No. 881 อุปสรรคครั้งใหม่ |
 |
พวกเราคนไทย กับปชช.หลายประเทศเจออุปสรรคใหม่กันถ้วนหน้าและค่อนข้างหนักหน่วง |
กว่าอุปสรรคใด ๆ ที่ผ่านมาคือ การล๊อคเมือง คำสั่งให้หยุดทำงาน/ค้าขาย ทำเอาคนตกงานเป็นจำนวนมาก |
มาจากรัฐบาลหวังดีต่อประชาชน มิให้ติดไวรัสโควิด |
เรื่องนี้เราเข้าใจว่า ต้องทำ |
เพื่อน ๆ คงอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ผมเองก็เช่นกันอดไปเที่ยว กินนอนอยู่บ้านไม่ได้ไปออกกำลังกายอาทิตย์แรก |
พอได้แต่อาทิตย์ที่สองไม่ดีเลย ไม่สดชื่นเริ่มอึดอัด |
นั่งมองถนนใหญ่หลังบ้านมีรถวิ่งไปมาอยู่บ้างไม่มากเหมือนเมื่อก่อน นึกได้ว่าเขาห้ามเข้าสวนสาธารณะไม่เป็นไร |
คว้าจักรยานเสือภูเขาปั่นจากบ้าน ไปออกถนนใหญ่ตรงหมู่เสรีอ่อนนุช อากาศตอนเช้าเย็นสบายควันรถไม่มีเหมาะมาก |
แม้จะต้องปั่นไบค์เลนที่อยู่ส่วนนอกของฟุตบาทลำบากหน่อย เพราะไบค์เลนจะถูกลดระดับให้รถยนต์แต่ละบ้าน |
แล่นเข้าได้เป็นระยะ ปั่นไม่มากประมาณ 20 กว่า ก.ม. ได้เหงื่อซึมบ้าง |
|
กลับบ้านอาบน้ำ ทานข้าวดูข่าวทางเฟชบุ๊คหรือไม่ก็ดูวิเคราะห์ข่าวในยูทูป อาหารเช้าก็ใช้ปากงับ ๆ แซนด์วิซ |
เปลี่ยนใส้ไปเรื่อยก็พอไหว |
ส่วนมื้อเที่ยงก็เกี่ยงกันให้ ช่วยกันคิดว่าจะกินอะไรดี ใช้วิธีไปซื้ออาหารสำเร็จรูป ราดหน้า ผัดซิอิ๊ว ก๊วยจับ |
ซุฟหางวัว หรืออะไรพวกนี้ กินไม่มากหรอกครับ |
ระหว่างกินนึกถึงร้านข้าวแกงที่หัวหิน (ร้านบัตรคิว) ทำอาหารอร่อยราคารับได้ เช่นผัดซี่โครงหมูสัปรด แกงส้ม |
เบื่อ ๆ ก็ทำอาหารกินกัน |
เปิดเพลงในยูทูป กับสารดีดู เริ่มชินกับการไม่ต้องออกไปทำงาน หรือไม่ต้องออกไปติดต่องานดูเข็มไมล์รถ |
เดือนเมษายน ใช้รถแค่ 150 กว่า ก.ม.เองประหยัดเงินได้เยอะมาก ๆ |
|
นั่ง ๆ นอน ๆ ก็คิดล่วงหน้านิดหน่อยว่า ถ้าควบคุมไวรัสได้เกือบหมดแล้ว คงได้ออกเดินทางไปเที่ยวตามต่างจังหวัด |
ได้ เอ..จะไปไหนดี |
แต่คงจะเดินทางน้อยลงกว่าเดิม รวมทั้งออกไปกินอาหารข้างนอกบ้านชนิด หรู ลดลง พวกบุปเฟ่ต์หัวละ 699 บาท |
ถ้านำเงินนั้นซื้ออาหารสดมาทำอาหารได้เยอะ หรือซื้อแกงถุงน่าจะใช้เงินจำนวนนั้นได้ 4 วัน |
เสื้อผ้าคงไม่ต้องซื้อเพราะ ลองจัดตู้ยังมีเสื้อยืดยังไม่ได้แกะใช้ 6 เสื้อเชิร์ตอีก 1 ตัว ดูป้ายแล้วพยายามนึกว่าซื้อที่ไหน อ๋อ ซื้อ |
