No. 816 เที่ยวซอกแซก ตะกั่วป่าเมืองเก่า |
รายสัปดาห์ |
บันทึกการเดินทางของ หมาป่าเดียวดาย ลาพักร้อนครึ่งเดือน จากกรุงเทพ ไป พังงา ด้วยจักรยาน (ตอนที่ 12 ) |
คนเดียวมุ่งสู่หนทางอันยาวไกลมาหลายวัน ซอกซอนไปในป่า เขา ชายน้ำดูวิถีชีวิตแบบบ้าน ๆ |
ว่าจะเหมือนในหนังสือ มหา'ลัยเหมืองแร่ของลุงอาจินต์มากน้อยเพียงใด |
/////// |
|
มุมมองในหนังนั้นเหมือนกับต้องเข้าไปในทางข้างสวนยาง หักกล้องหันไปทางขวา ถ่ายย้อนขึ้นไปเห็นภูเขา |
ที่เป็นแบคกราวน์ |
สวนยางนี้ดูจากขนาดลำต้นก็คงปลูกขึ้นหลังจากการถ่ายทำ หมาป่าไม่กล้าลุยเข้าไปถ่ายให้ได้ภูเขามุมเดียวกัน |
กับภาพจากในหนังนะครับ เกรงใจเจ้าของสวน อีกทั้งเกรงใจหมาเจ้าของสวนด้วย |
|
เอาเป็นว่าได้เก็บภาพภูเขาที่เป็นตัวละคอนเด่นของหนังเอาไว้ได้ด้วยนะครับ มุมเหลี่ยมเขาต่าง |
นิดหน่อยแต่เขาเดียวกันแน่นอน |
|
ช่วงบ่ายหมาป่าขี่กลับออกมาที่ตัวอำเภอคุระบุรีอีกที เดิมนั้นตั้งใจว่าวันนี้หากดูโลเคชั่นหนังเสร็จจะขี่ต่อไปตะกั่วป่า |
ซึ่งดูได้จากว่า หมาป่าเก็บข้าวของเต็มอัตรา ออกมาจากบังกะโลที่พักเลย |
อยู่ในสภาพต่าง ๆ ตอนไปลุยโลเคชั่นมา แต่ความอิ่มใจกับความขี้เกียจทำให้หมาป่าขอหยุดที่คุระบุรีพักที่เดิม |
กินข้าวต้มร้านอร่อยร้านเดิมอีกคืน เวลาเรามีเยอะไม่ต้องรีบมากครับ ฮะ ฮะ ฮะ |
|
จันทร์ที่ 10 มีนาคม เป็นวันที่สิบเอ็ดของการเดินทาง |
|
ผมตื่นเช้าแพ็คข้าวของเรียบร้อยก็ออกมานั่งกินกาแฟตรงหน้าบังกะโลสุขสำราญ(บุญปิยะรีสอร์ท) นั่งคุยกับเถ้าแก่เจ้าของล |
บังกะโล ชมว่าห้องพักสบายจังเลยครับเฮีย |
|
เฮียแก่เล่าธุรกิจบังกะโลปนบ่น ๆ ให้ฟังว่า ที่พักในคุระบุรีก็มีแข่งกันเยอะ อย่างบ้านข้าง ๆ ที่หมาป่าแวะเข้าไปดู |
ก่อนแต่กลับมาเลือกบ้านของเฮีย เพราะบ้านนั้นเป็นบ้านไม้ที่เก่าแล้วและดูโทรม ๆ ไปหน่อย |
เฮียแกบอกว่าไม่เข้าใจว่าเขาขายในราคาคืนละ 350 บาทได้ยังไง ของแก 500 บาทนั้นมีค่าใช้จ่าย fix cost ก็เยอะ |
|
ห้องพักถ้าไม่ใช่ไฮซีซัน ก็ไม่ค่อยมีคนพัก..บังกะโลแกค่าที่ดินไร่ละ 4 ล้านบาท |
ต้องกู้แบงค์มาปลูกบังกะโลหลังละสามแสนบาท ดอกเบี้ยวิ่งทุกวัน ลูกจ้างสองคนค่าแรงคนละ 350 บาทต่อวัน |
ค่าสบู่แชมพูให้แขก แกบอกช่วงหลังไปไม่ค่อยรับแขกที่เป็นคนขับรถตู้เพราะแกเอาสบู่แชมพูเหลวซื้อมาเป็นแกลลอน |
เทใส่ที่กดในห้องน้ำ และแกสังเกตว่าคนขับรถตู้ขี้งกบางคน กดใส่ขวดใส่ถุงกลับไปใช้ที่บ้านหมด |
เกลี้ยงฉาดทีเดียว |
