'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~ พร่างพรายในความเงียบงัน/ IN DER STILLE โดย "มาภา" ...อ่านจบแล้วเงียบงัน...~





พร่างพรายในความเงียบงัน/ IN DER STILLE
ผู้เขียน : มาภา
ผู้พิมพ์ : สนพ. อรุณ (ก.ย. 2559)
334 หน้า ราคา 275 บาท

โปรยปก :


ความทรงจำอาจเลือนหายไปตามเวลา
แต่ความรักจะอยู่กับหัวใจเสมอ

ฉันพบกับเขาในผับคืนหนึ่งที่ดีซี
ชายหนุ่มนัยน์ตาสีเมฆฝนคนนี้ชื่อ โทเบียส
จากนั้นฉันก็ตามเขามาที่นี่
หมู่บ้านเงียบๆ กลางหุบเขาประเทออสเตรีย
เราอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กราวกับคู่สามีภรรยา
โทเบียสใจดีมาก และเข้าอกเข้าใจเสมอ
ฉันมีความสุขในทุกๆ วัน

แต่ความสุขนั้น คงไม่ชอบอยู่กับใครสักคนนาน

“นิทราคุณว่าฤดูหนาวปีหน้า เราจะยังมีกันอย่างนี้ไหม”
“ไม่ว่าฤดูหนาวปีไหน เราจะยังมีกันอย่างนี้เสมอ”
และฉันหมายความอย่างนั้นจริงๆ







หลังอ่าน...
โรแมนติกดราม่าสุดอึน สุดหน่วงกระเทือนซางชนิดที่อ่านจบแล้วต้องเงียบงันไปเลยทีเดียว
ผู้เขียนระบุไว้ในหน้าคำนำว่า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากชีวิตจริงของผู้หญิงคนหนึ่ง...
ซึ่งเพียงเริ่มต้นอ่านไปไม่กี่หน้า เราก็รู้สึกอินจนเชื่อสนิทใจเลยว่า....เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง จริง ๆ
โดยเฉพาะเมื่อเธอเลือกที่จะดำเนินเรื่องในลักษณะการเล่าเรื่องผ่านสรรพนามบุรุษที่หนึ่ง...อย่าง "ฉัน"
ขณะอ่านเราจึงรู้สึกเหมือนกับได้อ่านบันทึกของผู้หญิงอารมณ์อ่อนไหวคนหนึ่ง
ที่ค่อย ๆ บอกเล่าถึงเรื่องราวของเธอด้วยลีลาที่เรียบเรื่อยเอื่อยอ่อน...
หากก็สามารถทำให้เราสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของเธออย่างเต็มที่

โอ...นานมากแล้วที่ไม่ได้อ่านนิยายที่ดูดดึงอารมณ์ของเรา
ให้ดำดิ่งลงไปรับร่วมในอารมณ์ความรู้สึกเดียวกับตัวละครได้ขนาดนี้.....
เธอเหงาเราก็เหงา เธอเศร้าเราก็เศร้า เธอเจ็บเราก็เจ็บ
เธอร้องไห้เราน้ำตาริน...


..............


ขออนุญาตไม่เล่าเรื่องย่อนะคะ (เพราะมีอยู่แล้วสั้น ๆ ในโปรยปกนั่นเอง)
แต่บอกได้เลยว่าตั้งแต่ติดตามอ่านงานของมาภามาทั้งหมด 6 เรื่อง...
(ครบทุกเรื่องแล้วใช่ไหมเนี่ย...?)
(สำหรับตัวเอง)ชอบเล่มนี้มากถึงมากที่สุด
รู้สึกเป็นงานเขียนที่สมบูรณ์แบบที่สุดของมาภาเลยมั้ง
ทั้ง ๆ ที่พล็อตเอย เรื่องราวเอย ไม่ได้ซับซ้อนหวือหวาเท่าเรื่องอื่น ๆ ที่ผ่านมาเลย
แต่ด้วยสำนวนภาษา ลีลาการเล่าเรื่อง การบรรยายฉากและบรรยากาศโดยรอบ
บทบาทการกระทำของตัวละคร
ตลอดถึงสาระข้อมูลที่อิงหลักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับปมในเรื่อง
ทุกอย่างมันสอดรับกันหมดแบบสมเหตุสมผล สมจริง...

