No. 894 อาชีพแสนธรรมดาแต่ ใช้ได้นะ |
|
พวกเรากำลังอยู่ระหว่างปรับตัวเข้าทำงานที่เดิม แสนจะคุ้นเคย.. แต่ก็ทำใจรับรายได้ที่ลดลงหลายเปอร์เซ็นและก็ยังไม่รู้ |
ว่าจะเป็นระดับนั้นอีกกีเดือนกี่ปี |
|
แต่ก็ยังมีหลายคนยังต้องรอเรียกตัวกลับเข้าทำงานต้อง ตื่นขึ้นมาดูดวงอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่ขึ้นจากทิวไม้ที่ไกล |
ไม่สดชื่นเท่าที่ควรดูท้องนา สวน เพราะความเคยชินจากต้องอาบน้ำแต่งตัววิ่งไปขึ้นรถสองแถว |
ต่อรถเมล์ไปทำงานเช้านี้คงได้แต่นั่งชันเข่ามองไปไกลสุดสายตา |
สักวันคงได้กลับเข้าทำงาน |
|
ได้เขียนบล๊อกหรือบทความไว้ 3 ตอนแย้ม ๆ หยั่งเสียงว่าเพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไรบ้างของแนวโน้มการเงินของ พวกเราในอนาคต |
โดยเปิดแนวคิด ชวนกันตั้งแผนท่องเที่ยว 2 ตอน กับอ่านความคิดเห็นของคนทั่วไปในเฟชบุค Blockdit ในยูทูป |
ซึ่งนักวิเคราะห์สถานะการเศรษฐกิจทั่วไปหลายท่าน |
|
เพื่อนในเฟซบุค บล๊อกแกงค์บางคนให้ความเห็นว่า ไม่มีใจอยากจะเที่ยว ต้องเก็บเงินไว้ก่อนเพราะไม่รู้อนาคตว่า |
งานที่ทำจะได้ทำต่อไป หรือกิจการจะดีหรือไม่ |
ผมเองก็เดินห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง เพื่อผ่อนคลายจิต 555 กับสังเกตคนที่ไปเขาไปซื้อ หรือเดินเที่ยว ก็ยังดูไม่ออกเพราะ |
คนเดินห้างน้อยเกินไป แต่ถ้าร้านอาหารข้างทาง หรือภัตตาคารจะเห็นได้ชัด |
ร้านอาหารข้างทางยังเปิดร้านไม่มาก แต่ถ้าร้านอาหารประจำท้องถิ่นที่ดังยังมีคนไปอุดหนุนมาก จะลดลงกว่า 20 % ดูน่าจะดี |
แต่ตลาดนัดที่ขายอาหารสด อาหารสดร้อน ๆ พร้อมทานคนไปเยอะมาก |
|
แล้ววกมาถึง โครงการณ์ใช้เงินของรัฐบาล คงจะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินได้ ไม่กี่วันก็จะเปิดตัวเที่ยวในไทยมีเงินอุดหนุน |
หลายคนพูดว่า รัฐช่วยนายทุนพวกโรงแรมมากกว่า ร้านค้าอื่น... ก็น่าจะใช่ คนไปท่องเที่ยวไม่ได้ไปเพียงคนเดียวอย่างน้อยก็ |
สองคน แต่ละคนน่าจะใช้เงินส่วนตัวจ่าย ค่าอาหาร ซื้อของ ค่าน้ำมันรถเงินจะเจือจานไปเยอะ |
|
ผมเองก็คิดว่าใช่ รัฐคงมิได้หวังจะได้ภาษีจากโรงแรมจากที่เคยได้ เงินค่าภาษีห้องละ 80 บาทต่อปีต่อห้องและภาษีโรงเรือน |
อีก 12.5 % ของรายรับ ภาษีที่กล่าวมาได้ยกเลิกไปแล้ว จะใช้ภาษีทรัพย์สินแทนในปีภาษี พศ.2563 |
|
รัฐคงต้องการให้มีการจ้างงานหรือเรียก พนักงานกลับเข้ามาทำงานพวกเขาจะได้มีเงินใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว |
อีกส่วนหนึ่งโรงแรมจะได้ ใช้หนี้เงินกู้ที่นำมาลงทุนในกิจการ |
