No. 789 สนามรบ ไปมาแล้ว เหนื่อย ?.... ตะพาบ |
|
เห็นโจทย์ที่ตั้งมา เอ..เขียนได้ไง ไม่เคยเข้ารบในสนาม เคยไปสนามที่คนอื่นเคยรบ หุ หุ |
งั้นแถ..ซะหน่อย 555 |
เมื่อก่อนต้องไปทำงานที่ เพชรบูรณ์แล้ว หลบงานหนีเที่ยวเขาค้อก็คนเขาว่างดงาม ส่วนพวกคอมมิวนิสต์จะ |
หลบลี้หนีไปเกือบหมด หลังจากทหารใช้แผนเด็ดขาด ใช้รถมอเตอร์เกรดเดอร์ใหญ่ ใช้ซุงติดรอบที่นั่งแบบข้างล่างนี้ |
แล้วใช้รถคันนี้และคันอื่น ดันต้นไม้ให้ล้มเป็นแถบ ๆ เจอระดมยิงบ้าง เป็นไงเหรอ ไม่เป็นไรหรอกลูกปืนเจาะซุงรอบที่นั่งคนขับ |
ทำอะไรไม่ได้ ป่าเริ่มเหี้ยนเตียน ทหารเข้าพื้นที่ได้ ก็เผาป่ายึดพื้นที่ไปเรื่อย ๆ แทบจะหมดทุกเขา |
แต่อย่างว่าจะให้ทหารไปอยู่ตลอดเป็นไปไม่ได้เลยจัด คัดเลือกประชาชนเข้าอยู่ในที่ดินโดย |
|
จัดสรรที่ดินจำนวน 120,000 ไร่ ให้อาสาประชาชนที่เคยร่วมรบคนละ 20 ไร่ที่ปลูกบ้านอีก 2 ไร่ |
ห้ามซื้อขายตลอดไป แต่ให้เป็นมรดกตกทอดได้ (มิน่าปัจจุบันจึงมี ชาวบ้านเป็นหุ้นส่วนกิจการรีสอร์ทเลี่ยงข้อห้าม) |
ตามความเห็นแล้ว ชาวบ้านไม่ผิดนะครับ เรียกว่า เพิ่มมูลค่าที่ดินให้สูงขึ้น การเกษตรยังทำและสวยขึ้น ช่วยทำให้เกิดการท่องเที่ยว เงินเดินสะพัด แต่อย่าไปบุกรุกพื้นที่เพิ่มนะเออ |
มีที่ให้ครอบครัวละ 1 แปลงสำหรับทำไร่ อีกส่วนสำหรับปลูกบ้าน รวมกันเป็นหมู่บ้าน |
ทหารจะเข้าคุมจุดที่สำคัญ มิให้พวกคอมมิวนิสต์เข้าโจมตีชาวบ้าน ค่อนข้างเบ็ดเสร็จยกเว้น หนองแม่นาที่ยังมี แต่นั่นเมื่อประมาณปี พศ. 2526 |
พวกนั้นอยู่บ้าง เพื่อนที่เป็นผู้ใหญ่บ้านแถว อ.หล่มเก่าชวนไปเที่ยว ผม อึ๊ ไม่ไป 555 |
หลายปีต่อมา ผญ.ไพรัชเย้าแหย่ว่า พี่ไวน์ไม่ต้องเดินทางบ่อย ขายถ่านไฟฉายให้คนบนเขาดีกว่านะ เขารับซื้อหลายยี่ห้อ |
ดีไง รู้จักแต่ถ่ายไฟฉายตากบ |
นั่นแหละเขารับซื้อให้ราคาแพง หุ หุ แต่พี่ไวน์ต้องนำไปส่งถึงตัวเขานะ |
แล้วไง |
ผู้ใหญ่ไพรัชหัวเราะร่วน พวกคอมมิวนิสต์นำไปเป็นตัวจุดระเบิด สนปะ |
บ้า.. หาเรื่องให้เราเข้าตาราง |
อีกสามปีต่อมา อีตาผู้ใหญ่ก็ชวนไปค้างบ้านเพื่อนบนเขาค้ออีกแหละ บอกว่าตอนนี้ไม่มีพวกคอมมิวนิสต์ |
อากาศหนาว ถนนลาดยางสวย ชาวบ้านปลูกกะหล่ำ ทำถั่วลันเตาเยอะมาก ถ้าพี่ไวน์ไปกินเหล้า เอาโซดาไป |
