No. 812 ตามรอย มหา' ลัยเหมืองแร่ คุณอาจินต์ |
ประจำวัน จันทร์ - อาทิตย์ |
บันทึกการเดินทางของ หมาป่าเดียวดาย ลาพักร้อนครึ่งเดือน จากกรุงเทพ ไป พังงา ด้วยจักรยาน (ตอนที่ 10 ) |
(ภาพข้างล่างหมาป่าฯ เข้ามหาวิทยาลัยใหม่ ๆ ชอบอ่านหนังสือหลายชนิด รวมทั้งของคุณอาจินต์) |
อยากเห็น อยากรู้เรื่องของ คุณลุงอาจินต์ ปัญจพรรค์นักเขียนในดวงใจ ท่านศึกษาที่มหาวิทยาลัยเดียวกันด้วยแต่ต่างคณะ หมาป่าอ่านหนังสือฟ้าเมืองไทยที่คุณลุง ร่วมก่อตั้ง และต่อมาได้อ่าน มหา' ลัยเหมืองแร่ ตอนนี้ผมเดินทางและเขียนใกล้เป้าหมายสถานที่เข้าไปทุกทีแล้ว |
/////// |
|
พอถึงคุระบุรีก็ได้ห้องพักเป็นบังกะโลชื่อ บุญปิยะรีสอร์ต อยู่ท่ามกลางดาวน์ทาวน์เลยแต่สงบเงียบ ราคาห้องคนไทย |
มาเดี่ยวท่านคิด 500 บาทเทียบกับสภาพห้องแล้วไม่แพง แถมตอนเย็นได้คำแนะนำให้ไปกินข้าวเย็นที่ร้านข้าวต้ม |
โกศักดิ์ ฝั่งตรงข้ามของถนน อาหารอร่อยทุกเมนูครับ วัตถุดิบค่อนข้างด้วยเรตติ้งนี้ได้จากการกินร้านเดิมสองคืนติด |
ตัวอำเภอคุระบุรีจะมีท่าเรือไปหมู่เกาะสุรินทร์ ธุรกิจท่องเที่ยวคึกคัก |
|
อาทิตย์ที่ 9 มีนาคม วันที่สิบ ของการเดินทาง |
วันนี้ที่คุระบุรีจะเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของทริปครับ หมาป่าจะไปตามรอยหนังเรื่อง มหา เหมืองแร่ ตามรอยหนังนะครับ |
ยังไม่ใช่เหมืองแร่กระโสม ทิน เดรดยิง ของจริง |
ความที่รักหนังเรื่องนี้มาก ผมทำการบ้านมาก่อนจะขี่ลงมา อ่านประวัติจากในหนังสือและตามเวปต่าง ๆ ที่มีการเขียนถึงไว้ |
GTH บริษัทที่สร้างไม่ได้เลือกโลเคชั่นถ่ายทำที่เหมืองกระโสมของจริง |
ด้วยว่าพอเวลาผ่านไปหลายสิบปีตัวเหมืองไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกแล้ว เรือขุด เครื่องจักร หรือแม้แต่ภูมิประเทศ |
รอบ ๆ ล้วนเปลี่ยนไปหมด ที่แน่ ๆ คือไม่มีเรือเหลืออยู่แน่นอนถูกขายเป็นเศษเหล็กไปหมดแล้วตั้งแต่ประเทศเราเลิก |
ขุดแร่ดีบุก |
ทีมงาน GTH เคยลองไปสำรวจบริเวณอดีตเหมืองแร่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดพังงาที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวจังหวัด |
และพบว่าเป็นโลเคชั่นที่ค่อนข้างดีเพราะยังมีเครื่องจักรบางอย่างเหลือทิ้งเอาไว้ หากแต่ตัวเรือขุดยังต้องสร้างจำลอง |
ขึ้นใหม่ มีการลองสร้างแบบจำลองที่เหมืองเก่าแต่ก็พบอุปสรรคคือน้ำครับ |
ฉากบรรยายในหนังสือนั้นมันต้องมีฝนที่เป็นตัวละครเอกตัวหนึ่งพอสร้างแบบจำลองในช่วงที่ฝนตกชุกหนักที่ปักษ์ใต้ |
น้ำป่าที่ทะลักเข้าบ่อที่เหมืองใหญ่นั้นกวาดฐานรากที่เตรียมไว้กะจะวางเรือขุดจำลองพังเรียบ อันตรายเกินไปสำหรับ |
โลเคชั่นนี้ |
พี่เก้ง จิระ มะลิกุล ผู้กำกับและคนเขียนบทรวมถึงผู้กำกับศิลป์ที่รับโจทย์ใหญ่ว่าต้องสร้างเรือขุดจำลอง และสถานที่ |
ต่าง ๆ ในเหมือง ทั้งออฟฟิศ บ้านพัก ค้นไปค้นมาก็เจอโลเคชั่นคุระบุรีนี้ |
