|
ตราบสิ้นอสงไขย ผู้เขียน : น้ำฟ้า ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ (ครั้งแรก ต.ค. ๒๕๕๗) ๔๓๕ หน้า ราคา ๓๔๕ บาท
โปรยปกหลัง (เรื่องย่อ) :
"เอื้องลดา" นางเอกสาวสวยเดินทางไปถ่ายทำละครยังจังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อพลังลึกลับนำพาดวงจิตของเธอ ให้ย้อนกลับไปยังปีพ.ศ.๒๐๑๕ อันเป็นรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราช มหาราชแห่งล้านนา
ณ ที่แห่งนั้นเธอได้พบกับ "เจ้าศรีหิรัญ" ชายหนุ่มรูปงาม ซึ่งทำให้เธอนึกถึง "นทีดล" เจ้าของรีสอร์ตที่เธอพำนัก ณ เชียงใหม่
ในขณะที่เอื้องลดาเฝ้าตามหาเหตุผลที่ทำให้เธอต้องหลุดมาอยู่ในอดีตกาลแต่เพียงลำพัง เจ้าศรีหิรัญผู้ซึ่งเฝ้ารอเธอมานานหลายร้อยปีก็ยังคอยปกป้อง และอยู่เคียงข้างเธอไม่ห่าง ทำให้หัวใจของเธอมาหยุดอยู่ที่เขาผู้เป็นรักแรกและรักเดียวตลอดกาล แม้เนิ่นนานนับอสงไขย...ก็ไม่มีวันลืมเลือน
เรื่องราวโดยย่อก็ประมาณคำโปรยปกด้านบนนั่นเลยค่ะ เพิ่มเติมอีกนิด ๆ ละกัน...
ก่อนที่เอื้องลดาจะเดินทางไปถ่ายละครที่เชียงใหม่ เธอก็ได้รับแหวนนากวงหนึ่งจากคุณปู่สุนทรที่เธอให้ความเคารพนับถือเสมอญาติผู้ใหญ่ คุณปู่ย้ำกับเธอว่าให้ใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะแหวนจะช่วยปกป้องเธอจากเภทภัยต่าง ๆ
ที่เชียงใหม่เธอได้พักที่พิงครัตน์รีสอร์ตที่มี 'นทีดล' ชายหนุ่มรูปงามเป็นเจ้าของ ทันทีที่ได้พบหน้าและสบสายตา ทั้งคู่ก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด...
วันหนึ่ง หลังการถ่ายทำ เอื้องลดาถูกทำร้ายที่สถานที่โบราณใกล้ที่พักจนหมดสติไป ช่วงนั้นเองที่ดวงจิตของเธอหลุดลอยข้ามมิติย้อนเวลาไปยังยุคสมัยกว่าห้าร้อยปีผ่าน... ที่นั่น...เธอกลายเป็นเจ้าเอื้องนวลธิดาสาวคนเดียวของเจ้าสัมฤทธิ์กับเจ้าเกดวดีผู้มีตำแหน่งสำคัญแห่งเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ เจ้าเอื้องนวลมีคู่หมายแล้วคือเจ้าสะหลีไชย หลานชายของพระเจ้าติโลกราช มหากษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย
ท่ามกลางความสับสน เอื้องลดาอาศัยความเป็นดาราเจ้าบทบาท แสดงตัวเป็นเจ้าเอื้องนวล ผู้ซึ่งในช่วงเวลานั้นก็เพิ่งจะถูกทำร้ายโดยเจ้าจอมหอมุกได้อย่างแนบเนียนพอสมควร โดยที่ใคร ๆ ต่างเข้าใจว่าเจ้าเอื้องนวลความจำเสื่อมเนื่องมาจากการถูกทำร้าย
และทีนั่นเอง เธอก็ได้พบกับเจ้าศรีหิรัญ ดวงวิญญาณที่ทำหน้าที่เป็นองค์อารักษ์แห่งเวียงเชียงใหม่ พร้อมทั้งเด็กน้อยฝาแฝดชาย-หญิง หมากแก้วและหมากคำ ที่คอยตามติดคอยให้การช่วยเหลือเธอ
เจ้าศรีหิรัญได้นำพาเธอย้อนเวลาไปอีกภพชาติหนึ่งซึ่งล่วงเลยไปกว่าพันปี... เพื่อบอกเล่าถึงความเป็นมาและความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาในอดีตกาล ครั้งนั้น เธอเกิดเป็นเอื้องฟ้า ธิดาบุญธรรมของพ่อครูอินถา ครูสอนดาบของเจ้าศรีหิรัญ เจ้าราชบุตรแห่งเมืองอนันตกาล และกำลังจะได้ขึ้นครองเมืองเป็นพ่อพญาในครานั้น เจ้าศรีหิรัญมีคู่หมายแล้ว และต้องสมรสกับนางเพื่อความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมือง แต่เขามีใจรักในเอื้องฟ้าจึงพาเข้าเวียงด้วย พร้อมแต่งตั้งให้เป็นชายาอีกหนึ่งคน สร้างความไม่พอใจให้เจ้าสร้อยสุรีย์ ชายาเอกเป็นอย่างยิ่ง จึงหาเรื่องกลั่นแกล้งเอื้องฟ้าต่าง ๆ นานา
...............