ไม่ต้องแช่ เรานั่งดื่มนอกชานบ้าน ตักต้มยำกบทูด(กบภูเขาหรือเขียดแล้ว) แซ๊บจริง ๆ |
อากาศหนาวจัด แทบจะไม่ต้องอาบน้ำ |
แบบนี้ใช่เลย ไปซิครับ |
วันนัด ซื้อเนื้อวัวสด กับโซดาไปให้พอคอไม่แข็ง กะว่าแม่โขงหนึ่งขวดกลม โซดา 6 ขวด หุ หุ |
|
วันนั้นเราขี่มอไซค์ไปสามคันขึ้นทางบ้านสะเดาะพง ถนนชันคดเคี้ยวมากหน่อย ขี่ไปนานแล้วก็ถึงบ้านผู้ใหญ่ |
สา น่าจะชื่อวิศา จำไม่ค่อยได้แล้ว แหะ ๆ เขาเป็นราษฏรอาสา ที่เข้าร่วบรบกับทหารกองทัพภาคที่ 3 ได้ที่ดินทำกิน |
|
บ้านที่อยู่ก็อยู่ไม่ไกลไร่มากนัก พี่ผู้หญิงพาเรานำของไปเก็บไว้บนบ้าน นอนเล่นสักพักผู้ใหญ่จวนกลับจาก |
ธุระในตัวตลาดเขาค้อ พอเห็นหน้า อ้าวเฮ้ยเคยกินเหล้ากันที่บ้านผู้ใหญ่ไพรัช หล่มเก่าแล้วนี่นา |
ทีนี้ละสนุกเขาละ ภรรเมียแกก็ต้มไก่บ้าน ใส่พริกขี้หนูกำหนึ่งได้มั้ง เผ็ด เปรี้ยวจากมะนาว |
เค็มหอมใบมะกรูด ต้นหอม เรานั่งดื่มกันระเบียงหน้าบ้านที่แคบหน่อย โซดาหมดก็เอื้อมมือไปข้างหลังคว้ามาเปิด |
เทใส่ได้เลยเย็นเจี๊ยบ แต่ผู้ใหญ่ศากินเพียว ๆ หน้าตาเฉย |
แต่อย่างว่าวันเดือนที่ไป มันหนาวสุด ๆ เรานั่งที่ระเบียงถึง 3 ทุ่ม..ไม่ไหวมันหนาวเลยย้ายไปกินต่อในห้อง |
แล้วก็เมาหลับไปทั้งสามคน ตื่นมาตอนเช้าเย็นเท้า ส่วนอกมีผ้าห่มปิดไว้เมียผู้ใหญ่คงสงสารโยนผ้าให้สามคนห่ม |
เราสามคนเลยมีสภาพเหมือนขี้เมาธรรมดา |
ผมกับผญ.ไพรัชตื่นมาโน่น 9 โมง เลยล้างหน้าเดินตามไปดูในไร่ เจอแล้ว ผญ.ศากำลังฉีดยาฆ่าหญ้า |
ใช้ถังเหล็กสะพายหลัง พอเห็นผมสองคนก็ตะโกน |
อยู่แถวนั้นก่อนยามันแรง |
นั่งรอในเพิงพักเกือบ ชม. เขาฉีดยาฆ่าหญ้าเสร็จ ต้องรีบฉีดยาก่อนแดดจะแรง ลมจะมายาจะฟุ้ง |
ผญ.อาบน้ำแล้วนั่งกินข้าวเย็นกับเรา ก็แกงไก่บ้านที่เหลือ แล้วก็พาไปเที่ยวในเขาค้อ |
ไปนั่งพักที่น้ำตก นั่งคุยกัน |
เอ ผู้ใหญ่ทำไมไม่ใช้จอบถางหญ้า ยามันอันตรายนะ |
เคยทำนะคุณไวน์ ถางได้วันละครึ่งไร่ อีกอาทิตย์ถางอยู่ริมห้วยหันไปมองที่เคยถางหญ้าสีเขียวแพลมโผล่มา |
ไม่ไหว กินแรงทำเท่าไรก็ไม่ไหวเลยใช้ยาฉีดกดไว้ ไม่ขึ้นนาน |
อ๋อเข้าใจ..แล้วถั่วลันเตา กะหล่ำปลีที่ไร่ฉีดยาอะไรบ้าง |
ก็มียากันเชื้อรา กับยาฆ่าแมลงฉีดไว้ก่อนที่จะเก็บขายไม่ทัน อันตรายเหมือนกันแต่ผมก็ทิ้งระยะให้ยาสลายค่อยเก็บ |
เซลล์เขาแนะนะ พี่ไวน์ |