|
จากบทสัมภาษณ์นั้นคือเป็นโลเคชั่นที่หล่อมาก มันให้ภาพความยิ่งใหญ่ของภูเขา ความหนักอึ้งอั้นของความชึ้นและ |
สายฝน ความทึบรกของป่าเขียว อีกทั้งความเฉอะแฉะถนนโคลน ที่จะถ่ายทอดสปิริตของตัวหนังสือของชีวิตในเหมือง |
แร่ช่วงปี 2492 - 2496 ไปสู่ภาพในฟิล์มภาพยนต์ เรียกว่าสมบูรณ์แบบ |
หมาป่าต้องการหาพิกัดของโลเคชั่นถ่ายทำให้แน่นอนก่อนออกเดินทาง การรู้กว้าง ๆ ว่าถ่ายทำที่คุระบุรีนั้นออกจะ |
กว้างเกินไปสักหน่อย |
ทางที่นึกออกคือ GTH นั่นเองแหละครับ ผมไม่รู้จักพี่จิระ และพอทราบว่าแกไม่เล่นโซเชียลมีเดียแบบเฟซบุ๊ค ก็ |
คงจะหาทางติดต่อแกยากหน่อย ชื่ออีกชื่อที่คุ้นคือพี่จีน่า โอสถศิลป์ พี่จีนาเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท GTH |
ซึ่งทีมงานของ GTH มีบางส่วนที่มาจากโปรดักชั่นเฮ้าส์ถ่ายหนังโฆษณาหับ โห้ หิ้น |
|
ผมหมาป่าทำงานในแวดวงบริษัทโฆษณาเคยได้ยินชื่อพี่จินาอยู่บ้าง แต่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน สิบกว่าปีก่อน |
เคยไปหัดเล่นเรียนเทนนิสก็เจอพี่จินาตีเทนนิสอยู่คอร์ทที่ผมเรียนอยู่ พอจำได้ว่าพี่เขารูปร่างหน้าตาเช่นใด |
|
ผมลองเซิรซเฟซบุ๊คแล้วเจอแอคเคาน์ของพี่จินา ก็เลยเขียนโน๊ตไปแนะนำตัวเอาดื้อ ๆ ว่าอยากลงไปดูโลเคชั่นหนัง |
มหา' ลัยเหมืองแร่ อยากขอว่าพี่พอจะบอกข้อมูลพิกัดที่ชัด ๆ โดยการถามทีมงานให้ได้หรือไม่ |
ส่งไปก็นั่งรอว่าพี่เขาจะตอบโน๊ตกลับมาคนขี่จักรยานที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนหรือไม่ พี่เขามีใจอารีย์ตอบครับ มีโทรคุยกัน |
พี่จินาเล่าว่าสอบถามทีมงานแล้ว โลเคชั่นนั้นมันน่าจะร้างและโดนป่ารกทึบคลุมไปหมดแล้ว |
บอกพิกัดเป๊ะ ๆ ได้ยาก ยกเว้นจะได้คนที่เคยไปนั่งรถไปชี้จุด เรือขุดก็โดนรื้อเป็นเศษเหล็กขายไปหลังจากถ่ายหนังเสร็จ |
พี่ให้กำลังใจว่าถ้าจะลงไปก็ลองถามคนในพื้นที่ดู น่าจะแม่นยำกว่า เอาก็เอาครับ ผมยังมีแรงใจว่าเข็มทิศอยู่ |
ที่ปากนี่แหละครับ |
เช้าตื่นขึ้นมากินข้าวใกล้ที่พักเสร็จ หมาป่าไปยังที่ที่คิดว่าน่าจะมีคนจดจำทำเลถ่ายหนังได้ ที่นั่นคือสถานีตำรวจครับ |
ด้วยว่าหากมีกองถ่ายหนังขนาดใหญ่มีคนเป็นร้อยมาปักหลักกันหลายเดือน |
น่าจะต้องมีการประสานขอเจ้าหน้าที่ตำรวจไปช่วยดูแล หรือช่วยเคลียร์เส้นทางจัดการจราจรหากมีการปิดถนนถ่ายหนัง |
ผมกะถามตำรวจว่ามีใครจำสถานที่ใดบ้าง |
เดินขึ้นสถานีตำรวจยามเช้าวันอาทิตย์ ตอนแปดโมงกว่านี้มันเงียบเหงามากครับ ผมเดินเทิ่ง ๆ ขึ้นไปถอดหมวกนัก |
จักรยานแล้วก็มองเข้าไปในสำนักงานที่เกือบร้างผู้คน เจอตำรวจหนุ่มแต่งครึ่งท่อนอยู่ท่านหนึ่งนั่งพิมพ์งานใน |
คอมพิวเตอร์อยู่ ท่านเป็นหมาป่าและเห็นหัวหงอกของหมาป่า ท่านก็ยกมือไหว้แล้วพูดคุยกัน |
ผมเล่าว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ และถามด้วยความเกรงใจเพราะเห็นท่านยังหนุ่มอายุน่จะยี่สิบปลายหรือสามสิบต้น ๆ |
