คลื่นแห่งความหวัง ทั่วโลกเคลื่อนไหวผลักดันไทยยูเนี่ยน เปลี่ยน เพื่อมหาสมุทร
เขียน โดย รัตนศิริ กิตติก้องนภางค์ คงไม่ใช่เรื่องน่าภาคภูมิใจแน่ หากอุตสาหกรรมระดับโลกของไทย อย่างไทยยูเนี่ยน มีชื่อเสียงที่เชื่อมโยงกับการประมงที่ผิดกฎหมายและทำลายล้าง รวมถึงพัวกันกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน การทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้เกิดกระแสการเคลื่อนไหว #NotJustTuna ในหลายประเทศทั่วโลก และในประเทศไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เสียงเรียกร้องของผู้คนทั่วโลกเหล่านี้ คือ ความหวังและสัญญาณที่ส่งไปถึงไทยยูเนี่ยนว่าถึงเวลาแล้วที่ไทยยูเนี่ยนจะต้องเปลี่ยนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการประกาศนโยบายที่คลุมเครือ คลื่นพลังผู้บริโภค โต้กระแสอุตสาหกรรมประมงทำลายล้าง กรุงเทพฯ ในวันนี้ (23 พ.ค. 2559) กลุ่มอุตสาหกรรมประมงและบริษัทไทยยูเนี่ยนกำลังเข้าร่วมการประชุม และนิทรรศการการค้าทูน่าโลกครั้งที่ 14 (14th Infofish World Tuna Trade and Conference) ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่กลุ่มอุตสาหกรรมประมงจะกำหนดทิศทาง และสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทรัพยากรทางทะเลร่วมกัน โดยช่วงกลางดึกที่ผ่านมาก่อนที่จะเริ่มต้นวันใหม่ของการประชุม นักกิจกรรมกรีนพีซได้ฉายเลเซอร์บนแม่น้ำเจ้าพระยา เบื้องหน้าโรงแรมแชงกรี-ลา ที่มีข้อความว่า Thai Union. Lead Change, Stop the Destruction หรือ ไทยยูเนี่ยน สร้างการเปลี่ยนแปลง หยุดทำลายล้างมหาสมุทร เพื่อสื่อสารถึงไทยยูเนี่ยนโดยตรงให้ลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมทูน่า ในฐานะที่เป็นอุตสาหกรรมทูน่ากระป๋องที่ใหญ่ที่สุดของโลก ขณะนี้เรือเอสเพอรันซาของกรีนพีซอยู่ในมหาสมุทรอินเดียเพื่อเก็บเครื่องมือประมงแบบทำลายล้างรวมทั้งอุปกรณ์ล่อปลาของผู้จัดหาวัตถุดิบของไทยยูเนี่ยนขึ้นมาถอดชิ้นส่วน ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 370,000 คนได้ร่วมลงชื่อเรียกร้องถึงไทยยูเนี่ยนให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเป็นผู้นำปกป้องมหาสมุทร ฝรั่งเศส นอกจากที่กรุงเทพฯ แล้วในวันนี้นักกิจกรรมกรีนพีซร่วม 25 คน จากประเทศฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และอิตาลี ได้ดำเนินการรณรงค์อย่างสันติด้วยการขวางขนส่งผลิตภัณฑ์จากโรงงานผลิตทูน่ากระป๋องของไทยยูเนี่ยนในเมือง Douarnenez ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งผลิตทูน่ากระป๋องให้กับแบรนด์ Petit Navire, John West และ Mareblu พร้อมกับแต่งเติมโลโก้ของแบรนด์ Petit Navire ให้เป็นสีเลือด อันเชื่อมโยงกับสัตว์ทะเลที่ถูกจับขึ้นมาจากการจับสัตว์น้ำพลอยได้และต้องเป็นเหยื่อของการทำประมงแบบทำลายล้าง วันนี้เราได้เผชิญหน้ากับไทยยูเนี่ยนทั้งทางผืนดินและทางทะเล เรามุ่งมั่นจะเปิดโปงการประมงแบบทำลายล้าง และหยุดยั้งบริษัทนี้จากการเดินหน้าทำร้ายมหาสมุทรของเรา ไม่ว่าจะเป็นด้วยการขัดขวางกระบวนการประมง การผลิต ไปจนถึงปลากระป๋องที่วางขายบนซูเปอร์มาร์เก็ต Hélène Bourges ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุทร กรีนพีซฝรั่งเศส กล่าว
นิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา นักกิจกรรมกรีนพีซ 6 คน ได้ล่ามตัวเองเข้ากับรถบรรทุกสินค้าของไทยยูเนี่ยน บริเวณทางเข้า ของโรงงานอาหารแมวยักษ์ใหญ่อย่าง Whiskas ที่ประเทศนิวซีแลนด์ และแขวนป้ายที่มีข้อความ "Stop Bad Tuna" หลังจากที่ Mars ได้ออกมายอมรับว่าบริษัทได้รับวัตถุดิบจากไทยยูเนี่ยนที่เชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิกดขี่แรงงานประมงและทำร้ายทะเลมาผลิตอาหารแมว ผู้บริโภคในยุโรปและอเมริกาบอก #NotJustTuna ไม่ใช่เพียงแค่นักกิจกรรม