ค่าปลอกหมอน ผ้าปู ผ้าขนหนูที่เก่าแล้วก็ต้องเปลี่ยน ต้องกันเงินไว้ซ่อมดูแลเครื่องแอร์ ถ้าเก่าก็ต้องเปลี่ยน |
หรือทาสีบังกะโลใหม่เมื่อถึงเวลา การนี้เก็บสำรองเงินก้อนเอาไว้ หมดเมษาก็เข้าโลว์ซีซั่น |
บ้านแกกองถ่ายหนังชอบมาพักกันเยอะ บริษัททัวร์ที่ทำทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ก็เอาลูกค้ามาพักบ้านแก คงได้เรทพิเศษ |
แกก็บ่นว่าพวกบริษัททัวร์บางที่ก็ชอบติดตังค์แล้วทวงยาก เดี๋ยวก็ต้องเสียภาษี อย่างป้ายหน้าบ้านแกก็บอกว่า |
ค่าภาษีป้ายสี่พันบาท นี่ อบจ. ก็มีดำริว่าจะขอเก็บภาษีหักเข้าจังหวัดจากรายได้อีก 1 % |
เถ้าแก่รำพึงว่าบ้าแล้ว |
ฟังแล้วก็ได้รู้ว่าความทุกข์โศกก็มีกันทุกคนทุกอาชีพนะครับ |
ลาเถ้าแก่บังกะโลแล้วหมาป่าก็ขี่ไปกินข้าวก่อนมุ่งหน้าต่อไปยัง อำเภอตะกั่วป่า หมาป่าเริ่มขี่ที่ กม.สะสมตรง 846 กม. |
ดูจากแผนที่คาดว่าคงขี่ไปไม่ไกลเท่าไหร่ |
สายแก่ ๆ ไปพักตรงจุดทีอีก 10 กม. จะถึงตะกั่วป่า นั่งกินน้ำตรงร้านชำหน้าศาลเจ้ามีเด็กนักเรียนประถมกางเกงสีกากี |
ก็มาซื้อขนมกันและมุงดูรถหมาป่า มีคนที่กล้าหน่อยเอ่ยปากถามว่า ลุงขี่มาจากไหน |
พอรู้ว่ามาจากกรุงเทพก็อวดว่า น้าผมอยู่หนองจอก ผมเคยไปกรุงเทพไปพักบ้านน้า ถามว่าโรงเรียนปิดเทอมใหญ่เมื่อ |
ไหร่หนุ่ม ? เด็กบอกว่าเรียนวันสุดท้ายวันพุธที่ 12 ครับ |
|
ตอนราว ๆ เที่ยงก็ขี่มาถึงดาวน์ทาวน์ของตะกั่วป่า ตรงจุดนี้เป็นตะกั่วป่าที่เรียกว่าย่านยาว จำชื่อได้คุ้น ๆ ไหมครับ |
สมัยที่มี สึนามิ ซัดเข้าชายฝั่งอันดามัน แถวตะกั่วป่าและต่อลงไปแถวเขาหลักเป็นจุดที่โดนกันหนักมาก |
วัดที่หน่วยงานกู้ภัยตั้งศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์ของร่างบุคคลที่ประสบภัยจนเสียชีวิต |
ศูนย์ที่คุณหญิงพรทิพย์ลงไปทำงานบัญชาการอยู่ก็ที่วัดย่านยาวนี่แหละครับ ถ้าช่วงนั้นดูข่าวคงจำชื่อกันได้ |
|
ย่านยาวสมัยก่อนมีผู้คนอยู่ไม่มากเป็นชุมชนเล็ก ๆ หากแต่ภายหลังคงด้วยมีการตัดถนนหลัก ผ่าบริเวณนี้เลยกลาย |
เป็นย่านสำคัญขึ้นมา ตัวที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่าก็มาตั้งอยู่ตรงย่านยาว ศูนย์ราชการสำคัญ ๆ |
เช่นโรงพยาบาลก็มาอยู่ที่นี่ |
เมืองตะกั่วป่าเดิมที่อยู่ห่างออกไปก็เลยกลายเป็นเขตรอบนอกไป หมาป่าถามคนพื้นที่ว่าถ้าจะไปตัวตะกั่วป่าเดิม |
จะไปยังไง เขาบอกให้เลี้ยวซ้ายออกไปจากเพชรเกษมไปสัก 6 กม. ก็จะถึงตลาดใหญ่ตะกั่วป่าเมืองดั้งเดิม |
สมัยปี 92 - 96 ที่คุณอาจินต์ทำงานในเหมืองที่อำเภอตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่ายังมีความสำคัญเชิงเศรษฐกิจอยู่มากครับ |