เท่านั้น กองถ่ายมาที่คุระบุรีนี่ก็ร่วมสิบปีแล้ว เกรงใจไม่แน่ว่าตอนนั้นท่านจะรับราชการตำรวจหรือยัง แต่ปรากฏว่า |
ท่านจำได้ครับ |
ท่านบอกให้ขี่ย้อนขึ้นไปหาทางซ้ายมือที่เขียนว่าถนนเทศบาล 1 อยู่ก่อนถึงปั้มปตท. หากมาจากระนอง |
กองถ่ายเขาไปปักหลักถ่ายกันในสวนผลไม้สวนยางพาราบนเส้นทางที่ว่า ให้เข้าไปสัก 5 - 6 กม. แล้วถามคนท้องที่ |
ดูให้ชัดอีกที ผมขอบคุณแล้วจับรถออกมามุ่งทิศตามที่คุณตำรวจบอก |
จากปากทางเทศบาล 1 นั้นทางร่มรื่นมากครับ สองข้างทางเป็นสวนยางและปาล์มน้ำมัน อากาศเย็นสบายเพราะ |
เช้าอยู่ดังภาพครับ |
ขี่ไปสักสามสี่กิโลเมตร ด้านขวามีสวนยาง ผมหยุดพักดื่มน้ำและถ่ายรูป เจอพี่ผ้ชายเจ้าของสวน ท่านเดินชมสวนเองอยู่ |
ทักทายพูดคุยกัน ท่านก็ขี่จักรยานเช่นกัน ผมเลยลองถามดูว่ารู้ไหมว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนเขาถ่ายหนังกันที่ไหน |
คุณพี่แกรู้ครับ แกบอกวาขี่ตรงไปเรื่อย ๆ ขึ้นเนินลงเนิน |
แล้วมันจะมีลงเนินหนึ่งมีทางแยกขวางอยู่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกสักไม่เกินครึ่งกิโล ถามคนตรงนั้นดูอีกที กองถ่าย |
เคยปักหลักกันอยู่ตรงนั้นแหละ โอววว เจอตัวจริงเสียงจริงอย่างนี้แจ่มเลยครับ |
ผมขี่ตามที่พี่ผู้ชายบอกมาอีกไกลพอควรครับ คุณตำรวจกะให้ว่าสัก 5 - 6 กม.จากปากทางแต่วัดได้ร่วม 10 กม. |
ที่หมาป่าเจอแยกดังที่พี่เขาบอก เลี้ยวซ้ายแล้วก็มองหาบ้านคนที่จะพอถามได้ เจออยู่หนึ่งหลัง |
เป็นผู้หญิงกับลูก แกบอกว่าอยู่ด้านซ้ายของถนนถัดไปไม่กี่สิบเมตร มันจะมีทางล้อรถอยู่ อยู่ในสวนนั่นแหละจ้ะ |
นี่เป็นทางเข้าโลเคชั่นครับ |
|
ก่อนจะบุกป่าเข้าไปดูโลเคชั่น เรามาดูกันก่อนนะครับว่า หน้าตาเรือขุดที่ทีมกองถ่ายต้องสร้างจำลองขึ้นมานั้นของจริง |
สมัยก่อนหน้าตามันเป็นเช่นใด |
(ภาพบางภาพในสรุปทริปนี้ผมนำมาจากเวป ไม่ได้มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้าแต่เพื่อบอกเล่าข้อมูลสู่กันฟังครับ |
ขออภัยท่านเจ้าของภาพที่อาจจะมาอ่านเจอไว้ ณ ที่นี้ครับ) |
เรือขุดเหล่านี้จะมี บักเก็ตตักดินที่อยู่ด้านหน้าเรือขุด แล้วลำเลียงดินที่มีแร่ดีบุกเข้าไปในตัวเรือเพื่อแยกแร่ที่หนักกว่า |
และปล่อยดินทรายออกทางท้ายเรือ ตัวกลไกเดินสายพานจะใช้เครื่องจักรไอน้ำ หรือบางลำก็ใช้ไฟฟ้าที่มีการปั่น |
มาจากเครื่องกำเนิดไฟอีกที เรือขุดของเหมืองกระโสมเป็นเครื่องจักรไอน้ำใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง |
|
ตอนต่อไปจะ เห็นสถานที่ กองถ่ายหนังทำขึ้นมา ใหญ่โตหรือว่า เล็ก...... |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L 1,535,202 |
st. ผู้เข้าชม 1,531,729 |
= 3,474 |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์นิดจะได้แวะไปเยือนครับ |
|
แต่ด้วยความที่เป็นเมืองสงบ
คงไม่มีอะไรน่ากลัวครับ