กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
 

กรีนพีซถล่มมะละกอหน้ากระทรวงเกษตรฯ รุก รมต.เกษตรฯ หยุดล้มมติ ครม. ห้ามทดลองพืชจีเอ็มโอ

English Text is After Thai


คำบรรยายรูป: นักกิจกรรมกรีนพีซประท้วงหน้าประตูหลักของกระทรวงเกษตรฯ ในขณะที่รถบรรทุกถล่มมะละกอขวางทางเข้า กิจกรรมนี้ทำเพื่อเตือนรัฐบาลเกี่ยวกับการปนเปื้อนจีเอ็มโอครั้งสำคัญที่มีสาเหตุจากการโฆษณาชวนเชื่ออย่างผิดกฎหมายของมะละกอจีเอ็มโอในขอนแก่นในปี 2547 กรีนพีซเรียกร้องให้ครม. ไม่ยกเลิกมติที่ห้ามการทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอในไร่นาเปิด

.................................................


กรุงเทพฯ, 27 สิงหาคม 2550- วันนี้กลุ่มอาสาสมัครกรีนพีซถล่มมะละกอจำนวน 3 คันรถบรรทุก ประมาณ 9 ตัน ถมหน้าประตูทางเข้าออกของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อย้ำเตือนถึงคดีมะละกอปนเปื้อนจีเอ็มโอ ที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อปี 2547 ซึ่งยังคงค้างคาอยู่ พร้อมเรียกร้องไม่ให้คณะรัฐมนตรียกเลิกมติครม. ห้ามทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอทุกชนิดในระดับไร่นา


“ที่กรีนพีซเอามะละกอมากองขวางที่หน้าประตูกระทรวงเกษตรฯ ในวันนี้ เพื่อเตือนรัฐมนตรีธีระ สูตะบุตร ในกรณีที่ยังพยายามที่จะทำลายอนาคตของเกษตรกรไทย เพียงเพื่อจะสนับสนุนกลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่มที่คอยผลักดันพืชจีเอ็มโอ และบริษัทธุรกิจเคมีเกษตรเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้น” นางสาวณัฐวิภา อิ้วสกุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพันธุวิศวกรรม (จีเอ็มโอ) กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว



“ความพยายามผลักดันให้ยกเลิกมติครม.ให้มีการปลูกพืชจีเอ็มโอของรัฐมนตรีธีระ สูตะบุตรนั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากระทรวงเกษตรฯไม่ได้ใส่ใจในอนาคตของผลิตผลทางการเกษตรของประเทศที่ต้องพึ่งพาตลาดส่งออกเป็นหลัก ซึ่งตลาดเหล่านี้ไม่ต้องการผลผลิตที่ปนเปื้อนจีเอ็มโอ ก่อนที่เขาจะเปิดทางให้พืชจีเอ็มโอเข้ามายึดครองพื้นที่ในประเทศ เราขอให้เขาสะสางเรื่องเก่าที่ทางกระทรวงฯ เคยก่อไว้เมื่อครั้งที่มีการทดลองปลูกมะละกอจีเอ็มโออย่างผิดกฏหมายที่จังหวัดขอนแก่น” ณัฐวิภากล่าวเสริม


ในเดือนกรกฎาคมปี 2547 กรีนพีซเปิดโปงกระทรวงเกษตรฯ ว่าเป็นสาเหตุทำให้มะละกอไทยปนเปื้อนจีเอ็มโอ โดยมีการทดลองปลูกมะละกอจีเอ็มโอที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 3 ส่วนแยกพืชสวน จ.ขอนแก่น และปล่อยให้มีการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์มะละกอที่ปนเปื้อนจีเอ็มโอให้กับเกษตรกรไทยกว่า 2,669 ราย ใน 37 จังหวัดทั่วประเทศ เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กระทรวงเกษตรฯ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการควบคุมการแพร่กระจายของพืชจีเอ็มโอ สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรไทย การปนเปื้อนที่ผิดกฎหมายและไม่พึงประสงค์นี้เป็นเหตุให้ตลาดโลกโดยเฉพาะในยุโรปขาดความเชื่อมั่นต่อการส่งออกมะละกอไทย


หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้กระทรวงเกษตรฯ จำต้องทำลายต้นมะละกอในสถานีทดลองที่จังหวัดขอนแก่น แต่เมื่อกรีนพีซสุ่มเก็บตัวอย่างมะละกอในแปลงเกษตร เมื่อปี 2548 ปรากฎว่ายังพบมะละกอจีเอ็มโอในแปลงเกษตรใน 5 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ มหาสารคาม และระยอง กรีนพีซจึงฟ้องกรมวิชาการเกษตรต่อศาลปกครอง ด้วยเหตุที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้เกิดการปนเปื้อนจีเอ็มโอในมะละกอดังกล่าว