แม้จะได้รับรู้ถึงอดีตชาติของตัวเอง เมื่อครั้งที่เกิดเป็นเอื้องฟ้าแล้ว แต่เอื้องลดาก็ยังไม่วายสับสนว่าการที่เธอต้องย้อนเวลามาอยู่ในร่างของเจ้าเอื้องนวลนี้เป็นไปด้วยเหตุใด และทำอย่างไรเธอถึงจะได้กลับไปยังยุคสมัยที่เธอจากมา... ในช่วงเวลานั้น เธอก็ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงจุดคับขันเมื่อเจ้าพ่อเจ้าแม่ของเจ้าเอื้องนวลจะให้เธอเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าสะหลีไชยเสียที... ในตอนนั้นเอง เธอก็ถูกปองร้ายโดยคนที่เธอคาดไม่ถึงมาก่อน
มาร่วมลุ้นและเอาใจช่วยเอื้องลดากันค่ะ ว่าในที่สุดแล้วเธอจะสามารถเอาตัวรอด ข้ามผ่านกาลเวลากลับมายังโลกที่เธอคุ้นเคยได้หรือไม่...
เมาท์มอยหลังอ่าน... (สาบานนะว่าข้างบนนั่นคือ..."เรื่องย่อเพิ่มเติมอีกนิด ๆ"ที่หล่อนบอกตอนต้น...? แหะ ๆ )
อย่างไรก็ดี เรื่องย่อ(ยาว ๆ )ที่เล่าไปนั่นเป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวของเรื่องราวทั้งหมดจริง ๆ ค่ะ เพราะนอกจากปมย้อนภพข้ามมิติของนางเอกแล้ว ยังมีเหตุการณ์ต่าง ๆ อีกมากมายที่ไม่สามารถเล่าได้จนจบสิ้น
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติกแบบ...พารานอร์มอล มีเรื่องราวของการข้ามภพข้ามชาติที่แอบอิงตำนานเรื่องเล่า ของชาวล้านนาย้อนไปไกลถึงกว่าพันปีนู่น
เรื่องราวส่วนใหญ่จะเดินเรื่องผ่านนางเอก-เอื้องลดา อาจจะแบ่งช่วงเวลาเป็นสามช่วง คือเอื้องลดาในยุคปัจจุบันที่มีบทบาทเป็นนางเอกสาว แม้จะเกิดและเติบโตในกรุงเทพ แต่เธอก็มีคุณยายเป็นชาวเชียงใหม่ และมีความสนใจศึกษาในเรื่องของโบราณคดี และชอบของเก่าตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย
ช่วงที่สองคือช่วงที่ดวงจิตของเอื้องลดาพลัดเข้าไปอยู่ในร่างของเจ้าเอื้องนวล... ซึ่งเป็นอดีตชาติของเธอเอง และมีชีวิตอยู่ในพ.ศ.๒๐๑๕ ทำให้เธอได้พบและผูกพันกับเจ้าศรีหิรัญ
และเจ้าศรีหิรัญนี่เองที่นำเธอย้อนเวลาไปอีกช่วงหนึ่ง...ปีพ.ศ.๑๕๐๐ นู่น... อันเป็นชาติภพที่เธอเกิดเป็นเอื้องฟ้า - ชายาของเขา...เจ้าราชบุตรแห่งเมืองอนันตกาล
ว่าโดยพล็อต การเล่าเรื่องและสำนวนภาษาของผู้เขียนแล้ว ส่วนตัวชื่นชอบในระดับหนึ่งค่ะ อ่านได้ลื่นไหล ชวนลุ้น น่าติดตามดี มีบอกเล่าข้อมูลในเชิงประวัติศาสตร์ล้านนา แถมด้วยตำนาน คติความเชื่อต่าง ๆ ที่น่าสนใจของคนโบราณทางเหนืออยู่มากมาย คิดว่าผู้เขียนคงต้องทำการบ้านมาแล้วเป็นอย่างดี... สำนวนภาษาก็อ่านง่าย แม้คนที่ไม่คุ้นกับภาษาเหนือหรือคำเมืองเลยก็ไม่น่าจะสะดุดอะไร...
