No. 831 เที่ยว พังงา เข้าสู่ กระบี่ ด้วยจักรยาน
No. 831 เที่ยวพังงา เข้าสู่ กระบี่ ด้วยจักรยาน

หมาป่าเดียวดาย ลาพักร้อนครึ่งเดือน ไป จ.พังงาด้วยจักรยานคนเดียว ค่ำไหนก็นอนนั่นก็ที่โรงแรมหรือโมเต็ล
เพื่อตามหา ตัวละคร มหาลัย เหมืองแร่ของ คุณอาจินต์ ปัญจพรรค์
และตามหาสถานที่ถ่ายทำเรื่อง Wonderful Town (ตอนที่ 20) ///////
นี้แหละครับทางขึ้นบ้านพักตำรวจ จากปากคำลุงแอ้มบ้านพักนายฝรั่งขึ้นไปตรงนี้ หากเรานึกถึงว่าทำไมบ้านพักตำรวจมาตั้งตรงนี้ก็เห็นความสอดคล้องของข้อมูลนะครับ นั่นคือบริษัทเหมืองแร่ได้สัมปทานจากรัฐบาลไทย
และได้อนุญาตให้ใช้ที่บริเวณนี้สร้างบ้านพักผู้จัดการเหมือง เมื่อเหมืองเลิกกิจการที่ดินก็คงกลับไปเป็นของรัฐบาล แล้วก็ตกทอดกลับมาให้เป็นที่สร้างบ้านพักตำรวจได้ในที่สุด สภ.ตะกั่วทุ่งนั้นอยู่ริมถนนใหญ่สายบายพาสส์แต่ตัวบ้านพักเข้ามาปลูกอยู่ในทางเข้าเหมืองนี้ ตรงก่อนปากทางเข้านั่นเป็นบ้านของพี่จอนชื่อจริงชื่อพี่เลียม
(ในหนังพูดภาษาคล้ายยาวี หรือไม่ก็ฮกเกี้ยนใครรู้บ้าง...?)

ตรงจุดที่หมาป่าจอดรถเห็นไกลๆนั่นเป็นบ้านพี่ยิ่ง พี่บุญยิ่ง ธรรมมะ หมาป่าเขียนข้อความถามลุงอาจินต์ในเฟซบุ๊คหลังจากกลับจากทริปแล้วว่าพี่บุญยิ่งนี้เป็นนามจริงหรือนามแฝง ลุงอาจินต์บอกว่าชื่อนี้เป็นนามจริง ชื่อเดียวกันกับที่ใช้ในหนังสือ
นี่เป็นจุดบ้านพี่บุญยิ่งถ่ายใกล้ๆ เลยถัดไปหน่อยนั่นคือสถานที่สำคัญยิ่งอีกแห่งในหนังสือ ที่ตั้งร้านโกต๋องนามจริงโกเตี๋ยนที่หมาป่าไปเยี่ยมครอบครัวลูกหลานมาเมื่อช่วงเช้าครับ เห็นโค้งที่เลยไปนั่นทอดลงเนิน ในหนังสือเขียนว่าเมื่อมีรถขนคนงานขึ้นมาก็ต้องเร่งเครื่องสู้แรงกับทะเลโคลนของผิวถนนในหน้าฝน แต่ห้ามบีบแตรเสียงดังเพราะเสียงจะไปกวนนายฝรั่งที่อยู่บนเนิน