ผมกับเพื่อน ๆ ที่บริษัทจัดนำเที่ยวเขาค้อหลายครั้ง ชอบทิวทัศน์ที่เป็นเนินสูงต่ำ บางครั้งเห็นชาวไร่ฉีดยาฆ่าแมลง |
ฟุ้งน่ากลัว คือกลัวเขาเก็บที่ฉีดยาไม่นานนำมาขายให้พวกเรา เวลาสั่งผัดผักมาจะ ตักมาดม |
ได้กลิ่นยา ก็ต้องไม่กิน คือจำกลิ่นยาฆ่าแมลงได้ |
|
เพราะเคยบุกเบิกทำไร่ที่ อ.แก่งหางแมว จันทบุรี เป็นที่ว่างเปล่า 32 ไร่ได้มาด้วยความจำเป็น ชนิดต้องรับโอน |
เพื่อนใช้หนี้เงินยืมต้อง แถมเงินมันอีกหลายพื้นที่มันสวย อีกอย่างเพื่อนอีกคนยุว่า เอ็งรับไปเถอะ กำขี้ดีกว่ากำตด |
|
ไร่อยู่ในป่าเสื่อมโทรมที่ดินเป็นเนินสูงเอียงลาดไปตามยาว |
เป็นที่โล่งเป็นป่าหญ้าเดินสำรวจดินชั่วโมงกว่า เริ่มชอบเพราะส่วนหนึ่งมีลำธารพาดผ่านที่ดินเลยวางแผนปลูกผลไม้ |
แต่ยังไม่ทำอะไรจนถึง |
ไทยเจอ เศรษฐกิจฟองสบู่แตก คนตกงานเยอะ บ้านคอนโดสร้างขาย ขายยาก บางห้องขายได้แต่ไม่ส่งต่อ |
ธนาคารที่ปล่อยให้กู้เลยได้ คอนโดบ้านมาแทน เอ...คุ้น ๆ ในปัจจุบันนะ ดีนะรัฐในปัจจุบันส่งเสริมให้คนซื้อบ้าน คอนโด |
หาธนาคารปล่อยเงินกู้ แหะ ๆ ยังสงสัยว่าเขาอุ้ม เศรษฐีที่ขายคอนโดจะได้ขายออกเพิ่มซะมั้ง า |
พูดไปมันก็ไม่ดี ได้แต่สงสัย |
ยกกลับมาเรื่องไร่ต่อดีกว่าก่อนจะเลื้อยออกอ่าว ไทย หุ หุ ช่วงเวลานั้น นายคนปัจจุบัน นี่แหละให้ทำงานต่อ |
ไม่ต้องออกไปไหน...ส่วนงานสำนักงานบัญชีส่วนตัวที่ทำควบคู่มาตลอด |
ลูกค้าค่อย ๆ ปิดกิจการ เหลือเพียงสามแห่ง จ่ายค่าจ้างกระปริบกระปรอยเกือบจะไม่ได้ |
|
เลยไปทำไร่ที่ อ.แก่งหางแมว จันทบุรี เป็น ป่าเสื่อมโทรมที่ฝนตกหนัก 7 วันเจ็ดคืนน่ากลัว ฤดูแล้งก็แห้งผาก |
มีแต่หญ้า เห็นรอยกระต่าย หมูป่าลงมากินน้ำในแอ่งน้ำที่เหลือบ้าง |
ส่วนช้างป่า ก็ผลุบโผล่เห็นไกล ๆ เขาคงจะกลัวผม แต่ที่ไหนได้ผมกลัวพวกเขาซะอีก 555 |
|
ระยะแรกเข้าไปทำไร่ เจอคอมมิวนิสต์ครับ ผมเฉย ๆ มิได้กลัวอะไรชาวบ้านแถวนั้นไม่ชอบ แต่ทำไงได้ |
เนื้อที่ 32 ไร่ผมจ้างรถไถติดผาน (ตัวผานกลม 4 ตัว) ไถดินให้ลึกดันรากหญ้าขึ้นมาตากแดด เผาหญ้าทิ้ง สภาพไร่ผลไม้มิได้สวยตามที่จินตนาการเลย เห็นดอกหญ้าสวย ข้างล่างนั่นหรือเปล่า.... |
หลายเดือนต่อมา ปลูกขนุน มะม่วงสามสายพันธ์ สะตอดาน เงาะ น้อยหน่าอย่างละ 5 ไร่กว่าจะปลูกครบใช้เวลา 3 ปี |
