|
ก่อนอื่น...ขออนุญาตเมาธ์มอยนิด ๆ อยากเขียนบล็อกวันแม่ แต่ก็มัวแต่ยุ่ง ๆ กับภารกิจนั่นนี่โน่น... จนเวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้...
บอกกับตัวเองว่า...แท้จริงแล้วความรักของแม่นั้นเป็นอกาลิโก... คือไม่ประกอบด้วยกาลและเวลา...ทุกวันทุกเวลาเป็นวันของแม่ได้เสมอ
แต่ถึงกระนั้น ก็ต้องยอมรับว่า โลกต้องมีสมมติที่มนุษย์ร่วมกันบัญญัติขึ้นมา เพื่อกำหนดเป็นจุดร่วม เป็นสายสัมพันธ์อันงดงามที่จะโยงใย ให้มนุษย์ได้ใส่ใจในสรรพสิ่งรอบข้างอย่างใกล้ชิด... ให้มนุษย์ได้เรียนรู้ ได้ตระหนักถึงจุดกำเนิดและรากเหง้าของตนเอง...
และมองเห็นคุณค่าของความรัก ความสุข ความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลใด ๆ ที่เราได้รับมาเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง หล่อหลอมชีวิตให้เป็นตัวเป็นตน เป็นรูปเป็นร่าง ดำเนินตามร่องตามรอย นับแต่น้อยจนเติบใหญ่... จากทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวทั้งหกทิศ ไม่ว่าจะเป็นธาตุธรรมชาติทั้งหลาย เหล่าสัตว์ร่วมโลกน้อยใหญ่... หรือจากมนุษย์ด้วยกันเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...จากแม่ ผู้เป็นประหนึ่งทิศเบื้องบนแห่งเรา
วันแม่จึงนับเป็นวันพิเศษสุด ๆ วันหนึ่งแห่งปี...
ขอเขียนถึงแม่ นางเอกตลอดกาลในนิยายชีวิตของเราหน่อย แม่ของฉันเป็นนักอ่าน...แม้ว่าแม่จะได้เรียนหนังสือจบแค่ชั้นป.สี่ แต่แม่ก็ขวนขวายหาความรู้ใส่ตัวเท่าที่โอกาสจะอำนวย
และนั่นก็กลายเป็นเชื้อพันธุ์อันดีให้กับพวกเราในรุ่นลูก ๆ ฉันและพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนมีนิสัยรักการอ่านแบบเข้มข้นมาก ๆ ทุกซอกทุกมุมในบ้านของพวกเราจะต้องมีหนังสือหลากหลายประเภท หลากหลายเนื้อหาวางอยู่เสมอ
แล้วมันก็สืบทอดลงไปสู่บรรดาลูก ๆ หลาน ๆ ของพวกเรา... และเชื่อว่า เมื่อพวกเขามีครอบครัว มีลูก เมล็ดพันธุ์อันนี้ก็จะถูกปลูกฝังลงในสายเลือดของพวกเขา... ไม่มากก็น้อย
เมาธ์มอยมากไปแล้ว... บล็อกนี้ขอเล่าถึงนิยายรักเล่มหนึ่งที่แม่เพิ่งอ่านจบไปค่ะ...
ทัณฑ์กามเทพ ผู้เขียน: ชูวงศ์ ฉายะจินดา สานักพิมพ์: รวมสาส์น 593 หน้า ราคา 200 บาท
จากสำนักพิมพ์:
ธนูแห่งกามเทพ ผู้ดลบันดาลความรัก...ชักนำให้มนุษย์รักกัน ทั้งยังสามารถแทงทะลุหัวใจ ฝากรอยแผลเอาไว้ให้เจ็บปวดรวดร้าว ราวถูกโทษทัณฑ์อันหนักหน่วง... ดังความรักของ รชฏ และ อโนมา ที่ถูกกามเทพลงทัณฑ์เพราะความหยิ่งทะนงและทิฐิบังตา นำพาให้อคติมาบิดเบือนหัวใจ ทำให้ความรักกลับกลายเป็นความเกลียดชัง ภายใต้เปลือกนอกที่ฉาบไว้อย่างแน่นหนา ใครเลยจะรู้ว่า...ในเนื้อแท้แห่งหัวใจนั้นมีความรักอันบริสุทธิ์ซ่อนอยู่ กว่าเปลือกปลอมจะกะเทาะออกมา กามเทพต้องใช้บทลงทัณฑ์ เป็นบทเรียนรักสอน อโนมา และ รชฏ ให้กบฏต่ออคติ แต่ภักดีต่อหัวใจ มาคอยลุ้นเอาใจช่วยว่าเส้นทางสายรักที่ซ่อนหนามไว้ใต้กลีบกุหลาบ จะสิ้นสุดที่ใด ท้ายที่สุดแห่งโทษทัณฑ์...จะพบของขวัญเป็นความรักหรือไม่
เรื่องย่อแบบยาว...