ชอบที่สุดก็คือพระเอก...ผู้ชายแสนดีแสนอบอุ่นอย่างโทเบียสหาได้ที่ไหนอีกน๊อ...
บนโลกอันอึกทึกครึกโครมใบนี้...?











 

Create Date : 24 ธันวาคม 2559    
Last Update : 24 ธันวาคม 2559 11:11:07 น.
Counter : 2568 Pageviews.  

~ เริ่มต้นที่หัวใจ โดย "สิริมา อภิจาริน" ~





เริ่มต้นที่หัวใจ
ผู้เขียน : สิริมา อภิจาริน
ผู้พิมพ์ : โพสต์บุ้ก (พ.ค. 58)
367 หน้า ราคา 295 บาท


โปรยปก...


ในวันที่ "ความรัก" เดินเข้ามาหา
"รัก" ไม่ได้เลือกหรอกว่าเราเป็นใคร
แค่ได้รัก...ก็เพียงพอแล้ว
...................
ความรักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลากับทุก ๆ คน
บางครั้งเราอาจไม่รู้ว่า ความรักเกิดขึ้นเมื่อใด
มารู้อีกทีก็รักไปแล้ว
แต่กับบางคนอาจต้องใช้เวลาเพื่อบ่มเพาะความรัก
ความรักไม่เคยเลือกเพศสภาพหรือเผ่าพันธุ์
บางครั้งจะทำให้ต้องเจ็บปวด แต่คนก็ยังไม่หมดศรัทธาใน "รัก"
แม้อาจต้องยอมปล่อยวางและกอบกู้ขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม








(บางส่วน)จากคำนำ

"เริ่มต้นที่หัวใจ" ของ สิริมา อภิจาริน บอกเล่าหลายบทบาทของความรัก
"รัก" ที่เกิดขึ้นและอยู่เหนือกฎเกณฑ์ใดๆ
"รัก" ที่ต้องตามมาตรฐานและครรลองของสังคม
"รัก" ที่เป็นการเสียสละ และ "รัก" ที่ให้ได้แม้ชีวิต

แม้บางครั้ง ความรู้สึกหวานปนขมจะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน
แต่หลาย ๆ คนก็ใช้ทั้งหัวใจแลกมา เราเชื่ออย่างหนึ่งว่า ถ้า "รัก"
และทำทุกอย่างที่ตั้งใจด้วยหัวใจแล้ว
ไม่ว่าผลออกมาเป็นเช่นไร แค่ได้พยายามอย่างสุดใจ...
ก็เพียงพอแล้ว





เล่าเรื่องย่อๆนิดนึงนะคะ

'เริ่มต้นที่หัวใจ' เป็นเรื่องราวความรักของหญิงสาวอารมณ์ไหวสองคน
ที่ต่างก็มีบาดแผลในชีวิตที่แตกต่างกัน

มนตราเป็นเด็ก"บ้านแตก" พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่เธออายุเพียงเจ็ดขวบ
แม่พามนตรากลับมาอยู่บ้านตากับยายและแต่งงานใหม่หลังจากนั้นไม่นาน
แม่มีลูกกับพ่อเลี้ยง น้องชายของมนตราอีกหนึ่งคน
ครอบครัวของเธอ...ของแม่กับพ่อเลี้ยงดูจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ดี ทุกคนมีความสุข
แม่รักและตามใจมนตราทุกอย่าง พ่อเลี้ยงของเธอร่ำรวยและไม่มีท่าทีรังเกียจลูกเลี้ยงแม้แต่น้อย
แต่มนตรากลับรู้สึกว่างเปล่าและต้องการการเติมเต็มอยู่เสมอ
เธอแยกตัวเองออกมาอยู่ตามลำพังตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย
จนเรียนจบเธอก็ทำงาน เปลี่ยนงานไปเรื่อย ๆ เพราะยังหาที่เติมเต็มใจไม่ได้
กระทั่งล่าสุด มนตราก็มาสมัครงานใหม่ที่บริษัททัวร์แห่งหนึ่ง...เป็นทัวร์เพื่อการศึกษา
และที่นี่ เธอก็ได้พบกับ'งาม'...

