Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
 
24 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

โรคอ้วน ใจเข้ม จิตแข็ง หุ่นสวยได้



เมื่อเรารู้สาเหตุของโรคความอ้วนว่าเกิดจากอะไรได้บาง ทีนี้หาทางป้องกันก่อนดีกว่ารักษา
เพราะการป้องกันจะทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีไปในตัว อีกทั้งไม่ต้องไปนั่งช้ำใจว่าเป็นเคยอ้วนมาแล้ว

หลักการป้องกัน
1.ไม่ตามใจปาก เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องตายเป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องอ้วนก็รับไม่ได้
รับไม่ได้ก็ต้องฝืนความรู้สึกกินไร้ระเบียบ กินให้สมดุลกับพลังงานที่ใช้ออกไป จะเป็นตุ่มสามโคกไปโดยพลัน
หรือเป็นขวดน้ำชาเขียวก็ตรองกันดู สำคัญ ลด ละ เลิก เหล้า บุหรี่ ทั้งเข้าและไม่เข้าพรรษาไปเลย

2.ถ้าอ้วนเพราะป่วย จากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น
ต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ โรคบางอย่างที่ส่งผลให้อ้วน ก็ทำการรักษาอย่างตั้งใจ

3.อ้วนเพราะกรรมพันธุ์ อาจจะป้องกันยากสักหน่อย แต่ก็ต้องคุมการกิน ไม่ให้อ้วนใหญ่โตเป็นตึก

4.ควรออกกำลังกาย ไม่ใช่ออกเหยาะๆ แหยะๆ ต้องออกอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอด้วย

5.ควบคุมจิตใจและอารมณ์ เมื่อรู้ว่าจิตอ่อนแอต่อกิเลสยั่วยุ ก็ต้องฝึกจิต
อาจฝึกสมาธิ ฝึกจิต ปรึกษานักจิตวิทยา นักสะกดจิต คุมปากได้ ก็คุมน้ำหนักได้

6.ผู้หญิงอ้วนง่ายกว่าผู้ชาย ก็ควรระวังจุดอ่อนตรงนี้
ควบคุมตัวเองไว้ก่อนตั้งแต่วัยสาวสะพรั่ง จะได้ไม่แผละเมื่อเลยวัยสาว

7.อายุ มากขึ้นต้องระวัง อายุแม้จะเป็นเพียงตัวเลข แต่เลย 30 ยังแจ๋ว
อาหารของโรคอ้วนจะวิ่งมาหาง่ายกว่าง่าย จะได้เข้าสู่วัยทองคำแท้ ไม่ใช่ทองคำเทียม


เทคนิคคุมอาหาร
ควรลดอาหารลง เลือกชนิดให้เหมาะสมเช่น ผู้หญิงอายุ 20 – 29 ปี ทำงานนั่งโต๊ะ จะต้องการพลังงานวันละ
ประมาณ 1,400–1,800 กิโลแคลอรี หากมากกว่านี้ ก็จะเหลือสะสมไว้ในร่างกาย
ถ้ากินลดลง ร่างกายก็จะดึงไขมันที่สะสมไว้มาใช้ ปกติการลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ต้องเผาผลาญพลังงาน
7,700 กิโลแคลอรี หากลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัมใน 10 วัน จะต้องลดพลังงานให้เหลือ 1,000
กิโลแคลอรี/วัน การลดน้ำหนักไม่ใช่ทำเร็วทันใจ เช่น
ลด 1 กก.ใน 2 วันได้ หากลดเร็วขนาดนี้ไม่ใช่ไขมันหายไป หากเป็นการเสียน้ำไป
พอดื่มน้ำเข้าไปใหม่ก็จะหนักเท่าเดิม
การคุมน้ำหนักต้องค่อยเป็นค่อยไป อดเลยก็ไม่ได้ เพราะอดอาหาร 1–2 วัน ก็จะหิวมากขึ้น
พอหมดความอดทนก็ยิ่งกินมากกว่าเดิม ที่ถูก คือ กินวันละ 3 มื้อ แต่เป็นมื้อเล็กๆ


เมื่ออ้วนควรทำอย่างไร ?
1. ควบคุมอาหาร (Diet)
2. ออกกำลังกาย (Exercise)
3. ปรับนิสัยให้เหมาะสม (Behavior modification)

ข้อที่ 3 ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะจากการทดลองแบ่งคนไข้ออกเป็น 2 กลุ่ม ในระหว่างคอร์ส ลดน้ำหนัก
ให้คุมอาหาร ร่วมกับการออกกำลังกาย ทั้ง 2 กลุ่ม แต่อีกกลุ่มหนึ่งเพิ่มการปรับพฤติกรรมด้วย พบว่า
เมื่อจบการทดลอง 2 เดือน สามารถลดน้ำหนักได้เท่าๆ กันในคนไข้ทั้ง 2 กลุ่ม
แต่หลังจากติดตามการรักษา 6 เดือน พบว่า กลุ่มที่ไม่เปลี่ยนนิสัย จะกลับมาเป็นโรคอ้วนอีกมากกว่า 80%

แหล่งข้อมูล : นิตยสาร Alternative Medicine




 

Create Date : 24 มีนาคม 2552
0 comments
Last Update : 24 มีนาคม 2552 14:37:34 น.
Counter : 742 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.