จะมีก็แต่คนอ่านที่เป็นคนเหนือ หรือคนเมียงแต๊ๆ นี่แหละค่ะ ที่บางช่วงบางตอนอ่านแล้วมันเกิด"อิกขะหลิกใจ๋ "(ตงิด ๆ ใจ)นิด ๆ อย่างเรื่องของการย้อนชาติข้ามภพของนางเอก ส่วนตัวรู้สึกว่า...มันยังไม่เนียนพอ จู่ ๆ ก็ย้อนอดีตไปถึง ๕๐๐ กว่าปี จากนั้นก็ยังมีการย้อนไปอีก ๕๐๐ กว่าปีเช่นกัน แล้วช่วงเวลาระหว่างกลางสองช่วงนั้นหายไปไหน...
ในแต่ละช่วงของการพบกันของคู่พระ-นาง บางครั้งคนเขียนมีการแซมด้วยบทค่าว... ปกติตัวเองจะชอบนะคะ นิยายที่มีบทกวี ไม่ว่าจะประเภทไหน... และความที่ตัวเองเคยคลุกคลีกับ'คนบ่าเก่า' พอสมควร อ่านคำค่าวคำเครือมาก็ไม่น้อย เคยถึงขั้นหัดแต่งค่าวมาแล้วด้วย... ขอบอกตรง ๆ ว่าบทค่าวในนิยายเรื่องนี้มันยังไม่ใช่อะค่ะ(เฉพาะสำหรับตัวเองนะคะ) มันยังอ่านสะดุด ๆ ไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร ถ้อยคำที่ใช้มันไม่"เก่า"พอทีจะเชื่อได้ว่าเป็นสำนวนของคนในยุคโบราณจริง ๆ อย่าว่าแต่ย้อนไปถึงห้าร้อยหรือพันปีเลย แค่ย้อนไปถึงยุคที่บทกวีประเภทค่าวเฟื่องฟูเมื่อสองร้อยกว่าปีมานี้ก็ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ (พญาพรหมโวหาร กวีเอกแห่งล้านนามีชีวิตอยู่ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์) บทกลอนที่แทรกมาตอนที่เอื้องลดาจะต้องพรากจากเจ้าศรีหิรัญนั่นเสียอีกที่ยังจะให้ความรู้สึกตรึงใจกว่า... อ่านแล้วสะท้อนสะเทือนอารมณ์ได้ลึกซึ้งกว่า
ก็แค่ความรู้สึกส่วนตัวนิด ๆ ของคนอ่านคนหนึ่งเท่านั้นแหละค่ะ โดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นนิยายที่น่าอ่านเล่มหนึง จะอ่านเอาเพลินก็ได้ อ่านเอาสาระก็มีให้เก็บเกี่ยวไม่น้อย... แถมยังมีข้อคิดว่าด้วยเรื่องของกฏแห่งกรรมให้ฉุกคิดและตระหนักรู้อยู่พอประมาณเลยทีเดียว
อ่านจบแล้วหยิบมาเล่าขาน ชวนอ่านเป็นการเปิดศักราชบล็อกนิยายของปีนี้ค่ะ
ป.ล.นิยายเล่มนี้เป็นหนึ่งในซีรีส์ชุด"ร้อยรักข้ามเวลา" ซึ่งมีอยู่สองเล่ม อีกเล่มหนึ่งคือเรื่อง"หนึ่งใจนิรันดร์" ร้อยเรียงโดย"ทักษิณา" ซึ่งขออนุญาตแปะโป้งไว้ก่อนนะคะ ได้อ่านเมื่อไหร่จะหยิบมาเล่าต่อกันค่ะ
| |