กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
 

เสือโคร่ง มหัศจรรย์ราชันย์แห่งผืนป่า



เขียน โดย Richard George, Forest campaigner

ผม ริชาร์ด ผู้ประสานงานรณรงค์ปกป้องผืนป่าของกรีนพีซสหราชอาณาจักร ในปี 2556 ผมได้มีโอกาสเข้าไปทำงานรณรงค์ปกป้องผืนป่า ผมได้เรียนรู้และพบสิ่งที่มหัศจรรย์และน่าสนใจมากมายเกี่ยวกับสัตว์  และนี่คือ 10 เรื่องมหัศจรรย์เกี่ยวกับเสือที่ผมได้พบเจอในครั้งนั้น

1. เสือมีดวงตาที่เปล่งประกายที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งหมด

ตาของเสือถูกส่องแสงจากด้านหลังโดยเหยื่อหุ้มเซลล์สะท้อนแสงชนิดหนึ่งผ่านทางจอประสาทตา ต้องขอบคุณสิ่งนี้ที่ทำให้เสือมีดวงตาที่ส่องประกายที่สุด

2. เสียงคำรามที่น่าขนลุกของเสือ

เสือมีเสียงคำรามที่น่าเกรงขาม ซึ่งเสียงคำรามของเสือนั้นอาจดังไปไกลถึง 2ไมล์ แต่เสือจะมีเสียงอีกเสียงหนึ่งที่มีความถี่ในระดับต่ำจนมนุษย์ไม่สามารถได้ยินได้ แต่สามารถรู้สึกจนทำให้เรามีความรู้สึกขนลุกได้

3. ถ้าเราจ้องเข้าไปในตาเสือ อาจะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกทำร้าย

เสือมักล่าโดยการซุ่มโจมตี แต่ถ้าหากคุณจ้องตาของมันโดยตรง คุณกำลังบอกมันในเชิงว่าคุณรู้ตำแหน่งของมันนะ แต่นี่เป็นเพียงเรื่องที่เล่าต่อกันมา อยากลองพิสูจน์ทฤษฎีนี้ดูไหมล่ะ

4. ปัสสาวะเสือมีกลิ่นเหมือนป๊อปคอร์นรสเนย

นี่เป็นเรื่องจริงที่น่าสนใจ - เอาไปใช้ดีๆล่ะ

5. เสียงครางในลำคอ (Purr) แบบแมว เสือก็ทำได้นะ

เช่นเดียวกับเจ้าเหมียว เสือก็สามารถส่งเสียง - เพอร์(Purr) ตอนหายใจออกได้เหมือนกัน แต่แค่ทำตอนหายใจเข้าไม่ได้

6. มารยาทดีเยี่ยม

ปกติแล้วเสือจะต่อสู้กันเพื่อแย่งอาหาร (บ้างก็สู้กันถึงตาย) แต่เสือจะแบ่งอาหารถ้าเจอกันโดยบังเอิญในช่วงเวลาล่าเหยื่อ เสือตัวผู้มักจะรอให้ตัวเมีย และลูก ๆ กินอาหารก่อน และมันถึงจะตามเข้าไปกินด้วยทุกครั้ง

7. ลายพาดกลอน ลายที่ไม่มีซ้ำ

เชื่อหรือไม่? เสือแต่ละตัวจะมีลายที่ไม่ซ้ำกันเลย ก็คงเหมือนกับลายนิ้วมือของมนุษย์ที่เอาไว้ใช้แบ่งแยกตัวตน แต่สิ่งหนึ่งที่เสือมีเหมือนกันทุกตัวคือ ลายบนหน้าผาก ซึ่งเป็นแบบเดียวกับตัวอักษรภาษาจีนของคำว่า “ราชา”

8. ขาหลังของเสือมีความแข็งแรงมาก ถึงขนาดที่ตายแล้วก็ยังสามารถยืนได้

9. เสือเป็นศิลปินเลียนแบบที่ยอดเยี่ยม

อาณาเขตของเสืออาจทับซ้อนกัน จึงทำให้บางครั้งเสือก็ล่าหมีเช่นกัน โดยเสือจะล่อลวงหมีเข้ามาในอาณาเขตด้วยการเลียนเสียงแบบเหยื่อของหมี

10. เสือมีความจำที่ดีกว่ามนุษย์

เสือถือว่าเป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์ที่มีความทรงจำดีเยี่ยม และมีความทรงจำดีกว่ามนุษย์ โดยมีระบบสมองที่เเข็งแรงในการบันทึกความทรงจำ กล่าวคือ ความจำระยะสั้นของเสือนั้นยาวนานกว่ามนุษย์ประมาณ 30 วินาที

แต่สิ่งที่น่าเศร้าใจและน่าตกใจคือในปัจจุบันสถานะของเสือโคร่งอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธ์ุจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการรุกล้ำบุกรุกป่าซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสือโคร่งอยู่ในอันตราย เราสามารถร่วมกันปกป้องเสือด้วยการปกป้องอนุรักษ์ผืนป่า เพื่อให้สัตว์เหล่านี้ดำรงอยู่คู่กับโลกต่อไปนานเท่านาน


แปลโดย ภุชงค์ แซ่เล้า

ที่มา : Greenpeace Thailand




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2559   
Last Update : 8 สิงหาคม 2559 10:15:35 น.   
Counter : 1455 Pageviews.  


