต้องถามก่อนว่าเราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร ?

ถ้าเทียบกับเจ้าสัวธนินทร์ เจ้าสัวเจริญ คุณตัน
คุณวิกรม หรือคุณทักษิณ ฯลฯ
ถ้าเทียบกับบุคคลเหล่านี้
พี่ก๋าก็จนโคตรจนเลยล่ะครับ 555

แต่ถ้าเทียบกับขอทานที่อินเดีย
เทียบกับเด็กที่ไม่มีอะไรกินในแอฟริกา
เทียบกับคนที่หาเช้ากินค่ำ ได้ค่าแรงไม่ถึงวันละ 300 บาท
แบบนี้พี่ก๋าต้องจัดว่าเป็นคนโคตรรวยเลย

คำถามคือเมื่อพูดถึง “การให้”
ต้องตัดคำว่ารวยจนออกไปให้หมดนะครับ

คำว่า “ให้”
อาจทำให้นึกถึงการมอบบางสิ่งบางอย่างของเราออกไปเท่านั้น
อันนี้มองแค่ในเชิงวัตถุ เงินทอง หรือสิ่งของที่จับต้องได้
แต่จริงๆแล้ว... “การให้ที่ดีที่สุด”
คือ การให้เพื่อฝึกฝนตนเองให้ลดทอน “ความเห็นแก่ตัว”

หลายคนชอบทำบุญทำทาน
แล้วหวังนู่นหวังนี่ กราบไหว้แล้วขอนั่นขอนี่
ซึ่งไม่ผิดนะครับ

บริจาคเงินทำบุญ 100 บาท
แต่ขอให้ถูกหวยร้อยล้าน
อันนี้ค้ากำไรเกินควรไปหน่อยไหม ? 555

การให้ที่ดี คือ การให้เพื่อลดละเลิกจิตใจที่คิดเอาเปรียบผู้อื่น
จิตที่คิดฉกฉวย เห็นแก่ตัว ซึ่งมีอยู่แล้วในตัวเราทุกคน
การให้จึงเป็นการ “ฝึกจิตใจ”
เหมือนการฝึกวิ่งน่ะครับ
ครั้งแรกใจมันไม่ค่อยอยากจะให้ มักจะหาเหตุมาอ้างว่า
ยังไม่รวยบ้าง ไม่มีเวลาบ้าง ฯลฯ
แต่จริงๆแล้วการทำบุญด้วยการให้มีมากมายหลายวิธี
และทุกวิธีให้ผลแบบเดียวกัน คือ เป็นการฝึกฝนจิตใจตนเอง
ให้รู้จักลดทอนความเห็นแก่ตัว

บุญสูงสุดจึงอยู่ตรงนี้
ไม่ได้อยู่ที่สร้างพระไปกี่วัด หรือบริจาคไปกี่ล้าน
ตั้งกองทุนเป็นหมื่นล้านเพื่อบอกว่าจะบริจาคเงินสร้างความดี
แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นเพียงเล่ห์กลทางกฎหมายเพื่อหลบเลี่ยงภาษีก็เป็นได้

การทำบุญทำทานจึงทำได้มากมายหลายวิธี
ช่วยคนแก่ข้ามถนน ช่วยครูถือสมุด ซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด
หรือบริจาคเงินช่วยเหลือบ้านเด็กกำพร้า ฯลฯ

อะไรก็ได้
ทำไปเถอะ
แต่ขอให้เป็นการทำบุญเพื่อลดทอนความเห็นแก่ตัว
ลดทอนความโลภในใจ ไม่ใช่ยิ่งทำยิ่งโลภ
ยิ่งให้ยิ่งหวังจะได้รับมากขึ้นๆ












ทุกวันนี้พี่ก๋าใช้ชีวิตธรรมดามากนะครับ
แต่ “วินัย” ที่มีในการใช้ชีวิต
ทำให้ทุกสิ่งไม่ธรรมดา
ความสม่ำเสมอที่มีกับสิ่งที่ทำ
ทำให้ทุกสิ่งที่พี่ก๋าทำเป็นความสุข ไม่ใช่ต้องทำด้วยภาวะจำยอม
การเลี้ยงลูก คือ ความสุข คือหน้าที่ ไม่ใช่ไม่มีทางเลือก
การทำงาน คือ การทำหน้าที่ คือการดำรงชีวิต
การทำบล็อก การเล่นเฟซ คือ การทำหน้าที่ คือการแบ่งปันแนวคิดดีดีออกไป
การเขียนบทกวีทุกวันคือหน้าที่ คือความสุข

