No. 747 บล๊อกประจำ จันทร์ - พฤหัสบดี |
|
|
|
ลืมตาฟังเสียงไก่ป่าร้อง รับเป็นทอด ๆ จากไหล่ดอยฝั่งตรงข้ามกระท่อมที่พัก |
|
พับผ้าห่มวางไว้บนหมอน เปิดประตูเพียงนิดเดียวความเย็นพรูพรั่งปะทะอก |
เย็นค่อนข้างมาก ข้างนอกสว่างด้วยแสงจันทร์นวล สาดไปริมลำห้วยที่ไหลรินตลอดเวลา |
|
ออกมานั่งบนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน ไม่นานดวงจันทร์ค่อย ๆ เลื่อนไปขอบฟ้าหรี่แสงเหลือเป็น |
วงกลมขาวนวล แสงอาทิตย์ค่อย ๆ สาดแสงแทนเป็นลำยาว ทะลุกิ่งไม้ต้นไม้ใหญ่ |
แสงกระทบกระแสน้ำเป็นประกาย |
|
ตื่นนานแล้วเหรอ |
เมิน(นาน)แล้วครับพี่.... ดวงอาทิตย์งามแต้ ๆ |
วันนี้กินข้าวเช้าแล้วเตรียมตัวไป จับปลากันที่ดอยโน้น พี่พะก่อชี้ลงไปดอยที่อยู่ต่ำลงไป |
|
เตรียมอะหยังพ่องพี่( เตรียมอะไรบ้าง) |
ก็ไม่มีอะไรมาก มีแห ข้องใส่ปลา ห่อข้าวเที่ยงคนละห่อก็พอ พี่พะก่อบอก วันนี้ก่ำอยู่บ้านเน่อ |
ครับป่อ |
|
เช้านี้ทำอาหารแบบบ้าน ๆ เป็นถั่วเน่าเม๊อะผัด.... |
ตั้งหม้อดินเปล่าให้ร้อน เอาถั่วเน่าเม๊อะค่อนข้างแฉะที่ห่อใบตองกล้วยใส่หม้อดินแล้วปิดฝา |
|
หยิบพริกชี้ฟ้าสองเม็ด หอมบั่ว(หอมแดง) สี่หัว ตำหยาบๆ แล้วไส่ในหม้อดินที่ร้อน ใช้ไม้พายคน |
ไอร้อนพวยพุ่งขึ้นเต็มหม้อเขี่ยกลางหม้อให้ว่าง ตอกไข่ไก่ป่าลูกเล็กลงไปอีก 4 ฟอง |
ตักถั่วเน่าที่ร้อนโป๊ะทับไข่จนจับแข็ง แล้วคนไปมา หั่นต้นหอมยาวเท่าสองข้อนิ้วลงผัดรวม |
จนสุก ตักใส่จาน |
|
หม้อดินร้อนฉ่า ที่มีถั่วเน่าคั่วตกค้างอยู่บ้าง เดือดดังฟอดแฟด พี่พะก่อตักน้ำใส่ไปสองกระบวย |
ปิดฝาเติมฟืนเข้าไปอีก พอไอน้ำพุ่งออก เปิดฝาหยิบเนื้อกวางย่างรมควัน ฉีกเป็นเส้น โปรยลง |
ไปไม่มากน้ำที่เดือด ค่อย ๆ ละลายเนื้อกวางจนนิ่ม กลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งห้อง |
|
ช่วยกันยกไปตั้งบนแคร่ ไม้ไผ่หน้าบ้านหลังน้อย ตักข้าวใส่จาน ครบสามคน น้ำซุปที่มีชิ้น |
เนื้อกวางฉีกตักใส่ชามลึก |
ตักถั่วเน่าผัดราดข้าว กินกับหอมป้อม(ผักซี) ต้นอ้วนที่ก่ำไปเก็บมาล้างน้ำในห้วยสลัดจนแห้ง |
|
ถั่วเน่าเม๊อะผัด คลุกข้าวไร่สีออกแดงร้อน ๆ ตักเข้าปาก กลิ่นหอม รสมัน แกล้มกับ หอมป้อม |
(ผักชี) ต้นอวบอ้วน ที่ก่ำไปเก็บแล้วล้างในน้ำห้วย สลัดจนแห้ง |
ซดน้ำซุปเนื้อกวางรมควันที่ ออกหวาน หอมกลิ่นควัน ร้อนจนต้องเป่าให้คลายร้อน ตักเนื้อกวาง |