มด-อโนมา ธิดาสาวของนายทหารนอกราชการคนหนึ่ง แม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ พ่อของเธอได้ ผิว อดีตต้นห้องของภรรยาเป็นเมียอีกคน ผิวมีลูกชายสองคนคือ พงษ์เทพ และ เผ่าไท และมีลูกสาวบิดาเดียวกันกับอโนมา ๑ คนคือหนูแมว - ผาณิต อโนมารักน้องชายหญิงต่างมารดาอย่างจริงใจ และแม่ผิว ผู้ซึ่งเลี้ยงอโนมามาตั้งแต่เด็กก็รักใคร่อโนมาอย่างจริงใจเช่นกัน
รชฎ อมรวัติมีศักดิ์เป็นหลานชายของมารดาอโนมา เมื่อพ่อและแม่ของเขาเสียชีวิตอย่างกระทันหัน พ่อของอโนมาจึงรับอุปการะรชฎ ให้เข้ามาอยู่ในบ้าน ส่งเสียให้เรียนจนจบมหาวิทยาลัย ทั้งยังให้ทำงานในธุรกิจของครอบครัว แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการ
ตอนที่รชฏย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนั้น เขาเป็นเด็กหนุ่มวัย ๑๙ ส่วนอโนมายังเป็นเพียงเด็กหญิงวัย ๑๓... เธอมีเพื่อนสนิทที่มีบ้านติดกันคนหนึ่งคือมยุเรศ ซึ่งในตอนนั้นเติบโตเป็นเด็กสาวรุ่น ๆ แล้ว มยุเรศออกอาการปลื้มรชฏอย่างออกนอกหน้า ในขณะที่อโนมาค่อนข้างวางตัวเป็นคุณหนูที่หยิ่่งและเชิด
ในเวลาต่อมา เมื่อต่างเรียนจบ มยุเรศกับรชฏก็กลายเป็นคู่รักที่ใคร ๆ ต่างคาดหมายงานวิวาห์ของพวกเขา ส่วนอโนมาก็ทำตัวเป็นสาวไฮโซ คบ ๆ เลิก ๆ กับผู้ชายหลายคน... แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนจะมีคนที่มาแรงกว่าใคร คือเจษฎา ชายหนุ่มท่าทางโก้หรูและร่ำรวย
ในงานวันเกิดครบรอบ ๒๑ ปีของอโนมา มยุเรศแกล้งทำเป็นเฟลิตกับเจษฎาด้วยจุดมุ่งหมายสองประการ หนึ่ง เธอต้องการเอาชนะอโนมา เพราะลึก ๆ แล้วเธอแอบอิจฉาอโนมาอยู่เสมอ และคอยทับถมอโนมาอยู่ตลอดเวลาว่าไม่มีคุณสมบัติของกุลสตรี โดยเฉพาะเรื่องการบ้านการเรือน ประการที่สอง...มยุเรศแอบรู้สึกอยู่เสมอว่ารชฏนั้นแคร์อโนมามากกว่าเธอ และอโนมานั้นจริง ๆ แล้วก็แอบมีใจให้รชฏ เพียงแต่ทำฟอร์มเพราะรชฏมีฐานะแค่เด็กในบ้าน เธอจึงอยากจะยั่วให้รชฏหึงหวงเธอบ้างโดยการแสดงความสนิทสนมและเต้นรำกับเจษฎา แต่เรื่องราวกับเลยเถิด เมื่อต่างฝ่ายต่างเมาจนเผลอไผลมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง...
เมื่ออโนมากับรชฏไปพบเข้า อโนมาด่าว่าเจษฎาอย่างรุนแรง จนเจษฎาเกิดโมโหขึ้นมาก็แกล้งบอกรชฎว่าที่เขาทำอย่างนี้เพราะอโนมาบอกให้เขาทำ
รชฏรู้สึกโกรธและผิดหวังมาก แม้เขาจะไม่เชื่อเจษฎาเต็มร้อยแต่จากท่าทีที่เปลี่ยนไปของอโนมาก็ทำให้เขารู้สึกคลางแคลงใจ เขารู้สึกสงสารมยุเรศจึงบอกว่ายังไง ๆ เขาก็จะแต่งงานกับเธอ...
