No. 824 หลายชีวิต กับยาฆ่าหญ้า....? |
|
|
หลายเดือนมานี้เห็นในเฟชบุค มีคนเชิญชวน คน ทำการเกษตร ชวนให้ ลาออกจากงานไปทำสวน |
เห็นครั้งแรกแปลกใจ ปนสะดุ้ง... เสี่ยงมาก |
เอ..คนกลุ่มไหนหนอ คิดว่าเขามีเจตนาเช่นนั้นจริงหรือแอบแฝงอย่างอื่น |
|
ไม่เห็นเขาพูดเรื่องได้ผลผลิตมาแล้วนำไปขายที่ไหน มีแต่ภาพแตงกวา ผักใบเขียว ฝักข้าวโพดใครเห็นก็เคลิ้ม... |
|
ผมเริ่มทำสวนผลไม้อยู่ที่ อ.แก่งหางแมว จันทบุรี ตั้งแต่ เศรษฐกิจไทยเป็นฟองสบู่เริ่มแตก |
หรือต้มยำกุ้ง กะว่าถ้าไม่มีงานทำคง ต้องปลูกผัก กิน หุ หุ เจ้าหนี้จะได้ตามไปไม่ถูก อยู่ในป่าลึกห่างจาก ถนนสุขุมวิท 37 กิโลเมตร มิใช่ถนนสุขุมวิทแถวซอยนานา นะเออ |
ระยะนั้นค่อนข้างวิตก คือคิดมากหน่อยเลยหาทางผ่อนคลาย ว่างก็ไปออกกำลังกาย วิ่งจ๊อกกิ้ง กับเต้นแอโรบิกจะได้ไม่คิดมาก |
งานประจำที่โรงงานยังทำอยู่ แต่ถูกตัดค่าน้ำมันรถ ค่ารับรองหายไป 7 พันบาท ส่วนเงินเดือนเหลือครึ่งเดียว หุ หุ |
ถ้าคนลา ออกจากงานไปทำไร่ ทำสวนจริงคงเจอปัญหาสารพัด มันมิได้สวยงามเลย ผักหรือผลไม้นำไปขายเอง |
หรือรอให้คนรับซื้อขับพิคอัพไปรับที่สวน รับของไปก่อนยังไม่จ่ายเงิน ถ้ามาคราวหน้าค่อยจ่ายค่าผักงวดก่อน |
มีบางรายที่จ่ายเงินสดให้เหมือนกันแต่น้อย |
โดยส่วนตัวปกติทำงานดูแลโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ส่งออกและขายในประเทศอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมปางปู |
บางฤดู ช่างฝีมือระดับล่าง มักจะลา ชั่วคราวไปทำนา หรือไม่ก็ลาออก |
|
ทำงานที่นี่ได้วันละหลายร้อย เก็บเงินไว้แบ่งส่งไป จ้างคนที่โน่นไถ คราด ปลูกไม่ดีกว่าเหรอ |
ผมหาคนช่วยทำไม่ได้ครับ ขอผมไปเถอะ |
คนที่มีฝีมือ ขยันแต่ขอลาไปชั่วคราว หายไปปีกว่า ก็กลับมาให้เห็นหน้า |
ว่าไงหายไปนานขายข้าวได้ดีเปล่า |
ไม่ดีครับ น้ำน้อยข้าวไม่ออกรวง ขาดทุนป่นปี้ แถมเป็นหนี้ค่ายา ค่าปุ๋ยอีกบาน... ผมมาของานทำครับ |
พอดีมี คนขาดเลยรับเข้าทำงาน |
ชีวิตคนทำงานด้านเกษตร เจอปัญหา เชื้อรา แมลง ค่าปุ๋ยแพง ค่าแรงงาน แต่นำผลผลิตไปขายก็ถูกกดราคา |
ผมเองเห็นสภาพคนทำเกษตรแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น |