เป็นเส้นฝอยในน้ำแกงเคี้ยว ลำแต้ ๆ (อร่อย) |
|
เออที่พะก่อ... ถั่วเน่าเม๊อะนี้กลิ่นคล้าย นัตโตะจัง |
อะหยัง(อะไร) นัตโตะ |
ไม่รู้เหมือนกันพี่ คำว่านัตโตะมันลอยออกมาเอง จำไม่ได้ว่ามาจากไหน อ๋อ เดี๋ยวนึกออกแล้ว |
เคยกินที่บ้านเพื่อนชาวญี่ปุ่น แต่นัตโต๊ะกลิ่นแรงเขละ มากกว่า |
เหรอ ชาวญี่ปุ่น เป็นแบบไหน เฮาไม่เคยเห็น
ก็ตัวเท่า ๆ พวกเรา ผิวขาวกว่า วันหลังจะเล่าให้ฟังครับพี่ |
|
หลังกินข้าว ก่ำเอาห่อข้าวกับอาหารมื้อเที่ยงให้ไปกินส่งให้ผมสองห่อ ให้ผมกับพี่พะก่อน |
ไปจับปลา. เราสองคนเดินลงดอยไปเรื่อย ๆ เป็นดอยไม่สูง |
|
โน่น ข้างล่างเห็นทิวน้ำ มีน้ำขังอยู่ จวนถึงแล้วพี่พะก่อบอก ไม่นานเราก็เดินถึงแอ่งน้ำค่อนข้าง |
ข้างใหญ่น่าจะกว้างน่าจะสองไร่ได้ |
|
แอ่งน้ำกว้างนี้ มีต้นกกกับหญ้าขึ้นขอบ ๆ อ่าง พอเดินลงไปจะเป็นดินอ่อนนุ่มสีดำ ปลิ้นปูดขึ้น |
ระหว่างซอกเท้า ค่อนข้างเหนียว อากาศยังเย็นค่อนข้างมาก |
|
เมื่อห้าปีก่อน น้ำในแอ่งนี้น้อยกว่านี้มาก พี่มาหาปลาเห็นกิ่งไม้ตก หักตกเต็มไปหมด จับปลา |
ค่อนข้างยากเลย ลากกิ่งไม้ท่อนไม้ไปไว้ตรงก้อนหินตรงนั้น เวลาฝนตกจะไหลผ่านล้นไปห้วย |
ข้างล่างใบไม้ตะกอนดินก็ตกทับ กั้นน้ำไม่ให้ไหล น้ำคงซึมได้น้อย |
|
เกิดแอ่งน้ำและมีปลาตกขลักอยู่ในนี้มากเหมือนกัน |
|
เอาน้องเส ลงน้ำช่วยกัน ดึงเศษต้นไม้หญ้าขึ้นบนบก จะได้ทอดแหง่าย พี่พะก่อเดินนำหน้า |
เราสองคนถึงลากกิ่งไม้ขึ้นฝั่งจนมีพื้นน้ำที่ขุ่น กว้างสิบกว่าเมตร เกือบหมด แล้วยืนรอบนฝั่ง |
ไม่นานนักมีปลาผุดขึ้นมาหาอากาศหายใจ |
|
พี่พะก่อจับตรงหัวแหที่ถักยาวเกือบเจ็ดศอก พับไปพับมาแล้ว นำแห พาดไว้ที่ข้อศอกขวา |
แล้วใช้มือซ้ายจับตาข่ายแหคลี่ ให้กว้างเกือบศอกกว่า ๆ |
แล้วยืนรอให้ปลา ผุด |
|
น้ำในแอ่งน้ำขุ่น ขาว ค่อย ๆ นิ่ง ปลาเริ่มผุดขึ้นมา อากาศเย็น หนาว..มาก เลยทรุดตัวนั่งกอด |
เข่า รอดูพี่พะก่อเหวี่ยงแห... |
ใจคิด... เอ..ที่นี่เป็นปลาอะไร... อยู่บนดอย
|
(เขียนจากเรื่องเล่า จากการไปอยู่ในป่า รอยตะเข็บชายแดนภาคเหนือ ของคนชื่อ เสรี)
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L 1,412,976 |
st. ผู้เข้าชม 1,411,618 |
= 1,362 |
งานเขียนประเภท Diarist |
|
สวัสดียามเช้าครับ
พี่ไวน์เป็นคนจำรายละเอียดต่างๆได้ดีมากๆเลยครับ
เวลาเล่าเป็นเรื่องราว
อ่านแล้วเห็นภาพเลย
โหวตครับ