|
ขอเกริ่นก่อน... นานมากแล้วที่ไม่ได้อ่านนิยายแนวจีน ๆ แบบนี้ เคยอ่านมากกว่ารักเล่มหนึ่ง ปรากฏว่าแป้กอย่างแรงสำหรับตัวเอง ทำเอาเข็ดขยาด...
มาเจอ'เล่ห์ลายโบตั๋น'...สะดุดที่ปกสวยมากจึงหยิบมาอ่าน แล้วก็พบว่า อ่านได้เพลิดเพลินเกินคาด เรียกได้ว่าสนุกทีเดียวค่ะ
อ่านจบแล้วต้องรีบเสาะแสวงหา'หอมกลิ่นโบตั๋น'มาอ่านต่อทันใด ผลลัพธ์ก็คือ...ชอบเล่มแรกที่อ่านทีหลังนี้มากกว่าเสียอีกแน่ะค่ะ
ขอเล่ารวบยอดสองเรื่องเลยนะคะ ถึงแม้เรื่องราวไม่ได้ต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน สามารถอ่านแยกเล่มใดเล่มหนึ่งได้ค่ะ
Destiny หอมกลิ่นโบตั๋น & เล่ห์ลายโบตั๋น ผู้เขียน : ญานภา ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ อุ่นไอรัก (พิมพ์ครั้งแรก พ.ค. ๕๓ & ก.ย.๕๕ ๓๒๒ - ๔๒๓ หน้า, ราคา ๒๑๕ - ๒๘๕ บาท)
หอมกลิ่นโบตั๋น
โปรยปก:
โบตั๋นแดงเปรียบดั่งความรักและความหลงใหลชั่วนิรันดร์ หากบุรุษมอบโบตั๋นแดงให้สตรีใด ย่อมบ่งบอกถึงความรู้สึกลึกซึ้งในใจ
......................
รักซ้อน ซ่อนเงื่อน จะทำอย่างไรดี...เมื่อกิรณาต้องพลัดหลงเข้าไปในยุคอดีตถึงพันปี! ทั้งผู้คนทั้งสถานที่ที่หญิงสาวไม่รู้จัก ที่สำคัญ หน้าตาหล่อนยังเหมือนฮูหยินเฟ่ยฉางเอ๋อของท่านแม่ทัพหนุ่มรูปงามราวกับฝาแฝด
เพื่อความอยู่รอด หล่อนจึงต้องสวมรอยเป็นฮูหยินของเขา และยิ่งนานวันหล่อนก็ยิ่งหลงรักเขามากขึ้น ทว่าก็มีบางอย่างยังติดค้างในใจ... หรือกิรณาจะเป็นแค่เงาของเฟ่ยฉางเอ๋อ .............
เจ้าควรเลิกเสแสร้งได้แล้ว เจ้าทำเช่นนี้ต้องการอะไรอีก ชายหนุ่มว่า ฉะ...ฉันไม่ใช่ฉางเอ๋อ แล้วก็ไม่ได้เสแสร้งอะไรทั้งนั้น พวกคุณต่างหากกักขังฉันไว้ที่นี่ทำไมกัน ทำไมไม่ยอมส่งฉันไปสถานทูตไทย รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏบนริมฝีปากบางของเขา หากเจ้าไม่ใช่ฉางเอ๋อ แล้วใครจะเป็นฉางเอ๋อเล่า ใครก็ได้ แต่ไม่ใช่ฉัน หล่อนตอบโต้ทันที
พยายามขยับตัวเข้าไปด้านในของเตียง เมื่อคนตรงหน้ายังก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นอีก คุณหยุดอยู่ตรงนั้นนะ อย่าเข้ามา กิรณาร้องห้ามเมื่อคนตรงหน้ายังคุกคามใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
หล่อนกวาดตามองรอบตัวอย่างสิ้นหวัง ถึงในห้องจะมีผู้หญิงอีกสามคนกับคนแก่อีกหนึ่งคนเข้ามาใหม่ แต่ถ้าเขาจะเข้ามาทำร้ายก็คงไม่มีใครเข้ามาช่วยหล่อนแน่ เพราะทุกคนต่างไปยืนด้านหนึ่งของห้อง สายตามองต่ำ ไม่แม้แต่จะเหลือมองมาทางหล่อน ประมุขตระกูลมองใบหน้าขาวซีด ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น นางหวาดกลัว แต่ก็ยังพยายามปกปิดความหวาดกลัวนั้นไว้ ดวงตากลมโตมองเขาอย่างระแวงเหมือนสายตาที่มองคนแปลกหน้าอย่างแท้จริง