หมาป่าขี่ขึ้นมาบนเนิน ตรงนี้เมื่อก่อนเป็นทุ่งหญ้ารายรอบเนินครับ นายฝรั่งจะประมูลให้มีคนมารับเหมาเผาหญ้าปีละครั้ง เมื่อเราอยู่บนเนินเมื่อมองลงไป ตรงข้ามถนนลงไปนั้นคือที่ที่ออฟฟิศเหมืองแร่ตั้งอยู่ โรงล้างแร่ก็อยู่ด้านล่างลงไปอีกติดกับคลองหรือลำธารด้านล่างซึ่งเรามองจากตรงนี้ไม่เห็นด้วยว่าต้นไม้มันบังอยู่ ตอนนี้สองจุดที่ว่าเป็นเขตบ้านคนกันหมดแล้วหมาป่าเลยไม่ได้ไปเดินลุยดู เกรงใจเขาน่ะครับ อีกอย่างก็เชื่อว่าไม่น่ามีซากอะไรหลงเหลืออยู่แล้วหลังจากผ่านมาหกสิบเอ็ดปี
ตรงที่ป่าหญ้าบนเนินนี้ เดาว่าคงเป็นบ้านที่ตั้งบ้านนายฝรั่งครับ

เอาล่ะครับ หมดจากจุดนี้ภารกิจตามรอยเหมืองกระโสม ทิน เดรดยิง ของหมาป่าบรรลุเรียบร้อย พันกิโลเมตรเศษๆที่ขี่มา เส้นทาง ผู้คน แสงแดด อากาศ ความเหนื่อยล้า เบียร์ตอนเย็นเป็นความอิ่มเอมหัวใจนักจักรยาน มาเจอสถานที่ตั้งของเหมือง เจอชาวเหมืองเก่า เจอร่องรอยของหนังสือเล่มโปรด ของหนังในดวงใจ นี้ก็อิ่มเอมหัวใจนักอ่านและแฟนหนังครับ คนรักหนังสือชุดเหมืองแร่ของอาจินต์เหมือนหมาป่าคงเข้าใจได้ว่าเช้าต่อจนบ่ายของวันที่ 12 มีนาคม 2557 นี้หมาป่ารู้สึกดีเช่นไรบ้างนะครับ
ที่เหลือจากนี้หมาป่าถือว่าเป็นโบนัสแล้วครับ ขี่ออกมายังปากทางเข้าเหมืองกระโสมต่อกับเพชรเกษม บ่ายแล้วและเริ่มหิว เลี้ยวซ้ายขี่ขึ้นไปทิศเข้าเมืองพังงา หมาป่าแวะกินกะเตี๋ยวราดหน้า

ตรงร้านฝั่งตรงข้ามสถานีตำรวจปัจจุบันของตะกั่วทุ่งที่ตอนนี้อยู่บนเส้นเพชรเกษมเส้นหลักเลี่ยงตัวอำเภอดังเดิมออกมา

เป็นสถานีตำรวจแห่งที่สามของอำเภอแล้วล่ะครับ (เว้นแต่ว่าเมื่อโบราณก่อนหน้านั้นเคยมีสถานีตำรวจที่เคยตั้งอยู่ก่อนที่เดิมที่เคยอยู่ตรงข้ามที่ทำการอำเภอ นั้นก็จะทำให้ลำดับมากกว่าสาม)
กินมื้อเที่ยงเสร็จขี่อีกยี่สิบกว่ากิโลเมตรก็ถึงพังงาครับ
ข้างทางหมาป่าเห็นภูเขาหินปูนสวยสง่าแบบภาพเขียนภู่กันจีนแถบทะเลอันดามันเยอะขึ้น หมาป่าแวะหากาแฟจิบในเมืองพร้อมหาที่พักไปด้วย เจ้าของร้านกาแฟผู้หญิงแนะนำรีสอร์ทที่พี่ชายทำอยู่ ขี่มาแถวตัวเมืองที่มีเนิน ชื่อว่าพังงาเฮาส์ ห้องพักเก๋ผิดกว่าบังกะโลรายทางที่ผ่านมา เสียอยู่นิดสำหรับนักจักรยานขี้เกียจคือปากทางเข้าก็อยู่บนเนิน แต่ต้องขี่ขึ้นเนินขึ้นไปอีกสักสองสามร้อยเมตร ชันระดับจานสองเฟืองสี่ขี่หนืดๆขึ้นไปน่ะครับ
หมาป่าเอาของเข้าห้องแล้วจะขี่ลงมาหาข้าวเย็นกิน (นึกถึงตอนกินเสร็จแล้วต้องขี่ขึ้นอีกรอบก็ให้อยากสั่งผัดกระเพรามากินในห้องแทน)
ถามคนเฝ้าห้องว่ารู้จักโรงแรมเก่าที่ตั้งโดดอยู่นอกเมืองไหม คือจะไปตามหาโรงแรมในเรื่อง Wonderful Town ที่ค้างไว้จากตอนอำเภอตะกั่วป่าน่ะครับ คนเฝ้าห้องบอกมีโรงแรมนึงอารมณ์ใกล้ที่ว่ามา อยู่ขึ้นไปทางเหนือของตัวเมือง ชื่อว่าโรงแรมหลักเมือง 1 ติดกับปั๊มเชลล์ หมาป่าขี่ไปก็เจอโรงแรมในหนังจนได้ในที่สุดครับ
 ....