“แทนที่กระทรวงเกษตรฯ จะจดจำบทเรียนจากการแพร่กระจายของมะละกอปนเปื้อนจีเอ็มโอในสถานีทดลองที่จังหวัดขอนแก่น ที่เกิดจากการไร้ความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร แต่กระทรวงฯ ยังดื้อรั้นที่จะเดินหน้าผลักดันให้มีการยกเลิกมติครม. ห้ามทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอ และเตรียมนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในวันพรุ่งนี้ กรีนพีซจึงต้องมาที่นี่เพื่อหยุดการกระทำดังกล่าว และเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมรวมทั้งภาคเกษตรกรรมของไทยให้รอดพ้นจากแผนการอันชั่วร้ายของกลุ่มผลประโยชน์เหล่านี้” ณัฐวิภา กล่าวย้ำ


กรีนพีซรณรงค์เพื่อต่อต้านพืชจีเอ็มโอรวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมของพืชจีเอ็มโอทั้งหมด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญบนหลักการของความยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าและปลอดภัย การตัดต่อพันธุกรรมเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยและไม่เป็นที่ต้องการของสังคมโลกอีกทั้งยังทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างความเสี่ยงให้กับผู้บริโภค


...........


CAPTION OF THE PIC ABOVE: 27th August 2007 - BANGKOK, THAILAND Greenpeace activists protest outside the main gates of the Ministry of Agriculture and Cooperatives (MoAC) in Bangkok whilst a truck dumps papayas blocking the entrance. The action is to remind the government of the legacy of genetic contamination that exists brought about by its illegal propagation of GM papayas in Khon Kaen province in 2004. The activists are demanding that the existing ban on field trials of genetically modified crops should not be repealed by the Cabinet.©Greenpeace/Vinai Dithajohn



Greenpeace blocks Agriculture Ministry Gates

Activists demand that Sutabutra desist from nixing ban on GM crop trials


Bangkok, 27 August 2007- Greenpeace activists dumped truckloads of papayas at the main gates of the Ministry of Agriculture and Cooperatives (MoAC) in Bangkok today, to remind the government of the legacy of genetic contamination that exists brought about by its illegal propagation of GM papayas in Khon Kaen province in 2004. The activists are demanding that the existing ban on field trials of genetically modified crops should not be repealed by the Cabinet.

“We are forced to block the gates of MoAC because Minister Thira Sutabutra, seems to be hell-bent on destroying the livelihood of Thai farmers only to serve the interests of GMO pushers which include a few agro-chemical corporations.” said Natwipha Ewasakul, Genetic Engineering campaigner for Greenpeace Southeast Asia.”

“His continuing push to repeal the ban on GM crop trials betrays his lack of concern for the future of Thai agricultural production which relies strongly on export markets favoring untainted farm produce. Before he opens the floodgates that would allow more genetic contamination to take place, we dare him to first clean up the mess that his department left behind with their unwanted and illegal GM papaya experiments in Khon Kaen province.” she added.


In July 2004, Greenpeace exposed the role of a MoAC-run experimental station in Khon Kaen as the source of genetic contamination of Thai papayas. The station distributed GE contaminated papaya seeds to as many as 2,669 farmers in 37 provinces. The MoAC has so far failed to act to comprehensively rid Thai papaya farms of this widespread GE contamination. Due to the uncertainty caused by this unwanted and illegal contamination, market confidence on Thai papaya exports especially in Europe faltered.


Following an outcry, MoAC was forced to order the destruction of papaya trees in Khon Kaen research station’s field trials but Greenpeace found GE papaya in 5 provinces, Kampaengpetch, Kalasin, Chaiyaphoom, Mahasarakham and Rayong and filed a case at the Administrative Court against the Department of Agriculture for dereliction of duty in dealing with the said cases of contamination.


“Instead of learning a lesson from this widespread and unwanted contamination of papaya brought about by the Department of Agriculture’s irresponsible acts, the Minister is still planning to go ahead and present a resolution to repeal the ban on field trials of GM crops at a cabinet meeting tomorrow. We are here to stop and remind him that his mandate is to save our country’s agriculture and environment from the evil designs of vested interests.“ Natwipha added.


Greenpeace campaigns for GM free crop and food production that is grounded on the principles of sustainability, protection of biodiversity and provision of safe and nutritious food to all. Genetic engineering is an unnecessary and unwanted technology that contaminates the environment, threatens biodiversity and poses unacceptable risks to health.

.................................................


พันธกิจของกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

"เรามุ่งมั่นที่จะปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อม

เปิดโปงและหยุดยั้งอาชญากรรมต่อสิ่งแวดล้อม

พร้อมกับเร่งรัดการพัฒนาที่สะอาด


ด้วยวิธีเปิดเผย สร้างสรรค์ บนพื้นฐานของสันติวิธี"


Greenpeace Southeast Asia's Mission Statement

"Safeguard environmental rights,

Expose and stop environmental crimes,

Advance clean development. "


กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Greenpeace Southeast Asia : //www.greenpeace.or.th




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2550   
Last Update : 28 สิงหาคม 2550 18:00:20 น.   
Counter : 1510 Pageviews.  


อาเซียนตื่นโรงไฟฟ้าปรมาณู..กรีนพีซออกโรง

พลังงานนิวเคลียร์

ข้อเสียที่กรีนพีซกล่าวถึง

1. ราคาแพง
2. อันตราย
2.1 เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเสี่ยงเพราะเกิดภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินไหวบ่อย เสี่ยงต่อการรั่วไหลของนิวเคลียร์
2.2 ยังขาดความรู้เรื่องกลไลและการควบคุมดูแล


วิธีการแก้ปัญหาที่กรีนพีซเสนอ

- ใช้พลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Renewable Energies) เพื่อป้องกันการขาดแคลนพลังงานระยะยาว

ข้อดีที่รัฐบาลไทยกล่าวถึง

1. พลังงานนิวเคลียร์ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพ
2. มีผลประโยชน์ที่คุ้มกับต้นทุน
3. ไม่ปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์
4. รัฐบาลขอเวลา 7 ปี จากปี 2550 เพื่อพัฒนามาตรฐานความปลอดภัย จัดตั้งโครงสร้างการควบคุม และ ฝึกฝนบุคลากรที่จำเป็น จากนั้นต้องใช้เวลาอีกกว่า 6 ปี เพื่อพัฒนาโครงการจนเสร็จสมบูรณ์

------------


ผู้จัดการรายวัน(23 ส.ค. 50) -- ประเด็นความปลอดภัยในการใช้พลังงานนิวเคลียร์จะเป็นหัวข้อสำคัญในการหารือกันระหว่างรัฐมนตรีพลังงานของกลุ่มอาเซียนในวันพฤหัสบดีนี้ (23 ส.ค.) ที่สิงคโปร์ ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์สภาพแวดล่อมกรีนพีซ (Greenpeace) ตั้งป้อมประท้วงหัวชนฝา


หลายชาติเห็นว่านิวเคลียร์จะกลายเป็นหนึ่งในพลังงานทางเลือกในขณะที่น้ำมันราคาแพงอย่างต่อเนื่อง รัฐมนตรีของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน (ASEAN) 10 ประเทศจะประชุม 1 วัน โดยเริ่มจากการหารือกันภายในกลุ่มก่อน จากนั้นจึงประชุมปรึกษากับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

รัฐมนตรีพลังงานจากออสเตรเลีย อินเดีย และนิวซีแลนด์จะเข้าร่วมประชุมในวันศุกร์ (24 ส.ค.) ทางการสิงคโปร์กล่าวเมื่อวันพุธ


แหล่งข่าวทางการฑูตกล่าวว่า การประชุมจะพุ่งไปที่ความปลอดภัยของพลังงานนิวเคลียร์ หลังจากหลายประเทศอาเซียนเริ่มวางแผนสร้างโรงงานนิวเคลียร์ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มีมากขึ้น และเพื่อลดการพึ่งพาอาศัยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย ได้ประกาศแผนการนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ แต่นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมกล่าวเตือนถึงความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญ เนื่องจากประเทศในภูมิภาคนี้ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งปัญหาการจัดการของเสียจากนิวเคลียร์ด้วย


เวียดนามซึ่งมีเศรษฐกิจเติบโตเร็วและขาดแคลนไฟฟ้าอย่างหนัก กำลังพิจารณาก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำนวน 2 แห่ง ขณะที่รัสเซียกำลังจะช่วยพม่าสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการวิจัย


"สิ่งที่เราต้องการสื่อให้รัฐมนตรีพลังงานได้ทราบก็คือ พวกเขาควรเลิกคิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ไปได้แล้ว" นานนูร์ หิยาดาตี (Nur Hidayati) นักรณรงค์ด้านพลังงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกรีนพีซกล่าว

เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวว่าแทนที่จะเสียเวลากับเรื่องเทคโนโลยีราคาแพงและมีอันตราย อาเซียนควรหันมาศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้พลังงานที่นำกลับมาใช้ได้อีก เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนในระยะยาว

เจ้าหน้าที่กรีนพีซกล่าวอีกว่า การสร้างโรงงานนิวเคลียร์มีความเสี่ยงมาก เนื่องจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเขตที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด และรัฐบาลยังไม่มีแผนการรับมือกับการรั่วไหล