เล่าเรื่องหอมกลิ่นโบตั๋น(เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย อาจมีสปอยล์)
กิรณาสูญเสียปรเมศ เพื่อนชายคนสนิทไปในสายน้ำในประเทศหมิงเมื่อสามปีก่อน ทำให้เธอเศร้าเสียใจ และคิดถึงเขาอยู่เสมอ
เมื่อเธอกลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้ง ในขณะที่กำลังหวนคิดถึงความหลัง ก็เกิดเหตุซ้ำรอยกับคราวก่อน... ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก เธอพลัดตกจากเรือลงไปในกระแสน้ำเชี่ยวกราก แล้วก็มีคนมาช่วยไว้ เมื่อฟื้นสติขึ้นมา เธอก็พบตัวเองอยู่ในสถานที่แปลก ๆ และผู้คนก็ปฏิบัติต่อเธอแปลก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ทัพใหญ่เว่ยเหยียนฟง - - ชายหนุ่มที่ช่วยเธอขึ้นมา
เขามีท่าทีรังเกียจและเกลียดเธออย่างเห็นได้ชัด ทั้ง ๆ ที่ใครๆ ก็บอกเธอว่าเธอคือเฟ่ยฉางเอ๋อ - - ฮูหยินของเขาที่หายตัวไปเมื่อปีก่อน มิไยที่เธอจะพร่ำบอกเขาว่าเธอไม่ใช่ แต่ไม่มีใครเชื่อ ผู้คนต่างเข้าใจว่าเป็นเพราะอุบัติเหตุ ทำให้เธอเกิดอาการสับสนความจำเสื่อมชั่วคราว
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เว่ยเหยียนฟงก็เริ่มมองเห็นว่า เฟ่ยฉางเอ๋อคนนี้ช่างแตกต่างจากคนเดิมแทบจะสิ้นเชิง
ที่สำคัญ...เฟ่ยฉางเอ๋อคนใหม่นี้มักจะทำให้เขาเกิดความรู้สึกแปลก ๆ เสมอเวลาอยู่ใกล้ชิด จนกลายเป็นความผูกพันและแหนหวง...ซึ่งเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
แม้จะคลางแคลงใจ แต่เขาก็ไม่อาจทำใจให้เชื่อได้ว่า เธอเป็นหญิงสาวที่พลัดหลงมจากอนาคตอย่างท่เธอบอก
จนเมื่อเธอได้พบกับฉือห้วงชิง...และได้พัวพันกับปัญหายุ่ง ๆ ในราชสำนัก... ปูมหลังของเธอจึงค่อย ๆ กระจ่างขึ้น... จนเขาเริ่มหวั่นกลัวว่าจะต้องสูญเสียเธอไปสักวันหนึ่ง
.................
เล่มนี้ชอบพล็อตค่ะ เรื่องของการข้ามมิติย้อนเวลาไม่ใช่เรื่องใหม่ในนิยาย แต่เรื่องนี้เขาทำได้แบบเนียน ๆ อ่านแล้วไม่สะดุด ทั้งฉากของเรื่อง ที่คนเขียนได้สมมติขึ้นเป็นประเทศที่ใกล้เคียงกับประเทศจีน มีภาษา วัฒนธรรมต่าง ๆ เหมือนจีนทุกอย่าง...ก็ทำได้ดีมาก
เข้าใจว่าคนเขียนต้องการหลีกเลี่ยงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ที่อาจจะมีคนอ่านตั้งข้อสังเกตขึ้นภายหลัง เพราะมีเรื่องราวของการแย่งชิงอำนาจในราชสำนัก และการวางแผนก่อกบฏเข้ามาเกี่ยวข้อง
คนเขียนผูกปมค่อนข้างซับซ้อน แต่ก็เร้าความสนใจใคร่รู้ให้คนอ่านต้องตามอ่านไปเรื่อย ๆ จนกว่าปมนั้นจะค่อย ๆ คลี่คลายไปทีละเปลาะ ๆ อย่างลงตัวและสมเหตุสมผลทีเดียว
มีบทรักบทใคร่อยู่พอประมาณ ไม่มากไม่น้อย แล้วก็เป็นไปแบบหวานๆ นุ่ม ๆ ชวนเคลิ้มชวนฝันเชียว...