หน้าที่ใดใดที่มี แล้วเราทำอย่างดีที่สุด
นั่นคือสิ่งธรรมดาที่วิเศษที่สุดแล้ว












“การยอมรับ” ต้องมาจากตัวเรา
ต้องเกิดจากการยอมรับตัวเองให้ได้ก่อน
ไม่ใช่การไปคาดหวังว่าคนอื่นจะชื่นชมเรา รักเรา
ศรัทธาเราด้วยวิธีการต่างๆ
เช่น ต้องรวยก่อนคนจึงจะนับถือ
ต้องเก่ง ต้องมีชื่อเสียง ต้องได้รับรางวัลเยอะๆคนจึงจะชื่นชม

วิธีคิดแบบนี้จะทำให้เราไม่มีความสุขในชีวิตนะครับ
เหมือนการวิ่งหนีเงาของตัวเองไปเรื่อยๆ
จะทำให้เราเหนื่อยและทำทุกอย่างเพราะคิดว่ามันเป็นภาระ
เป็นสิ่งที่ต้องฝืนใจทำแม้ไม่อยากทำก็ตามที


พี่ก๋าได้รับรางวัลจากบล็อกแกงค์มาทั้งหมด 16 รางวัล
แต่อย่าถามนะครับว่าได้รางวัลอะไรบ้าง
ไม่เคยจำเลยครับ พี่ก๋าจำแต่ว่านี่คือสิ่งดีดีที่คนอื่นชื่นชมเรา
เขามอบให้เพราะเขารักในงานของพี่ก๋า ไม่ได้รักในตัวตนของพี่ก๋า
วันนี้ได้รางวัลมา พรุ่งนี้พี่ก๋าก็วางมันลง
แล้วนั่งลงทำบล็อก เขียนงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจต่อไป
ถึงปีหน้าไม่ได้รางวัลอะไรเลยก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
พี่ก๋ายังคงมีความสุขกับการคิดและเขียนงานออกมาได้เรื่อยๆ
ไม่เคยเบื่อ ไม่เคยหมดข้อมูลในการเขียนเลยครับ












พี่ก๋าเพิ่งดูหนังเรื่องหนึ่งจบไป เป็นหนังเกี่ยวกับกังฟู
มีประโยคหนึ่งที่แม่สอนลูกชายที่อยากโด่งดัง ร่ำรวย
และต้องการประสบความสำเร็จสูงสุดว่า


“คนจะนอบน้อมเจ้ามีสองประเภท
แบบแรก คือ เขากลัวลูก
อย่างที่สอง คือ เขาศรัทธาลูก
กังฟูมีไว้เพื่อฝึกฝนตนเองให้แข็งแรง
จะได้ช่วยเหลือตนเอง
ปกป้องคนอื่นด้วยคุณธรรมและสู้เพื่อความถูกต้อง
ไม่ได้มีไว้ทำร้ายใครเพื่อให้เขากลัวเรา”











“ความสำเร็จ” ในชีวิตคนเรา
ต้องถามว่าวัดจากอะไร

วัดจากสิ่งที่
“มี”
หรือ จากสิ่งที่เราได้ “ให้” ไปกับคนอื่น

พี่ก๋าเชื่อในอย่างหลังครับ
แต่ต้องให้อย่างมีสติ
ไม่ต้องให้เยอะจนหมดตัว
หรือให้ไปมากมาย
แต่ลดทอนความเห็นแก่ตัวในใจลงไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ยิ่งให้ ยิ่งโลภ ยิ่งหวัง ยิ่งร้องขอ
แบบนี้เรากำลังเป็น “ขอทาน” ในคราบของ “ผู้ให้” ครับ

















ที่สุดแล้ว
จะเข้าใจตัวเองได้
บางทีไม่ใช่แค่มองเข้ามาหาตนเอง
อาจต้องให้คนอื่นมองดูเรา พูดถึงเราด้วยนะครับ
เวลาส่องกระจกตอนเช้าๆ
คิดว่าคงไม่มีใครบอกว่าตัวเองขี้เหร่ อ้วน น่าเกลียด
ถึงมันจะจริงอย่างนั้นก็คงไม่มีใครด่าตัวเองตลอดเวลานะครับ 555

คนอื่นมองดูเข้ามา อาจทำให้เรามองเห็นตัวตนที่ชัดเจนขึ้น
แต่สุดท้ายแล้วคนที่จะรู้จักตัวเองได้ดีที่สุด
ต้องเป็นตัวเรา
ต้องมองให้เห็นตัวเองอย่างชัดเจนที่สุด
รู้ดีรู้ชั่วในตัวเองให้มากที่สุด
เพื่อจะได้ฝึกฝนตนให้ดีขึ้นๆกว่าที่เป็น
เพื่อจะได้ทำหน้าที่ของตนอย่างสมบูรณ์
ไม่ว่า ณ ขณะนั้นจะเป็นใครหรือทำหน้าที่อะไร
ไม่ว่าจะมีน้อยหรือมากแค่ไหน
เราเป็น “ผู้ให้” ได้ครับ
แต่ต้องเริ่มต้น “ให้” ด้วยจิตใจของการเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง
และต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเอง





















Create Date : 28 กันยายน 2557
Last Update : 28 กันยายน 2557 6:03:56 น. 25 comments
Counter : 1152 Pageviews.  