งาม... หญิงสาวมาดเฉี่ยวอารมณ์ดีที่มนตรารู้สึกปิ๊งตั้งแต่แรกเจอ...
(เรื่องของงามมีที่มาจาก"มาลัยดอกหญ้า" ซึ่งเคยอ่านแล้วเมื่อหลายปีก่อน)
มนตรากับงามมีวัยที่ใกล้เคียงกัน จบมาจากสถาบันเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว
แม้ในช่วงหลัง งามจะไม่ได้ทำงานที่เดียวกับมนตราแล้วเพราะมีงานอื่นที่มั่นคงกว่า
แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเมื่องามย้ายไปอยู่ร่วมบ้านกับมนตรา

งามช่วยต่อเติมความพร่องในใจของมนตราให้เต็มตื้น
ในขณะที่มนตราก็มีบางสิ่งบางอย่างที่เข้ามาชดเชยและเยียวยาหัวใจที่แตกร้าวของงามได้






นอกจากเรื่องราวของงามกับมนตราแล้ว ก็ยังมีเรื่องราวชีวิตของตัวละครสำคัญคนอื่น ๆ
จากมาลัยดอกหญ้าอีกหลายคน...
อย่างวจี...น้าจีของงามผู้ต้องเลิกลากับสามีที่รักและแต่งงานกันมาเนิ่นนาน...
แต่ยังใช้ชีวิตโสด ๆ อย่างเข้มแข็งและรื่นรมย์ ทั้งยังคงมีสายสัมพันธ์ทีดี
กับอดีตสามีที่กลายเป็นเพื่อนเก่ากันไปแล้ว
น้าจีมีเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องอย่างศิลามาช่วยดูแลเรื่องต้นไม้ให้...
เข้านอกออกในบ้านของวจีจนงามเข้าใจผิดคิดว่าเขามาปิ๊งน้าสาวของเธอ...
เขาดูแลน้าจีแล้วเลยเผื่อแผ่มาช่วยเหลืองามหลายอย่าง

นิ้ง...หลานสาววัยรุ่นของงามที่ในที่สุดก็ได้พบหลักแหล่งที่จะวางตัววางใจตัวเองลงพักพิงได้เสียที

กระทั่งเรื่องราวของชาญ...ผู้ชายที่คนอ่านอย่างเรานึกรังเกียจมาตั้งแต่ตอนอ่านมาลัยดอกหญ้า...
ก็ยังมามีบทบาทขับเคลื่อนเรื่องราวในเล่มนี้ด้วย
และยังคงเหมือนเดิมทีความรู้สึกที่มีต่อเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป
เขายังคงเป็นชาญ ผู้ชายลูกแหง่ มักง่าย เห็นแก่ตัวและไม่รักงามได้ดังเดิม...

(แต่อย่างน้อยก็มีเพิ่มเติมคือรู้สึกเข้าใจ
และโล่งใจที่งามสามารถปลดปล่อยเขาออกจากใจได้สำเร็จ)


มีพระเอกค่ะ แต่บทบาทอาจจะน้อยไปสักหน่อย
แต่ชีวิต ความคิดและความรักของเขาก็น่าสนใจไม่น้อย
เขาสะดุดตาและประทับใจในตัวงามตั้งแต่แรกเจอ แต่เขาใจเย็นพอที่จะไม่รุกเร้า ไม่แสดงออก
เพียงแต่คอยดูแล ช่วยเหลืองามอยู่ห่าง ๆ
แม้งามจะเข้าใจผิดถึงความสัมพันธ์ของเขากับวจีเขาก็ไม่เร่งร้อนแก้ความเข้าใจผิดนั้น...