7 เหตุผลที่เงินลงทุน 10 กว่าบาทอาจมีส่วนทำลายสิ่งแวดล้อม



เขียน โดย จริยา เสนพงศ์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้


เงิน 10 บาท เป็นเงินที่หลายคนคิดจะเอาไปลงทุนซื้อหุ้นถ่านหินของกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ ซึ่งกำลังทำการขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10 บาทต่อ 1 หุ้น และขยับเป็นราคาประมาณ 16 บาทต่อ 1 หุ้น ณ วันที่ 14 ก.ค. 2559 แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุนซื้อหุ้นถ่านหิน รู้หรือไม่ว่าการลงทุนครั้งนี้มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และชีวิตของประชาชนจำนวนมหาศาลอย่างไรบ้าง

เงิน 10 บาท ของคุณสามารถเปลี่ยนตลาดทุนพลังงานได้อย่างไร หากคุณไม่นำเงินดังกล่าวไปลงทุนซื้อหุ้นถ่านหินของกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ คุณคือผู้เปลี่ยนอนาคตตลาดการลงทุนพลังงานครั้งสำคัญ เพราะ........

1. เงินของคุณจะไม่ถูกนำไปใช้ลงทุนเพื่อเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่ม ทั้งในประเทศไทย ประเทศในภูมิภาคอาเซียนและประเทศจีน

การใช้เชื้อเพลิงถ่านหินมีแนวโน้มชะลอตัวในหลายประเทศทั้งในสหรัฐอเมริกา อินเดีย สาธารณรัฐประชาชนจีนและยุโรป

อ้างอิง Boom&Bust 2016 Tracking the Global Coal Plant Pipeline 2016, CoalSwam, Sierra Club, Greenpeace

เงินจากการซื้อหุ้นถ่านหินบ้านปู ทางบริษัทฯวางแผนจะนำไปใช้ในการขยายโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีอยู่แล้วและจะนำไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ ทั้งในโครงการขยายโรงไฟฟ้าถ่านหินบีแอลซีพีของประเทศไทย โครงการขยายโรงไฟฟ้าถ่านหินหงสาของประเทศลาวภายใต้สัญญาผลิตไฟฟ้าขายมายังประเทศไทยและขายในประเทศลาว โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศจีน เป็นต้น

อ้างอิง : www.set.or.th/en/company/ipo/upcoming_ipo_set.html

หากคุณไม่ซื้อหุ้นถ่านหินกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ คุณอาจช่วยชะลอการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินดังกล่าวฯเพิ่มขึ้น 

อ้างอิง Boom&Bust 2016 Tracking the Global Coal Plant Pipeline 2016, CoalSwam, Sierra Club, Greenpeace

สถานะของโรงไฟฟ้าถ่านหินในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

2. เงินของคุณจะไม่เป็นส่วนหนึ่งในการก่อความเสี่ยงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแบบสุดขั้วเพิ่มขึ้น

การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นสัดส่วนมากสุดเมื่อเปรียบเทียบกับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคส่วนอื่นบนโลกใบนี้ สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินมากกว่าร้อยละ 70

อ้างอิง : endcoal.org/wp-content/uploads/2014/09/EndCoalFactSheet_WEB.pdf

ประธานธนาคารโลก World Bank ชี้ว่าหากภูมิภาคเอเชียยังคงเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่เพิ่มขึ้น หายนะต่อโลกใบนี้จะเกิดขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิของโลกจะเพิ่มขึ้นได้อีกเพียง 2 องศาเซลเซียสเท่านั้น หากทุกประเทศไม่ร่วมกันปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหินเดิมที่กำลังเดินเครื่องและยังเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่ม โลกจึงเกินเยียวยาและหยุดยั้งจากผลกระทบที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าที่กำลังเผชิญ

หากคุณไม่ซื้อหุ้นถ่านหินกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ คุณก็จะทำให้โอกาสของบริษัทฯลดลงที่จะนำเงินไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน และคุณจะเป็นส่วนสำคัญในการลดอัตราการเร่งผลกระทบจากโลกร้อน ซึ่งในที่สุดหายนะดังกล่าวก็จะย้อนกลับมาสู่พวกเราทุกคนรวมทั้งตัวคุณเอง

3. เงินของคุณจะไม่เป็นส่วนสำคัญที่เอื้อให้กลุ่มบริษัทบ้านปูฯ เปิดสัมปทานเหมืองถ่านหินเพิ่มในอินโดนีเซีย มองโกเลียและออสเตรเลีย 