 
ตอบได้ดีมากมีธรรมกำกับ


โดย: ธูปหอม IP: 110.77.210.88 วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:6:30:10 น.  

 




ไม่อยาก บอก แบบ เดิมๆ เลย ..

แต่ ..

ไม่มีคำอื่น .. นอกจาก ..


ถูกต้อง .. ถูกใจ ..



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



..



และ ..

สำหรับ ผู้ที่ชอบเขียน ..

ไม่ต้องมีรางวัล ..

แค่เห็นคน เข้ามา อ่าน ..


ก็ ลิงโลด เหลือจะกล่าว แล้ว ...











โดย: foreverlovemom วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:6:43:31 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณแม่




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:7:07:11 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blogหมวดเนื้อหาBlog ได้รับโหวตOpeyArt Blogดู BlogThe impressionFood Blogดู Blogกะว่าก๋าLiterature Blogดู Blogระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละ

วันนี้น้องก๋ามารายงานตัวหลังหลบไปชาร์ทแบต
มาเต็มสตรีม..
ไม่voteได้ไง


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:7:15:29 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Opey Art Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:9:03:45 น.  

 






เย้ ..








ขอบคุณ ครับ ..












โดย: foreverlovemom วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:9:21:17 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ถูกใจมาก ๆ ค่ะคุณก๋า
คนเราหากเทียบตัวเองกับคนรวยล้นฟ้า
ยังไงชาตินี้ก็ไม่มีวันพอค่ะ
แต่หากเราเทียบตัวเองกับผู้ที่ขาดแคลน
เราโชคดีกว่าพวกเค้าเยอะจริง ๆ ค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:9:44:34 น.  

 
เคยฟังธรรมะ "ผู้ให้โดยเจตนาดีย่อมมีความสุขกว่าผู้รับ"

ปล สวัสดียามก่อนเที่ยวครัล



โดย: อัสติสะ วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:10:52:44 น.  

 
อิอิ มาชวนคุณก๋าไปกินข้าวผัดกิมจิร้อน ๆ กันค่าาา


โดย: Close To Heaven วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:11:07:01 น.  

 
คนบะปอจะใดก่จ๋น


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:12:18:30 น.  

 
กะว่าก๋า Dharma Blog

ฟ้าโหวต ข้อคิดและธรรมะ ให้นะคะพี่ก๋า
การมองภาพตัวตนระหว่างเราและโลก
(ในมุมกว้าง)เพื่อเปรียบเทียบ
ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรที่เป็นความแน่นอนและชี้วัดได้ชัดเจน...
ทุกอย่างเริ่มต้นที่(ใจ)ตัวเอง

น้ออออ



โดย: กาบริเอล วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:12:49:53 น.  

 
สวัสดีค่า พี่ก๋า ^^
คำถามวันนี้คงโดนใจใครหลายๆคน
นุ่นก็คิดว่า มีเงินก็ดี
แต่ไม่ต้องมีมากเกินจนหาความสุขไม่ได้ก็น่าจะดีเหมือนกัน
บางทีเสาะแสวงหามากจนเหนื่อย
ชีวิตจะมีความสุขมั๊ยก็ไม่รู้
ยิ่งรวยมากยิ่งตระหนี่มาก เฮ่อ ไม่รู้เข้าใจถูกมั๊ยค่ะ
แต่นุ่นชอบแบบสบายๆมากกว่า

ขอบคุณสำหรับคำถามและคำตอบดีๆค่า



โดย: lovereason วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:14:08:10 น.  

 
การให้ โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่หวังสิ่งตอบแทน
น่าจะเป็นสุขใจมากกว่านะคะ
สิ่งที่พี่ชื่นชมคุณก๋าคือความเสมอต้นเสมอปลายในการเขียนบล็อก
จึงขอส่งกำลังใจมาพร้อมเม้นท์นี้ ขอให้มุ่งมั่นตั้งใจเขียนต่อไปค่ะ



โดย: เนินน้ำ วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:14:27:24 น.  

