กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
3 โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผู้หญิงเป็นผู้นำ

Blogpost โดย Georgie Johnson

ผู้หญิงทั่วโลกเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่พลังงานสะอาดด้วยตัวเองในรูปแบบที่มีเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถทำได้

การเชื่อมโยงระหว่างเพศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศค่อยๆกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นอย่างกว้างขวาง  การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นที่เข้าใจกันมากขึ้นในแง่ของสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมทางสังคม แต่สำหรับบางคนที่ยังสงสัย มีสองสิ่งที่สำคัญที่คุณต้องรู้คือ

1. ผู้หญิงคือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันเนื่องมาจากความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจและสังคมของพวกเขา เช่นเดียวกับคนพื้นเมือง คนผิวสี และคนยากจนทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากความไม่เท่าเทียมกัน

2. ผู้หญิงสามารถนำเสนอทางออกที่มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ได้รับการยกเว้นจากรัฐบาลท้องถิ่นกับการเมืองระหว่างประเทศแม้ทางออกเหล่านั้นจะมีศักยภาพเพียงใดก็ตาม

การถูกแยกออกไปจากตำแหน่งหน้าที่ตามธรรมเนียมปฏิบัติ และการตัดสินใจ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงโดดเด่นในการเคลื่อนไหวทางมวลชนเพื่อต่อกรกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นี้คือ 3 โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากที่ผู้หญิงได้เป็นส่วนสำคัญทั้งในการปรับตัว และต่อกรกับวิกฤตโลกร้อนที่เกิดขึ้นทั่วโลก

1. Solar Sister พี่น้องพลังงานแสงอาทิตย์

ความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ (และความเปราะบางของผู้หญิงกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มากกว่า) มักจะเชื่อมโยงโดยตรงกับความยากจน แต่การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสัดส่วนประชากรในประเทศที่มีการเข้าถึงกระแสไฟฟ้าที่มากขึ้น นั้นหมายถึงความเท่าเทียมทางเพศที่มากขึ้น  แม้ว่าอัตราค่าครองชีพจะต่ำกว่ามาตรฐาน ($ 1.25 ต่อวัน)

บริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิล จะใช้ข้อมูลนี้เพื่ออ้างว่าถ่านหินราคาถูกมีความสำคัญในการพัฒนาประเทศทางตอนใต้ของโลก แต่ผู้นำหญิงขององค์กรทางสังคม Solar Sister มีทางเลือก เป็นทางที่ในเชิงเศรษฐกิจจะช่วยมอบอำนาจให้แก่ผู้หญิง และไม่เกี่ยวข้องกับการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล

Solar Sister มีวัตถุประสงค์เพื่อขจัดความขาดแคลนพลังงานโดยการสร้างเครือข่ายขายตรงที่มีผู้หญิงเป็นจุดศูนย์กลาง ที่สามารถนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดไปยังชุมชนที่ยากจนที่สุดและชนบทที่ห่างไกลในแอฟริกา

กลุ่มผู้หญิงซื้อตะเกียงพลังงานแสงอาทิตย์และเตาปรุงอาหารพลังงานสะอาดจากเพื่อนผู้หญิงคนอื่นเพื่อนำมาใช้และขายภายในชุมชนของพวกเธอ ซึ่งเป็นการเสริมรายได้ให้กับพวกเธอในขณะที่มีแสงในการอ่านและการทำงานโดยปราศจากการสูดดมควันพิษ

2. Solar Grannies คุณยายไฟแรง

โครงการนี้จะคล้ายกับ โครงการ Solar Sister แต่ต่างไปอีกขั้นหนึ่ง บางทีอาจจะมุ่งเน้นไปที่ผู้หญิงที่ถูกโจมตีได้ง่ายที่สุดก็คือ คนชรา

ในชุมชนอีกฝากหนึ่งของโลก จากหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญในอินเดียสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขณะที่อายุมากขึ้น ผู้หญิงก็สูญเสียคุณค่าทางสังคม ไม่เป็นที่น่าดึงดูดใจหรือไม่สามารถมีบุตรได้  พวกเขาถูกมองว่าหมดประโยชน์ทางสังคม 

วิทยาลัย Barefoot ในรัฐราชสถาน อบรมหญิงสูงอายุชาวอินเดียให้กลายเป็นวิศวกรพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยให้พวกเขาได้ท้าทายการรับรู้ของการเสื่อมสภาพของพวกเขา ยกสถานะทางสังคมและอิทธิพลของตนในชุมชนของพวกเขา

โครงการ Solar Grannies ที่เป็นที่รู้จักกันดีในการเรียกร้องให้เคารพในการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำกระแสไฟไปยังหมู่บ้านของพวกเขา

