กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
ลอรีอัล มุ่งมั่นพลิกโฉมรักษ์ป่า

ลอรีอัล บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ของโลกประกาศให้คำมั่นที่จะยุติการใช้วัตถุดิบที่มาจากการตัดไม้ทำลายป่าในผลิตภัณฑ์ของตน

“คุณค่าที่คุณคู่ควร” สโลแกนติดหูที่ใช้มานาน 40 ปี ของบริษัทเครื่องสำอางจากฝรั่งเศสนี้ กล่าวถึงอำนาจของผู้หญิง ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นคำที่ถูกคิดขึ้นมาโดยนักเขียนคำโฆษณาผู้หญิงซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่คนในอุตสาหกรรมนี้อีกด้วย

และในวันนี้เราก็รู้สึกได้ว่าสโลแกนนี้มีความหมายใหม่ขึ้นมา

เจตนารมณ์ในการยุติการทำลายป่าไม้ในห่วงโซ่การผลิตของแบรนด์นั้นถือเป็นชัยชนะของผู้บริโภคและป่าไม้ทั่วโลก

เราเรียกร้องให้ลอรีอัลให้คำรับรองว่าผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้นเป็นมิตรต่อป่าไม้ และยิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ไม่ใช่รอถึงปีพ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นกำหนดเวลาที่บริษัทตั้งขึ้น แล้วจึงเริ่มลงมือ หากบริษัท เฟอร์เรโร สามารถกำหนดปีไว้ที่ปีพ.ศ.2558 บริษัทอื่น รวมถึงลอรีอัลเอง ก็สามารถทำได้เช่นกัน

Deforestation for Palm Oil by Bumitama in Indonesia Excavators clear intact peatland forests and build drainage canals in an oil palm concession owned by PT Andalan Sukses Makmur, a subsidiary of Bumitama Agri Ltd.

ในแต่ละวันคุณมีโอกาสใช้น้ำมันปาล์มบ่อยครั้งมาก โดยอาจไม่รู้ตัว น้ำมันปาล์มเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ แชมพู ยาสีฟัน ชอคโกแลต และผงซักฟอก เรียกได้ว่าอยู่ในผลิตภัณฑ์แทบทุกอย่าง มีการปลูกปาล์มเพื่อนำผลของปาล์มมาผลิตเป็นน้ำมันและขายให้กับผู้ซื้อ และจากบริษัทเหล่านี้เองที่นำมาขายต่อไปยังบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตสินค้าที่เราพบเห็นบนชั้นวางของห้างสรรพสินค้าต่างๆ

กว่าจะมาถึงจุดนี้นั้นไม่ง่ายเลย และถึงแม้คุณอาจจะไม่รู้ตัว ความสำเร็จนี้คงไม่อาจเกิดขึ้นได้หากปราศจากคุณ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา เมื่อเราเริ่มตรวจสอบว่า วิลมาร์ อินเตอร์เนชันแนล บริษัทจัดจำหน่ายน้ำมันปาล์มที่ใหญ่ที่สุดของโลก หันมาเสาะหาน้ำมันปาล์มจากแหล่งที่ทำลายป่าไม้ และจำหน่ายให้กับแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง จิลเลทท์ เฟอร์เรโร แคดเบอรี ลอรีอัล และ เคลียราซิล ได้อย่างไร

เราได้เผยว่า นโยบายที่ไม่เข้มงวดพอของบริษัทเหล่านี้ได้ทำให้ผู้บริโภคมีส่วน ในการทำลายป่าไม้ได้อย่างไร  ด้วยการเผชิญหน้าที่สำนักงานของบริษัท และติดต่อกับแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลกที่ใช้น้ำมันปาล์มดังกล่าว

จากนั้นได้เกิดเรื่องน่าสนใจขึ้น

อันดับแรก เฟอร์เรโร ได้เปิดตัวนโยบายที่ลงรายละเอียดว่าจะรับซื้อน้ำมันปาล์มที่เป็นมิตรต่อป่าไม้เท่านั้น  ต่อมา มอนเดเลซ (บริษัทผู้ผลิต แคดเบอรี) ก็ประกาศเช่นกันว่าจะเริ่มดำเนินการนโยบายในเชิงเดียวกัน

จากนั้น เราหันไปจับตามองการดำเนินการของบริษัทเหล่านี้ในปฏิบัติการ Tiger Challenge แสดงให้เห็นว่านโยบายที่หย่อนยานนั้นส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ทำลายป่าไม้อย่างไร

ในวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา บริษัท วิลมาร์ ได้ประกาศว่าจะยุติการทำลายป่า และยุติการซื้อน้ำมันจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทำลายป่าไม้

และล่าสุดคือลอรีอัล

แม้ว่าคุณจะไม่ได้ส่งอีเมลไปยังลอรีอัลเกี่ยวกับการใช้น้ำมันปาล์มที่ทำลายป่าไม้ แต่การเป็นส่วนหนึ่งของกรีนพีซคุณก็ได้ช่วยแล้วเช่นกัน เป็นสิ่งที่คุณและผู้คนอื่นหลายล้านคนทั่วโลกได้มีส่วนร่วมลงมือในกิจกรรมต่างๆ มากพอที่จะโน้มน้าวบริษัทเหล่านี้ให้หันมาเปลี่ยนแปลง

และการที่มีพลังมหาชนจากทั่วโลกนี่เอง เราจึงสามารถโน้มน้าวให้ลอรีอัลผลักดันเจตนารมณ์ของตนในการปกป้องป่าไม้ หากบริษัทเริ่มลงมือทำจริง

นั่นแหละคือพลังของคุณ

ขณะนี้ลอรีอัลได้หันมาดำเนินตามรอย เนสเล่ ยูนิลิเวอร์ และเฟอร์เรโร ที่ได้แสดงเจตนารมณ์มุ่งมั่นประกาศนโยบายยุติการทำลายป่าไม้ และจะนำนโยบายนี้ไปใช้กับแบรนด์ต่างๆ ในเครืออย่าง เมย์เบลลีน การ์นิเย และ คีลส์ เป็นต้น

เราจะตั้งตารอวันที่ลอรีอัล สามารถให้คำรับรองว่าผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้นปลอดการตัดไม้ทำลายป่าอย่างสิ้นเชิง ในระหว่างนี้ เราจะยังคงผลักดันให้ลอรีอัลให้คำรับรองว่าผลิตภัณฑ์ของตนจะเป็นมิตรต่อป่าไม้ภายในปี พ.ศ. 2563 แต่ป่าไม้ไม่สามารถรออีกหกปีได้

เจตนารมณ์ของลอรีอัลได้ปลุกกระแสแบรนด์อื่นๆ ที่ยังคงรีรอไม่ดำเนินการ บริษัทต่างๆ อาทิ แบรนด์อย่าง เฮดส์แอนด์โชล์เดอรส์ คอลเกต และเคลียราซิล จะต้องก้าวออกมาแสดงความมุ่งมั่นเช่นกัน เหมือนกับที่เราพยายามผลักดันอย่างต่อเนื่องให้ทุกบริษัทยุติการทำลายป่า

ที่มา //www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/how-loreal-committed-to-the-ultimate-makeover/blog/48047/




Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2557 10:34:00 น. 0 comments
Counter : 870 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com