โรงไฟฟ้าถ่านหินต้องใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง เชื้อเพลิงถ่านหินส่วนใหญ่เป็นการนำเข้ามาจากประเทศผู้ส่งออกถ่านหินอันดับต้นของโลกอย่างออสเตรเลียและอินโดนีเซีย เงินที่ได้จากการขายหุ้นของกลุ่มบริษัทบ้านปูฯจะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน การขนส่งถ่านหินและโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างครบวงจร กิจการเหมืองถ่านหินมีทั้งในประเทศออสเตรเลีย อินโดนีเซียและมองโกเลีย ซึ่งกำลังสร้างผลกระทบอย่างหนักให้กับประชาชนในพื้นที่ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต

อ้างอิง :

การล่มสลายของทรัพยากรในหลายพื้นที่และการเพิกเฉยต่อความรับผิดชอบดังกล่าวทำให้อุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมตัวสำคัญ ทั้งการตัดไม้ทำลายป่าผืนใหญ่เพื่อเปิดหน้าดินขุดถ่านหิน การปนเปื้อนสารพิษของแหล่งน้ำธรรมชาติและแหล่งน้ำบริโภคของผู้คนบนโลกใบนี้

หากคุณไม่ซื้อหุ้นถ่านหินกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ วงจรอุตสาหกรรมถ่านหินถูกตัดตอน เมื่อไม่มีโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินก็ไม่ต้องขุดถ่านหินมาขายและสร้างผลกระทบต่อโลกมากขึ้น

4. เงินของคุณจะไม่เป็นห่วงโซ่ผลประโยชน์ให้กับกลุ่มบริษัทที่เข้ามาประมูลโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและการขายเทคโนโลยีถ่านหิน

เงินลงทุนในหุ้นถ่านหินของบริษัทบ้านปูฯ มิได้ก่อกำไรและประโยชน์ต่อเจ้าของอุตสาหกรรมถ่านหินทั้งเหมืองถ่านหิน การขนส่งถ่านหินและโรงไฟฟ้าถ่านหินเท่านั้น แต่เมื่อโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินผ่านการอนุมัติของรัฐบาลแต่ละประเทศที่เป็นเป้าหมายทั้งในประเทศไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกแล้ว อีกกลุ่มผลประโยชน์หนึ่งที่ไม่เกินความคาดหมายและเป็นพันธมิตรอันดีเยี่ยมกับกลุ่มอุตสาหกรรมถ่านหินดังกล่าวนั่นคือ กลุ่มเทคโนโลยีถ่านหิน โดยกลุ่มนี้เป็นธุรกิจร่วมทุนหลักทั้งในฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่นและไทย เป็นต้น ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าและเทคโนโลยีถ่านหินเป็นที่รู้จักกันดี

ทั้งบริษัท อัลสตอม เพาเวอร์ ซิสเต็ม, บริษัท อัลสตอม (ประเทศไทย) จำกัด The Consortium Consisting of ALSTOM Power Systems, ALSTOM (Thailand) Ltd มารูเบนิ คอร์ปอเรชั่น Marubeni Corporation พาวเวอร์ คอนสตรัคชั่น คอร์เปอเรชั่น ออฟไชน่า Consortium of Power Construction Corporation of China บริษัท อิตาเลียน-ไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)Italian-Thai Development Public Company Limited โดยบางบริษัทเหล่านี้เป็นผู้ได้ประมูลในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินหงสา และ บีแอลซีพี เป็นต้น นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯดังกล่าวได้ยื่นซองประมูลโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และคาดว่าอีกหลายโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะขยายและสร้างใหม่เพิ่ม

หากคุณไม่ซื้อหุ้นถ่านหินกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ คุณก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดตอนห่วงโซ่ผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมถ่านหิน ตั้งแต่ธุรกิจเหมืองถ่านหิน ธุรกิจขนส่งถ่านหิน จนถึงธุรกิจโรงไฟฟ้าถ่านหินซึ่งพ่วงด้วยตัวการหลักคือกลุ่มทุนก่อสร้างและขายเทคโนโลยีถ่านหิน

5. เงินของคุณจะช่วยชะลอเงินลงทุนจากธนาคารและสถาบันการเงินในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและเหมืองถ่านหิน

เงินที่นำมาลงทุนในอุตสาหกรรมถ่านหินนั้นมาทั้งจากเงินที่ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์และเงินที่สถาบันการเงินต่างๆนำมาให้กู้ โดยเงินเหล่านั้นก็ล้วนมาจากประชาชนอย่างเราทั้งสิ้น เงินที่ได้จากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของกลุ่มบริษัทบ้านปูฯก็มาจากการเข้าซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้ถือหุ้นรายย่อยและในส่วนของการลงทุนเพิ่มในแต่ละโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและเหมืองถ่านหินก็จะมาจากการที่บริษัทไปกู้เงินจากสถาบันการเงินมาลงทุนเพิ่ม ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนอย่างกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินบีแอลซีพี พื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง ที่ธนาคารและสถาบันการเงินทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเอาเงินฝากของประชาชนและเงินทุนของประเทศมาปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทบ้านปูและบริษัทร่วมทุน เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดระยอง

อ้างอิง : รายงานการดำเนินกิจการของกลุ่มบริษัทบ้านปู  www.banpu.com

อีกกรณีที่ธนาคารในประเทศไทยปล่อยเงินกู้จำนวนกว่า 2783 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่สุดเท่าที่ธนาคารในประเทศไทยเคยปล่อยกู้มา เงินดังกล่าวมาจากธนาคารทั้งสิ้น 9ธนาคารได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงศรี ธนาคารธนชาติและธนาคารทหารไทย ซึ่งนำเงินฝากของประชาชนมาสนับสนุนกลุ่มบริษัทถ่านหินบ้านปูดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินหงสาและเหมืองถ่านหิน ในประเทศลาว

หากคุณไม่ซื้อหุ้นถ่านหินบริษัทบ้านปูฯ บริษัทบ้านปูฯจะไม่สามารถนำเงินดังกล่าวไปร่วมลงทุนกับเงินกู้จากสถาบันการเงินเพื่อให้อุตสาหกรรมถ่านหินอยู่รอดและต่ออายุการล้างผลาญทรัพยากรของกลุ่มอุตสาหกรรมถ่านหินบนโลกใบนี้

6. เงินของคุณจะไม่ก่อให้เกิดอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

การลงทุนในอุตสาหกรรมถ่านหินก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพและชีวิตของประชาชน รวมทั้งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีการคาดการณ์ว่าปัญหามลพิษทางอากาศจากการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินก่อให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

การเผาไหม้ถ่านหินในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนสูงถึง 260,000 รายในปี 2554 โดยเด็ก 320,000 รายและผู้ใหญ่ 61,000 รายทุกข์ทรมานจากโรคระบบทางเดินหายใจ เด็กทารกแรกเกิดราว 36,000 รายมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งนี้ประชาชนราว 340,000 รายต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

อ้างอิง Boom&Bust 2016 Tracking the Global Coal Plant Pipeline 2016, CoalSwam, Sierra Club, Greenpeace

การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชาชนจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ที่เวียดนามอยู่ที่ 21,000 ราย ประเทศอินโดนีเซีย 19,000  ราย ประเทศไทย 3,800 ราย ประเทศฟิลิปปินส์ 2,400ราย ทั้งนี้มลพิษทางอากาศจากโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ที่เดินเครื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินเท่านั้นแต่มลพิษดังกล่าวสามารถส่งผลกระทบข้ามพรมแดนไปยังประชาชนในพื้นที่อื่น

หากคุณไม่ซื้อหุ้นถ่านหินบริษัทบ้านปูฯ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะขยายและที่จะสร้างใหม่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ คุณก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการหยุดอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

7. เงินของคุณจะไม่ถูกนำไปใช้คืนชีพอุตสาหกรรมถ่านหินของบริษัทบ้านปูฯ


หากคุณไม่ซื้อหุ้นถ่านหินของบริษัทบ้านปูฯ จะเป็นการช่วยผลักดันให้บริษัทฯ หันมาลงทุนพลังงานหมุนเวียนได้ 100% ภายในปีพ.ศ.2568 ซึ่งทางบริษัทมีศักยภาพอย่างเต็มที่ เนื่องจากทางบริษัทฯได้ริเริ่มลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์บางแห่ง อย่างเช่นที่ประเทศญี่ปุ่นและจีน ซึ่งมีสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 5  หากเทียบกับการลงทุนหลักในอุตสาหกรรมถ่านหิน คุณจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้การลงทุนถ่านหินถึงจุดจบและเพิ่มสัดส่วนการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้เกิดการลงทุนด้านพลังงานอย่างยั่งยืน

อยู่ที่คุณแล้ว ที่จะกำหนดว่าเงิน 10 บาทของคุณจะนำไปใช้เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมถ่านหินและผลกระทบทั้งหมด หรือเปลี่ยนอำนาจของการลงทุนหันมาสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน

ผลักดันบ้านปูยุติยุคถ่านหิน ลงทุนพลังงานหมุนเวียนเต็มร้อย ร่วมลงชื่อคลิกที่นี่


ออกแบบภาพประกอบโดย ธีรธัญภัค เหลืองอุบล อาสาสมัครกรีนพีซ

ที่มา: Greenpeace Thailand




 

Create Date : 04 สิงหาคม 2559   
Last Update : 4 สิงหาคม 2559 13:34:50 น.   
Counter : 1310 Pageviews.  


