No. 749 บล๊อกประจำ 10 จันทร์ - 16 อาทิตย์ |
|
|
|
นั่งยอง ๆ กอดเข่า ให้อกอุ่น สองฝั่ง เป็นดอยเตี้ย ๆ มีต้นไม้สีเขียว แสงแดดมีบ้างแต่ไม่มากนัก |
|
ปลากระโดดพุ่งตัวขึ้นผิวน้ำ พี่พะก่อยืนคอยเอี้ยวศอกขวาที่มีแหพาดไปข้างหลังแล้วเหวี่ยง |
ไปข้างหน้า ดึงมือซ้ายไว้นิดรอให้แหทางขวามือไปกึ่งหนึ่งแล้ว ปล่อยมือซ้าย |
ตัวแหก็พุ่งเป็นวงเกือบกลมจมในน้ำอย่างรวดเร็ว |
|
|
เราลงน้ำไปพี่พะก่อทรุดตัวนั่งลงในน้ำ ใช้มือขวาถึงแหส่วนหัวขึ้นดึงให้ตึง รอว่ามีปลาวิ่งชน |
ประสาทสัมผัสรู้ว่า มีปลาอยู่แหใต้น้ำ พี่พะก่อลงงม ชูคอไว้เหนือน้ำ ครู่เดียวมือจับหัวปลากดคัง |
แล้วจับใส่ข้อง อีกสองตัวเป็นปลากั้ง (คล้ายปลาช่อนแต่ตัวเล็กกว่า) |
|
เอ้าเส ลองจับปลา ใช้ทั้งสองมือ ควาน เจอปลาดิ้นให้กางฝ่ามือซ้าย แล้วกดไปบนตัวปลา ๆ นิ่ง |
เส ถนัดมือขวา สอดมือใต้แห เจอปลาใช้นิ้วชี้ แยกออกจาก นิ้วกลางกดหัวปลา
|
เจอหัวปลาให้บีบสองนิ้วให้แน่น เงี่ยงปลาจะอยู่หว่างนิ้ว เงี่ยงปลาไม่แทงนิ้ว |
จับปลาให้แน่นดึงใส่ข้องเลยนะ |
|
ลองทำดู ครั้งแรกเจอตัวปลา ปลาดิ้นหลุดต้องกดใหม่ จนจับใส่ข้องได้หลายตัว แต่น้อยกว่า |
พี่พะก่อมาก. ปลาที่จับได้ เป็นปลาเกร็ด น่าจะเป็นปลาพลวงสีออกชมพู
ผมเองจับปลาหนัง |
น่าจะปลากดได้แค่สองตัว บอกตรง ๆ ไม่ค่อยกล้าจับ ปลาหนังกลัว เงี่ยงยักเอา |
|
ดูตะวันเฉียงไปทางทิศตะวันตกนิด ๆ เราสองคนขึ้นจากน้ำ ล้างมือแขนขา กินข้าวกลางวัน |
พี่พะก่อนั่งกินเฉย ส่วนผม นั่งยอง ๆ กล้ามเนื้อขาสั่นนิด ๆ หนาว.... |
|
ใช้เวลาทอดแหจับปลาหลายชั่วโมง จนตะวันคล้อยต่ำลง ชวนกันหิ้วข้องปลา ไต่ดอยกลับ |
กระท่อมพัก |
|
ลำห้วยหน้ากระท่อมน้ำห้วยค่อนข้างใส จัดการเอาข้องปลาแช่ในน้ำใช้ไม้ไผ่ปักไม่ให้ลอยไป |
ส่วนบนของข้องให้มีช่องว่างสำหรับปลาขึ้นหายใจ จะได้ไม่ตาย สด... |
|
หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ กินข้าวเย็นกัน มื้อนี้น้องก่ำ ทำอาหารง่ายมาก ตำพริกชี้ฟ้าเผา ตำ |
ตำกับกระเทียม หอม เกลือใส่ถั่วเน่าแผ่นปิ้งหอม คลุกเคล้า ตักข้าวไร่สีแดง กินกับยอดผักหละ |
(ชะอม) ที่ลวกเค็มนิด ๆ |
|
(อยู่บ้านป่า คงต้องกินถั่วเน่าแผ่น กับถั่วเน่าเป๊อะเปียก สองอย่างแทนกะปิของคนภาคกลาง) |
|
หลังจากกินข้าวพักหายเหนื่อย แสงจันทร์ส่องสว่างไปทั่วดอยเราลงลำห้วย น้ำไหลช้า ๆ |
|
ลงไปดูปลาที่จับมาได้ จะมีปลากด มีปลาพลวงมากหน่อย ปนด้วยปลากั้ง |
จับตัวปลาแล้วก็ จัดการกับปลา บนบนขอนไม้ข้างริมห้วย ผ่าท้องควักใส้เก็บขี้ปลาใส่ใน |
หม้อดินแต่ระวัง ดีปลาที่ขมไม่ให้แตก กะหมักทำปุ๋ย ปลามีเกร็ดสีออกชมพูนิด ๆ |
ขอดเกล็ดด้วยมีด ควักท้อง แล้วผ่าแบะตลอดทั้งตัว |
|