|
ไม่กี่วันมานี้ได้ข่าวไทยจะ ไม่ให้ใช้สารฆ่าหญ้า สองตัว มี พาราควอต กับไกลโฟเซต สารฆ่าแมลงอีก 1 ตัว |
ถ้าเป็นจริง คงยุ่งแน่ คณะทำงานชุดนั้นพูดน้อยเกินไป ทำให้วิตกกันไปหมด |
เพราะไม่ยอมเผยว่า จะมียาหรือสารตัวไหนใช้แทน (มีอะไรในกอไผ่หรือเปล่า....?) |
จริงแล้วไม่ต้องกลัวครับ จะทำให้ชาวนา สวน ไร่ เบาใจ แต่นี่อมพะนำเลยถูกด่า บางคนนอนไม่หลับ 555 |
|
เพื่อนอีกคนเป็นคนมีฐานะดี หนึ่งในภาพแรกเขาไปทำสวนผลไม้ที่ อ.นายายอามเขตติดต่อกับ อ.แก่งหางแมว |
เพื่อนริ ทำสวนผลไม้ก่อนผมเคยไปดูสวนน่าสนใจที่จะเพิ่มมูลค่าที่ดิน เป็นแนวคิดที่ดีเลยลองทำตาม |
|
เป็นพื้นที่ผมอยู่มีฝน 7 แล้ง 5 เดือนเคยเห็นช้างป่าป้วนเปี้ยนก่อนถึงที่ดินน่ากลัวเหมือนกัน ที่ดินเป็น ส.ท.ก.(สิทธิทำกิน) |
แต่ที่นั่นน่าสนใจ มีหมูป่า กระต่ายป่า กบป่า ชาวบ้านอยู่กันอย่างสงบ ทำสวนยาง สวนผลไม้ ที่ดินราคาก็ยังไม่ดี |
ขายก็ขายไม่ได้แน่ |
งั้นต้องเพิ่มมูลค่าที่ดินให้สูงขึ้นคือ การปลูกผลไม้หรือพืชให้เต็มพื้นที่ รอจังหวะจะได้ขายเอาเงินมาใช้บ้าง หุ หุ |
ก็ลงทุนอย่างที่เคยเล่า ๆ ให้เพื่อน ๆ อ่านหลายตอนแล้ว |
ปัญหาที่ทำ ไม่ใช่ต้นไม้ ต้นผลไม้ที่ปลูก แต่เป็นหญ้า ดอกหญ้าที่ขึ้นเร็วมากมันแย่งปุ๋ยที่เราให้ต้นผลไม้ |
แรก ๆ ก็ใช้มือหวดกับคนงานที่จ้างรายวัน หมดเงินเยอะมาก |
|
อ้าว..แปลงที่เพิ่งตัดไม่กี่วัน หญ้าแทงยอดขึ้นสูง ใช้รถตัดหรือใช้เครื่องตัดหรือที่เราเรียกว่า |
คอปเตอร์ตัดเร็วดี แต่น้ำมันแพงหมดเงินเยอะ |
เลยตัดสินใจให้คนสวน ใช้ยาไกลโฟเซตฉีด ไม่กี่วันหญ้าตายเรียบเหลือง... อีกเดือนต่อมา อ้าวไงหญ้าขึ้นอีก |
คนสวนบอกว่า ที่ข้างเคียงเขาปล่อยหญ้าให้มีดอก พอฝนมามันก็ชะดอกไหลลงมาสู่สวนเราอีก |
เวร.... |
เพื่อนคนกรุงเทพขอไปพักค้างไปทัศนาจรเปลี่ยนที่กินเหล้ากันหลายชุด แนะนำว่า |
เฮ้ย เมิงไม่เอาพลาสติกคลุมดินหญ้าจะได้ไม่ขึ้น ก รูเห็นในทีวี |
เออใช่..แล้วใช้เงินอีกกี่มากน้อย |
ไม่รู้โว้ยไปคิดเอง |
จะใช้เครื่องตัดหญ้าชนิดสะพายหลังก็ได้ แต่เครื่องใช้น้ำมันเบนซิน 91 โหมันเปลืองมากไม่คุ้ม |
