Download English version here
หยวน หยิง ผู้ประสานงานรณรงค์อาวุโสด้านพลังงานหมุนเวียน กรีนพีซ เอเชียตะวันออก กล่าวว่า
“ประกาศของแอปเปิลเป็นย่างก้าวที่สำคัญก้าวแรกสำหรับการบริหารจัดการการใช้พลังงานของแอปเปิลในจีน และเป็นกรณีตัวอย่างที่สำคัญยิ่งต่อบริษัทอื่นๆ ที่ประกอบธุรกิจอยู่ในจีน เป็นการกระตุ้นเตือนว่าพวกเขาสามารถขับเคลื่อนธุรกิจด้วยพลังงานหมุนเวียนได้จริง ทั้งนี้ จีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานจากแหล่งที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นร้อยละ 15 ของการใช้พลังงานทั้งหมดภายในปี 2563 โดยกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์จะเพิ่มเป็น 200 กิกะวัตต์ (GW) และ 100 กิกะวัตต์ ตามลำดับ ทั้งบริษัทท้องถิ่นและบริษัทข้ามชาติหลายแห่งได้เริ่มดำเนินการเพื่อใช้พลังงานหมุนเวียนในการขับเคลื่อนธุรกิจในจีนกันบ้างแล้ว และเมื่อมีบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่อย่างเช่นแอปเปิลเป็นผู้นำทาง เราก็คาดหวังว่า การลงทุนในพลังงาหมุนเวียนจะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและนำไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2563
“ก้าวต่อไปของแอปเปิลน่าจะเป็นการประสานความร่วมมือจากบรรดาผู้จัดจำหน่ายของแอปเปิลในการขับเคลื่อนโรงงานผลิตสินค้าในจีนด้วยพลังงานหมุนเวียนเต็มร้อย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของจีนที่จะลดการใช้ถ่านหินและเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนกำลังก้าวหน้าด้วยดี แต่เราต้องการความก้าวหน้าที่รวดเร็วกว่านี้ในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่ถึงขั้นวิกฤตในหลายเมืองของจีน ทั้งนี้เพื่อให้การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในจีนถึงจุดอิ่มตัวและเริ่มลดปริมาณการปล่อยอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บรรดาบริษัทธุรกิจที่มีโรงงานผลิตอยู่ในจีนและต้องใช้พลังงานมากมีความรับผิดชอบในการช่วยเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนด้วย”
ทั้งนี้ โรงงานผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีความต้องการใช้พลังงานมากทั้งในจีนและทั่วโลก และความต้องการนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประมาณการว่าอาจสูงถึงร้อยละ 2-3 ของการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกภายในปี 2560 (1)
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
หยู จง ผู้ประสานสื่อมวลชน กรีนพีซ เอเชียตะวันออก
อีเมล: @greenpeace.org">yu.chong@greenpeace.org
หมายเหตุ
[1] Estimated Trends in Electricity Consumption for Consumer ICT(2013) //aran.library.nuigalway.ie/xmlui/handle/10379/3563n