"ประเด็นด้านความปลอดภัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวเนื่องอย่างมากกับการทำงานของกลไกและการควบคุมดูแลด้วย ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังขาดความรู้ความเข้าใจอยู่มาก" นายหิยาดาตี กล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลกล่าวว่า การใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นสิ่งจำเป็นในการกระจายสัดส่วนพลังงาน ลดความผันผวนของราคาน้ำมัน และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงานของไทย กล่าวในเวทีอภิปรายด้านธุรกิจน้ำมันแห่งภูมิภาคอาเซียนเมื่อวันพุธ (22 ส.ค.) ว่า ประเทศไทยมีแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 4,000 เมกะวัตต์ ภายในปี พ.ศ.2563

การตัดสินใจดังกล่าวรวมถึงแผนการพัฒนาระยะยาว เนื่องจากพลังงานนิวเคลียร์ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพ มีผลประโยชน์ที่คุ้มกับต้นทุน และไม่ปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์

ความกังวลเกี่ยวกับอันตรายนั้น นายคุรุจิต กล่าวว่ารัฐบาลขอเวลา 7 ปี จากปี 2550 เพื่อพัฒนามาตรฐานความปลอดภัย จัดตั้งโครงสร้างการควบคุม และ ฝึกฝนบุคลากรที่จำเป็น จากนั้นต้องใช้เวลาอีกกว่า 6 ปี เพื่อพัฒนาโครงการจนเสร็จสมบูรณ์

---


กรีนพีซทำงานเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสันติภาพ สนุบสนุนเราได้
ที่//www.greenpeace.or.th/




 

Create Date : 24 สิงหาคม 2550   
Last Update : 24 สิงหาคม 2550 18:34:30 น.   
Counter : 990 Pageviews.  


กรีนพีซจี้รัฐ เลิกคิดล้มมติ ครม. พืชจีเอ็มโอ



อาสาสมัครกรีนพีซบุกกระทรวงเกษตรฯ ประท้วงการทดลองจีเอ็มโอในไร่นาเปิด ด้วยสัญลักษณ์ดวงตาสื่อว่ากำลังจับตามองทุกย่างก้าว
Greenpeace headed to Ministry of Agriculture and Coorperative (MoAC) to protest GMOs' open filed trials using eyeballs saying they are watching every step.

-----ENGLISH TEXT IS AFTER THAI-----


Bangkok, ประเทศไทย — กรีนพีซบุกกระทรวงเกษตรฯ ยับยั้งการล้มมติ ครม. ที่ห้ามทดลองพืชจีเอ็มโอทุกชนิดในระดับไร่นา และเรียกร้องให้กระทรวงคำนึงถึงผลกระทบอันร้ายแรงที่เกิดจากการปนเปื้อนจีเอ็มโอหากรัฐบาลอนุมัติให้มีการทดลอง
วันนี้ กลุ่มกรีนพีซเข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อยับยั้งความพยายามในการล้มเลิกมติ ครม. วันที่ 3 เมษายน 2544 ที่ห้ามทดลองพืชจีเอ็มโอทุกชนิดในระดับไร่นา โดยมีอาสาสมัครกรีนพีซจำนวน 20 คน พร้อมด้วยสัญลักษณ์ “ลูกตา” ถือป้ายข้อความ “อย่านึกว่าคนไทยไม่เห็น -หยุดคิด หยุดทดลองจีเอ็มโอ”

น.ส.ณัฐวิภา อิ้วสกุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพันธุวิศวกรรม (จีเอ็มโอ) กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เแถลงว่า “เรายังคงเฝ้าจับตามองทั้งความคิดและการกระทำของกระทรวงเกษตรฯ ต่อนโยบายเกี่ยวกับพืชจีเอ็มโอ การที่กระทรวงเกษตรดื้อรั้นที่จะผลักดันให้มีการทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอในระดับไร่นานั้นเหมือนเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มบริษัทเคมีเกษตรข้ามชาติ อันจะนำไปสู่ความสูญเสียทางด้านสิ่งแวดล้อมและภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย นอกจากนี้จำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่ากระทรวงเกษตรฯ จะไม่โยนอนาคตของเกษตรกรรมไทยทิ้งไป”




เดือนกรกฎาคม 2547 กรีนพีซเปิดโปงกระทรวงเกษตรฯ ว่าเป็นสาเหตุทำให้มะละกอไทยปนเปื้อนจีเอ็มโอ โดยมีการทดลองปลูกมะละกอจีเอ็มโอที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 3 ส่วนแยกพืชสวน จ.ขอนแก่น และปล่อยให้มีการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์มะละกอที่ปนเปื้อนจีเอ็มโอให้กับเกษตรกรไทยกว่า 2,669 ราย ใน 37 จังหวัดทั่วประเทศ เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กระทรวงเกษตรฯ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการควบคุมการแพร่กระจายของพืชจีเอ็มโอ สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรไทย การปนเปื้อนที่ผิดกฎหมายและไม่พึงประสงค์นี้เป็นเหตุให้ตลาดโลกโดยเฉพาะในยุโรปขาดความเชื่อมั่นต่อการส่งออกมะละกอไทย

