รู้จักกับชุมชนเทพา จ.สงขลา ในระยะ 5 กิโลเมตรจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน
เขียน โดย กรวรรณ บัวดอกตูม อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา คือพื้นที่เป้าหมายของโรงไฟฟ้าถ่านหินตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2558-2579 (PDP 2015) ที่นี่จะกลายเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีกำลังการผลิตถึง 2,200 เมกะวัตต์ ที่แห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ที่ชุมชนเทพาพึ่งพาอาศัย ไม่ว่าจะเป็นบนผืนดินและผืนน้ำ แม้แต่ในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรจากศูนย์กลางของโครงการ ซึ่งเป็นบริเวณในระยะการศึกษาผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเทืยบเรือถ่านหินเทพา จังหวัดสงขลาของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตามที่สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (ส.ผ.) กำหนดขั้นต่ำของการศึกษาผลกระทบ ลองมาทำความรู้จักกับชุมชนเทพาไปพร้อมกับเรา ว่าวิถีชิวิตอันอุดมสมบูรณ์ของเมืองน่ารักแห่งสงขลานี้เป็นอย่างไร ภาพโดย กานต์ วรรธนะพินทุ กะปิเทพาสีชมพู จากความอุดมสมบูรณ์ของอ่าวไทย นอกจาก ไก่ทอดเทพา สถานีรถไฟกลิ่นอายเมืองเก่า ทะเลสวยสงบ และอากาศดีๆ แล้ว อำเภอเทพา จังหวัดสงขลายังมีความอุดมสมบูรณ์ที่หล่อหลอมความเป็นชุมชนชาวเทพาไว้ไม่ว่าจะเป็นชายฝั่งทะเลและอาหารที่ขึ้นชื่ออย่าง กะปิเทพา หาดเทพา มีอวนสำหรับดักเคยวางอยู่บริเวณหาด น้อยคนนักที่รู้ว่าหาดเทพาจะกลายเป็นที่ตั้งของท่าเรือขนส่งถ่านหินที่ลำเลียงผ่านมหาสมุทรมาโดยเรือใหญ่จากอินโดนีเซียและแอฟริกา น้ำทะเลหน้าหาดไกลออกไปที่ 300-500 เมตรจะถูกสูบเข้า มาใช้ในกระบวนการหล่อเย็นและปล่อยออกสู่ทะเล ซึ่งทะเลแถบนั้นจะพบ เคย สัตว์น้ำเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลที่จะต้องสูญเสียไปให้กับโรงไฟฟ้าถ่านหิน ภาพโดย กานต์ วรรธนะพินทุ ในช่วงเดือนกุมพาพันธ์ถึงเมษายน เคยจะขึ้นที่บริเวณหาดเทพาแห่งนี้ทุกปี โดยเดือนมีนาคมถือเป็นช่วงที่ทำรายได้ดีที่สุดในรอบปี วิธีการหาเคยคือแค่เดินลงไปในทะเลระดับเข่า และจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกว่าสัตว์น้ำชนขา เป็นสัญญาณให้ชาวประมงต้องนำอวนมาวาง หรือเรียกว่าการรุนเคยขึ้นมา จากนั้นจึงช้อนเคยหรือกุ้งขนาดเล็กมาทำความสะอาดแล้วนำมาใส่กระสอบ โดยเฉลี่ยแล้วจะได้เคยที่ 100 กิโลกรัมต่อวัน บางวันสามารถหาได้มากถึง 200 กิโลกรัมโดยราคารับซื้ออยู่ที่ 120-140 บาทต่อกิโลกรัม เส้นทางของเคยถูกนำไปแปรรูปให้เป็นกะปิ ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลที่เทพา ทำให้ กะปิเทพา สีชมพูจากเคล็ดลับการหมักด้วยเกลือตามสูตรในระยะเวลาที่เหมาะสม กะปิที่นี่จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นกะปิที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งจากทะเลอ่าวไทย นอกจากการแปรรูปแล้วการนำเคยสดมาเป็นส่วนผสมในการทำไข่เจียว ปรุงรสด้วยน้ำบูดู แล้วนำลงทอด เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาเทพาในช่วงที่มีเคยขึ้น