นี้เป็นมุมเดียวกับพระเอกมองเห็นโรงแรมตอนต้นเรื่องตอนที่กำลังเติมน้ำมันรถเลย(ภาพขาวดำข้างบน) ก่อนที่จะเดินเข้ามาถามหาห้องพักกับนางเอกที่ฟุบหลับกับเคาน์เตอร์อยู่
หมาป่าคุยกับคนเฝ้า ท่าทางจะมีแฟนหนังเคยมาตามหาโลเกชันนี้หลายคน แกเอื้ออารีย์บอกให้เดินขึ้นไปดูข้างบนได้เลย จะดูที่ดาดฟ้าเลยก็ได้

นี้เป็นโถงกะไดในโรงแรม หมาป่าไต่ขึ้นมาจนถึงดาดฟ้าที่เป็นฉากพระเอกจีบนางเอกตอนเก็บผ้าน่ะครับ

อันนี้มุมใกล้เคียงกับโปสเตอร์หนังเลยเชียว (ภาพซ้ายมือถ่ายเอง ขวามือเป็นภาพในหนัง) (หมาป่า ฯ ชอบภาพขาวดำ ที่บ้านมีที่ล้างฟิล์มและอัดภาพขาวดำเองเมื่อถ่ายภาพครั้งนี้ เลยปรับภาพเป็นขาวดำ...ไวน์กับสายน้ำ)