“จากประสบการณ์ที่กระทรวงเกษตรฯ ได้รับในเรื่องมะละกอจีเอ็มโอน่าจะเป็นบทเรียนสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าการปนเปื้อนจีเอ็มโอเป็นสิ่งที่ยากจะจัดการ ทันทีที่พืชจีเอ็มโอถูกปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมซึ่งมักจะเป็นในพื้นที่เปิด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกทุกอย่างให้กลับคืนมาเหมือนเดิม”

ในปี 2548 และ 2549 พบว่า “ข้าว” ผลผลิตหลักของโลกมีการปนเปื้อนจีเอ็มโอ ซึ่งยังไม่ได้รับการยอมรับและถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในหลายประเทศไม่รวมสหรัฐอเมริกา ข้าวจีเอ็มโอของเบเยอร์ที่รู้จักกันในนาม “ลิเบอร์ตี้ ลิงค์”ปนเปื้อนในข้าวของสหรัฐอเมริกาส่งผลให้ตลาดโลกต่างพากันปฏิเสธข้าวจากสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะประเทศในสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ สิ่งนี้เป็นการชี้ทางผู้ค้าข้าวชั้นนำของไทยและเวียตนาม ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลกให้แสดงจุดยืนร่วมกันเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยการลงนามไม่ค้าข้าวจีเอ็มโอ และจะปลูกเฉพาะข้าวปลอดจีเอ็มโอเพื่อปกป้องความหลากหลายของข้าวพันธุ์ธรรมชาติ และรักษาตลาดส่งออกของทั้งสองประเทศ




“กรณีการปนเปื้อนนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพืชจีเอ็มโอเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้และเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม การปนเปื้อนจีเอ็มโอทำให้ไทยเกิดความสูญเสียทางการตลาดทางด้านผลิตผลทางการเกษตรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังที่เห็นได้จากการที่ผู้บริโภคจำนวนมากทั่วโลกปฏิเสธพืชจีเอ็มโออย่างต่อเนื่อง หากประเทศไทยต้องการรักษาความเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโลก และผูกขาดความเป็นครัวของเอเชีย รัฐบาลต้องยับยั้งความคิดของนายธีระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่จะล้มเลิกมติ ครม. ที่ห้ามทดลองพืชจีเอ็มโอทุกชนิดในระดับไร่นา” ณัฐวิภากล่าวทิ้งท้าย

กรีนพีซรณรงค์เพื่อต่อต้านพืชจีเอ็มโอรวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมของพืชจีเอ็มโอทั้งหมด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญบนหลักการของความยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าและปลอดภัย การตัดต่อพันธุกรรมเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยและไม่เป็นที่ต้องการของสังคมโลกอีกทั้งยังทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างความเสี่ยงให้กับผู้บริโภค
ที่มา: //www.greenpeace.or.th

--------English--------
Greenpeace eyeballs Ministry of Agriculture for pushing GM crop field trials

Bangkok, 23th August 2007 - Wearing giant eyeball headgear, Greenpeace activists today trooped to the central office of the Ministry of Agriculture and Cooperatives (MoAC) in Bangkok to warn against the agency's attempts to repeal the ban on field trials of genetically modified (GM) crops in the country. The "eyeball parade" called attention to the insidious threat posed by genetic contamination likely to occur should the government allow GM crop field trials.

"We wish to inform Minister Theera Sutabutra that we will be watching every move he makes on this issue. Given its brazen promotion of GM crop field trials, the MoAC seems to be inclined to support the interests of multinational agro-chemical companies to the detriment of the environment and our agricultural sector. Vigilance is needed to make sure that the MoAC does not throw away the future of Thai agricultural production," said Natwipha Ewasakul, Genetic Engineering campaigner for Greenpeace Southeast Asia.

In July 2004, Greenpeace exposed the role of the MoAC-run experimental station in Khon Kaen as the source of genetic contamination of Thai papayas. The station distributed GE contaminated papaya seeds to as many as 2,669 farmers in 37 provinces. The MoAC has so far failed to act to comprehensively rid Thai papaya farms of this widespread GE contamination. Due to the uncertainty caused by this unwanted and illegal contamination, market confidence on Thai papaya exports especially in Europe faltered.

