No. 792 แม่ค้าเจอ ปล้น อย่าไปทางนั้นเลยคุณ.. |
|
 |
|
บันทึกการเดินทางของ หมาป่าเดียวดาย ลาพักร้อนครึ่งเดือน จากกรุงเทพ ไป พังงา ด้วยจักรยาน (ตอนที่สาม) |
|
หลังจากแม่ค้า ร้อง โอ้ววว.. เมื่อรู้ว่า หมาป่าเดียวดายจะขี่จักรยานล่องใต้ไปคนเดียว |
แกยกมือสองข้างชูแล้วตะโกนว่า โชคดีนะ คุณ.. |
ซึ้งใจนะครับ ได้แรงใจมากมายจาการชูแขนเชียร์ของแม่ค่าใจดีแถบบ้าน สาขลา ขี่ย้อนกลับมาที่จะไปสะพานข้ามคลอง |
ถนนยังสงบนะครับ มีช่วงหนึ่งที่ทางกำลังทำซ่อมแซมของเดิมอยู่ ถนนยางมะตอยกลายเป็นถนนดินลูกรัง |
ที่กำลังถม ยางรถผม เป็นยางทางเรียบครับขนาดกว้าง 37 มม. พอเจอกรวดเจอลูกรังก็ทำท่า ทุลักทุเลพอควร |
ดีว่าระยะทางมันไม่ถึงกิโลเมตร ถ้าต้องขี่สักห้าหรือสิบกิโลเมตรบนทางอย่างนี้ก็คงกินแรงน่าดู |
|
สะพานใหญ่ข้ามคลองมีสองสะพานใกล้ ๆ กัน ผ่านสะพานแรกซึ่งข้ามคลองย่อยแล้ว ก็มาสู่คลองที่สอง ข้ามคลอง |
สรรพสามิตใหญ่ จากนั้นผมก็เข้าสู่ถนน 3234 ที่เรียบคลองสรรพสามิต คราวนี้คลองจะอยู่ด้านซ้ายมือ คลองสรรพสามิต |
นั้นเป็นคลองขุดตรง เลียบแนวชายฝั่งอ่าวไทย จากสมุทรปรากการไปสมุทรสาคร  |
ความจริงถ้าถนนสาย 3234 ตัดเลียบคลองโดยไม่ขาดระยะจะขี่ไปถึงสมุทรสาครได้เลยเชียว แต่ดูจากแผนที่ถนนไม่ |
ได้ตัดเลียบคลองตลอด มันวกขึ้นเหนือแล้วก็มีทางเชื่อมกลับลงมาเลียบคลองใหม่ ช่วงที่ขาดก็จะเป็นทุ่งหรือที่ทำ |
การเกษตร ผมขี่ขึ้นเหนือเพื่อไปหาทางวกลงใต้ กลับมาเลียบคลองนี่แหละครับ |
|
ทางขึ้นเหนือมันจะโยงใยเป็นโครงข่ายผ่านชุมชน บ้านเรือน ทุ่งว่าง โรงงาน มีเส้นทางและแยกให้เลือกมากมาย |
คิดเป็นภาพในหัวง่าย ๆ ก็คือตัดขึ้นเหนือไปหาทาง ตีซ้ายแล้วดิ่งลงใต้มาหาทางเลียบคลองอีกครั้ง |
แต่ทางมันก็ร้างผู้คนเป็นส่วนใหญ่นะครับ บ้านเรือนโรงงานอยู่ห่าง ๆ กันไม่จอแจแออัด |
|
ผมอยู่ในโครงข่ายทางที่ว่านี่แหละครับ กูเกิลช่วยได้เยอะ จนมาอยู่ตรงทางแยกหนึ่ง เพื่อตัดสินใจว่าจะขี่ลงใต้ไปหา |
เส้นถนนเลียบคลองได้หรือยัง เก้กังอยู่หน้าโรงงานที่มาอาศัยทำเล ชานเมืองที่ดินราคาถูก |
เปิดแทปเล็ต ดูแผนที่กูเกิลแต่แดดแรงมากจนมองหน้าจอไม่ค่อยชัด  |
เห็นแม่ค้าขายผลไม้เป็นรถพ่วงข้างมอเตอร์ไซค์มีร่ม ผมก็ไปกระแซะแม่ค้าขออาศัยร่มลดความแรงของแดดเพื่อดู |
หน้าจอ ถามแม่ค้าว่าลงใต้ตรงทางแยกไปทางซ้ายจะไปเจอถนนเลียบคลองได้ใช่ไหม |
แม่ค้าบอกว่าอย่าไปเลยคุณ... มันเปลี่ยว แม่ค้าเจอปล้นมาแล้วค่ะ เหวอละครับ แม่ค้าบอกว่าขับรถไปกลางวันแสก ๆ |