โรงไฟฟ้าถ่านหินของอินเดีย ทยอยปิดเพราะขาดน้ำ



เขียน โดย บ็อบ เบอร์ตัน และ อาชิซ เฟอร์นานเดส

แม้ว่ารัฐบาลอินเดียจะเพิ่มการผลิตไฟฟ้าถ่านหินอีกสองหรือสามเท่าตัว ภาคพลังงานของอินเดียกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนน้ำ รายงานล่าสุดมีข้อมูลเตือนถึงวิกฤตที่หากยิ่งปล่อยไว้นานก็จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น

ช่วงต้นปีที่ผ่านมา การผลิตไฟฟ้าถ่านหินฟารักกา (Farakka power station) ขนาด 2,100 เมกะวัตต์ ในเวสต์เบงกอล ต้องสั่งยุติเดินเครื่องกังหันห้าตัวจากทั้งหมดที่มีอยู่หกตัว เพราะไม่มีน้ำใช้ในการผลิต

อีกสองสามวันหลังจากนั้น ก็สั่งยุติการทำงานของเครื่องตัวที่หก ที่มีขนาด 500 เมกะวัตต์ การขาดแคลนน้ำทำให้ไม่มีแม้น้ำประปาเพียงพอให้คนงานที่ทำงานในโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือคนที่อาศัยอยู่ในเมืองใกล้ ๆ ใช้ เนื่องจากต้องผันน้ำมาป้อนโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าให้ทั้งห้ารัฐซึ่งผู้ผลิตโครงข่ายพลังงานต่างแย่งชิงทรัพยากรเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ ทั้งนี้มีการประเมินว่า จะไม่มีน้ำเพียงพอที่จะเปิดเครื่องผลิตไฟฟ้าถ่านหินได้จนถึงวันที่ 25 มีนาคม หรือ 13 วันหลังจากที่เครื่องแรกหยุดการผลิต

อ่านเพิ่มเติม
Investigation: Coal plants risk global water shortage
How coal is pushing China’s water supplies to the limit
India has a growing coal glut

โรงไฟฟ้าถ่านหินไรเชอร์ เธอร์มัล (Raichur Thermal Power Station)ในรัฐการ์นาตากาขนาด 1,720 เมกะวัตต์ ก็ประสบภาวะขาดน้ำเช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2559 และเริ่มปิดเครื่องไปแล้วหลายเครื่อง เมื่อโรงไฟฟ้าถ่านหินปิด จึงไม่มีการผลิตและเดินเครื่อง ถ่านหินที่นำเข้ามาจึงกองเพิ่มขึ้นและขาดแคลนที่เก็บถ่านหิน

วิกฤตน้ำในอินเดีย

ปัญหานี้ใหญ่กว่าแค่การต้องปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินฟารักกา และโรงไฟฟ้าถ่านหินไรเชอร์ แต่อินเดียได้ประสบภาวะยึดเกาะกับวิกฤตน้ำที่รุนแรงมากขึ้น

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการส่วนกลางด้านน้ำได้คำนวนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 91 แห่งทั่วประเทศ พบว่าเหลืออยู่เพียงร้อยละ 27 ของปริมาณการกักเก็บทั้งหมด หมายความว่า อินเดียมีปริมาณน้ำเหลืออยู่มากกว่าหนึ่งในสี่ แต่น้อยกว่าปริมาณเฉลี่ยของปริมาณน้ำกว่าทศวรรษที่แล้ว

การผันน้ำให้กับโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นหลักจะส่งผลให้ราคาน้ำใช้เพื่อการบริโภค เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมอื่น ๆ แพงหรือไม่ หรือภาคพลังงานจำต้องมีมาตรการบังคับให้โรงไฟฟ้าถ่านหินใช้น้ำให้น้อย (หรือไม่ใช้) ในช่วงเวลาที่น้ำน้อยเช่นนี้

สาเหตุของภาวะขาดแคลนน้ำที่โรงไฟฟ้าถ่านหิน ฟารักกา เป็นส่วนหนึ่งจากข้อเรียกร้องภายใต้สนธิสัญญาเกี่ยวกับน้ำของฟารักกา 1996 ที่ระบุให้ต้องแบ่งปันน้ำกับเพื่อนบ้าน เช่น บังคลาเทศ ปรากฎการณ์ที่ต้องปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินเพราะการขาดแคลนน้ำ จึงไม่ใช่เรื่องใหม่

ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหิน 9 เดือน

โรงไฟฟ้าถ่านหินพาร์ลี (Parli power station) ซึ่งมีกำลังผลิตขนาด 1,130 เมกะวัตต์ ในรัฐมหารัชตระ ก็ปิดไปแล้วตั้งแต่กรกฎาคม ปี 2558 เพราะน้ำไม่พอสำหรับการผลิต