การอบรมหญิงสูงอายุคือทางเลือกหนึ่งทางยุทธศาสตร์

พวกผู้ชายที่ยังหนุ่มอยู่มักออกจากหมู่บ้านเพื่อไปทำงานอยู่เสมอ และนำความรู้ที่จะใช้ไปกับพวกเขาด้วย พวกเขาออกจากชุมชนไปโดยที่ไม่มีใครสักคนที่จะดูแลรักษาแผงเซลล์แสงอาทิตย์และโคมไฟ และไม่มีใครสักคนที่จะส่งผ่านความเชี่ยวชาญของพวกเขาในรุ่นต่อไป

หญิงชราถูกตรึงไว้ในชุมชนของพวกเขา คอยดูแลเด็กๆและดำเนินเรื่องสำคัญต่างๆในบ้าน รวมทั้งการใช้พลังงานด้วย

หญิงสูงอายุส่วนใหญ่ในโครงการ Solar Grannies นั้นสามารถอ่านออกเขียนได้ พวกเขาเสร็จสิ้นการฝึกอบรมหลักสูตรหกเดือนที่วิทยาลัย Barefoot ก่อนจะกลับไปบ้านพร้อมด้วยไขควง แบตเตอรี่ แผงวงจรไฟฟ้า หลอดไฟและความรู้สึกใหม่ของการภาคภูมิใจในตัวเอง

3. ผู้หญิงคนหนึ่งที่หันหลังให้ธุรกิจน้ำมันและเชื้อเพลิง

นี่คือเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ที่แสนเรียบง่ายและชาญฉลาดที่ใช้ใน 16 ประเทศ ใน 5 ทวีป ประดิษฐ์โดย Eden Full Goh หญิงสาวชาวอเมริกัน ที่รู้สึกไม่สบายใจกับการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซ

ดังที่เพื่อนนักศึกษาวิศวกรรมของเธอส่วนใหญ่คาดว่าจะทำ – ซึ่งสมเหตุสมผล ในขณะที่การสำรวจแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะดูแลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากกว่าผู้ชาย

แต่เธอเลือกที่จะสร้างตามความคิดที่เธอมีอยู่ตอนโรงเรียนมัธยม  วิธีที่จะทำให้แผงเซลล์แสงอาทิตย์คอยตามดวงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์ที่เธอใช้คือขวดน้ำและแรงโน้มถ่วงที่จะค่อยๆเอียงแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งผลผลิตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 โดยไม่ต้องใช้พลังงานเสริมอื่นๆเลย และยังให้น้ำดื่มสะอาดอีก 4 ลิตร  โดยในกระบวนการจะกรองน้ำออกจากน้ำหนัก และไหลเข้าไปในภาชนะพร้อมสำหรับการดื่ม

ปริมาณไฟฟ้าที่ได้เพิ่มขึ้นหมายความว่าใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์น้อยลง และจะช่วยประหยัดเงินและประหยัดพลังงานที่ใช้ในการทำแผงเซลล์แสงอาทิตย์ประชาชนนอกพื้นที่ที่ยากจนมักต้องเลือกระหว่างการใช้จ่ายรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเขาในการใช้พลังงานหรือน้ำสะอาด วิธีนี้ เขาสามารถได้ทั้งสองอย่าง

ความไม่เท่าเทียมทางเพศในอุตสาหกรรมพลังงานเป็นปัญหาใหญ่

ในสหราชอาณาจักร มากกว่าสองในสามของ 100 บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดไม่มีผู้หญิงแม้แต่คนเดียวในฝ่ายบริหารของพวกเขา  และเชื้อเพลิงฟอสซิลก็เป็นต้นเหตุที่เลวร้ายที่สุด: ในขณะที่ผู้หญิงร้อยละ17 ครอบครองที่นั่งในคณะกรรมการสำหรับการใช้พลังงานและพลังงานหมุนเวียน อีกร้อยละ 7 ในบริษัทน้ำมันและภาคก๊าซ ใครจะรู้ว่าเป็นเพราะผู้หญิงส่วนน้อยมีความสนใจในอาชีพกับธุรกิจโดยตรงที่นำไปสู่การทำลายสิ่งแวดล้อมของโลก หรือเพราะเป็นคนที่ทำงานบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ยังคงจ้างผู้หญิงเป็นแค่เลขานุการเท่านั้น

Georgie Johnson  ฝึกงานด้านสื่อสังคม ฝ่ายพลังงานของกรีนพีซสหราชอาณาจักร

เรียบเรียงจากบทความของ Georgie ที่ Energydesk


เรียบเรียงโดย ชนนิกานต์ วาณิชยพงศ์ อาสาสมัครกรีนพีซ

ที่มา: www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/3/blog/55501




Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2559 15:28:18 น. 0 comments
Counter : 951 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com