เจอมอเตอร์ไซค์ใส่หมวกกันน๊อคเต็มหน้ามาแล้วมันก็เอามีดจี้ให้ส่งทรัพย์สินให้ |
แม่ค้าโดนไปร่วมสองหมื่นบาท แม่ค้าบอกว่าคุณขี่ไปทางขวา(ขึ้นเหนือ) ไปอีกหน่อยจะเจอชุมชนตลอดทาง |
ไม่เปลี่ยว แล้วให้หาเส้นที่ไป สภ.สาขลาไปตามถนนนั้น จากนั้นตัดไปทางขวาจนไปเจอสถาบันพระจอมเกล้าพระนคร |
เหนือ แล้วค่อยลงใต้ไป อันนั้นไม่เปลี่ยวและปลอดภัยว่ากันเยอะมาค้า. highly recommend |
|
ของอย่างนี้ไม่เชื่อเจ้าถิ่นก็จะเชื่อใครครับ ผมขี่ตามแม่ค้าแนะนำแบบคนว่าง่าย ขี่ไปจนเจอเส้นถนนบางขุนเทียน |
ชายทะเล ในที่สุด หักเลี้ยวซ้ายเข้าถนนนี้ก็ทางโล่งโปร่ง มันเป็นช่วงที่เลยพระจอมเกล้าพระนครเหนือแล้ว |
|
เส้นทางนี้นักจักรยานนคงรู้จักกันดีนะครับ จากบ้านมาถึง กม. 60 ผมแวะกินข้าวผัดเป็นอาหารเที่ยง ที่ร้านอาหาร |
ชื่อ บ้านปองพล แล้วขี่ต่อออกมาอีกหน่อยก็เจอทางเลียบคลองหักขวาออกสู่สมุทรสาคร |
คลองเป็นคลองเส้นเดียวกับกับคลองสรรพสามิต แต่จากจุดแบ่งจังหวัดระหว่างสมุทรปราการเข้าสู่ สมุทรสาคร |
คลองถูกเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น คลองสหกรณ์ ยามบ่ายแดดแรง ผมขี่เลียบริมคลองไปเรื่อย ตรงไปข้างหน้าคือ สมุทรสาคร |
|
แดดจัด มีคลองอยู่ด้านซ้ายมือของถนน ระหว่างคลองกับถนนจะเป็นบ้านเรือน บางช่วงบ้านและต้นไม้บังคลอง |
บางช่วงมีที่ว่างเปิดให้เห็นคลอง ถัดจากคลองออกไปก็เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ เป็นบ่อกุ้ง ถัดเลยสายตาออกไปคือ อ่าวไทย |
ต้นไม้ต้นไร่แถบนั้นเป็นตระกูลที่ทนน้ำกร่อยได้ดีนะครับ เช่นปลูกต้นตีนเป็ดมันจะขึ้นงอกงามดี แต่ถ้าไปหาญปลูก |
ทุเรียนก็อาจไม่รอดหรือรอดก็แกร็นไม่ออกผล ช่วงนี้ผมแวะจิบกาแฟที่ร้านน่ารักข้างทางแล้วมุ่งต่อสมุทรสาคร |
|
ข่าถึง กม.80 นับจากบ้านหมาป่า....ก็มาถึงขอบเมืองสมุทรสาครครับ งานนี้ต้องเข้าตัวเมืองเพื่อไปหาที่ชาร์จแบตเตอรรี่ |
มือถือโนเกีย จัดของมาหลากหลายแต่ดันลืมที่ชาร์จมือถือ |
ร้านค้าย่อยที่ติดป้ายขายมือถือเดินเข้าไปก็ไม่มีของ ต้องไปห้างกลางเมืองแทน ยุคนี้ร้านย่อยขายอุปกรณ์พวนี้ตั้งแบบ |
Stand alone ทำท่าจะรอดยากครับ ด้วยว่าคนจะเลือกไปแหล่งที่มีของให้เลือกมากกว่า |
ร้านเลยต้องไปกระจุกตัวอยู่ในห้าง ร้านที่เคยตั้งเดี่ยว ๆ ถ้าไม่เข้าห้างก็ต้องหาของอื่นมาขายเสริม เช่นเสื้อผ้า เครื่อง |
ประดับไปถึงจะอยู่รอดแบบกำไรไม่มี |