หาดเทพาแห่งนี้เป็นที่ทำมาหากินของขาวประมงในพื้นที่และผู้ที่ทำประมงจากหมู่บ้านข้างเคียง จะเห็นตั้งแต่เรือเล็กขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ หากมองออกไปจากฝั่ง ช่วงเวลาและกระแสน้ำจะนำมาซึ่งสัตว์น้ำ เช่น ตอนเช้าตรู่ชาวประมงจะพากันออกมาวางอวนและเก็บในช่วงที่สายหน่อย ตอนเที่ยงจะมีกุ้ง เรือแต่ละลำก็มีเครื่องมือจับสัตว์น้ำ เลือกใช้จับอย่างเหมาะสมตามแต่ช่วงเวลา ตกเย็นน้ำลด ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะมาหาหอยเสียบ จะเห็นได้ว่าหาดเทพาเป็นที่ทำมาหากินได้ตลอดทั้งวันของชาวประมง หากมีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้นที่นี่ อาจมีผลกระทบตามมา ไม่เพียงแต่กับสัตว์น้ำที่จะสูญเสียที่อยู่อาศัย แต่ชุมชนก็อาจจะสูญเสียรายได้จากการทำประมงด้วย แตงโม ยาง ข้าว ปาล์มน้ำมัน
ใครว่าดินเทพาปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น? จากทะเลสู่บนฝั่ง ยกพลขึ้นบกมาดูความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินเทพา ในเอกสาารจากรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่ใช้ประกอบประชุม ค.3 บ่งชี้ว่าทรัพยากร/คุณภาพดินอยู่ในระดับต่ำ สำหรับบริเวณที่ตั้งโครงการ ส่วนใหญ่เป็นดินทราย มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เพราะมีสภาพเป็นกรดมากเกินไป เนื้อดินหยาบ ไม่อุ้มน้ำ ซึ่งลักษณะของดินนี้เหมาะสำหรับแก่การเพาะปลูกแตงโม แตงโมเทพารสชาติหวานเป็นผลไม้หลักที่เกษตรกรเพาะปลูกในพื้นที่ สองข้างทางจะเห็นร้านขายแตงโมและฟักทองเรียงรายเชื้อเชิญให้ผู้คนที่สัญจรผ่าน แวะซื้อฝากคนปลายทาง ดินเทพาที่ว่าไม่อุดมสมบูรณ์นั้น คนในพื้นที่เล่าว่าตัวชี้วัดดูง่ายๆจากการปลูกต้นยาง ต้นยางที่นี่สามารถปลูกได้ห่างจากทะเลในระยะ 500 เมตร โดยปกติแล้วต้นยางจะไม่เจริญเติบโตในระยะที่ใกล้น้ำทะเล ชวนให้เกิดคำถามย้อนกลับว่า แล้วใครกันที่ว่าดินเทพาปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น? ข้าว อาหารหลักของคนไทย ที่เทพามีทุ่งเกาะครก ทุ่งนาผืนใหญ่ของคนเทพาปลูกข้าวนานาพันธุ์ เช่น ข้าวสังหยด ข้าวช่อขิง ข้าวเล็บนก ฯลฯ ชาวนาเพิ่งเสร็จฤดูเก็บเกี่ยวและจะถูกส่งเข้าสู่โรงสีชุมชนขนาดเล็ก เพื่อสีและนำไปขายที่ตามตลาดจนไปถึงเมืองใหญ่ข้างเคียง คงเป็นเรื่องน่าเสียดายเมื่อพืชเศรษฐกิจอันเป็นความมั่นคงทางอาหารของไทยเหล่านี้ จะได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหินในอนาคต คลองเทพามีแต่สัตว์น้ำตัวโต! คลองตุหยง เป็นพื้นที่ป่าชายเลนผืนใหญ่ในเขตสงขลาไปจนถึงปัตตานี กับลำน้ำที่มาจากเทือกเขาสันกลาคีรี เทือกเขาสำคัญที่กั้นพรมแดนระหว่างประเทศ อีกครั้งที่เครื่องมือทำประมงที่หลากหลายถูกนำมาเลือกสรรใช้อย่างเหมาะสมกับการจับสัตว์น้ำในแต่ละประเภท ถูกรังสรรขึ้นมาจากภูมิปัญญาของคนในพื้นที่ ที่ปรับใช้อย่างลงตัวกับทรัพยากรในท้องถิ่น ในป่าแห่งนี้ริมฝั่งคลองมีดงสมุนไพรขนาดใหญ่ ระหว่างทางเราจะพบไซปู วางดักปูอยู่ พื้นที่สองฝั่งคลองที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์ดีมาก