No. 794 ไปเที่ยวภาคใต้ แบบติดดิน |
 |
บันทึกการเดินทางของ หมาป่าเดียวดาย ลาพักร้อนครึ่งเดือน จากกรุงเทพ ไป พังงา ด้วยจักรยาน (ตอนที่สี่) |
|
ได้อ่านบันทึกของ หมาป่าเดียวดาย แล้วมีความรู้สึกคล้าย ๆ กันว่า คนอื่นจะพูดเข้าหูบ่อยว่า.. |
จะเป็นแบบไหนลองติดตาม....(ไวน์กับสายน้ำ) |
|
เสาร์ที่ 1 มีนาคม เป็นวันที่สอง ของการเดินทาง |
|
นับจากวันนี้ไป ผมคงไม่ค่อยลงละเอียดของเส้นทางหรือการกิน การอยู่มากนะครับ |
ด้วยว่า ทริปมันยาว และวัตรปฏิบัติมันก็ซ้ำ ๆ กันคือการขี่จักรยาน เริ่มจากกินข้าวเช้าเสร็จ ขี่ไปสัก 20 กม. ช่วงเช้า |
ยังสดชื่นก็พักดื่มน้ำดื่มท่า พักเดินเล่นให้ผ่อนคลายทุก ๆ 20 กม. |
หรือพอช่วงบ่ายเริ่มล้า ๆ ก็พักทุก 15 กม.แทน ขึ้เกียจก็พักมันทุก 10 กม.เสียเลย ภาพแทนนะครับ |
 |
พอสาย ๆ สักสิบโมงก่า ๆ ก็เจอร้านข้าว ร้านกะเตี๋ยวก็กินตุนไว้ก่อน เที่ยงหรือบ่ายต้น ๆ เจอร้านข้าวก็กินกลางวัน |
ตอนบ่าย ๆ หาพวกน้ำอัดลมน้ำเกลือแร่กินสลับน้ำเปล่าบ้าง ช่วงไหนโหย ๆ ก็กินพวกขนมปังที่ซื้อตุนไว้ในกระเป๋าเติม |
น้ำตาลในกระแสโลหิตให้หายโหย |
|
พอใกล้ช่วงเย็นก็หาที่พักตามอำเภอริมเส้นทาง ซึ่งที่พักมีทุกอำเภอริมทางหลวงนั่นแหละครับ ทำนองห้องบังกะโล |
มีน้ำอุ่นมีแอร์ มีทีวีราคาก็ไล่ ๆ อยู่แถว 4-5-600 บาทเข้าที่พัก ซักชุดขี่จักรยานที่ขี่หมักหมมมาทั้งวัน |
ตากในห้อง ใส่ชุดขี่จักรยานที่จะใช้ในวันรุ่งขึ้นติดตัวตั้งแต่ตอนเย็น แล้วก็ขี่ออกมาหาข้าวเย็นแถวร้านข้าวต้มกิน |
เติมความสดชื่นด้วยเบียร์สิงห์ 2 ขวด แล้วก็ขี่เข้าที่พักเป็นเช่นนั้นร่ำไปเกือบทุกวัน  |
นอนอ่านหนังสือเรื่องเหมืองแร่สองเล่มใหญ่ที่ติดมา และเช็คข่าวสารในแทปเล็ต ข่าวช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากกว่าการ |
ที่ม๊อบลุงกำนันและพี่น้องชาวนกหวีดปิดกรุงเทพ หลายคนไปร่วมเดิน ร่วมลุ้นกับเขามาตลอดสี่เดือน |
ขอไปพักด้วยการขี่ทางไกลฝากพี่น้องท่านอื่นที่อยู่และเดินทางเข้ามาในกรุงเทพเป่านกหวีดต่อไปก่อน ขี่มาจน |
ปิดทริปก็ยังปิดเมืองกันอยู่ครับ สามทุ่มกว่าหรือไม่เกินสี่ทุ่มก็หลับสบายครับ |
|
เพียงแต่ทริปนี้ไม่ต้องตื่นเช้ามากนัก ตื่นแล้วก็เก็บของ เอาเสื้อผ้าที่ผึ่งไว้ทั้งคืนพอหมาด ๆ เหน็บติดเหนือกระเป๋า |
และตะแกรงหลังให้แดดมันทำให้แห้งสนิทระหว่างวัน โอ้เอ้จิบกาแฟกินแถวที่พักก่อนจะออกเดินทาง |
แปรงฟันแต่ไม่ค่อยอาบน้ำเช้าด้วยไม่รู้จะอาบทำไมเดี๋ยวก็เหงื่อออกแล้ว ฮะฮะฮะ |
|