เป็นความเรียบเรื่อยที่สุขุมลุ่มลึก มีจุดมีมุมให้ครุ่นคิดคล้อยตาม





ชอบมากกกก...
ชอบแนวการเล่าเรื่องที่เหมือนจะเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ แต่บอกเล่าถึงตัวละครแต่ละตัวได้ลึกซึ้งละเอียดลออ
มีที่มาที่ไปสมเหตุสมผล สมจริง
ตลอดถึงฉากและบรรยากาศเบื้องหลังของเรื่องราว
ที่มีประเด็นทางสังคมและการเมืองแทรกแซมอยู่ประปราย

รวมทั้งแง่คิดมุมมองต่อชีวิตที่เรียบง่าย คมคาย

ขออนุญาตหยิบยกคำพูดของศิลามาปิดท้ายรีวิวนี้ก็แล้วกันค่ะ

"ชีวิตมันไม่เคยว่างเปล่า...มันมีอะไรๆให้เราค้นหาเติมเต็มอยู่ตลอดเวลา
บางทีอาจเป็นตัวเราเองที่ลืมให้เวลามองดูชีวิตของเราว่า จริงๆแล้วมันมีอะไรเยอะแยะ...
บ่อยครั้ง คนเราสนใจสิ่งที่เราขาด จนลืมคิดถึงสิ่งที่เรามี
มีแล้วเก้าอย่าง ขาดอย่างเดียว ก็เศร้าใจ ทุกข์ใจกับสิ่งเดียวที่มันขาด
จนลืมเก้าอย่างที่มีอยู่แล้ว ขาดความชื่นชมในชีวิต"












 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2559    
Last Update : 23 มกราคม 2561 12:29:27 น.
Counter : 3004 Pageviews.  

~ ลมข้ามฟ้า ไพรัชนิยายอิงเค้าประสบการณ์จริงของผู้เขียน "งามพรรณ เวชชาชีวะ" ~





ลมข้ามฟ้า
ผู้เขียน : งามพรรณ เวชชาชีวะ
บ.เพื่อนกันพับบลิชชิ่ง/พิมพ์(ต.ค.๒๕๕๓)
๑๕๔ หน้า ราคา ๑๒๙ บาท


บางส่วนจากหน้าคำนำ


ประสบการณ์ในโลกกว้างของสองสาวเพื่อนซี้
ที่ถูกถ่ายทอดให้"นนท์" คนรู้ใจของวาว ผ่านจดหมายฉบับแล้วฉบับเล่านั้น
ทุกถ้อยคำแฝงไว้ด้วยความรักความสดใส ห่วงหาอาทร
และความผูกพันที่แม้ตัวจะห่างไกลก็ยังอยู่เคียงกันทุกเวลานาที

ความรักนั้นสวยงามเสมอ ไม่ว่าจะก่อเกิด ณ ที่แห่งใดในโลก






เป็นนิยายขนาดสั้นที่มีเค้าโครงเรื่องจากประสบการณ์จริงของผู้เขียน
ที่แม้จะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน หากเนื้อหาภายในยังคงเป็นปัจจุบันและทันสมัย

วาวกับมิ้มสองสาวเพื่อนรักเดินทางข้ามฟ้าพเนจรไปท่องเที่ยวด้วยกันยังประเทศฝรั่งเศส
หลังจากที่วาวเรียนจบจากอเมริกา และมิ้มได้รับทุนให้ไปท่องเที่ยวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์พอดี
วาวบันทึกการเดินทางของเธอกับเพื่อนผ่านจดหมายที่บอกเล่าถึงสิ่งต่าง ๆ
ที่พบพานระหว่างทางให้กับนนท์ เพื่อนชายคนสนิทที่ยังต้องฝึกงานอยู่ที่อเมริกา
จดหมายของวาวร้อยเรียงด้วยสำนวนภาษาที่อ่านง่าย
แฝงไว้ด้วยอารมณ์ความรู้สึกของคนเขียนที่มีทั้งความรักความคิดถึง
รวมทั้งอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดี

เธอบอกเล่าตั้งแต่เรื่องราวจุกๆจิกๆ เล็กๆน้อย ๆ ที่พบเจอ
ไปจนถึงแง่มุมในเชิงศิลปะ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ต่าง ๆ
ตลอดถึงความสัมพันธ์กับผู้คนที่ได้พบ
ได้รู้จักและผูกพันกันแม้เพียงช่วงระยะเวลาอันสั้น





ค่อนข้างชอบเลยค่ะ ถือเป็นไพรัชนิยายที่อ่านได้เพลิน ๆ
การบอกเล่าบรรยายถึงสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่องผู้เขียนทำได้ค่อนข้างละเอียดลออ
อ่านไปสามารถมโนตามได้ และยังให้สาระข้อมูลในเชิงบันทึกสังคมและประวัติศาสตร์ของสถานที่นั้น ๆ
ด้วยสำนวนภาษาที่อบอุ่นละมุนละไม แฝงอารมณ์ขันไว้อย่างกลมกลืน


"ลมข้ามฟ้า" เคยตีพิมพ์ต่อเนื่องในนิตยสาร"สตรีสาร"ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๓๕
ส่วนตัวถือว่า งานเขียนใด ๆ ก็ตามที่ผ่านหน้านิตยสารฉบับนี้มาก่อนคือใบรับประกันคุณภาพของงานเขียนชิ้นนั้นเป็นอย่างดีค่ะ










 

Create Date : 06 ตุลาคม 2559    
Last Update : 6 ตุลาคม 2559 14:31:34 น.
Counter : 2335 Pageviews.  

~ มายารักในสายหมอก : ฤาความรักของเธอกับเขาจะเป็นเพียงภาพมายา ? / "อาพัชรินทร์" ~






มายารักในสายหมอก
ผู้เขียน : อาพัชรินทร์
ผู้พิมพ์ : สนพ.อักขระบันเทิง
320 หน้า ราคา :225 บาท

โปรยปกหลัง :


เมื่อม่านหมอกแห่งความไม่เข้าใจ...เดินทางเข้ามาบดบังความรักที่มีให้แก่กัน
‘มายา’ จึงตัดสินใจย้ายออกมาอยู่อพาร์ตเม้นต์ โดยไม่ได้บอก ‘ล้านช้าง’ ผู้เป็นสามี
หากในนาทีนั้นเอง...มายาก็ได้ ‘เครื่องรางเรียกหารักแท้’
เป็นหินแกะสลักรูปปีกผีเสื้อคู่หนึ่งจากหญิงชราผู้ลึกลับ
ที่บอกกับเธอว่า “หินจะเปล่งแสงเมื่อถูกสัมผัสโดยชายผู้เป็นคู่แท้”

หรือโชคชะตาจะเล่นตลก...เพราะไม่กี่วันมายาก็ได้พบ ‘อารัญ’
ผู้ชายแสนดีที่ทำให้หินก้อนนั้นมีแสงเปล่งประกาย
ทั้งที่ยังรู้สึกเป็นห่วงล้านช้างสุดหัวใจ...แต่อีกใจหนึ่งก็เริ่มหวั่นไหว...
คู่แท้ของเธอที่จริงแล้วคือใคร ? ...หัวใจเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์









หลังอ่าน...
นิยายรักดราม่าโรแมนติกที่สะท้อนความเป็นจริงของชีวิตคู่ที่สมจริง...
และเป็นความจริงอย่างถึงที่สุด

นิยายรักทั่วไปส่วนใหญ่มักจะจบบริบูรณ์ลง เมื่อคู่พระเอกนางเอกรักกัน
ตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุข...
แต่เรื่องราวหลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนอ่านที่จะจินตนาการเอาเอง

แต่ไม่ใช่"มายารักในสายหมอก"
นิยายเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาแล้วระยะหนึ่ง
ของมายากับล้านช้าง
สถานะแต่งงานของทั้งคู่ดำเนินมาถึงจุดที่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกเหมือนจะอิ่มตัวและ...ชินชา
แม้ความรักที่มีให้กันไม่ได้หมดไป ทว่ามันก็ไม่ได้งอกเงยหรือเติบโตขึ้น...