มีสวนปาล์ม และนากุ้งร้างซึ่งเดิมมีการใช้พื้นที่ในการเลี้ยงกุ้ง และปล่อยน้ำเสียลงสู่ในลำคลอง แต่ด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจทำให้กุ้งราคาตกและโรคกุ้ง ทำให้กิจการบ่อกุ้งต้องปิดตัวลง การล่องคลอง ทำให้เห็นบ้านเรือน วิถีชีวิต ชุมชนริมฝั่งคลอง และป่าแสมขนาดใหญ่ ระหว่างล่องเรือ เราพบแมงกระพรุนตัวสีขาวใหญ่ ซึ่งพบในบางช่วงเวลาเท่านั้น ต้นมะพร้าวสองฝั่งคลอง ก็เป็นอีกหนึ่งรายได้ของคนในพื้นที่ เรือที่ใช้ในคลองส่วนใหญ่จะเป็นเรือไม้ เพราะกินน้ำน้อย ริมฝั่งคลองเราได้พบเห็นการแปรรูปสัตว์น้ำที่ได้จากในลำคลองแห่งนี้ คือการทำปลาตากแห้ง ที่ตากปลาวางเรียงรายอยู่ ปลาแห้งเทพาที่มีชื่อเสียง หาซื้อได้ที่ตลาดพระพุทธและตลาดท้องถิ่นทั่วไปในอำเภอเทพา ปลาแห้งจากเทพาถูกส่งขายไปไกลถึงนาทวี สะบ้าย้อย และในตัวเมืองหาดใหญ่ เป็นการเพิ่มมูลค่าจากสัตว์น้ำสดนำมาแปรรูปและเก็บรักษาได้ในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ป่าโกงกางที่ขึ้นหนาแน่นริมฝั่งคลอง รากของมันเป็นบ้าน ที่ปลากระพงตัวโตเข้ามาอยู่อาศัย คลองเทพา ใช้เวลาแค่เพียงครึ่งชั่วโมงก็สามารถมีรายได้จากการจับกุ้งได้แล้ว ชาวประมงผู้หญิงหลบแดดรอคอยเวลาเก็บอวนกุ้งที่วางไว้กั้นคลอง ครบเวลาเก็บ ก็จะปลดกุ้งออกจากอวน กุ้งที่ได้ตัวโตจากในคลองก็จะเต็มกระติกเล็กๆ ราคาขายกุ้ง อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 200 บาท ในวันหนึ่งพวกเขาแค่ต้องการกุ้งให้เต็มกระติกเล็กๆ เพื่อเก็บไว้ทานและขายในส่วนที่เหลือ ชาวประมงและผู้อยู่อาศัยที่ข้างคลองแห่งนี้ต่างปรับตัวและใช้ทรัพยากรอย่างอนุรักษ์ ใช้เครื่องมือที่ถูกต้องในการหาสัตว์น้ำ พวกเขารู้และช่วยกันรักษาทรัพยากรที่มีมากให้มีอยู่ มีใช้นานๆ ได้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน คลองแห่งนี้สมบูรณ์จนสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อน ที่พ่อค้าหลายพื้นที่ต้องการซื้อลูกปลาขนาดเล็กเพื่อนำไปเลี้ยง โดยมีการมารับซื้อถึงในพื้นที่ ภาพโดย กานต์ วรรธนะพินทุ คลองแห่งนี้มีความหมาย มีความง่าย และเอื้อประโยชน์ให้ชุมชนอย่างแท้จริง หอยนางรม เป็นสัตว์น้ำที่อยู่เฉพาะที่ คลองแห่งนี้สามารถหาหอยนางรมได้อย่างง่ายไม่ต้องดำน้ำลึก เพื่อเก็บหอย แค่ก้มลงหรือมุดไปเก็บโดยใช้มือเปล่า เก็บใส่ถุงกระสอบแล้วนำไปขาย หอยนางรมสดจากคลองเทพา นำรายได้ที่สามารถเลี้ยงปากท้องคนสองฝั่งคลองได้ ในเวลาสองวันกับการสำรวจพื้นที่พบทรัพยากร ในบริเวณ 5 กิโลเมตรรอบพื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ยิ่งทำให้เราแปลกใจและตั้งคำถามว่า ใครว่าเทพาไม่มีอะไร? เพราะเทพาเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ และไม่ควรเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะคุกคามความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรที่มีในผืนดินและผืนน้ำให้สูญหายไป ที่มา: Greenpeace Thailand
Create Date : 21 เมษายน 2559 |
| |
|
Last Update : 21 เมษายน 2559 10:46:51 น. |
| |
Counter : 1326 Pageviews. |
| |
|
|