|
เอะ.. เชียร์รัฐบาล หรืออวย ไม่ใช่นะครับพูดความจริงตรงไปตรงมา |
|
จากการสังเกตเงินที่รัฐบาลกู้มาใช้ในโครงการณ์แก้ปัญหาโควิด มาจากคนที่สูงอายุที่มีเงินเก็บไว้มาก และคาดว่ายังมีคนที่มีเงิน |
เก็บไม่ได้ใช้อยู่ในธนาคารน่าจะเป็นคน วัยกลางคนหรือวัยทำงานอีกมาก และมากจริง ๆ |
ผมว่ารัฐบาลย่อมรู้จากตัวเลขที่ได้รับรายงานไม่ว่าจะธนาคารโดยตรงหรือจากแหล่งอื่น อาจจะให้รายงานว่าคนอายุเท่าใด |
มีเงินเท่าใด เป็นภาพรวมนะครับมิได้เจาะจงผู้ใด ตัวเลขนี้ไม่ยากเลยเพราะขณะที่ยื่นขอเปิดบัญชีธนาคารย่อมจะแจ้งอายุขณะ |
เปิดไว้ล่วงหน้า คอมพิวเตอร์ประมวลผลได้รวดเร็ว |
|
จึงเกิดโครงการท่องเที่ยวเพื่อชาติ หรือชื่ออะไรจำไม่ค่อยได้ เพราะคงไม่ได้ใช้บริการ เพราะต้องเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคต |
อีกอย่างถูกลดเงินเดือนกึ่งหนึ่ง |
|
ผมกับเพื่อน ๆ อีกหลายคนคงต้องทำตัวให้เล็กลงเหมือนเมื่อครั้ง ต้มยำกุ้งปี พศ.2540 มีน้อยใช้น้อย มีมากก็ใช้น้อย ใช้แบบพอเพียง |
แต่ไม่ต้องถึงกับ กินบะหมี่สำเร็จรูปกับข้าวนะครับ 555 นั่นมันเกินไป |
ภาพข้างล่างเป็นภาพเมื่อวานที่ หัวหิน ตอนเช้าไปออกกำลังกายแล้วแวะร้านข้างทางแถวร้านเจ็กเปี๊ยะ ราคาอย่างละ 20 บาท กินแค่นี้ก็อิ่มแล้ว 60 บาท กินกล่องเดียวนะครับมากกว่านั้น อิ่มเกิน |
|
ตอนเย็น กินมากหน่อย....ก็แถว ในเมืองเหมือนกันอาหารหลาย ๆ อย่างแบบนี้น่าจะกินครั้งแรกในตอนเก็บตัว 3 เดือน ส่วนใหญ่กินอาหารจานเดียวหรือไม่ก็อาหารเพียงสองอย่่างไม่ลำบากเลย |
.. |
... จำได้ว่าระยะต้มยำกุ้ง เงินสดในไทยเกือบจะไม่มี ค่าของเงินก็ลดลงน่าใจหายจากอัตรแลกเปลี่ยนเมื่อก่อน 25 บาทพอถึง |
วิกฤติลดลงเกือบ 50 บาท... เคยติดต่อขอกู้เงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง ใช้ LC หรือหนังสัญญาใช้เงินจากต่างประเทศว่าถ้า เรา |
ผลิตสินค้าเสร็จส่งลงเรือแล้ว ก็ให้ธนาคารจ่ายเงินให้เราทั้งหมด การกู้ชนิดนี้คือ แพคกิ้งเครดิต |
ผจก.ธนาคารส่ายหน้า ขอความเห็นใจกระซิบบอกว่าเราไม่ค่อยมีเงินเหมือนกัน เวร.... |
|
กลุ่มผมก็พวกที่ไปออกกำลังกาย เช่น จ๊อกกิ้ง ลานเวท แอโรบิค พวกเราจะทานกาแฟอาหารเช้ากันประจำ ต่างอาชีพกัน |
เช่น เซลล์แมนขายสี เฮียเพ้ง ผลิตถุงเท้าโรงงานใหญ่ บังหมัดส่งเนื้อวัวตามตลาดหลายแห่ง บังรันแลนด์ลอร์ดก็เจ้าของที่ดิน |
ในกรุงเทพเยอะมาก นักแสดงตลก นักร้อง แหะ ๆ บอกชื่อไม่ได้นะครับเดี๋ยวถูกมันตึ๊บเอา |