แต่...สงสารพระรองจังค่ะ
เล่ห์ลายโบตั๋น
โปรยปก:
เซียงซือโหม่ว คุณชายเจ้าสำราญที่สาวๆต่างหลงใหลในคารมและความเจ้าเสน่ห์ แต่กลับไม่มีหญิงใดสามารถเข้าถึงหัวใจของเขาได้เลย
ชายหนุ่มต้องทำภารกิจลับที่ทางราชสำนักสั่งการมา ให้สืบหาหลักฐานการลักลอบขนอาวุธเพื่อก่อการกบฏ โดยหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องคือจางเหวินอี้ สหายสนิทของเขา
เซียงซือโหม่วและจางเหวินอี้ได้มาพบอีกครั้งหลังจากที่ห่างกันไปเป็นสิบปี แต่สำหรับเซียงซือโหมว กลับมีบางอย่างที่น่าสงสัยเกิดขึ้นในใจ เมื่อจางเหวินอี้มีรูปร่างท่าทางราวกับอิสตรี และเมื่อได้ใกล้ชิด เขายังมีกลิ่นกายที่หอมกรุ่นรัญจวนใจยิ่งนัก แถมดวงตาคู่งามที่ได้สานสบทีไรเป็นได้หัวใจเต้นแรงทุกครั้ง...
แปลกจริง! หรือจะเป็นเพราะว่าจิตใจของเขาไม่ปกติ ด้วยรู้สึกกับเพื่อนในเชิงชู้สาวเสียนี่
................
เล่มนี้เรื่องย่อสนพ.ค่อนข้างชัดเจนนะคะ พลอตไม่มีอะไรใหม่ค่ะ นางเอกปลอมเป็นชาย แล้วต้องมาใกล้ชิดพัวพันกับพระเอกซึ่งเคยรู้จักและผูกพันกันในวัยเด็ก
แล้วพระเอกก็ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ...เพลย์บอยว่างั้นเถอะ มีหรือจะไม่รู้ความแตกต่างระหว่างเพศหญิงเพศชาย
เล่มนี้จะชอบตรงบุคลิกลักษณะของตัวละครค่ะ ชอบที่พระเอกนางเอกเขาฉลาดทันกันดี ทำให้มีมุกกุ๊กกิ๊กๆ มุกหักเหลี่ยมเฉือนคมกันเบาะ ๆ อ่านแล้วรู้สึกขำ ๆ ได้อมยิ้ม มีความสุขค่ะ
สรุปว่า... ถ้าอ่านเล่น ๆ เพลิน ๆ ก็ไม่สะตุดอะไร ด้วยสำนวนภาษาคนเขียนเขาลื่นไหลดี
แต่ถ้าจะอ่านเอาเรื่องเอาราวหน่อยก็อาจจะงง ๆ เล็กน้อยกับชื่อตัวละคร กับห้วงเวลาของทั้งสองเรื่อง เพราะดูเหมือนจะใช้การก่อกบฏเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่เกี่ยวข้องทั้งสองเรื่อง จึงมีตัวละครกับเหตุการณ์บางเหตุการณ์ทับซ้อนกันอยู่
เช่นตัวละครบางตัวที่เหมือนจะตายไปแล้วในเรื่องก่อน กลับโผล่มามีบทบาทในเรื่องนี้ได้
หากอ่านคนละทีก็อาจจะไม่รู้สึก แต่เมื่ออ่านต่อเนื่องกันเลยเกิดอาการสับสนเล็ก ๆ อย่างที่บอก...
สรุปของสรุป... ชอบเล่มแรกมากกว่าค่ะ ได้อารมณ์คล้อยตาม และตื่นเต้นระทึกใจดี แต่เล่มหลังได้อารมณ์เหมือนกินยำใหญ่...(ความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ ค่ะ)เหมือนเขาเก็บเล็กผสมน้อยจากนิยายหรือหนังจีนเรื่องนั้นเรื่องนี้...แล้วมาผูกเป็นเรื่องเป็นราว...
บล็อกนี้เขียนตอนกำลังง่วงสุด ๆ ค่ะ อาจจะอ่านงงๆ แหะ ๆ เอาเป็นว่าอ่านจบแล้วทั้งสองเล่ม หยิบมาบอกต่อกัน ชวนอ่านค่ะ
|
วันแรกของเดือนสุดท้าย ส่งความสุขให้ ด้วย ยิ้ม ค่ะคุณแม่ไก่
นอกจากจะอ่านได้เร็วแล้ว ยังสรุปเรื่องได้สั้น กระชับ และชวนติดตามด้วย
เยี่ยมจริงๆ