หมดเงินไปเยอะเหมือนกันค่อย ๆ ทำไป ข้างล่่างเป็นสระน้ำบ่อเล็ก 1 ใน 3 สระที่จ้างรถแบคโฮขุด |
|
เพื่อนคงสงสัยว่าเจอคอมมิวนิสต์ เขาไม่ทำร้ายเหรอ แหม.. ผมใช้มีดหวดไม่ยั้ง หุ หุ ต้นหญ้านะครับชาวบ้านเรียก |
ว่าหญ้าคอมมิวนิสต์เดี๋ยวตาย เดี๋ยวค่อย ๆ คืนแยงดินโผล่ยอดเขียวมาอีกแล้ว |
หวดตัดขุดทิ้งไม่กี่วันก็โผล่อีก เพราะดอกที่แก่จากสวนอื่น ลอยตามลมมา งอกอีก |
เลยจ้างมืออาชีพลากสายยาง ถังสองร้อยลิตรฉีดยาไกลโฟเซตหญ้า ระหว่างนั้นอย่าเข้าใกล้จะมืนหัวอันตราย |
พื้นดินเลยปลอดหญ้าสองถึงสามเดือนได้มังครับ... เห็นกระดองปูป่านอนหงายตาย |
ส่วนกบป่าตัวสีดำที่ผมเคยจับกิน พอเหลือบ้าง |
สามสี่ปีต้นขนุน เงาะโตแผ่กิ่งก้านจะบังเงารอบ ๆ ต้น หญ้าก็ขึ้นน้อย ส่วนมะม่วงผมบังคับให้มีกิ่งน้อยใช้พรุนกิ่งโปร่ง |
สะตอต้นสูงลิบแดดเยอะก็มีหญ้าแยะ ก็ต้องฉีดยาฆ่าหญ้าบ้าง ข้างล่างเป็นบ้านพัก ปนเก็บเครื่องมือในปีที่สองของการทำไร่ ต้นไม้ยังไม่สูง |
รู้ทั้งรู้ว่ายาอันตราย แต่ก็ต้องทำเพื่อลดต้นทุน ทำหญ้านับว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าค่าปุ๋ยซะอีกต้องทิ้งอุดมการณ์ |
อันสวยหรู(ที่คิดไว้) เพื่อความอยู่รอด รอรัฐมาช่วยไม่ได้หรอกครับ |
ตอนนั้นเขาก็ช่วยอยู่กิจการอื่น ไม่ช่วยชาวไร่ผลไม้ ทำไมเหมือนกับรัฐบาลที่... แหะ ๆ พูดไม่ได้..... |
แถไปมาจน เพื่อน ๆ งง... อะไรหว่า... คืองี้ ทหารไทยรบกับพวกคอมมิวนิสต์พวกเขาพยายามแย่งดินแดน บนเขาค้อ ชาวบ้านต่อสู้กับหญ้าคอมมิวนิสต์ ส่วนผมก็สู้กับ หญ้าคอมมิวนิสต์ผมไม่มีปืน เลยใช้ยาไกลโฟเสตฆ่า หุ หุ ปัจจุบันข่าวแว่ว ๆ ว่า จะห้ามใช้อีกไม่กี่ปี |
ขอบคุณเพื่อนที่เอื้อเฟื้อภาพ L 1,497,091 st. ผู้เข้าชม 1,494,924 = 2,167 ขอบคุณเพื่อนที่แวะมาเยือน และกรุณาเม้นท์ทิ้งร่องรอยไว้ จะไปเยือนได้ถูก |
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
รบกับหญ้า
เหนื่อยแต่ไม่เครียดนะครับ 555
สมัยก่อนใช้ยาฆ่ายากันจริงครับ
หรือไม่ก็เลือกวิธีเผาป่า
ซึ่งเร็ว สะดวก แต่สร้างฝุ่นควันมหาศาล
ชอบวิธีไถกลบของญี่ปุ่นครับ
แต่เข้าใจว่าต้นทุนสูง รอนาน
ซึ่งวงรอบของการทำการเกษตรในบ้านเรา
ต้องปลูกอะไรหมุนเวียน
ไม่งั้นรายได้ไม่พอเงินที่กู้มาครับ
พูดไปพูดมาก็ต้องวนไปที่นโยบายของรัฐบาลอยู่ดี 555