แต่ขณะนี้ผู้บริโภคในหลายประเทศทั่วโลกอย่างอเมริกา แคนาดา อิตาลี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ได้ออกมาร่วมรณรงค์โดยตรงกับร้านค้าซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ ให้ยุติการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋องที่มาจากการประมงทูน่าแบบทำลายล้าง โดยปฏิบัติการเชิงสัญลักษณ์ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋องของไทยยูเนี่ยนออกจากชั้นวางขายสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต การเคลื่อนไหวของผู้บริโภคนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวดีออกมาว่า Tesco และ Waitrose สองซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ของสหราชอาณาจักรได้ออกมาแสดงจุดยืนว่า ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุกระป๋องที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตของตนจะต้องไม่ใช่ปลาทูน่าที่มาจากการประมงแบบทำลายล้าง จากมหาสมุทรถึงชั้นวางซูเปอร์มาร์เก็ต ไทยยูเนี่ยนคือผู้เล่นหลักในระบบนิเวศทางทะเล เมื่อปีที่ผ่านมา กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เปิดเผยรายงานสืบสวน โซ่ตรวนกลางทะเล ระบุว่า ไทยยูเนี่ยนไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอเพื่อแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่อุปทานปลาทูน่า ไทยยูเนี่ยนเป็นอุตสาหกรรมอาหารทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก และเป็นผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวคือ ราวร้อยละ 40 ของปลาทูน่าในประเทศไทยจัดจำหน่ายโดยไทยยูเนี่ยน และในทุกๆ วินาที มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋องประมาณ 157 กระป๋องจากประเทศไทย กระบวนการต่าง ๆ ตั้งแต่การทำประมงในมหาสมุทร กระบวนการผลิต แปรรูป ไปจนถึงการผลิตกระป๋องและบรรจุภัณฑ์ และการจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของตนเองและของบริษัทอื่น ขอบเขตธุรกิจของไทยยูเนี่ยนครอบคลุมจากมหาสมุทรไปจนถึงชั้นวางสินค้า ถือเป็น ผู้เล่นหลักในระบบนิเวศทางทะเล ที่มีความสัมพันธ์อย่างมากต่อผลกระทบที่มีต่อมหาสมุทรของเรา ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกและเป็นภาคธุรกิจยักษ์ใหญ่ ไทยยูเนี่ยนสามารถใช้บทบาทอันมีอิทธิพลอย่างมากนี้ต่อเงื่อนไขของการทำงานตลอดห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดได้ กรีนพีซเรียกร้องไทยยูเนี่ยนให้กำหนดกรอบเวลา เป้าหมายและรายละเอียดขั้นตอนที่ชัดเจนของแผนปฎิบัติงานที่ไทยยูเนี่ยนจะใช้ในการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานของตนเอง และหยุดการทำประมงเกินขนาด การทำประมงแบบทำลายล้าง เช่น การล่าฉลามเพื่อเอาครีบ การทำประมงแบบผิดกฎหมาย ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับการบังคับใช้แรงงานและการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไทยยูเนี่ยนต้องขจัดปัญหาการทำประมงแบบทำลายล้าง และให้ความสำคัญด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และสร้างมาตรฐานด้านแรงงานที่ครอบคลุมถึงแรงงานบนเรือประมง เราจะไม่หยุดงานรณรงค์จนกว่าไทยยูเนี่ยนจะสามารถแสดงความโปร่งใสของกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับในห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเล ตั้งแต่กระบวนการจับจนมาถึงจานอาหารของผู้บริโภค อัญชลี พิพัฒนวัฒนากุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุทร กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว ที่มา: Greenpeace Thailand
Create Date : 25 พฤษภาคม 2559 |
Last Update : 25 พฤษภาคม 2559 10:59:36 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1336 Pageviews. |
|
|
|
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