ออกสายเกิน 8 โมงแล้วเกือบทุกวันทั้งทริปครับ อีกอย่างคือเส้นทางก็คือเพชรเกษมสายหลัก |
มีรถวิ่งข้าง ๆ ตลอดเวลาไม่มีเหงา ไม่มีหลงครับ โน่นแหละครับจะเปลี่ยนเส้นทางอีกทีก็ตอนเข้าจังหวัดชุมพร |
เพื่อจะเบี่ยงจากถนนเลียบอ่าวไทยไปออกทางฝั่งอันดามัน |
|
ที่มหาชัยนี่กินข้าวเช้าที่ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ใกล้โรงแรม แกงรสจัดถึงใจ ลูกจ้างลูกออนในร้านเป็นพม่าเกือบทั้งหมด |
ความจริงก็เกือบทั้งจังหวัดนั่นแหละครับ  |
สมแล้วที่ตอน อองซาน ซูจี มาเยี่ยมเมืองไทย เธอก็เลือกมาปราศรัยกับพี่น้องชาวพม่าที่มหาชัยนี้ นับว่าเป็นแหล่งใหญ่ |
ที่ชาวพม่าอยู่กันหนาแน่น ตลอดทริปนี้ทุกจังหวัดชาวพม่ามาทำงานอยู่กันแทบทุกร้านเลยครับ |
บางแห่งมีเมนูอาหารติดตรงฝาผนังเป็นภาษาพม่าด้วยซ้ำ |
|
วันนี้หมาป่ามุ่งเพชรบุรี ผ่านพระรามสอง ผ่านนาเกลือ ผ่านเข้าเมืองสมุทรสงครามแต่ไปต่อ ไปเลี้ยวซ้ายเขาแยก |
วังมะนาว ใกล้เขาย้อยนี่  ผมแวะร้านอุปกรณ์วัสดุก่อสร้างเพื่อซื้อจุกยางปิดก้นอ่างล้างหน้าเตรียมไว้ |
เหตุคือเวลาเราไปต่างจังหวัดและเย็นลงต้องซักกางเกงซักเสื้อเนี่ย ตามห้องพักสมัยนี้เขามักไม่มีถังให้เขาใช้ซักผ้า |
มีแต่อ่างล้างหน้า แต่อ่างล้างหน้าตามที่พักนี่จุกยางก็มักจะไม่มี |
มันก็จะยากเวลาเราจะกักน้ำไว้ขยี้ผ้าในผงซักฟอกหรือเวลาล้างน้ำเปล่าเพราะน้ำมันไหลลงรูหมด บางทีแก้ขัดได้ด้วย |
เอาถุงพลาสติคที่บังกะโลชอบใส่เสื้อผ้าเช็ดตัวมาให้ในห้องพักวางทางอ่างเก็บน้ำ  |
แต่มันไม่ค่อยสะดวกครับ ซื้อจุกยางเตรียมไว้ใช้เองสะดวกกว่าครับ ผมซื้อไว้ที่เขาย้อยแบบจุกยางใหญ่แต่พอนำมาใช้ |
กับบังกะโลแรกมันดันใหญ่กว่ารูที่อ่างเลยได้เรียนรู้ว่ารูอ่างมันมีหลายไซส์ วันถัดมาซื้อขนาดย่อมลงมาซึ่งใช้ได้ดีเกือบ |
ทุกบังกะโลตลอดทาง ท่านนักจักรยานที่ชอบซักเสื้อและพักตามบังกะโลมีติดตัวไว้ก็ดีนะครับ |
จุกอ่างน้ำทั้งสองไซส์เนี่ย ไม่กินที่กระเป๋าครับ |
|
วันนี้มาหยุดพักที่ห้องพักชื่อกรีนวิลล์หลังเทสโก้ โลตัสท่ายาง เลยทางเข้าเมืองเพชรมาพอควร ที่กม. 202 |
นับจากบ้าน วันนี้ได้ร้อยกิโลเศษ ๆ ครับ อาศัยกินข้าวเย็นที่ฟู๊ดคอร์ทในโลตัสเสียเลย |
แถมซื้อเบียร์กระป๋องติดมือมาจิบที่ห้องพักด้วย |
|
วันอาทิตย์ที่ 2 เป็นวันที่สามที่ออกเดินทาง |
วันนี้จากท่ายาง เชื่ออย่างเดียวว่าตัวเองขี่เข้าเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้แน่นอนเพราะมันใกล้นิดเดียวเอง  |
เข้าเขตจังหวัดนะครับมิใช่เข้าตัวจังหวัด เพราะพื้นที่ของจังหวัดประจวบในแผนที่เป็นจังหวัดที่ยาวมาก เรียวและยาว |