ห้าปีก่อนหน้านั้นการไฟฟ้ามหาเจนโก (MahaGenco) ซึ่งรัฐบาลของรัฐมหารัชตระเป็นเจ้าของก็ต้องปิดหลายเครื่องผลิตที่โรงไฟฟ้าถ่านหินจันทราปุระ (Chandrapur Thermal Power Station) ที่มีกำลังผลิตขนาด 2,340 เมกะวัตต์ เนื่องด้วยผลกระทบจากภัยแล้ง

การก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาปุระ (Solapur power plant) ของเอ็นทีพีซี NTPC ในรัฐมหารัชตระ ก็ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากคำถามที่ไม่มีใครตอบได้ว่า จะเอาน้ำจากที่ไหนมาใช้ การขาดแคลนน้ำยังก่อภาวะฝืดทางการเงินของบริษัทผลิตไฟฟ้าด้วย

ถ่านหินและน้ำ:  ปัญหาระดับโลก

รายงานของกรีนพีซ ย้ำว่า หากรัฐบาลอินเดียยังจะผลักดันให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน วิกฤตน้ำที่เกิดขึ้นจะยิ่งย่ำแย่ลงไปอย่างชัดเจน รายงานฉบับเดียวกันนี้ ได้ประเมินว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 17 กิกะวัตต์ (หรือ 17,000 เมกะวัตต์) ที่มีการเสนอจะใช้ถ่านหินของอินเดียร้อยละ 40 ก็จะเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำอย่างมากถึงมากที่สุด ในหลายพื้นที่

ขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินในระบบหล่อเย็นแบบแห้งน่าจะเป็นไปได้มากกว่าในทางเทคนิค แต่มีต้นทุนแพงกว่าและใช้ถ่านหินเยอะกว่า และต้องการน้ำสำหรับเพิ่มไอน้ำ เพื่อหมุนใบพัด

กลุ่มประชาสังคมหลายกลุ่มได้หยิบยกวิกฤตน้ำในปัจจุบัน จากการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าถ่านหินมาหลายปีแล้ว รายงานเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 เรื่อง Thermal Power Plants on The Anvil: Implications And Need For Rationalisation ของบริษัท ปรายาส เอนเนอร์ยี กรุ๊ป (Prayas Energy Group) เป็นลางบอกเหตุถึงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินระบบหล่อเย็น ที่ใช้น้ำมากมหาศาลกว่าเดิมนั้น จะเป็นสาเหตุของ “การขาดแคลนน้ำครั้งมโหฬาร” ในแหล่งน้ำหลายแห่ง ในหลายพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างเฉียบพลันและเห็นเด่นชัด

ในรายงานครั้งนั้น มีการเตือนถึงความผันแปรของปริมาณฝนประจำปี ที่ไม่สามารถยืนยันว่าปริมาณน้ำในรอบปีจะมีเพียงพอสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่  

ถึงเวลาของพลังงานหมุนเวียน

รัฐบาลของนายโมดิ ให้ความสนใจต่อการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ยังเหลืออยู่ และ เพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน และปรับโครงสร้างการเงินของโรงไฟฟ้าที่ใกล้จะล้มละลาย โดยให้ความสนใจเพียงเล็กน้อยกับเค้าลางของวิกฤตน้ำ

การจะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ค้างไว้ให้แล้วเสร็จนั้นดูท่าแล้วจะยิ่งเพิ่มความขัดแย้งภายใต้ภาวะการขาดแคลนน้ำแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ฤดูมรสุมของอินเดียถี่ขึ้นและคาดการณ์ไม่ได้เลย

หากวิกฤตน้ำยังคงดำเนินอยู่อย่างรุนแรงมากขึ้น ก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้รัฐบาลอินเดียเร่งให้มีการผลิตพลังงานหมุนเวียนโดยไม่ใช้น้ำ ให้เกิดขึ้นเร็วขึ้น

เวอร์ชั่นนี้เป็นฉบับแก้ไขจากบทความโดยองค์กร EndCoal
แปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในเว็บไซต์ energydesk.greenpeace.org โดย บ็อบ เบอร์ตัน บรรณาธิการแห่ง CoalWire แถลงการณ์รายสัปดาห์ของภาคการพัฒนาอุตสาหกรรมถ่านหินทั่วโลก และ อาซิช เฟอร์นานเดส เจ้าหน้าที่รณรงค์อาวุโสของกรีนพีซ


ที่มา: Greenpeace Thailand




 

Create Date : 04 สิงหาคม 2559   
Last Update : 4 สิงหาคม 2559 11:09:13 น.   
Counter : 1044 Pageviews.  


