No. 780 บล๊อกประจำ วันศุกร์ |
|
ไกด์คนไทยบอกว่าจะพาไปนั่งรถไฟสายแมวเหมียว จากสถานีเมืองวะคะยะมา ไปสถานี Kishi Station |
จะเห็นน้องแมวที่เป็นนายสถานีรถไฟ.. ฟังแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม เอ้าลองดูซิว่าเป็นไปตามที่คิดหรือเปล่า คือคิดว่า |
ตัวน้องแมวคงไม่รู้เรื่องอะไรหรอก ผมว่าเดาไม่ผิดแน่ หุ หุ ภาพแรกเป็นทีมเที่ยวของพวกเรา มองไม่ค่อยออกว่าใครอยู่ตรงไหน ผมอยู่กับลูกสาวอยู่ใกล้คนชูมือ คนละฝั่งโดยมิได้นัดหมาย(สาวชุดดำตรงข้อศอกนะครับ) เลยนำมาภาพมาลงว่าได้ไปเที่ยวที่นี่มาแล้วนะ หุ หุ |
ก่อนไปแอบเข้าอ่านเรื่องราวที่จะไปเที่ยวแล้ว ว่าที่น่าสนใจ คือสองข้างทางรถไฟจะเห็น นาข้าว สวนผักสวย |
อีกอย่างญี่ปุ่นส่งเสริมให้ คนสูงวัยไม่เหงามีการจ้างงาน หลังเกษียณอายุ |
|
ระหว่างนั่งรถไป คุณ Joke ก็เล่าว่าเมื่อก่อนมาเรียนที่ญี่ปุ่นอยู่กับครอบครัวชาวบ้านเลยรู้นิสัยคนพื้นบ้านได้ค่อนข้างดี |
พอเรียนจบก็ทำงานไปเรื่อย ๆ จนมาเป็นไกด์ |
เป็นไกด์ที่นี่ไม่ต้องมีไกด์ท้องถิ่นประกบเหรอคุณ Joke |
อ๋อ.. คนญี่ปุ่นไม่ชอบทำงานเป็นไกด์ เขาทำอาชีพอื่นมากกว่า ญี่ปุ่นไม่สงวนอาชีพนี้ ใครมาทำก็ได้อีกอย่าง |
ขาดแคลนแรงงานบางอย่าง เลยรับแรงงานต่างชาติ กลับมาเข้าไปอ่านบทความในเน็ตพบว่า ที่ผ่านมาคนวัยหนุ่มสาวเป็นคนทำงานให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นมั่นคงแบบ |
แต่ที่สำคัญค่าครองชีพสูงมากคนญี่ปุ่นอายุยืนขึ้นด้วย ปัจจุบันคนสูงวัยอายุเกิน 60 ปีมีประมาณ 20 % ของคนทั้งประเทศเป็น |
ภาระที่รัฐให้สวัสดิการ เท่ากับคนทำงานได้ต้องช่วยออกภาษีแก่คนแก่ หุ หุ เหมือนกับ ความมั่นคงเศรษฐกิจประเทศลดน้อยลงแบบ |
ญี่ปุ่นเลยสนับสนุนให้รับคน สูงวัยเข้าเป็นพนักงานขับรถไฟสถานีที่เราจะไปก็เช่นกันรวมทั้งพนักงานส่วนอื่นบางคนด้วย แน่นอนตามโรงงาน หรือร้านค้าบริษัทต่าง ๆ ด้วย ทราบมาว่าเลื่อนการเกษียณอายุเป็น 65 ปี(ยังไม่ได้ตรวจสอบ) อีกอย่างเขาจ้างคนแก่ เอ้ยมากประสพการณ์ไว้ทำงาน มิให้มีโรคซึมเศร้า แม้เขาเหล่านั้นจะได้รับค่าจ้างนิดหน่อยก็ตาม ก็ไม่ว่าอะไร พูดแล้วน่าจะเกินไปเนาะ คงมีคนทำงานบ่นบ้างแหละ |
|
|
ปัจจุบันไทยก็มี พลเมืองที่อายุ 60 ปีขึ้นไป 20 % แล้วเช่นกัน น่าคิด... |
พวกเราเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วก็มารวมกลุ่มหน้า บันใดเลื่อนลงสู่สถานีข้างล่าง ไกด์ยืนนับจำนวนคนและกดตั๋วให้ผ่าน |
คนรถไฟ... ลงไปข้างล่างแล้วก็ยืนรอรถไฟแมว แต่ขบวนก็ยังไม่มารอนาน...ไกด์ถามว่าจะไปตู้รถไฟขบวนน้องหมา |
