กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
แถลงการณ์กรีนพีซต่อกรณีคำตัดสินนางจินตนา แก้วขาว

"ผู้สนับสนุนถ่านหินคืออาชญากรสิ่งแวดล้อมตัวจริง"


11 ต.ค.54 - นางจินตนา แก้วขาว ประธานกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 เดือน จากการต่อสู้และแสดงความกังวลถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชน จากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 1,400 เมกะวัตต์



นางจินตนาถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ในงานเลี้ยงของบริษัท ยูเนี่ยน เพาเวอร์ ดีเวลลอบเม้นท์ จำกัด เจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินบ้านกรูด เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2544 โดยนางจินตนาได้ต่อสู้ในความไม่โปร่งใสของนโยบายด้านพลังงาน และการที่บริษัทฯ ได้พยายามบิดเบือนว่าโรงไฟฟ้าถ่านหิน “สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้”

ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่สกปรกและก่อมลพิษมากที่สุด การใช้ถ่านหินก่อให้เกิดต่อมลพิษทางน้ำและอากาศ ทำลายวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและระบบประสาท ฝนกรด หมอกควัน และทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง โรงไฟฟ้าถ่านหินยังเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่มนุษย์กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้โรงไฟฟ้าถ่านหินส่วนใหญ่ ซึ่งไม่มีเสียงในการลุกขึ้นคัดค้านโครงการดังกล่าว มักเป็นผู้ที่ต้องได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเผาถ่านหิน

นายพลาย ภิรมย์ ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ ประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า“กว่า 10 ปีแล้ว ที่ชาวประจวบคีรีขันธ์ได้ต่อสู้คัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อปกป้องทรัพยากรสิ่งแวดล้อมของชุมชน จนต้องแลกด้วยชีวิตของนายเจริญ วัดอักษร ผู้นำชุมชน เมื่อปี 2548 ในวันนี้ความเจ็บปวดนั้นยิ่งทวีคูณ เมื่อนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมยังคงต้องออกมาต่อสู้ด้วยมือเปล่าโดยไม่ได้รับความสนับสนุนจากภาครัฐ แต่อาชญากรสิ่งแวดล้อมตัวจริง อย่างเช่น กลุ่มทุนถ่านหินและผู้สนับสนุน กลับยังคงมุ่งลงทุนในอุตสาหกรรมที่ไม่ยั่งยืนและไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่เคารพต่อสิทธิชุมชน


ชุมชนที่ต่อสู้เพื่อปกป้องอนาคตของลูกหลานต้องเผชิญกับความไม่เป็นธรรม เสียงของชุมชนมักถูกเพิกเฉย ในขณะที่ผลประโยชน์ของบริษัทขนาดใหญ่กลับได้รับการปกป้อง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องให้การคุ้มครองสิทธิของชุมชนในการอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ผู้ที่ต่อสู้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ที่ซึ่งการพัฒนามิต้องแลกมาด้วยสุขภาพ ชีวิตผู้คนและสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลงนั้น มิใช่ผู้กระทำความผิด แต่ผู้ที่ยืนยันที่จะใช้เทคโนโลยีที่สกปรกและอันตรายเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนในระยะสั้น และทำลายวีถีชีวิตประชาชนนั้นคือผู้กระทำผิดที่แท้จริง กรีนพีซขอเรียกร้องให้ภาครัฐให้ฟังเสียงประชาชนและให้ความสำคัญ
ต่อสวัสดิภาพของประชาชน รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อมมากกว่าอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษ รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะทำให้มั่นใจว่าการพัฒนานั้นเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสังคมรวมถึงระบบนิเวศ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้โดยการสนับสนุนอนาคตพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด”


กรีนพีซทำงานรณรงค์ด้วยหลักการเผชิญหน้าอย่างสันติวิธี นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และพฤติกรรม เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และสันติภาพ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

พลาย ภิรมย์ ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ ประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โทร 081-658-9432

จริยา เสนพงศ์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โทร 086-982-8572

วิริยา กิ่งวัชระพงศ์ ผู้ประสานงานสื่อมวลชน โทร 089-487-0678 Free TextEditor


Create Date : 14 ตุลาคม 2554
Last Update : 14 ตุลาคม 2554 17:12:12 น. 2 comments
Counter : 1308 Pageviews.  
 
 
 
 
แวะมาเยี่ยมชมครับ
Sony XBR65HX929
 
 

โดย: BoonsermLover วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:6:33:25 น.  

 
 
 
แวะมาเยี่ยมชม ขอบคุณค่ะ.....................
 
 

โดย: kingkong0749 วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:21:10:07 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com