แสงอาทิตย์กับวิถีชีวิตที่บราซิล



เขียน โดย Rebecca Field

พลังงานจากแสงอาทิตย์กำลังค่อยๆเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนทั้งโลก จากอินเดียถึงแคนาดา แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่อุดมสมบูรณ์เหล่านี้ได้สรรสร้างแหล่งน้ำที่สะอาดและยังเป็นแหล่งพลังงานให้กับโรงเรียนหลายๆแห่ง

ในบราซิล การปฏิวัติมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ยังเป็นเพียงขั้นเริ่มต้น แต่ถึงกระนั้นมันได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชาวบราซิลทั่วทั้งประเทศแล้ว  นี่เป็นเพียงภาพรวมของคุณประโยชน์บางส่วนที่แสงอาทิตย์ได้สร้างให้กับคนที่นี่

น้ำดื่มพกพา

ชุมชน Rio Grande do Norte เคยประสบภาวะขาดแคลนแหล่งน้ำดื่ม แต่ปัจจุบันนี้พลังงานแสงอาทิตย์ได้เติมเต็มชีวิตของพวกเขากว่า 200 ชีวิตให้มีน้ำดื่มที่สะอาด


ห้องเรียนที่สว่างสดใสกว่าเดิม

โรงเรียนในวิดีโอนี้เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ได้รับแผงโซล่าเซลล์มาใช้ในบราซิล ในปัจจุบันมีน้ำประปาที่เป็นน้ำร้อนแล้ว ห้องเรียนได้รับการปรับปรุงให้สว่างมากขึ้น เด็กนักเรียนที่นี่กำลังแนะนำผู้ปกครองรวมทั้งชุมชนของพวกเขาให้ตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุนใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนนี้


น้ำแข็งจากแสงอาทิตย์

ชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางป่าอเมซอน วิถีชีวิตของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อได้รู้จักกับพลังงานแสงอาทิตย์  บ้านพักอาศัยทุกหลังตอนนี้มีน้ำเย็นดื่มและสามารถแช่แข็งปลาได้แล้ว ทั้งหมดนี้มาจากแผงโซล่าเซลล์ที่ให้พลังงานในการแช่แข็งและเก็บความเย็นแก่พวกเขา


งานรักษ์โลก

ชีวิตของคุณ Neide Silva ได้เปลี่ยนไปเมื่อรับงานติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาคอนโดที่รัฐบาเยีย


ถึงแม้จะดูเหมือนว่าแสงอาทิตย์ให้อะไรหลายๆอย่างแก่ชาวบราซิล แต่นั่นเป็นเพียงร้อยละ 0.02 ของประเทศเท่านั้นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มาจากแผงโซล่าเซลล์ ลองจินตนาการดูสิ! อนาคตจะดีขึ้นมากแค่ไหนถ้าเราใช้แผงโซล่าเซลล์มากกว่านี้

อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผงโซล่าเซลล์ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ และอย่าลืมแบ่งปันให้ครอบครัวและเพื่อนๆของท่านผู้อ่านกันด้วยนะคะ

Rebecca Field is a Multimedia Editor for the Americas at Greenpeace USA.


แปลโดย ดลชนก แก้วปรีดาเชษฐ อาสาสมัครกรีนพีซในโครงการแปลเปลี่ยนโลก

ที่มา: Greenpeace Thailand




 

Create Date : 03 สิงหาคม 2559   
Last Update : 3 สิงหาคม 2559 14:00:56 น.   
Counter : 923 Pageviews.  


สารกำจัดศัตรูพืช ภัยร้ายต่อระบบนิเวศ



เขียน โดย Dr. Dirk Zimmermann


คนโดยมากมักไม่ทราบว่าการใช้สารเคมีสังเคราะห์กำจัดศัตรูพืชหลายร้อยชนิดในปริมาณหลายล้านตัน คือเบื้องหลังของอาหารที่ไม่น่าอภิรมย์ แต่รายงานของกรีนพีซเกี่ยวกับการรณรงค์ด้านอาหารฉบับนี้ Europe's Pesticide Addiction ได้เผยถึงภัยเสี่ยงที่อาจแฝงอยู่ในอาหารของเรา

ย้อนกลับไปกว่า 50 ปี เกษตรกรส่วนใหญ่ในประเทศแถบยุโรปมักดูแลพืชของพวกเขาด้วยสารกำจัดศัตรูพืชที่หลากหลาย แทนที่จะใช้สารเคมีชนิดเดียวอย่างหนักหน่วงเป็นที่พึ่งสุดท้ายเมื่อมีการระบาดของศัตรูพืช ผลที่ตามมาคือ สารเคมีจะถูกฉีดพ่นไปยังพืชอยู่ซ้ำ ๆ ตลอดฤดูกาลเพาะปลูก ประมาณการณ์ว่าปริมาณการใช้สารกำจัดศัตรูพืชต่อการเพาะปลูกเพิ่มมากขึ้นทุกที่  ซึ่งรวมถึงที่ตลาดอันได้ชื่อว่า “มีคุณภาพ” ของยุโรป

ในปัจจุบันการพึ่งพาสารเคมีได้มาถึงจุดที่เกือบทุกระบบนิเวศบนโลกได้รับผลกระทบจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่เป็นอันตราย

การใช้ยากำจัดวัชพืชอย่างไม่ลืมหูลืมตาของยุโรป แสดงให้เห็นถึงทั้งผลกระทบร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อมและความเร่งรีบของการบังคับใช้กฎระเบียบที่ควรจะทำหน้าที่ควบคุมการใช้งาน สิ่งนี้เรียกร้องให้พวกเราทุกคนหาทางทำลายวงจรอุบาทว์ของการใช้สารกำจัดศัตรูพืชโดยเร็ว เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปสู่ระบบเกษตรกรรมเชิงนิเวศ ที่ปลอดสารเคมี และสามารถทำได้จริง

ทำไมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้จึงมีความสำคัญ?