เมื่อสองปีกับเพื่อนแบ่งให้ใช้ |
|
นึกอีกแล้วว่า ถ้าไม่มีการซื้อขายสินค้า และซื้ออาหารน้อยลง ปชช.ปลูกผักกินเอง รถยนต์ก็ไม่ค่อยได้วิ่งกัน |
คงต้องอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้าเปิดเร็วขึ้น |
อีกอย่างส่งเสริมให้คนไทยระดับฐานะปานกลางหรือ คนมีเงินมาก ๆ ท่องเที่ยวไปตามชนบท แล้วกลับเข้าพักในเมือง |
เปิดถนนคนเดินให้ขายของฝาก |
ชาวบ้านจะได้ขายของ แม้แต่อาหารแก่นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนชนบท หรือไปใช้บริการอื่น ถ้าช้า |
แล้วรัฐจะเรียกเก็บภาษีจากไหนมาใช้ให้ |
|
เรื่องรัฐวิสาหกิจนี้มันคาใจ ประชาชนเป็นส่วนใหญ่ว่า เปิดมาทำรายได้มากมายแล้ว เขาส่งเงินเข้ารัฐกี่มากน้อย |
น่าจะเปิดเผยนะเช่นแต่ละปีส่งเป็นเงินเท่าใดต่อปี ย้อนหลังสัก 5 ปี |
การไฟฟ้าฝ่ายผลิต |
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค |
การไฟฟ้านครหลวง |
การบินไทย |
การประปานครหลวง |
บริษัทไปรษณีย์ไทย ปตท รฟท |
ตัวอย่างนะครับมีมากกว่านี้ ถ้าเปิดเผยประชาชนจะได้สบายใจ ถ้าเขาขาดสภาพคล่องจะมีทางได้เงินคืนบ้าง |
ถ้ามีแต่ขาดทุนไม่เคยส่งเงินเข้ารัฐ หรือส่งน้อยน่าจะขายกิจการให้เอกชนไปทำ |
การเปิดเผยน่าจะไม่เป็นความลับนะผมว่า เพื่อน ๆ อยากรู้ตัวเลขรัฐวิสาหกิจใดที่ส่งเงินเข้ารัฐมากที่สุด บอกผมบ้างนะ ผมนั้นอยากรู้ที่สุดอยู่ในใจแล้ว 555 |
|
ขอขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L |
st. 1,662,370 |
= |
ขอขอบคุณเพื่อนผู้แวะเข้ามาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้นิด ผมจะได้กลับไปเยือนครับ |
|
Diarist |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
โควิดรอบนี้เปลี่ยนวิถีชีวิตคนไทยและทั่วโลก
ไปอย่างสิ้นเชิงเลยนะครับ
สิ่งแรกที่ผมทำ คือ ประหยัดครับ
พอไม่ได้ออกไปไหน ไมไ่ด้เดินห้าง
ประหยัดเงินไปได้มากจริงๆ
กับข้าวก็ทำกินเองเป็นหลัก
สั่งอาหารมากินน้อยมากครับ
ส่วนหน่วยงานที่อยากให้เปิดเผย
จริงๆผมว่าหลายคนคงอยากเห็นกองทัีพเปิดเผยตัวเลขจริงๆทั้งหมดนะครับ
แต่คิดแล้ว คงได้แค่ฝันครับ
ตั้งแต่เด็กก็ได้ยินแต่คำว่า งบลับๆๆๆ 5555