แต่เมื่อพ่อแม่ของมยุเรศรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ก็บังคับให้เจษฎารับผิดชอบ โดยการแต่งงานกับมยุเรศ เพราะเห็นว่าเจษฎานั้นมีฐานะทางครอบครัวที่ดีกว่ารชฏ ซึ่งเจษฎาก็จำยอมทำตามทั้ง ๆ ที่เขาหลงรักอโนมาอยู่
อโนมารู้สึกเสียใจแทนรชฏมาก ดังนั้นเมื่อรชฏขอเธอแต่งงานเธอจึงตอบตกลง ทั้งที่เธอเข้าใจว่ารชฏนั้นรักมยุเรศอยู่เสมอ
แต่ในคืนแต่งงานนั้นเอง รชฏก็แอบได้ยินเพื่อนสนิทในกลุ่มของเขากล่าวนินทาอโนมา ในทำนองว่าที่แต่งงานกับรชฏก็เพราะต้องการเอาชนะมยุเรศ ตามที่เคยลั่นปากไว้กับเพื่อน ๆ ของเธอเท่านั้น...
ซ้ำร้าย หลังงานแต่งงานระหว่างรชฏกับอโนมาเพียงไม่นาน มยุเรศก็ให้บังเอิญมีปัญหาครอบครัวกับเจษฎาที่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากรชฏ กำแพงที่ขวางกั้นระหว่างทั้งคู่ดูเหมือนจะยิ่งหนาและสูงยิ่งขึ้น เช่นนี้แล้วชีวิตคู่ของพวกเขาจะลงเอยอย่างไร ต้องตามไปลุ้นในนิยายแล้วล่ะค่ะ
หลังอ่าน... ที่บอกว่าเป็นนิยายพาฝันก็เพราะทั้งพล็อต ทั้งเรื่องราว ตลอดถึงตัวละครในเรื่องช่างชวนฝันเสียนี่กระไร อ่านแล้วพาให้ใจเคลิบเคลิ้ม รัญจวน...ฮ่า ๆ ประมาณนั้นเชียว
เล่มนี้อ่านเป็นรอบที่สองค่ะ รอบแรกอ่านเมื่อนานมากแล้ว... รอบนี้อ่านตามแม่ คุณชูวงศ์เป็นนักเขียนคนโปรดคนหนึ่งของแม่ แม่เขาบอกว่านิยายคุณชูวงศ์เนี่ย พาฝันก็จริง แต่เขาก็ไม่ทิ้งเหตุทิ้งผล ที่มาที่ไปของตัวละคร ความสัมพันธ์โยงใยซึ่งกันและกัน ชัดเจนและสมเหตุสมผล
นางเอกนิยายของนักเขียนท่านนี้มักจะฉลาด ช่างคิด และทันสมัย... ออกจะล้ำสมัยเสียด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ปรากฏในนิยาย... แต่ก็รักษาขนบ-วัฒนธรรมแบบไทย ๆ ในเรื่องของความอ่อนน้อมถ่อมตน การรักนวลสงวนตัว เป็นต้น
ส่วนพระเอกก็จะออกแนวพระเอกมีปม ต้อยต่ำเจียมตัว แต่ก็มีมานะมุ่งมั่นและกตัญญูรู้คุณ
โครงเรื่องก็หนีไม่พ้นเรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ ของหนุ่มสาว... แต่ผู้เขียนก็จะแฝงทัศนคติ แง่คิดมุมมองในเรื่องการใช้ชีวิตไว้ตรงนั้นตรงนี้อย่างเนียน ๆ
เรียกได้ว่าเป็นนิยายพาฝันที่สมจริงเรื่องหนึ่งทีเดียวค่ะ
อ้อ...ได้ยินว่านิยายเรื่องนี้เคยทำเป็นละครทีวีแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่ส่วนตัวไม่ได้ดู มาถึงยุคนี้สมัยนี้ ถ้าจะมีใครหยิบยกมาสร้างเป็นละครอีกก็น่าจะทำได้อยู่นะ ปรับเปลี่ยนบทให้เข้ากับปัจจุบันอีกนิด คาสติ้งดี ๆ รับรองเรตติ้งกระฉูดแน่นอน
|
เริ่มจากหลานชายคนโตวัย ๕ ขวบ ติดไข้มาจากโรงเรียน
ยายแม่ก็สติแตกเพราะคุณครูชี้นำว่าอาการเหมือนไข้เลือดออก...
แต่หลังจากนั้นสองวัน ฮีก็มีน้ำมูก ฟึดฟัด ๆ ก็โล่งอกโล่งใจกันไป
แต่ไวรัสหวัดของแกช่างร้ายกาจเสียจริง มันแพร่กระจายไปให้คนใกล้ชิดทั่วถ้วน
รวมทั้งป้ามันด้วย
ช่วงนี้จึงอาจจะไม่ค่อยได้รีวิวนิยายถี่นัก ทั้งยังไม่ค่อยได้ไปเม้นท์บล็อกเพื่อน ๆ นะคะ