กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
เล่านิทานล้างสารพิษ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรีนพีซได้เปิดบทใหม่ของงานรณรงค์โครงการล้างสารพิษ หรือ Detox เพื่อแฟชั่นปลอดสารพิษ โดยเผยว่าเจ้าปีศาจน้อยสารพิษนั้นได้ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าเด็กประเภทต่างๆ ตั้งแต่เสื้อผ้าสุดหรูไปจนถึงราคาประหยัด และได้ออกมาเรียกร้องให้แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่างเบอร์เบอร์รี อดิดาส และดีสนีย์ร่วมกันออกมาลงมือเปลี่ยนแปลงเพื่อเยาวชน

แรกเริ่ม...

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่งานแถลงข่าว ณ ประเทศจีน ไต้หวัน และฮ่องกง ที่ซึ่งสื่อมวลชนมาร่วมฟังเรื่องราวของปิศาจในตู้เสื้อผ้า : Little Story about the Monsters in our Closet และทำความรู้จักกับปีศาจน้อยสารพิษด้วยตนเอง

Launch of Detox Report: 'A Little Story About the Monsters in Your Closet'

ต่อมา …

อีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น นักกิจกรรมในประเทศฮังการีได้จัดเวิร์กชอปที่มีเจ้าปีศาจสารพิษอยู่ด้านหน้าร้านอดิดาสสาขาใหญ่ในเมืองบูดาเปสท์ เผยถึงปีศาจอันตรายที่ซุกซ่อนอยู่ในเส้นใยที่นำมาใช้ผลิตเป็นเสื้อผ้าของเรา จากการที่ อดิดาสได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมล้างสารพิษ จากห่วงโซ่การผลิตแล้ว และโลกยังคงจับตามอง พร้อมกับเฝ้ารอให้แบรนด์นี้ทุ่มสุดตัวเพื่อแฟชั่นปลอดสารพิษ

Detox Protest Outside Adidas Store in Hungary

กระทั่งในที่สุด...

ทางด้านประเทศแมกซิโก เด็กๆ เกือบ 1,000 คนได้มารวมตัวกันในโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมส่งสารถึงแบรนด์ผู้ก่อมลพิษในทุกหนแห่งทั่วโลก ให้ร่วมกันล้างสารพิษให้กับอนาคตของเรา โดยไฮไลท์ของวันนั้นอยู่ที่ชายหาดสวยงามในเมืองเปอร์โต วัลลาตา ที่ซึ่งเด็กๆ ร่วม 100 คน ได้ร่วมกันแปรอักษรภาพมนุษย์บนผืนทราย มีภาพเรือธงของกรีนพีซ เรนโบว์ วอร์ริเออร์ อยู่ในพื้นหลัง ดูภาพเหตุการณ์ได้ ที่นี่


นิทานแห่งโลกสังคมออนไลน์

A Detox Fairy Tale

ขณะเดียวกัน บนโลกพื้นพิภพ สำนักงานกรีนพีซทั่วโลกกำลังบอกเล่าเรื่องราวนิทานล้างสารพิษบนสื่อออนไลน์อย่าง ทวิตเตอร์, อินสตราแกรม และ เฟสบุ๊ค ค่อยๆ เผยเรื่องราวในแต่ละบทตลอดทั้งวันควบคู่ไปกับ เวบไซท์นิทานล้างสารพิษ

เหล่านักกิจกรรม บล็อกเกอร์ ผู้ปกครอง และสาวกแฟชั่น ต่างร่วมกันช่วยบอกเล่านิทานสารพิษนี้ออกไป โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์บอกไปยังเบอร์เบอร์รี อดิดาส และดีสนีย์ เพื่อที่เด็กๆ จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตราบนานเท่านาน

จบอย่างมีความสุข?

กว่าสองปีที่ผ่านมาที่กรีนพีซ เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวระดับโลกที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมแฟชั่น โครงการล้างสารพิษนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่ยินยอมฟังเสียงผู้บริโภคและความคิดเห็นสาธารณะมากน้อยเพียงใด

ด้วยพลังจากมวลชนนี่เอง แบรนด์ดังทั้งหมด 17 แบรนด์ได้เข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์ล้างสารพิษ และยินยอมที่จะค่อยๆ ยุติการใช้สารเคมีอันตรายในเสื้อผ้า รวมถึงหยุดการก่อมลพิษต่อสายน้ำของเราภายในปี พ.ศ. 2563 นี้ ยิ่งไปกว่านั้น แบรนด์ส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ก็ได้เริ่มลงมือทำแล้ว (ดูรายชื่อแบรนด์ที่เป็นผู้นำ และแบรนด์ที่ยังล้าหลังไม่ดำเนินตามเจตนารมณ์ที่ตนได้ให้ไว้ ที่  Detox Catwalk)

ตามรอยคู่แข่งมาติดๆ คือแบรนด์อย่าง เบอร์เบอร์รี อดิดาส และดีสนีย์ ที่ยังสามารถผันตัวเองเป็นฮีโร่ในฝันร้ายแห่งสารพิษนี้ได้ด้วยการกำจัดปีศาจสารพิษออกไปตลอดกาล โดยก้าวขึ้นมาสร้างความโปร่งใสในห่วงโซ่การผลิต กำจัดสารเคมีอันตรายออกไป และเป็นผู้นำแนวหน้าในวงการแฟชั่นปลอดสารพิษ

ผู้ปกครอง นักช็อป และเราทุกคนสามารถร่วมยืนหยัดในสิ่งที่เราเชื่อ และสามารถทำให้แบรนด์ดังต่างๆ หันมาฟังเสียงเรียกร้องของเราได้

เปล่งเสียงของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหว และช่วยเราเผยแพร่งานรณรงค์ล้างสารพิษออกไป เพื่อให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าที่เราซื้อมาสวมใส่เอง และให้กับเด็กๆ นั้น จะแฝงไปด้วยเรื่องราวที่เราภาคภูมิใจ

ร่วมกันบอกให้ผู้ก่อมลพิษยุติการปล่อยปีศาจน้อยสารพิษเสียที

อยากรู้ข้อมูลเพิ่มหรือเปล่า?

ที่มา //www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/blog/47929/




Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2557 10:17:22 น. 0 comments
Counter : 1042 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com