ได้เปล่า... พวกเรามองหน้ากัน ได้เลย...ไม่ต้องรอ 555 ผมถือโอกาศถ่ายภาพขบวนรถ คนที่ยืนเป็นหนึ่งในทีมเที่ยว... |
|
บอกตรง ๆ นะครับ...เป็นไปตามที่ผมคาดหมาย รถไฟก็เป็นแบบรถไฟฟ้าธรรมดา มีเบาะดูดีกว่า รถไฟไทยที่เป็น |
ไม้แข็งสีเนื้อไม้ปนเหลือง.. อากาศเย็น.. ..... นั่งมองสองข้างทาง มีนาข้าว บ้านคนที่ปลูกดูดีริมทางรถไฟ |
.... แต่เป็นที่น่าแปลกใจ นาของเขามีการบังคับน้ำให้สูงต่ำได้ง่ายกว่า ของคนไทยแน่ |
คันนาเป็นคอนกรีต |
เดินไปเดินมาในขบวนรถ เห็นห้อง พขร.รถไฟ คงกลับด้านหลังเป็นด้านหน้าถ้าจะ ขับกลับที่เดิม |
เมื่อไปถึงสถานีก็ ชี้ให้ดูขบวนแมวเหมียว เป็นภาพที่แปะไว้ข้างนอกรถเท่านั้นเอง ลงไปที่ตัวสถานีคนรีบไปดู |
น้องแมว ผมก็ค่อย ๆ แทรกตัวเข้าลำบาก อาศัยตัวสูงหน่อยเลยเห็นน้องแมวนอน อยู่ในตู้กระจก |
ตัวอ้วนคงไม่ได้ออกเดินเท่าใด กิน นั่ง ใครอยากให้อุ้มอย่ากินมากนะครับ แหะ ๆ อุ้มไม่ไหว |
เราถ่ายภาพหมู่กันหน้าสถานีรถไฟตามภาพแรก แล้วขึ้นรถบัสคันเดิมเพื่อเดินทางไปที่พัก เมื่อเข้าดูภาพดาวเทียม จะเห็นบ้านคนอยู่ มิได้เป็นระเบียบเท่าใด คงจะเหมือนประเทศไทย มีท้องนา สวนใกล้บ้านคน สรุป การขึ้นรถไฟขบวน น้องหมา น้องแมว หลายคนเห็นเฉย ๆ ยกเว้นตอนไปมุงดูแมวเหมียวในตู้กระจกตัวเป็น ๆ เท่านั้นเอง |
เย็นวันนั้น เราเข้าที่พัก นอนพักขา นานสักสอง ชม.ได้มั้ง แล้วก็ออกช๊อปปิงเมือง โอซาก้า Shinsaibashi |
เป็นแหล่งใหญ่ของสินค้าแบรนด์เนมทั้งของ ญี่ปุ่นและต่างประเทศ |
.... |
เราเดินเที่ยวซะขาลาก หุ หุ แล้วก็หาอาหารเย็นที่ร้อน ๆ กิน เช้ามาก็ลงมาหน้าโรงแรม Fujiya Hotel ยืนบนฟุตบาท ถนนค่อนข้างโล่งมีรถ ตรงข้ามมีร้านคอนวีเนียนสโตร์ |
ยี่ห้อ Familymart ที่เปิด 24 ชม. คนเข้าออกตลอด แต่ไม่ค่อยเห็น ฉีกจับอิ๊กเท่าใด ตามข้อมูลที่ได้อ่านเขาว่า ญี่ปุ่นมี 7 -11 ญี่ปุ่นมีบริษัทโฮลดิ้งจึงมีมากสาขา เราก็คิดว่าไทยมีมากกว่า ผมเล็งไว้แล้วว่าถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่นอีก |
ก็คงไปซื้ออาหารที่นั่นกิน ราคาเยากว่าตามร้านที่เราไปกินตอนกลางคืนน่าจะถูกว่า 20 % |
สงวนเงินไว้ซื้อของ กับเดินทางดีกว่า 555 |
ระหว่างที่เดินไปตามถนน รอเพื่อนตืนกับรอเข้าห้องอาหารเปิด สังเกตเห็นคนใช้จักรยานจูงเมื่อไม่ใช่ที่ปั่นได้ |
|
.... |
|
ส่วนใหญ่จะเป็นหญิง ปั่นจักรยานแบบจ่ายตลาด หุ หุ... พวกนักปั่นไทย เขาเรียกแบบนั้นก็คนไทย มักจะปั่นเสือภูเขา |