 
'การให้ เพื่อลดทอนความเห็นแก่ตัว' อันนี้โดนค่ะ
การให้ ถ้าหวังสิ่งตอบแทน คือการแลกรึป่าวคะพี่
'ขอทาน ในคราบของผู้ให้'
โอยๆ ชอบค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
haiku Art Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:14:28:45 น.  

 
อ่านแล้วชอบมากค่ะวันนี้
คนเราต้องยอมรับตัวเองให้ได้ก่อน


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: mambymam วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:18:28:17 น.  

 
จริงๆ ฮีโร่ก็มีหลายรูปแบบนะ อย่างมีผู้ร้ายวิ่งมาเรานั่งกินข้าวอยู่ เราจะเป็นฮีโร่แบบลุกขึ้นไปซัดผู้ร้ายลงไปนอนกับพื้น หรือแค่ยื่นขาออกไปแล้วให้คนร้ายสะดุดล้ม แบบนั้นเราก็เป็นฮีโร่เหมือนกัน สองเหตุการณ์นี้เหมือนกันคือเป็นฮีโร่ แต่ต่างกันที่ีการกระทำ

ใครๆ ก็อยากรวย แต่ที่อยากที่สุดคงจะเป็นใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายมากกว่า

ถ้าโหวตแบบเดิมพี่ก๋าจะได้สายสะพายเยอะมาก คุ้นๆ ว่ามีปีนึงพี่ก๋าได้ 5 เส้นเลยมั้ง แบบนี้เลย (แต่อันนี้แค่ 3)



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:18:42:23 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

อ.เต๊ะ อ่านเม้นท์ของเพื่อนบ้านคุณป้าโอ ที่ว่า

การให้ โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่หวังสิ่งตอบแทน
น่าจะเป็นสุขใจ แล้ว

อ.เต๊ะขอเถียงคอเป็นเอ็นเลยนะครับ

เพราะ การให้ต้องมีเงื่อนไขนะครับ

อ.เต๊ะให้คนยืมสตางค์ แบบไม่มีเงื่อนไข ไม่มีสัญญาทีไร โดนเบี้ยวประจำ แล้วโดนบ่อยเลยครับนี่

ไอ้เราก็สงสาร แต่บ่อยๆก้ไม่ไหวเหมือนกันนะครับ

แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อ คุณป้าโอออกตัวซะขนาดนี้
เดี๋ยว อ.เต๊ะ ไปขอยืมสตางค์คุณป้าโอแบบไม่มีเงื่อนไขมั่งดีฝ่า ได้ข่าวว่าช่วงนี้กำลังทำขนมขาย รวยอู้ฟู่อยู่เลย 555



โดย: multiple วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:19:45:10 น.  

 
พูดถึงบริจาค 100 ขอหวยล้านนึงนี่ ถ้าเทวดามีจริงคงขาดดุลแย่เลยนะครับ ให้ลาภเป็นล้านๆ ได้แค่หัวหมูบ้าง รำแก้บนบ้าง
พี่ก๋ามีชีวิตครอบครัวมีฐานะมั่นคงแล้ว ไม่ได้แปลกไปจากมนุษมนาแบบที่คุณเสือตั้งข้อสังเกตไว้นะครับ ถึงจะไม่ได้รวยล้านฟ้า แต่ผมว่าคนที่มีพอที่จะผ่านความต้องการขั้นพื้นฐานไปแล้ว จะเลือกอะไรเป็นเป้าหมายต่อไปก็แล้วแต่คนๆนั้นเอง
ถ้าตามห้าขั้นความต้องการแบบมาตรฐานก็ตามมาสโลว์เลยครับ เมื่อคนมีปัจจัยสี่ครบถ้วนก็จะมองหาความปลอดภัย เมื่อมีความมั่นคงปลอดภัยแล้วก็จะอยากเป็นที่รัก เมื่อเป็นที่รักแล้วก็ต้องการมีความภาคภูมิใจในตนเอง เมื่อมีความภาคภูมิใจในตนเองแล้วก็จะแสวงหาความสมบูรณ์ของชีวิต

ถ้าครั้งหน้าบล็อกแกงค์เปลี่ยนสายสะพายเป็นเข็มขัดแชมปก็ดีนะครับ สะพายกันมันส์แบบนักมวยปล้ำเลย (ขำรูปคุณต่อ)


โดย: ชีริว วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:20:12:29 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ก๋า ^^

ถ้าเราไม่มีเงิน ก็ต้องหาเงินให้ตัวเองก่อน
พอมีมากพอแล้วจึงให้ --> โดนสุด ๆ ค่ะ

=======================

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ALDI Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog


โดย: ปรัซซี่ วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:20:58:36 น.  