เลยใช้สารฆ่าพืชแทน ทีแรกใช้ สารพาราควอต.. ฉีดเพียงวันเดียววันรุ่งขึ้นใบหญ้าดำคล้ำ อืมม์ดีเหมือนกัน แต่ไม่ |
ตายหมดนะครับ เลยเปลี่ยนมาใช้สารไกลโฟเซตแทน |
พอฉีดยังไม่ตายให้เห็นนะ ก็สามสี่วันใบจะเหลืองลงลำต้นหรือปล้องหญ้ามันทำลายเซลล์ของหญ้าจนถึงราก |
มองผลงานดีเหมือนกันหญ้าตายเรียบไปทั้งสวน ยกเว้นหญ้าหรือพืชใบกว้างไม่ตายเขียวก็ใช้มีดหวด ตัดแทน |
ส่วนขนุน มะม่วง เงาะ (พืชใบกว้าง) สะตอ ไม่เป็นไรนะครับ โอเคเลย |
สวนสวยอยู่หลายเดือน แต่จู่ ๆ ก็มีหญ้าขึ้นอีก หญ้าสวย ๆ ที่หนุ่มสาวชอบไปถ่ายรูปนี่แหละ |
|
ค่อย ๆ สังเกตุกับคนงาน เลยรู้ว่าต้นหญ้าของสวนข้างเคียงเขาไม่กำจัด ปล่อยให้หญ้าโตออกดอกแล้วถูกลมพัด |
ตกลงพื้น พอฝนตกหนักน้ำก็พาเมล็ดหญ้าเข้าสู่สวนของผม เพราะพื้นที่เอียงลาด |
|
เลยให้คนงานนำสารไกลโฟเซตฉีดหญ้าต้นเล็กเขียว ฉีดกดให้มันตายตั้งแต่เล็ก |
แสดงว่าพื้นดินที่มีหญ้าปกคลุมและถูกยาดูดซึมตาย มิได้ทำให้พื้นดินเสียหายหรือมีสารตกค้างมากนัก พอไหว |
เท่าที่ค้นดูในกูเกิ้ล แหะ ๆ เปล่าล้อเลียนลุงคนนั้นนะเออ |
มีคนให้ความเห็นว่า สารที่ว่าเป็นสารดูดซึมเข้าต้นหญ้าจนมันตายล้มลงดิน ยามถูกความร้อนจากแดดจะสลายพิษ |
หรือทำให้พิษเจือจางไป |
|
ไม่รู้โชคดีหรือไม่ ไทยค่อย ๆ ฟื้นตัวงานการค้างานส่วนตัวสำนักงานบัญชีดี งานที่เป็นลูกจ้างบริษัทก็ดีอีก |
เลยคิดว่า ราคาที่ดินน่าจะบลูมในไม่ช้า |
เลยโค่นต้นผลไม้ทิ้งทั้งหมด ปลูกยางพาราแทนทั้ง 32 ไร่เตรียมจะขายอย่างที่เคยเล่าให้เพื่อน ๆ ทราบแล้ว |
แล้วก็ขายได้มีกำไร โล่งอก |
บังเอิญอ่านหนังสือนายกคนหนึ่ง(คนก่อน ๆ นะครับ ฮ่า) ท่านเขียนไว้ว่า ขายสินทรัพย์ให้ขายตอนที่ราคากำลังจะดี |
|
มาเปรียบเทียบราคา สารฆ่าหญ้า |
|
ตัวเก่า คือ พาราควอต กับ ไกลโฟเซต ราคาขาย 4 ลิตรประมาณ 390 - 500 บาท (ทำลายพืชใบแคบ) |
สารตัวใหม่ชื่อสามัญ กลูโฟซิเอท ราคาขาย 4 ลิตรประมาณ 1,450 - 2,000 บาท (ทำลายพืชใบแคบและใบกว้าง) |
ตัวใครตัวมันนะครับ |
|
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
1,571,080 |
st.ผู้เข้าแวะเยือน 1,569,639 |
= 1,441 |
|
ขอบคุณเพื่อนที่แวะมาเยือน มาเม้นท์ทิ้งร่อยรอยไว้จะได้ไปทักทายครับ |
|