คุณอาทิตย์ อัสสรัตน์ผู้กำกับและคนเขียนบทเรื่องนี้ แกบอกว่า จุดที่ก่อประกายให้แกเขียนบทและหาทางสร้างหนังก็เพราะแกมาเห็นตึกโรงแรมนี้ แกชอบและทำให้นึกผูกเรื่องไปถึงเมืองเหงาๆที่ผู้คนมีบาดแผลในชีวิตที่เมืองตะกั่วป่า นั่นแหละครับที่หมาป่าอ่านเบื้องหลังหนังมา
ก็อิ่มเอมใจคนรักหนังแบบหมาป่ากันพอชุ่มชื่นครับ ได้มาเจอสถานที่ถ่ายทำหนังที่ชอบอีกเรื่อง หมาป่าลาคนเฝ้าโรงแรม ขี่ออกมาหาข้าวกินในเมืองและขี่ขึ้นเนินกลับไปนอนที่พังงาเฮาส์ตอนค่ำๆ เข้านอนหมดวันที่น่าจดจำที่สุดของทริปนี้ วันนี้ไมล์สะสมรวมอยู่ที่ 1,080 กม.
พฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม วันที่สิบสี่
เช้านี้หมาป่าตื่นเช้าเกินเหตุไปหน่อย ตื่นตั้งแต่ตีสามเข้าห้องน้ำแล้วก็นอนต่อไม่หลับ
วันนี้หมาป่าจะเริ่มขี่จากพังงามุ่งไปพัทลุงไปหานักจักรยานท่านหนึ่งในเวปนี้คือครูสนั่น อันทเกตุ หมาป่าเคยรู้จักครูสนั่นหรือครูหมูมาก่อนในเวปเฉพาะทางอีกเวปหนึ่งที่ไม่ใช่เวปจักรยาน เคยเขียนกระทู้แลกเปลี่ยนความรู้หรือแซวกันเล่นมาเรื่อย ต่อมาจนถึงเวป Thaimtb นี้
เคยตั้งใจว่าจะขี่ลงมาเยี่ยมครูหมูที่พัทลุง แต่ยังไม่ปักใจแน่นอนว่าจะรวบเป็นทริปเดียวกับทริปนี้ได้หรือไม่ เพราะไม่แน่ใจตัวเองว่าถ้าไปถึงเหมืองกระโสมแล้วสภาพร่างกายจะดีเลวแค่ไหน
กะว่าถ้าโทรมมากก็จะตัดออกจากพังงาไปขึ้นรถไฟกลับที่สุราษฏร์
แต่ถ้ายังไหวก็จะลงไปถึงพัทลุงเสียในทริปเดียวกัน ด้วยวันข้างหน้านั้นไม่แน่ว่าช่วงเวลาที่จะลางานได้ยาวขนาดนี้จะมีอีกบ่อยๆหรือไม่ หรือไม่ก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะมีแรงหรือไม่ด้วย เช็คอาการตัวเองแล้วก็คิดว่าไปพัทลุงก็น่าจะไหว วันนี้หมาป่าเลยปักใจแน่แน่วว่าจะจบทริปขึ้นรถไฟกลับจากพัทลุง ขอขี่ไปเจอครูหมูเจอตัวเป็นๆให้สมศักดิ์ศรีนักจักรยานด้วยกัน
จากพังงาหมาป่าวางแผนไว้ว่าสองวันข้างหน้าจะเป็นสองฮอปก้าวกระโดดใหญ่ คือขี่ข้ามจังหวัดไปพักที่กระบี่ และจากกระบี่จะเข้าตรัง วันที่สามนั่นแหละจะขี่ผ่านเขาพับผ้าเข้าไปหาครูหมูที่บ้านพักตำบลแม่ขรี อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง ไม่พักอำเภอย่อยกันแล้ว (เริ่มเข้า ต.ท้ายช้าง)
...

(ละแวกนี้กลายเป็น สำนักวัฒนธรรมแทนศาลากลางหลังเดิม)

ก่อนออกนอกเมืองพังงาหมาป่ามาแวะถ่ายรูปที่ศาลากลางเก่าที่ข้างเขาช้าง ศาลากลางสวยเฉียบครับ จังหวัดบูรณะไว้อย่างดี
วันนี้ผลจากการตื่นเช้านอนน้อย หมาป่าขี่แล้วเพลียๆครับ ถนนกว้างใหญ่ขี่มาเจอแดดแรงลมแรงเพราะทางมันเปิดกว้างรับลม
เข้าทับปุดกินข้าวสายมื้อที่สองของวัน
จากทับปุดถนนเริ่มแคบเป็นสองเลนสวน ช่วงที่เข้าเขตกระบี่แล้วนั้นเขาเริ่มชันกินแรงมากขึ้นอีก