เมื่อคำขอร้องถูกเพิกเฉย หนึ่งครั้ง สองครั้ง...จนมาถึงจุดที่มายาไม่อาจทนอีกต่อไป
เธอจึงตัดสินใจแยกตัวออกไปอยู่ตามลำพัง

แม้มายาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่มาดมั่นเด็ดเดียวอะไรมากมาย
แต่การทำเช่นนั้นก็เป็นประหนึ่งสัญญาณเตือนภัยให้กับล้านช้าง
เขาจึงพยายามจะแก้ไข ปรับตัว ปรับความเข้าใจกับภรรยา
แต่ก็นั่นแหละ ความเป็นผู้ชายหัวอ่อน และมองข้ามรายละเอียดยิบย่อย
ทำให้เขาพลาดซ้ำ ๆ อีกหลายครั้ง..
.เช่นนี้... หรือความรักของพวกเขาจะเลือนหายไปในสายหมอกจริง ๆ
ต้องไปลุ้นต่อในนิยายแล้วล่ะค่ะ








ชอบมากค่ะ
พล็อตดี เรื่องราวร่วมสมัย ด้วยฉากของเรื่องที่สมจริง สมเหตุสมผล
ให้ภาพของการทำงานที่จริงจัง มีการแข่งขันชิงดีชิงเด่น ปัดแข้งปัดขากัน
ซึ่งผู้เขียนทำได้ดี อ่านแล้วรู้สึกอินได้ไม่ยาก

ประกอบกับสำนวนภาษาที่นุ่มนวล ลื่นไหล อ่านแล้วรู้สึกละมุนละไมในอารมณ์
มีซีนง้องแง้งแง่งอน มีซีนสะเทือนอารมณ์
มีแง่คิดมุมมองที่น่าจะเป็นบทเรียนสอนใจให้กับคู่รักอีกหลาย ๆ คู่

อ่านแล้วชอบค่ะ ชวนอ่านอย่างแรงเลยทีเดียว













 

Create Date : 22 กันยายน 2559    
Last Update : 22 กันยายน 2559 15:08:55 น.
Counter : 2195 Pageviews.  

~ ทุ่งเสน่หา : นิยายรักหนุ่มสาวชาวไร่ โดย "จุฬามณี" ~








ทุ่งเสน่หา
ผู้เขียน : จุฬามณี
สนพ.อรุณ/พิมพ์ (เม.ย.2558)
514 หน้า ราคา 365 บาท


โปรยปก :


...บทเพลง ความหลัง ความรัก ที่รอวันมาบรรจบกันอีกครั้ง....

"ที่รัก...เราคงรักกันไม่ได้..."

บทเพลงนี้คงทำให้หนุ่มสาวแห่งบ้านหนองน้ำผึ้งต้องจดจำไปอีกนาน
เมื่อโชคชะตาทำให้คู่รักหลายคู่ต้องแยกจากกัน
ไม่เว้นแม้แต่ ไพฑูรย์ กับ ยุพิณ คู่รักที่รักกันมายาวนาน
จนใครๆ ต่างมองว่าอย่างไรเสียทั้งคู่ก็ต้องตบแต่งอยู่ด้วยกันแก่จนเฒ่าอยู่วันยังค่ำ
แล้วฟ้าจะขีดเส้นทางให้พวกเขาเดินทางไปพบกับจุดจบแบบไหน
อุปสรรคความรักของพวกเขาจะลงเอยแบบใด
หากคำกล่าวที่ว่า "คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน" เป็นจริงดังว่า
ความรักของหนุ่มสาวแห่งบ้านหนองน้ำผึ้งคงกลับมาผาสุกอีกครั้ง