สมัยก่อนโน้นไปอีกตะกั่วป่าเองเคยได้รับการยกฐานะเป็นจังหวัดตะกั่วป่าด้วยซ้ำ |
ด้วยว่าเศรษฐกิจรุ่งเรืองจากการเป็นแหล่งขุดและแหล่งรับซื้อขายดีบุก |
อ่านในหนังสือหากว่าผู้คนที่พังงาจะเดินทางไประนอง ก็จะขับรถตามทางหลวงขึ้นมาที่อำเภอตะกั่วป่าแล้วค่อย |
ลงเรือล่องทะเลต่อไปที่ระนอง ถนนที่หมาป่าขี่ลงมาตลอดทางจากระนองนั้นยังไม่ได้สร้างครับ |
|
เลี้ยวซ้ายมุ่งตลาดใหญ่(เก่า) ตะกั่วป่า หมาป่าสังเกตุร่องรอยความสวยงามของบ้านเมืองสมัยนั้นได้ตั้งแต่ศาลา |
รอรถเลยล่ะครับ ดูที่ภาพนี้นะครับ ยิ่งเข้าไปตัวตลาดใหญ่ต้องใช้คำว่า ตึกรามบ้านช่องนั้นสวยเฉียบขาดครับ |
|
|
เข้าไปตามทางด้านซ้ายมือจะมีสะพานเหล็กอยู่ อีกฝั่งของสะพานถามคนพื้นที่ได้ความว่าเป็นบริษัทที่เคยทำเหมือง |
แร่ดีบุกใหญ่ในเขตนี้ และน่าจะในเขตภูเก็ตด้วย เป็นของคุณจุติ บุญสูง นามสกุลนี้เศรษฐีภูเก็ตนะครับ |
หมาป่าเองนามสกุลก็คล้าย ๆ กันแต่ตกสระอูไปตัวหนึ่งเลยไม่ได้มีโอกาศรวยครับ |
ยามหน้าน้ำพื้นทรายนี้จะมีน้ำท่วมครับ เขาเล่าว่าด้วยความที่ทำมาหากินกับดีบุก ที่นี่เคยมีบ้านหลังหนึ่งทำด้วยโลหะ |
ทั้งหลัง ฝนตกแล้วเสียงดังแปลกไม่เหมือนบ้านไม้บ้านตึก |
|
พอขี่เข้าไปถึงตลาดใหญ่ตะกั่วป่าเราจะรู้สึกเหมือนที่นี่เป็นอำเภอที่บ้านเรือนถูกฟรีซไว้ในช่วงเวลา |
ที่พุทธศักราชขึ้นต้นด้วยเลข 24 ครับ ถ้าไม่มียานพาหนะที่เป็นรถยุคปัจจุบันล่ะเหมือนเลย สามารถแต่งชุดย้อนยุค |
มาเดินได้เลย จะเข้ากันกับบ้านเมืองมาก |
เราไปภูเก็ตอาจจะเห็นตึกรามคล้ายกัน แต่เสกลของภูเก็ตนั้นใหญ่เป็นระดับจังหวัด เมื่อตะกั่วป่าเก่านี้มันเหมือนภาพ |
ชวนฝันแบบหนังพีเรียดที่พระเอกเรียนจบรัฐศาสตร์แล้วถูกส่งมาเริ่มชีวิตราชการในอำเภอรอบนอก |
อำเภอแบบนี้ในภาคอื่นสมัยก่อนคงเป็นเรือนแถวไม้ แต่ปักษ์ใต้ร่ำรวยกว่าด้วยปัจจัยจากแร่ผู้คนก็ปลูกตึก หมาป่าถ่าย |
รูปตึกมาประกอบคำบรรยายสองสามรูป |
|
ข้างล่างเป็นภาพ บริษัทเรือขุดแร่จุติ (ดูภาพตัวเมืองเก่า แสดงร่องรอยความเจริญไม่ใช่น้อย แต่จะมี สตรีทอาร์ต แบบปีนังหรือไม่ นั่นซิแต่บอกตรง ๆ ยังอ่านแกะรอยไม่หมดนี่ซิ เพราะตึกอาคารเป็นของคนมีฐานะ จะยอมให้ศิลปินทำเร้อ...? ไวน์ฯ ผู้แกะรอยหมาป่าเดียวดายก็ต้องอ่านต่อไป) |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L |
st. ผู้เข้าชม 1,544,235 |
= |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์นิดจะได้แวะไปเยือนครับ |
|