ข้างทางมีเขาหินปูนแบบที่ต่อเนื่องมาจากชายฝั่งพังงา

เขาแบบนี้หมาป่าว่ามันสวยกินใจที่สุด เคยนั่งเรือออกไปกลางทะเลตรงชายฝั่งกระบี่ครั้งแรกเห็นเขาพวกนี้ตามเกาะตามชายฝั่งแล้วมันสดชื่นบอกไม่ถูกครับ ยิ่งอยู่กับทะเลสีเขียวมรกตแถบอันดามันยิ่งงาม
หมาป่าว่าภูเขาหินปูนทรงแบบนี้สวยกว่าเขาแถบภาคเหนือนะครับ
เขาชันช่วงกระบี่กับพังงานี้จำได้ว่ามีแอ่งตัว U ด้วยนะครับ ขี่ลงมาสนุกมาก แต่จะเสี่ยงกว่าแอ่งตัว U บนเขาใหญ่เพราะรถที่วิ่งไปมามีเยอะกว่ามาก จะสนุกตอนทิ้งตัวลงมาต้องมองให้ดีว่าไม่มีรถ ไม่อย่างนั้นถ้ามีลมตัดข้างพัดเราเข้าหาตัวรถนี่ก็จบเกมส์ครับ
ยิ่งช่วงออกจากอ่าวลึก รถราเริ่มเยอะขึ้นจนเห็นได้ชัด

หมาป่าแวะกินข้าวร้านแกนไม้ตรงอีกสัก 20 กม.ก่อนเข้าตัวเมืองกระบี่ร้านนี้อร่อยมากครับ (ภาพในร้านยืมคนอื่นมานะครับ มัวกินอาหารเลยไม่ได้ถ่ายมา)

แกงเผ็ดปลาดุก กินกับไข่เจียว เครื่องแกงข้นหนับเผ็ดได้ใจแบบปักษ์ใต้
และช่วงบ่ายแก่ก็ขี่ขึ้นทางกว้างที่ตัดผ่าขึ้นเขาตรงช่วงเลยสถานีวิจัยยางกระบี่มา ทางชันต้องสับเกียร์สับเฟืองลงรับสู้กับแรงดึงดูดโลกหนักที่สุดของวัน แต่ความพิเศษคือต้นไม้ใหญ่ป่าไม้สองข้างทางเขียวครึ้ม เขียวร่มเย็นทั้งกายทั้งสายตาและหัวใจ จนขี่ทิ้งตัวลงมาด้านล่างถึงเข้าใจว่าทำไมต้นไม้มันเขียวทึบดีจังเพราะด้านล่างนั้นเป็นสำนักงานป่าไม้กระบี่ที่ตั้งอยู่ด้านขวามือครับ
หมาป่าขี่เข้าเมืองกระบี่ ในตัวเมืองนั้นเนินก็ยังเยอะ จนมาถึงดาวน์ทาวน์ที่เลียบฝั่งทะเล
กระบี่เจริญขึ้นมากกว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนจนหมาป่าจำแทบไม่ได้ เมื่อราวปีช่วงปี 2530 กว่าๆ ถึงราวๆปี 2541-42 หมาป่าชอบลงมาเที่ยวกระบี่ช่วงหลังคริสต์มาสและอยู่ยาวไปจนหลังปีใหม่แทบทุกปี
สมัยนั้นหมาป่ากับเพื่อนต้องขึ้นรถไฟหรือเครื่องบินไปลงที่ตรังแล้วต่อแท็กซี่ป้ายดำมาจากตรังด้วยว่ากระบี่ยังไม่มีสนามบิน
เราจะนั่งเรือหางยาวจากตัวเมืองกระบี่หรือไม่บางทีก็จากอ่าวนางไปพักที่หาดไร่เลย์กัน หาดไร่เลย์ตอนนั้นยังเป็นสวรรค์ของฝรั่งแบคแพคอยู่ แต่มายุคหลังนี่ความเจริญเยอะขึ้นบังกะโลอัพเกรดเป็นที่พักหรูกันไปหมด และหลังจากที่หมาป่ากลับไปหลังสุด ที่ขับรถลงมาเอง(วอลโวคันโตแข็งปึ๊กรถพังแต่ตัวเองปลอดภัย) และขับไปชนรถอีกคันที่แถวชุมพรก็ไม่ได้มาใช้เวลาช่วงปีใหม่ที่นี่อีกเลย
ดาวน์ทาวน์กระบี่สมัยนั้นมีแนวตึกไม่กี่แนว ห้างประจำจังหวัดเหงาๆ แต่ตอนนี้ย่านนั้นมีโรงแรมมีห้องพักให้นักท่องเที่ยวเต็มไปหมดเลยครับ คึกคักกว่าเดิมหลายเท่าตัว
หมาป่าขี่มาเรื่อยๆจนเห็นบังกะโลติดพื้นราคา 650 บาทชื่อ Flora ก็แวะเข้าไปถามห้องพัก