'ทุ่งเสน่หา' เป็นนิยายชีวิตรักแนวมนต์รักลูกทุ่งที่มีเนื้อหาเข้มข้นสมจริงมาก
โดยฝีไม้ลายมือของนักเขียนคนเดียวกันกับที่เขียน"สุดแค้นแสนรัก"อันลือลั่นนั่นเอง
ทว่าหากจะเทียบกันแล้ว ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้อาจจะมีเนื้อหาที่เบาลงกว่าหน่อยนึง
แต่ความสนุกสนานเร้าใจชวนให้น่าติดตามยังคงพอๆ กัน

เล่าเรื่องย่อเพิ่มเติมจากข้างบนอีกนิดนะคะ...

ยุพิณกับไพฑูรย์ สองหนุ่มสาวชาวบ้านหนองน้ำผึ้งผูกสมัครรักใคร่กันมานานหลายปี
จนถึงขั้นวางแผนแต่งงานกัน แต่ต้องรอให้ฝ่ายชายบวชทดแทนคุณมารดาเสียก่อน
แต่ความรักของทั้งคู่ก็มีอุปสรรค เพราะยุพิณนั้นมีฐานะยากจน
แถมเป็นลูกสาวของนายบุญยืน นักเลงการพนันที่มักสร้างหนี้สร้างสินจนต้องเอาที่นาไปจำนำจำนองอยู่เรื่อย
ทำให้นางสำเภา แม่ของไพฑูรย์ตั้งแง่รังเกียจยุพิณ ไม่อยากรับเป็นลูกสะใภ้คนเล็ก

เมื่อไพฑูรย์เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ นางสำเภาจึงวางแผนจับคู่ให้ยุพิณแต่งงานกับไพรวัลย์
ลูกชายคนโตของนางซึ่งขาพิการเพราะเป็นโปลิโอตั้งแต่ยังเด็ก ๆ
ยุพิณจำเป็นต้องยอมเข้าพิธีแต่งงานกับไพรวัลย์
เพราะพ่อของเจ้าหล่อนไปก่อคดีลักควายของนางสำเภาเข้า
ทำให้นางสำเภาใช้เรื่องนี้มาบังคับยุพิณ แลกกับการไม่เอาเรื่องกับนายบุญยืน

นางสำเภาคิดว่า ถึงยุพิณจะยอมเลิกกับไพฑูรย์แต่โดยดี
แต่หากยุพิณยังเป็นอิสระ ไพฑูรย์คงไม่ยอมเลิกลากับยุพิณง่าย ๆ
นางจึงต้องอาศัยฐานะ"พี่สะใภ้" มาบังคับทั้งคู่
ต่อให้วันหนึ่งข้างหน้าหากยุพิณจะต้องเลิกกับไพรวัลย์
ด้วยสถานะพี่สะใภ้-น้องสามี ทั้งคู่คงไม่มีวันหวนกลับมารักกันได้อย่างแน่นอน






นั่นเป็นเพียงบทเริ่มต้นของเรื่องราวแห่งความรักอันผันผวน ผิดคู่ผิดฝาของหนุ่มสาวชาวไร่
ที่ไม่ได้มีเพียงยุพิณกับไพฑูรย์อันเป็นตัวละครหลักเท่านั้น
นอกจากทั้งคู่นี้แล้ว ยังมีตัวละครตัวอื่นๆ ที่ล้วนแต่มีความสัมพันธ์โยงใยซึ่งกันและกัน
และต่างก็มีบทบาทสำคัญที่ร้อยเรียงให้เกิดเป็นเรื่องเป็นราวอันเข้มข้น
ทั้งตื่นเต้นเร้าใจชวนให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง

บอกได้เลยค่ะว่าชอบมาก ชอบพล็อตที่สมจริงสุด ๆ...
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายพีเรียดค่ะ ย้อนยุคไปประมาณสี่ถึงห้าสิบปีที่แล้ว
ฉากของเรื่องก็เป็นท้องไร่ปลายนา ที่ยังคงความเป็นชนบทไว้อย่างสมบูรณ์
เจือกลิ่นอายธรรมชาติอันไร้ซึ่งแสงสีจากเทคโนโลยีใด ๆ
ในขณะที่อ่านก็เหมือนจะได้ยินเสียงเพลงลูกทุ่งลอยมาตามสายลมแผ่วพลิ้ว คลอคลองอยู่ตลอดเวลา

แต่กระนั้น ผู้เขียนก็ยังได้สอดแทรกเรื่องของการเปลี่ยนแปลง
อันเนื่องมาจากสิ่งที่เรียกกันว่า"ความเจริญ" ที่เมื่อมันได้รุกคืบเข้าสู่พื้นที่ใด
แน่นอนว่าธรรมชาติอันใสบริสุทธิ์ย่อมจะมีร่องรอยด่างพร้อยเข้าเจือปน
มันจะค่อยๆ แทรกซึมเข้าสู่หัวจิตหัวใจของคนหนุ่มคนสาวให้เกิดความใฝ่ฝัน
ความฟุ้งเฟ้อทะยานอยาก ชีวิตคนเมืองดูสูงส่งน่าปรารถนา
ไม่อยากคลุกดินโคลนอยู่ในท้องไร่ท้องนาอีกต่อไป







เรื่องเยอะ ตัวละครแยะ มีดราม่า มีน้ำเน่า มีทุกมุกทุกเม็ดที่นิยายรักเล่มหนึ่งควรจะมี
(เช่น ซีนรักวาบหวาม ฉากพ่อแง่แม่งอนมุ้งมิ้ง ฉากเศร้ารันทด ฉากตลกขบขัน...ฯลฯ)
ผู้เขียนวางโครงเรื่องไว้ดีแล้วเล่าเรื่องเรียงลำดับเรื่องราวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
หากก็กระชับฉับไวไม่ยืดยาด

ชอบตัวละครอย่างยุพิณนะ เธอใจคอเด็ดเดี่ยวดี
แม้รักแสนรัก แต่เมื่อต้องเทียบกับความกตัญญู เธอก็เลือกอย่างหลัง
แล้วก็ไม่ดึงดื้อถือดี ยอมรับคำแนะนำดีๆ จากคนอื่น
แล้วก็มุ่งเดินหน้า หาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง...
ทั้งเปิดเผย จริงใจต่อความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ที่เข้ามา

จริง ๆ แล้วโดยรวมก็ชอบตัวละครเกือบทั้งหมดนั่นแหละค่ะ ไม่ว่าจะไพฑูรย์ ไพรวัลย์ มิ่งขวัญ จันทร จินดา ฯลฯ
ทุกตัวมีร้ายมีดี มีจุดด้อยจุดเด่นในตัว ไม่มีคนไหนร้ายบริสุทธิ์ หรือเลิศเลอไปเสียทั้งหมด
เรียกได้ว่ามีชีวิตชีวาสมจริงไปหมด

กระทั่งตัวแม่...คนที่พลิกชะตาชีวิตรักของลูกชายตัวเองอย่างนางสำเภา...
นางก็ทำทุกอย่างไปด้วยสายตาของผู้ใหญ่ที่ผ่านโลก ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน
แล้วต้องเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก ๆ ของตัวเอง...
เนื้อแท้ของนางก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไรเลย...
เป็นตัวละครอีกตัวที่มีความเป็นธรรมชาติมาก...อ่านแล้วค่อนข้างชอบทีเดียว

ประเด็นที่ชัดเจนที่สุดที่(คิดว่า)ผู้เขียนต้องการนำเสนอในเรื่องนี้ก็คือ...
สัจธรรมที่ว่า...โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน...นั่นเอง














 

Create Date : 05 สิงหาคม 2559    
Last Update : 5 สิงหาคม 2559 14:32:55 น.
Counter : 15299 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.