"The Ministry's deplorable experience with GM papaya should have already taught the agency an important lesson regarding the formidable challenges posed by genetic contamination. Once GMOs are released into the environment, usually via open field trials, it is almost impossible to recall them. The process is irreversible," added Natwipha.

In 2005 and 2006, the world's most important food crop, rice, was found to be contaminated by genetically modified strains which are unapproved and illegal in most countries outside of the United States. Bayer's genetically modified rice called Liberty Link contaminated US rice supplies resulting in widespread market rejection of rice from the US, especially in the EU, Japan and the Philippines. This has also prompted leading rice traders in Thailand and Vietnam, respectively the world's first and second largest exporters of rice, to sign a joint declaration in November last year shunning GMO rice and committing to trade and grow only GMO free rice to protect traditional rice varieties and their export markets.

"These cases of contamination clearly demonstrate the uncontrollable and dangerous nature of GM crops. With genetic contamination comes the inevitable loss of markets for the country's agricultural produce, as shown by the continuing rejection of GMOs by a growing number of consumers worldwide. Minister Theera's scheme to have the GM crop field trial ban repealed should not be allowed to succeed if the country wants to keep the integrity of its food supply and retain its stature as the Food Basket of Asia," added Ewasakul.

Greenpeace campaigns for GE-free crop and food production that is grounded in the principles of sustainability, protection of biodiversity and providing all people to have access to safe and nutritious food. Genetic engineering is an unnecessary and unwanted technology that contaminates the environment, threatens biodiversity and poses unacceptable risks to health.




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2550   
Last Update : 24 สิงหาคม 2550 17:04:59 น.   
Counter : 1420 Pageviews.  


จุดสูงสุดโลกร้อนใกล้กว่าที่คาด

English text is after Thai.

นักวิทยาศาสตร์เตือนจุดสูงสุดโลกร้อนใกล้กว่าที่คาด
The Guardian, 16 สิงหาคม 2550

จุดสูงสุดของภาวะโลกร้อนอาจใกล้เข้ามากว่าที่เคยคาดไว้ นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าการสูญเสียแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์จำนวนมหาศาลอาจจะไม่สามารถหยุดยั้งได้ในปัจจุบัน และนำไปสู่ภาวะน้ำทะเลเพิ่มระดับขึ้นอย่างรุนแรงทั่วโลก

ในการรวบรวมงานวิจัยเกี่ยวกับจุดสูงสุดของภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นความเสียหายจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างไม่สามารถกลับไปเหมือนเดิมได้และเพิ่มขึ้นในอัตราสูงนั้น นักวิจัยสรุปว่าความเสี่ยงด้านต่างๆ นั้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในรายงานฉบับล่าสุดของคณะทำงานระหว่างประเทศเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC)

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายทั้งหมด นั่นจะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 7 เมตร รายงานของ IPCC ระบุว่า การละลายของน้ำแข็งใช้เวลาประมาณ 1,000 ปี แต่รายงานฉบับนี้ซึ่งจัดทำโดยทิม เลนตัน แห่งมหาวิทยาลัยอีส แองเกลีย แสดงให้เห็นว่าการแตกแยกของแผ่นน้ำแข็งอาจเกิดเร็วขึ้นภายใน 300 ปี ศาสตรจารย์เลนตันกล่าวว่า "เรารู้ว่าแผ่นน้ำแข็งในยุคน้ำแข็งสุดท้ายพังทลายลงเร็วกว่าที่ต้นแบบสำหรับศึกษาภาวะโลกร้อนจะสามารถติดตามบันทึกทันได้ ดังนั้นต้นแบบต่างๆ ของเราจึงเป็นที่รู้กันว่าอืดอาดเกินไป"

การศึกษาของเลนตันระบุว่าโลกเราจะมีจุดสูงสุด 8 จุด ภายในสิ้นศตวรรตนี้ ซึ่งรวมถึงการทำลายป่าฝนอะเมซอน การละลายของแผ่นน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกา และการล่มสลายของกระแสน้ำทะเลทั่วโลกที่รู้จักกันในชื่อการไหลเวียนเทอร์โมฮาลีน หากการไหลเวียนนี้หยุดลง มรสุมอินเดียและธารน้ำในคาบสมุทรอินเดียจะถูกหยุดลง

ศาสตราจารย์เลนตันกล่าวว่าวิธีการทำงานของ IPCC ซึ่งรวมไปถึงการทบทวนงานวิจัยหลายฉบับ ทำให้สามารถเปิดเผยออกเป็นรายงานที่แคบกว่าของทีมงานของเขา เขาเพิ่มเติมว่าการล่มสลายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์นั้นอยู่ใกล้กว่าที่คิดเพราะโลกมีระบบของตัวเองที่มีศักยภาพแฝงอยู่ "ถ้าคุณสามารถทำให้ระดับของแก๊สเรือนกระจกคงที่ได้เท่ากับในปัจจุบัน โลกก็จะยังคงร้อนมากขึ้นไปอีกอยู่ดี (ภายในพ.ศ.2643)

การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิทั่วโลกเพียงแค่ 1 องศาเซลเซียสก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้น้ำแข็งกรีนแลนด์เกือบพังทลายลง การคาดการณ์ของ IPCC สำหรับพ.ศ. 2643 คืออุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1.1-6.4 องศาเซลเซียส
------

Scientists warn on climate tipping points
Alok Jha
The Guardian
Thursday August 16 2007

Some tipping points for climate change could be closer than previously thought. Scientists are predicting that the loss of the massive Greenland ice sheet may now be unstoppable and lead to catastrophic sea-level rises around the world.

In drawing together research on tipping points, where damage due to climate change occurs irreversibly and at an increasing rate, the researchers concluded that the risks were much greater than those predicted by the latest report by the Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC).

If the Greenland ice sheet melted completely, for example, it would raise global sea levels by seven metres. According to the IPCC report, the melting should take about 1,000 years. But the study, by Tim Lenton of the University of East Anglia, showed the break-up could happen more quickly, in 300 years. Professor Lenton said: "We know that ice sheets in the last ice age collapsed faster than any current models can capture, so our models are known to be too sluggish.

"His study identified eight tipping points that could be passed by the end of this century. They include the destruction of the Amazon rainforest, the melting of the west Antarctic ice sheet, and a collapse of the global ocean current known as the thermohaline circulation. If that circulation stopped, the Indian monsoons and the gulf stream could be shut down.

Prof Lenton said the IPCC way of working, including multiple reviews, caused it to issue more conservative reports than his team's studies. He added that the inevitable collapse of the Greenland ice sheet was closer than thought because of the latency in the Earth's climate system. "If you could stabilise the greenhouse gas levels to today's level, you'll still get some further warming [by 2100]."

A global average temperature rise of just 1C would be enough to slip the Greenland ice over the edge. The IPCC's prediction for 2100 is a rise of 1.1C-6.4C.

----

วิธีง่ายๆ ช่วยหยุดโลกร้อน

สำคัญที่สุด.. คุณต้องตั้งใจแน่วแน่ว่าจะช่วยหยุดโลกร้อน จำให้ขึ้นใจต้องใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเลือกใช้พลังงานสะอาด

* อาบน้ำด้วยฝักบัว ประหยัดกว่าตักอาบหรือใช้อ่างอาบน้ำถึงครึ่งหนึ่งในเวลาเพียง 10 นาที ปิดน้ำขณะแปรงฟัน ประหยัดได้เดือนละ 151 ลิตร

* ใช้หลอดไฟตะเกียบ ประหยัดกว่าหลอดธรรมดา 4 เท่า ใช้งานนานกว่า 8 เท่า แต่ละหลอดช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 4,500 กิโลกรัม

* ใช้ตู้เย็นแบบ 2 ประตู ขนาดความจุ 400 ลิตร ตั้งอุณหภูมิที่ 3-5 องศา และ -17 - -15 องศาในช่องแช่แข็ง มีประสิทธิภาพในการประหยัดไฟมากที่สุด

* เปิดแอร์ที่ 25 องศา อุณหภูมิต่ำกว่านี้ใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 5 - 10 %

* ใช้แล็บท็อป จอแบน ประหยัดไฟมากกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะถึง 5 เท่า จำไว้ screen server และหมวดสแตนบายด์ไม่ได้ช่วยประหยัดไฟ พลังงานที่เสียไปเท่ากับซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ได้ 1 เครื่อง และพริ้นเตอร์เลเซอร์ประหยัดพลังงานมากกว่าอิงค์เจ็ท

* พกถุงผ้าไปช็อปปิ้งแทนการใช้ถุงพลาสติก แต่ละปีทั่วโลกทิ้งถุงพลาสติกจากซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแสนล้านใบ อย่าลืมว่า ลดขยะเท่ากับลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

* ใส่เสื้อผ้าฝ้ายออร์แกนิค และใช้เครื่องใช้รีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้

* ปลูกต้นไม้ 1 ต้นดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ตันตลอดอายุขัย และรดน้ำช่วงเช้า และกลางคืน ป้องกันการระเหย

-----


กรีนพีซ เอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ทำงานรณรงค์เพื่อยุติภาวะโลกร้อน - //www.greenpeace.or.th

พันธกิจของกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

"เรามุ่งมั่นที่จะปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อม
เปิดโปงและหยุดยั้งอาชญากรรมต่อสิ่งแวดล้อม
พร้อมกับเร่งรัดการพัฒนาที่สะอาด
ด้วยวิธีเปิดเผย สร้างสรรค์ บนพื้นฐานของสันติวิธี"

Greenpeace Southeast Asia's Mission Statement "
Safeguard environmental rights,
Expose and stop environmental crimes,
Advance clean development. "

กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : //www.greenpeace.or.th





 

Create Date : 22 สิงหาคม 2550   
Last Update : 22 สิงหาคม 2550 15:58:53 น.   
Counter : 932 Pageviews.  