เฮียโชค เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ใหญ่ 4 แห่ง เฮียตือเจ้าของโรงหมู บังโซนเจ้าของรถตู้บริการนำเที่ยวหลายคัน เจ้าเกี้ยนเจ๊นี |
เจ้าของร้านขายเครื่องหนังให้ทัวร์ ตปท. น้องอ้อย ไกด์สาวที่ไม่อยากเจอ นทท.นัยตาคมแหะ ๆ เธอแอบบอกว่าทำไมด้วย |
คุณรัช ร้านขายอาหารตามสั่ง ลูกค้าเยอะมากขายแพงแต่ใช้อาหารมีเกรด นวลนี่ขายพลุจากไต้หวัน |
สัญชัย ส่งอาหารแช่แข็งไปญี่ปุ่น เอ้าเกือบลืมศักดิ์เจ้าของสร้างหมู่บ้านขาย อีกคนเฮียเป็ด ขายเป็ดใส้แก้ว |
|
ทุกคนทำตัวเล็กลง ใช้เงินน้อยลงไม่ลงทุนอะไรเพิ่มส่วนผมเอง ยังคงทำงานที่โรงงานรายได้ลดลง 50 % |
สำนักงานบัญชีของตนเองไม่มีรายได้เข้า จ่ายเงินทดแทนให้พนง. กลับบ้านไปทำนาหรือไปทำอะไรไม่รู้เหมือนกัน |
ผมกับเพื่อน ๆ สงบนิ่งรอจังหวะเพราะคาดว่า เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น และก็เป็นจริงไม่ถึง 3 ปีกิจการเริ่มฟื้นตัว ลูกค้าบัญชีตามตัว |
กลับไปทำงานและมีงานเพิ่มขึ้นมากมาย |
เพื่อนคนหนึ่งบอกว่า พี่ไวน์เกาะงานไว้ให้แน่นอย่าให้หลุด 555 ผมก็ทำตาม |
มีน้อยใช้น้อย ส่วนเพื่อน ๆ เจ้าของกิจการก็ค่อย ๆ ดีขึ้นหมายถึงกิจการนะเออ. ส่วนนิสัยพวกมันก็ดีบ้างไม่ดีบ้างต้องด่ามัน |
แน่นอนมันด่าผมบ้างแหละ |
สรุปเขียนมายาว ให้เพื่อน ๆ จับงานไว้ให้แน่น รอจังหวะค้าขายต่อไปเราต้องสู้... |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L |
st. 1,690,907 |
= |
ขอบคุณเพื่อนที่แวะเข้ามาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้นิดผมจะได้กลับไปเยือนได้ถูกครับ |
|
Diarist |
|
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์
โจทย์ยากของรัฐบาล
อาจไม่ใช่การรับมือกับโควิด
แต่คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนี่ล่ะครับ
เพราะปัญหาปากท้อง
มันจะโยงไปทั่วทั้งปัญหาสังคม
และปัญหาการเมือง
เงินกู้เกือบ 2 ล้านล้าน
ถ้าใช้ไม่ดี ใช้ไม่เป็น
มันจะละลายหายไปกับนโยบาย
ที่เกาไม่ถูกที่คัน และสุดท้ายมันก็จะอันตราทานหายไป
กับการใช้เงินของนักการเมือง
ตรงนี้ล่ะครับที่น่าห่วง
คนที่อยากเที่ยวมีแน่ๆ
แต่จะเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบ
หรือเดือดร้อนจากโควิด
คนที่เดือดร้อนจริงๆ น่าจะเป็นกลุ่มแรงงานรายวัน
และเจ้าของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างประเทศครับ
นอกจากทำรายได้ให้ประเทศเป็นจำนวนมาก
แต่ดูเหมือนทุกคนจะถูกทอดทิ้งจากรัฐบาลในการช่วยเหลือเยียวยา
ผมคุยกับไกด์ เจ้าของร้าน เจ้าของบริษัททัวร์
ทุกคนเจ็บปวดครับ การช่วยเหลือมาไม่ถึงมือจริงๆ