บนถนนในเมือง หุ หุ กับปั่นเสือหมอบ แต่ไม่อนุญาตให้ คนซ้อนท้าย แต่คงจะยกเว้นคันที่มีเครื่องที่ใช้ไฟฟ้าแบบข้างบนให้เด็กนั่งซ้อนได้ |
หญิงที่ปั่นจักรยาน มีทั้งหญิงสาว มีเด็กบ้างแต่ไม่มากเขาปั่นบนฟุตบาท ส่วนชายจะเป็นเสือภูเขาคือชนิด |
กึ่งสปอร์ต อานหรือเบาะอยู่สูง แฮนด์จะอยู่ต่ำกว่า ข้างหน้ามีโชคอัพ(ช๊อคอัพซอฟเบอร์) 1 คู่จะปั่นในถนนริมซ้ายมือ |
ไปกับรถยนต์... ยังสงสัยเหมือนกันว่าทำไมมีคนปั่นจักรยานบนฟุตบาทได้ |
ส่วนผมปั่นในไทย ก็ปั่นในสวนสาธารณะ บางครั้งเสียวก้นกลัวรถยนต์ทิ่มก้นก็ปั่นบนฟุตบาทที่คนน้อยหน่อย |
เมื่อกลับไทยลองค้นดูข้อมูล ญี่ปุ่นอนุญาตให้คนที่อายุน้อยกับสูงวัยปั่นบนฟุตบาตได้ |
|
แต่ก็เห็นหญิงสาว ปั่นจักรยานบนฟุตบาทอยู่ คงไม่ต่างกับมอไซค์วินไทย หุ หุ |
แต่ญี่ปุ่นเขาดี ปั่นไม่เร็วรอให้คนเดินผ่านก่อน |
... นักเรียนเล็กเดินตามกันเป็นระเบียบ... เด็กโตหน่อย ก็ยืนรอรถ ภาพล่างจะเห็นหญิงปั่นจักรยานบนฟุตบาทนาน ๆ จึงจะเห็นคนใช้ มอเตอร์ไซค์ มีภาพคนแต่งตัวแบบโบราณอยู่ด้วย สวยดี การปั่นจักรยานบนทางเดินชิดซ้าย เป็นเรื่องปกติของที่นั่น นาน ๆ จะเห็นมอเตอร์ไซค์บ้าง เพราะกฏจราจรที่นั่น เท่าที่ค้นหาข้อมูล อนุญาตให้เด็ก อายุไม่เกิน 13 ปี และคนอายุ 70 ปีขึ้นไปปั่นจักรยานบนทางเท่าได้ ห้ามกางร่ม ปั่นจักรยาน เล่นมือถือไม่ได้แน่นอน สู้ไทยไม่ได้เนาะเล่นมือถือนั่งโอบเอวกันไป หุ หุ ค่าปรับครั้งแรกก็แพง ครั้งต่อไปยิ่งแพงกว่า คงฝากเงินหมาต๋าไปจ่ายไม่ได้เนาะ 555 แต่ตำรวจคงจะยืดหยุ่นพอสมควร.... ใครจะปั่นจักรยานต้องทำใบขับขี่ ก่อนซื้อก็ต้องมีสถานที่จอดด้วย |
เดี๋ยว ๆ อย่าเข้าใจผิด แหะ ๆ หมายถึงจะซื้อจักรยานนะ ไม่ใช่ใบขับขี่ |
|
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L 1,473,834 |
st. ผู้เข้าชม 1,472,597 |
= 1,237 |
ขอบคุณเพื่อนที่แวะมาเยือน และมาเม้นท์ครับจะโหวตหรือไม่โหวตก็ไม่เป็นไรครับ |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ญี่ปุ่นกลายเป็นสังคมคนสูงวัยจริงๆครับ
มองไปทางไหนก็มีแต่คนแก่
แถมอัตราการเกิดน้อยมาก
หนุ่มสาวไม่แต่งงาน ไม่ยอมมีลูก
ไทยเราก็เริ่มคล้ายแล้ว
แต่ที่ญี่ปุ่นตอนผมนั่งแท็กซี่ ทั้งหมดไม่มีคนหนุ่มขับเลยครับ
พนักงานทำความสะอาดตามห้างหรือสถานีรถไฟก็เป็นคนสูงวัยทั้งหมดเลย
เค้าคงพยายามหางานให้ทำด้วย จะได้ไม่เหงา
ตอนนี้มีโรคใหม่ที่เกิดขึ้นกับชายหญิงสูงวัยในญี่ปุ่น
เรียกว่าโรคเก็บตัว คือไม่ยอมออกจากบ้านเลย 3-4 ปี
รัฐบาลกำลังหาทางแก้ไขอยู่ครับ
ของเราถ้าอยากเห็น
มองไปที่ สนช.และรัฐบาลได้ครับ
5555