จากห้างน้ำพุตรงวงเวียน ได้ที่ชาร์จมือถือแล้ว ผมขี่หาทางไปถนนพระรามสอง ตอนนั้นเริ่มบ่ายแก่แล้วครับ เด็กนักเรียน |
เลิกเรียนเตรียมกลับบ้าน ผมเปิดแผนที่แล้ว งง... ขี่ไปขี่มามันไปอยู่ถนนเอกชัย ด้วยทิศที่เหมือนจะมุ่งหน้าย้อน |
กลับกรุงเทพ  |
สังหรณ์บอกว่าถนนพระรามสองนั้นอยู่ขนานกัน แต่ถ้าจะไปทางใต้เราต้องหาทางตัดเข้าพระรามสองให้ได้ |
แล้วขี่ย้อนกลับไปอีกทาง ใจคิดว่าต้องนอนแถวสมุทรสาครนี่แหละ |
|
หาทางตัดไปมาก็เจอโรงแรมม่านรูดในซอย เขาบอกว่าราคาห้องค้างคืน 570 บาท แต่ต้องรอหลัง 6 โมงเย็นจึงจะได้ |
ราคานี้ ผมก็ขี่ต่อไปเรื่อยจนออกมาพระรามสองได้ในที่สุด |
ถามคนพื้นถิ่นเขาบอกว่าแถวนี้โรงแรมเยอะ ให้มุ่งตรงไปยังสะพานที่จะข้ามแม่น้ำนั่นแหละโรงแรมเพียบ |
|
ขี่ไปเจอโรงแรมม่านรูดแบบดีหน่อยถาม บอกห้องละ 700 ใจผมว่าแพงไป เขาบอกว่าถ้าหลังเที่ยงคืนจะลดเหลือ |
570 ผมรอหลังเที่ยงคืนไม่ไหวก็เลยขี่ต่อไป หาเขาข้างหน้า...เหนื่อยครับ.... |
วันนี้ขี่ทั้งวันและได้ระยะทางน้อยมาก ล้าแดด อีกทั้งรู้สึกว่า ร่างกายตนเองไม่แข็งแกร่งเท่าสมัยขี่ไปเชียงใหม่ |
|
กิโลที่ 98 ได้โรงแรมชื่อ New Friend เป็นโรงแรมทำนองบังกะโลเป็นหลัง ๆ คืนละ 570 บาท อยู่ก่อนถึงสะพาน |
ข้ามแม่น้ำบนถนนพระรามสอง  |
ผมพักที่นี่และนึกเปรียบเทียบกับสมัยที่ขี่ไปราชบุรีเมื่อตอนขี่จักรยานใหม่ ๆ สมัยนั้นร่างกายแข็งแรงกว่านี้ |
ออกจากบ้านเช้าข้ามเรือที่วัดบางน้ำผึ้งแล้วตัดไปทางพระรามสองเลย ไม่ไปตัดเข้าแถบนาเกลือช่วงต่อสมุรปราการ |
กับสมุทรสาคร ช่วงเที่ยงก็ขี่ถึงจังหวัดสงครามแล้วละครับ บ่ายแก่ ๆ หน่อยก็ถึงราชบุรี |
คราวนี้มีเวลาเยอะแต่กำลังกายไม่เยอะ ขี่ทั้งวันได้ไม่ถึง ร้อยกิโลเมตรแต่เนื้อยเหนื่อย ถึงแม้ระยะทางที่น้อยจะมาจาก |
การวิ่งถนนเล็กใช้ความเร็วได้ไม่สูงมาก ทว่าดูจากความล้าของตัวเอง |
เนี่ยเดาว่าจะซัดวันละ 170 - 180 กม. แบบเมื่อก่อนคงไม่ไหว ต้องค่อย ๆ ไป |
|
แล้ววันที่สอง หมาป่าเดียวดาย ขี่ไป เพชรบุรี ไหวอยู่แล้ว แต่ถ้าเลยจากนั้นละ...... ไว้อ่านตอนต่อครับ... |
ไวน์เองเมื่อรู้ว่า หมาป่าเดียวดายปั่นคนเดียวไป ภาคใต้ คิดนะว่า ....... 555 |
|
|
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L 1,503,667 |
st. ผู้เข้าชม 1,501,288 |
= 2,379 |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์นิดจะได้แวะไปเยือนครับ |
|
*** ชอบค่ะ เที่ยวแบบนี้