ก่ำจัดการใส่เปี๊ยด(กระบุง) ที่มีรูเล็กข้างล่างนำปลาไปล้างให้หายเมือกจนสอาดแล้วไปวางใน |
หม้อดินใหญ่ หยิบผงเกลือป่นสีคล้ำ โปรยคลุกเคล้าจนทัว ปิดฝาเก็บไว้ข้างกระท่อม |
|
พี่ก่อ ปลาที่มีเกล็ด เรียกปลาพลวงใช่เปล่าพี่ |
เราเรียกว่า ปลาขาวชมพู ส่วนใหญ่จะทำเค็ม กับปลาย่างรมควันเก็บไว้กิน |
เขาว่าปลานี้กิน ลูกไม้ที่ร่วงเป็นอาหาร กินแล้วเมาไม่ใช่เหรอ |
|
ไม่หรอก..ปลากินลูกมะเดื่อที่ร่วงตกไปในน้ำ กินแมลงด้วย... ลูกมะเดื่อสด เราเก็บมาลวก |
กินกับน้ำพริกบ่อย ไม่เมาหรอก... เปลือกมะเดื่อถากมาใช้ ตำเอาน้ำมาผสม กินแก้ท้องร่วง |
เส จำได้หรือเปล่า ตอนเสมาอยู่ใหม่ ๆ ขากับตัวฟกช้ำมาก เราก็ใช้เปลือกตำ |
แล้วพอกที่ช้ำ ช่วยให้หายเร็วด้วย |
|
ผมก็ว่านะพี่ เหมือนปลาพลวงสีชมภู อีกชื่อ กือเลาะห์ ที่ภาคใต้ของไทย เขาเลี้ยง |
ในลำห้วยน้ำไหล ตัวหนึ่งหนักน่าจะ 2 กิโล ขายกิโลละหลายร้อยบาทคนจีน ปีนังซื้อกิน |
ยังไม่เคยเห็นตัวจริงดูในภาพถ่าย |
|
แล้วเขาว่า ปลาพลวงหรือที่พี่เรียกปลาขาว กินลูกกะบกที่ร่วงลงน้ำ ปลากินเปลือก |
เรา กินก็เมาไม่ใช่เหรอ |
เฮาอยู่บนดอยสูง ไม่เห็นมีต้นกะบกเลย เคยเห็นที่ อำเภอจุน เชียงราย |
อ้าวพี่ก่อ เคยอยู่ อ.จุนด้วยเหรอ |
อ๋อ เคยรับจ้างเกี่ยวข้าว เจ้าของเป็นคนพิษณุโลกเขาย้ายไปอยู่ ซื้อที่นาเยอะทำเองไม่ไหว |
มิน่า พี่ก่อ เลยพูดกำเมือง พูดภาคกลางได้ด้วย
|
กะบกที่ น้องเส พูดถึง ชาว อ.จุน เรียกว่า มะลื่นมะมื่น จาวบ้านเก็บมาคั่วแกะเอาเม็ดแข็งออก |
สีน้ำตาล เฮาลอกเปลือกสีน้ำตาลบาง ๆ ทิ้ง กินเม็ดในลำ.. มัน กินแล้วไม่เมาหรอก |
|
|
|
งั้นพี่ก่อ ไปอยู่หลายจังหวัด แล้วทำไมกลับมาอยู่ ในป่านี้อีกละพี่ |
พี่ ตั้งชื่อลูก ว่า ก่ำเป็นชื่อ ต.นาข้าวก่ำ อ.จุน แม่ของก่ำ อยู่ที่นั่น วันหลังจะเล่าให้ฟัง |
ผมสังเกตสีหน้าพี่พะก่อ น้ำตารื้น ๆ เลยหยุดถาม... คงมีเรื่องที่ลำบากใจแน่เลย |
|
คืนนั้น เราอาบน้ำล้างคาวปลา ขูดเกล็ดปลาที่ติดตามขาแขนให้ลอยไปตามน้ำ เช็ดตัวใส่เสื้อ |
เข้านอน ห่มผ้านอน ไม่นานก็หลับ ผลอยอย่างง่าย ดาย |
ทิ้งท้ายหน่อย ปลาที่หมักไว้ จะตากแดด บนดอย จะมีแดด หรือว่าทำอะไรดี
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L 1,416,694 |
st. ผู้เข้าชม 1,414,085 |
= 2,609 |
งานเขียนประเภท Diarist |
ผมอยู่ระหว่าง ทัวร์ที่ไกลหน่อย...เพื่อนที่แวะมา ช่วยทิ้งร่องรอยไว้นิด ผมกลับมาจะไปทักทายตอบครับ |
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
วิชาการดำรงชีวิต
เป็นวิชาที่สำคัญเลยนะครับ
อย่างการจับปลาหาปลา
ผมก็ไม่รอดครับ 5555
อาหารป่า ผักป่าบางชนิด
ถ้าไม่มีความรู้
ก็อาจจะเจอต้นที่มีพิษได้ง่ายๆเลย
โหวตครับ