ได้นอนที่นี่แหละครับ ว่าแต่ผนังห้องมันบางไปหน่อย นอนๆอยู่ตอนสักตีสองมีห้องข้างๆมีแขกมาเปิดห้องพัก เขามากันหลายคนเสียงจ๊อกแจ๊กดังข้ามมาหาหมาป่าผู้หลับกำลังเพลินๆ นึกในใจว่าจะหลับต่อได้ไหม แต่โชคดีว่าหลับได้ เสียงมีทั้งผู้ชาย หญิงแก่ หญิงวัยรุ่น รวมกันมากกว่าสี่คนแน่นอน
จำได้ติดใจว่าเสียง LINE ในโทรศัพท์ของห้องข้างๆมันดังตึ๊งหน่องตึ๊งหน่องเกือบตลอดก่อนจะผลอยหลับไปอีกรอบ

มื้อค่ำนั้นหมาป่าไปกินข้าวร้านน้องเจนที่มาจากในเมืองก่อนถึง Tesco อาหารอร่อยมากแต่พ่อครัวค่อนข้างเสียงดัง เอ็ดตะโรลูกจ้างในร้านวุ่นไปหมด คงเป็นคาแรกเตอร์ประจำน่ะครับ
หมาป่านั่งอ่านหนังสือรอกับข้าวอยู่แกก็ยังชี้หน้าหมาป่าตะโกนถามว่าต้มยำนายหัวน้ำข้นน้ำใส? เล่นเอาสะดุ้งเฮือก สั่งกุ้งมะขามเปียกเฮียก็ตะโกนว่าเอาคะน้าหมูกรอบเหอะนายหัว กุ้งมันช้านะ นายหัว
หมาป่าก็หยวนครับ ร้านนี้คนท้องถิ่นกินกันเต็มร้านคงด้วยติดใจรสมือเจ้าของร้านครับ
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ L 1,580,423 จำนวนครั้งที่ผู้มาเยือนบล๊อก 1,579,198 = 1,225
ขอบคุณเพื่อนผู้มาเยือน กรุณาเม้นท์นิด ผมจะได้กลับไปเยือนได้ถูกครับ
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2562 |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2562 6:37:58 น. |
|
18 comments
|
Counter : 1321 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณตะลีกีปัส, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณสองแผ่นดิน, คุณKavanich96, คุณRananrin, คุณtuk-tuk@korat, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณmariabamboo, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณnewyorknurse |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2562 เวลา:6:46:53 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2562 เวลา:12:51:45 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 15 พฤศจิกายน 2562 เวลา:14:43:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2562 เวลา:18:52:20 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 15 พฤศจิกายน 2562 เวลา:22:00:52 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา:0:54:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา:6:52:56 น. |
|
|
|
โดย: บุคคลทั่วไป IP: 1.46.134.130 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา:7:12:02 น. |
|
|
|
โดย: Rananrin วันที่: 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา:8:49:36 น. |
|
|
|
โดย: Rananrin วันที่: 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา:10:12:12 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา:15:25:56 น. |
|
|
|
โดย: mariabamboo วันที่: 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา:17:59:05 น. |
|
|
|
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา:20:13:36 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤศจิกายน 2562 เวลา:6:27:55 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2562 เวลา:10:33:34 น. |
|
|
|
|
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
อ่านเพลินเลยครับ
ชอบโรงแรมครับ
ดูเก่ามากๆ แต่ก็สวยคลาสสิกจริงๆ
วิวก็สวยมากด้วยครับ