 

ตอบดีมากถูกใจมากค่ะน้องก๋า โหวตให้เลยค่ะ

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:21:22:46 น.  

 
สวัสดีครับน้องก๋า ไม่ได้แวะมาหลายวันช่วงนี้เวลาเข้าบล็อกมีน้อยน่ะครับ วันนี้คนน้อยพอมีเวลาเลยออกมาเที่ยวนะครับ 555++ ^^

คนถาม ถามได้ดี แต่คนตอบก็ตอบได้ดีและแจ่มแจ้งนะครับ

การเขียนบล็อกมีข้อดีจริงๆ

อย่างแรกก็คือแบ่งปันความคิดดีๆของเราออกไป

อีกส่วนนึงก็คือทำให้เราเข้าใจตัวเองได้แจ่มชัดขึ้น

อาชีพของผมอยู่กับการให้นะครับ บางทีก็ให้จนไม่เห็นคุณค่าของมัน เพราะว่ามันคืองานประจำที่ทำทุกวัน

แต่เมื่อมองย้อนไปอย่างละเอียดกับพบว่า สิ่งที่แฝงในการให้
นั้นสำคัญกว่างานที่ทำอยู่ ผมจะเลือกทำงานในช่องปากที่
สำคัญกับคนไข้คนนั้นก่อนเสมอ แม้ว่าจะยากเพียงใดก็ตาม
ผลก็คือผมใช้เวลามากกว่าหมอคนอื่น เป็นอย่างนี้ทุกวันตลอดช่วงเวลาในชีวิตการทำงาน

สิ่งที่แฝงอยู่มีสองส่วนก็คือความภูมิใจในตัวเอง และ การฝึกมีความเมตตาต่อคนไข้ นับวันก็ยิ่งมากขึ้น กิเลสพวกตัวขึ้เกียจมันไม่ค่อยอยากจะยุ่งเวลาผมทำงานนะครับ 555++

คนที่ไม่เคยให้ใครย่อมไม่ทราบว่าความสุขเช่นนี้เป็นอย่างไรนะครับ แม้ว่าจะทำงานที่เดียวกันคนไข้กลุ่มเดียวกัน แต่
ก็ใช้ชีวิตในอาชีพคนละแบบเลยก็ว่าได้

การเป็น ทพ.ในรพ.ของรัฐ ถ้าเทียบกับเพื่อนๆที่ทำคลีนิกแล้วรวยมากๆหรืออ.มหาลัยที่มีชื่อเสียงเทียบเขาไม่ได้เลยนะครับ

จากการเขียนเรื่องราวในบล็อกบ่อยๆเกี่ยวกับชีวิต
ถึงจะไม่รวย ไม่มีชื่อเสียง แต่การที่ได้ทำงานที่ดี
มีประโยชน์กับคนไข้ด้วยความอดทนมุ่งมั่นทำให้ดีที่สุด
กลับมีค่ามากกว่าเงินทองหรือชื่อเสียงด้วยซ้ำไป

การที่เรามีครอบครัวที่อบอุ่น ที่มีความรักให้กันและกัน
แม้ไม่มีเงินทองมากมาย ก็เหมือนว่าเราไม่ได้ขาดอะไร
ไปเลยในชีวิต นี่คือสิ่งที่ผมสรุปจากการเขียนเรื่องในบล็อกนะครับ ^^

โหวตธรรมะให้น้องก๋าด้วยครับ

พรุ่งนี้บ่ายๆผมจะปิดเม๊นท์อีกแล้วหล่ะครับ ^^


โดย: วนารักษ์ วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:21:49:50 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องก๋า มาทักทายก่อนนะคะ ไว้พี่กิ่งเข้ามาอ่านค่ะ วันนี้เพิ่งกลับจากแพร่เหนื่อยและเพลียมากเลยค่ะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:22:15:18 น.  

 
ทำอะไรแล้วสุขใจ ก็เพียงพอแล้วครับ
ฝันดีครับ คุณก๋า


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 29 กันยายน 2557 เวลา:0:00:02 น.  

 
ทำอะไรแล้วสุขใจ ไม่เบียดเบียนใคร (แม้แต่ตัวเอง) ทำไปเถิด


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 29 กันยายน 2557 เวลา:5:21:55 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog

อ่านทีไร ต้องนำมาคิดทบทวนทุกที น่าคิดจริง ๆ น่าทำตามด้วยค่ะ


โดย: Maeboon วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:20:47:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]