ออกจากท่ายางข่เลยแยกที่เลี้ยวซ้ายจะเข้าชะอำ ผมตัดขวาทางที่มุ่งประจวบ พอพ้นแยกไปไม่นานก็เริ่มรู้สึกถึง |
ความชันของพื้นที่ครับ เริ่มอารมณ์เส้นทางปักษ์ใต้แล้วละครับ |
|
เส้นทางปักษ์ใต้นี้มันขึ้นเนินลงเนินตลอด ทางที่ทอดยาวไปข้างหน้าบางที เราก็มองไม่ออกว่ามันเป็นตำแหน่งขึ้น |
หรือลงเนิน เพราะความชันมันค่อย ๆ ใต่หรือทอดลง วัดด้วยสายตาไม่ได้แต่วัดด้วยขาได้ครับ  (เกียร์ท้าย โซ่เลื่อนขึ้นบนจานสูงขึ้นที่ 6 - 7 ใช้แรงถีบเบาลงเพื่อให้รถไต่ขึ้นสูงง่ายขึ้นเพียงแต่เท้าหมุนเร็วขึ้น) |
ความเร็วเดินทางของหมาป่า ทางราบนั้นที่จานใหญ่เฟือง 6 หรือ 7 จะอยู่ระหว่าง 25 - 28 กม.ต่อ ชม. เมื่อลมสงบ |
แต่ถ้าหากเมื่อใดขึ้นเกิน 30 กม.ต่อ ชม.ก็แสดงว่าเป็นขาลงเขา |
หากลงต่ำกว่า 20 อันนี้แม้ตามองไม่ออกแต่ขาบอกว่าขึ้นเนิน...... |
|
ผมแวะกินข้าวสาย ๆ ตรงปั้ม ปตท. ตรงนี้เจอโมเมนต์ที่ชอบที่สุดโมเมนต์หนึ่งของการขี่จักรยานทางไกลคนเดียว |
เจอกับกลุ่มนักบิด Big Bike ครับ ฮ่าฮ่าฮ่า |
ไม่รู้ว่าท่านนักจักรยานทางไกลแบบฉายเดี่ยวรู้สึกคล้าย ๆ กันไหมครับ เวลาที่เราขี่ไปรอที่แยกไฟแดงตามทางหลวง |
ก็มีเสียงปริ้น ๆ ของกลุ่มบิกไบค์เข้ามาจอดติดไฟแดงอยู่ข้าง ๆ นะครับ |
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มช๊อปเปอร์หรือกลุ่ม ไฮ -เพอร์ฟอร์มแมนซ์ แบบซูเปอร์ไบค์พลังสูงก็ตาม เราหันไปมองเขาแล้วก็หันมา |
ยิ้มกับตัวเองนึกครึ้มในใจเพราะว่าเขาก็เป็นนักเดินทางไกลเหมือนเรา  |
ต่างกันคือเขาไปด้วยเครื่องยนต์เกือบพันซีซี แต่เราไปด้วยขา แน่นอนครับการบิดเครื่องด้วยสองล้อที่ความเร็ว |
ร้อยกว่าหรือไปแตะสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นต้องอาศัยหัวใจดวงใหญ่ |
แต่ขี่จักรยานทางไกลก็อาศัยหัวใจดวงใหญ่ไล่เลี่ยกัน นี่หมาป่าว่าแบบเข้าข้างตัวเองนะครับ |
|
ที่ปั้มนี้หมาป่าแวะกินข้าว แต่ก่อนกินข้าวก็แวะขึ้นร้าน อเมซอนไปหากาแฟสดกิน |
เห็นรถบิกไบค์จอดเรียงกันหน้าร้าน เริ่มคลึ้มใจ ถอดหมวกเดินถือขึ้นไปบนร้าน เสียงจ๊อกแจ๊กของกลุ่มสิงห์นักบิด |
ก็เงียบลง..... |
|
ไว้รออ่านตอนต่อไป. นะครับ.. |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L 1,506,349 |
st. ผู้เข้าชม 1,505,348 |
= 1,003 |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์นิดจะได้แวะไปเยือนครับ |
|
แต่หนูขอเป็นสก๊อยไปซ้อนบิ๊กไบค์คันที่จอดติดไฟแดงอยู่ข้าง ๆ พี่ไวน์นะคะ