วันปลอดรถโลก CAR-FREE DAY 22 กันยายน 2550

วันปลอดรถโลก CAR-FREE DAY 22 กันยายน 2550



ที่มาของวันปลอดรถโลก
วันปลอดรถโลกเป็นวันที่ประชาชนในเมืองต่างๆ เฉลิมฉลองวันที่ปราศจากเสียงดัง ความเครียด และมลพิษที่มาจากรถยนต์ ทุกๆ ปีในวันที่ 22 กันยายน ผู้คนทั่วโลกจัดงานทั้งเล็กและใหญ่เพื่อแสดงให้เห็นทางเลือกนอกเหนือจากรถยนต์



วันปลอดรถโลกเริ่มจัดขึ้นในช่วงวิกฤติน้ำมันในต้นค.ศ. 1970 และได้มีการจัดงานวันปลอดรถหลายงานในเมืองต่างๆ ในยุโรปในช่วงต้นค.ศ. 1990 สำหรับวันปลอดรถนานาชาติจัดขึ้นในยุโรปในพ.ศ.2533 ซึ่งเป็นโครงการนำร่องสำหรับการรณรงค์ "อยู่ในเมืองโดยไม่ใช้รถ" ของสหภาพยุโรป โครงการรณรงค์นี้พัฒนาไปเป็นสัปดาห์แห่งการเคลื่อนไหวร่างกายในยุโรป



ในพ.ศ.2543 นิตยสาร Car Busters (ผู้ริเริ่มเครือข่ายปลอดรถโลก) ได้ประกาศเรียกร้องให้มี "วันปลอดรถโลก" เพื่อให้เข้ากับวันปลอดรถโลกของยุโรปในวันที่ 22 กันยายน ตั้งแต่นั้นมาเครือข่ายปลอดรถโลกได้เดินหน้าเชิญชวนให้นักกิจกรรมและประชากรให้จัดงานวันปลอดรถโลกในวันที่ 22 กันยายนหรือวันใกล้เคัยง

* การผลิตรถ 1 คันปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ 4 ตัน และสารก่อมลพิษอื่นๆ เกือบ 317.51 กิโลกรัมออกสู่บรรยากาศ

* หากประชาชน 1 คน ใช้ระบบขนส่งมวลชนตลอด 1 ปี แทนการขับรถไปทำงาน จะสามารถลดการปล่อยแก๊สเหล่านี้ออกสู่บรรยากาศ: ไฮโดรคาร์บอน 4.2 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซต์ 64.5 กิโลกรัม และ ไนโตรเจนออกไซต์ 2.3 กิโลกรัม นอกจากนี้รถบัสขนาด 40 ฟุตยังเท่ากับ รถยนต์ 58 คัน



*กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้* ขอเชิญร่วมรณรงค์ขี่จักรยาน ลดโลกร้อนในวันปลอดรถ Car-Free Day ในวันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2550 จากสนามศุภชลาสัย – ลานคนเมือง – สนามศุภชลาสัย รวมระยะทาง 12.51 กิโลเมตร



อาสาสมัครและ ผู้สนับสนุนกรีนพีซกรุณายืนยันการเข้าร่วมภายในวันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม 2550 ที่โทร. 02 357 1921 เพื่อนัดหมายจุดนัดพบ



*หมายเหตุ* ผู้ใดที่ไม่มีจักรยานเรามีจักรยานเตรียมไว้ให้ค่ะ


เรามาขี่จักรยานเพื่อรณรงค์ให้คนไทยลดการใช้รถยนต์เพื่ออากาศที่บริสุทธิ์มากขึ้นกันเถอะ





--




พันธกิจของกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
"เรามุ่งมั่นที่จะปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อม
เปิดโปงและหยุดยั้งอาชญากรรมต่อสิ่งแวดล้อม
พร้อมกับเร่งรัดการพัฒนาที่สะอาด
ด้วยวิธีเปิดเผย สร้างสรรค์ บนพื้นฐานของสันติวิธี"


Greenpeace Southeast Asia's Mission Statement
"Safeguard environmental rights,
Expose and stop environmental crimes,
Advance clean development."



กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ :
//www.greenpeace.or.th




 

Create Date : 22 สิงหาคม 2550   
Last Update : 22 สิงหาคม 2550 15:58:28 น.   
Counter : 1983 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com