สิ่งหนึ่งที่รู้กันมาเป็นเวลานานคือการใช้สารเคมีในการเกษตรมีความเสี่ยงต่อสัตว์ป่าและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ สารกำจัดศัตรูพืชมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ – จากแหล่งข้อมูลของสหภาพยุโรป (วันที่ 9 ตุลาคม 2558) แสดงให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่าง ๆ ประมาณร้อยละ 24 กำลังถูกคุกคาม

ผลกระทบจากอาหารที่เรากินเป็นที่น่ากังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีผลเสียทางอ้อมที่เราไม่ค่อยได้พิจารณาจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืช เช่น การตายของผึ้งและนกที่กินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่ได้รับพิษ ในความเป็นจริงแล้ว หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือ ความลึกลับซับซ้อนของห่วงโซ่อาหาร กล่าวคือผลกระทบในระยะยาวที่เกิดขึ้นกับสัตว์ที่อ่อนแอขึ้น ง่ายต่อการเกิดโรค หรือสืบพันธุ์ อันเป็นผลมาจากสารเคมีที่รบกวนการทำงานของร่างกาย

สิ่งที่จะเกิดต่อไปคือผลกระทบรองเหล่านี้จะส่งผลต่อทุกสิ่ง และจะกระจายออกไปทั้งระบบนิเวศ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เราคิดว่า “มีอยู่” ในธรรมชาติ แต่เกี่ยวโยงถึงการล่มสลายของห่วงโซ่อาหาร 

ท้ายที่สุดแล้ว ภัยจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชนั้นกำลังคุกคามความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น การผสมเกสรดอกไม้ การควบคุมศัตรูพืชจากธรรมชาติ ความสะอาดของน้ำดื่ม การหมุนเวียนของสารอาหารและความอุดมสมบูรณ์ของดิน ซึ่งกระทบต่อระบบนิเวศที่เคยทำงานอย่างเต็มที่และเต็มประสิทธิภาพ 

จุดนี้คุณเริ่มที่จะประหลาดใจกับกฎระเบียบที่มีชื่อเสียงของยุโรปที่พวกเราได้ยินกันมาตลอดใช่ไหม ว่ากฎระเบียบนั้นมีช่องโหว่ขนาดใหญ่ในการประเมิน การอนุมัติ และการตรวจตรา ช่องว่างนั้นก็เหมือนความเชื่อมั่นในแบบจำลองที่ประเมินและทดสอบเฉพาะส่วนผสมที่ใช้ มากกว่าข้อมูลภาคสนามที่ทำการประเมินจากสูตรที่ใช้จริงในการปฏิบัติงาน และนี่คือความซับซ้อนที่ยิ่งใหญ่ แล้วใครกันเล่าที่ทำการทดสอบสารเคมีที่ออกมาสู่ตลาด ถ้าคุณทายว่าบริษัทสารเคมีที่ผลิตสินค้าขึ้นมา คุณทายถูกเลยล่ะ

แม้แต่สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ผ่านการตรวจตราและอนุมัติแล้ว ยังก่อให้เกิดอันตรายอันร้ายแรงต่อระบบนิเวศ รวมถึงส่งผลต่อชีวิตของมนุษย์

เกษตรกรรมเชิงนิเวศจะทำให้เกิดความแตกต่างได้อย่างไร?

จากการรวมตัวของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่และนวัตกรรมที่เกี่ยวกับธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ เราสามารถปกป้องดิน น้ำ และสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำหรับการผลิตอาหาร รวมถึงยังเป็นสิ่งที่เราแน่ใจว่าชุมชนเป็นเจ้าของอาหารและการเกษตร ไม่ใช่บริษัทข้ามชาติ กล่าวคือ ภาครัฐจะต้องปฏิบัติและเปลี่ยนแปลงด้านการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินไปยังเกษตรกรรมเชิงนิเวศ เพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชนและเกษตรกร และเพื่ออาหารที่ดีต่อสุขภาพและการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์

Dr. Dirk Zimmermann เป็นนักรณรงค์เกี่ยวกับเกษตรยั่งยืนของกรีนพีซเยอรมัน


แปลโดย ชนนิกานต์ วาณิชยพงศ์ อาสาสมัครกรีนพีซ

ที่มา : Greenpeace Thailand




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2559   
Last Update : 2 สิงหาคม 2559 16:29:41 น.   
Counter : 1307 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com