|
ราชบุตรเขยเจ้าสำราญ ๑-๒-๓ ผู้เขียน : BiscuitBus ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ (มีนาคม ๒๕๕๘) ๓๒๕ - ๔๕๖ - ๕๗๑ หน้า, ราคา ๒๕๐ - ๓๒๕ - ๓๗๕ บาท
เรื่องย่อ ๆ จากคำโปรยปก...
(เล่ม ๑)
ลิขิตสวรรค์ไม่อาจคาดเดา
หนึ่งบ่าว หนึ่งองค์หญิง หนึ่งสตรี หนึ่งบุรุษ เรื่องราวกลับตาลปัตร เมื่อหญิงไม่ใช่หญิง ชายไม่ใช่ชาย ความอลหม่าน...จึงเริ่มต้น
ไต้หยี่ บ่าวน้อยจากตระกูลบ้านนอก ปากกล้า ทว่ามากน้ำใจยิ่ง ท่องเที่ยวทั่วหล้าสวมชุดรัดกุม คุ้มกันข้าวของ ทำงานสนองพระคุณนายท่าน ผู้คนไม่เห็นว่ามันเป็นสตรี มันยิ่งลืมไปแล้วว่าตนเป็นสตรี
กระทั่งได้พบกับองค์หญิงเจียงจูผู้อ่อนช้อยงดงามยิ่ง แต่แท้จริงกลับเป็นบุรุษ!
(เล่ม ๒)
เหตุใดสวรรค์จึงชอบกลั่นแกล่งนัก
ไต้หยี่ ที่คิดเพียงแต่จะเดินทางกลับบ้าน แต่จู่ๆ กลับได้เป็นบุตรบุญธรรมของอิงอ๋องจ้าวฝาน จากที่คิดจะมีชีวิตอย่างเรียบง่ายต่ำต้อย ยังต้องมาเป็น'อ๋องน้อย'อยู่ในเมืองหลวง กลการเมืองวุ่นวายซับซ้อนอย่างยิ่ง ทุกก้าวย่างควรระแวดระวัง
สวรรค์เอ๋ย... หากฮ่องเต้ทรงทราบว่าบ่าวน้อยล่วงเกินองค์หญิงไปอย่างไรแล้ว ต่อให้บ่าวน้อยมีสักสิบหัวก็ยังคงไม่พอให้กุดเป็นแน่!
(เล่ม ๓)
พบเพียงเพื่อผ่าน ทว่ายิ่งนานวันกลับยิ่งผูกพัน
สำหรับไต้หยี่ หากสามารถอยู่อย่างสงบสุข ไม่ต้องเข่นฆ่าทำร้ายผู้อื่น คบสหายดื่มสุราไม่ต้องแบ่งแยกเชื้อพันธุ์ นี่ย่อมเป็นชีวิตที่ประเสริฐยิ่ง กบฏเริงโลด สงครามคุโหม บ้านเมืองวุ่นวาย หากเป็นเพียงบ่าวน้อยหนึ่ง ยังสามารถหันหน้าหนีไม่มอง ไม่ฟัง ไม่รับทราบ ทว่าหน้าที่'ราชบุตรเขย'บนบ่ากดทับ สถานที่อันสุขสงบมีเพียงอ้อมกอดของตัวโง่งมของมันเท่านั้น และมันยินดีปกป้องสิ่งนี้ด้วยชีวิต!
เม้าท์มอยหลังอ่าน... ตอนที่หนังสือชุดนี้ออกใหม่ ๆ ดูเหมือนจะเป็นที่ฮือฮามาก มีเพื่อนบล็อกหยิบยกมาอ่านแล้วเล่าขานกันให้เอิกเกริก แทบจะทุกรีวิวกล่าวค่อนข้างตรงกันว่าสนุก...
สิ่งที่จุดประกายความสนใจมีอยู่สองประการ: ประการแรกก็คือ คนเขียนนิยายเรื่องนี้เป็นคนไทย แถมที่รู้ ๆ กันโดยนัยก็คือเธอเป็นหญิงสาว อายุอานามก็น่าจะยังไม่มากไม่มายนัก... เธอ"กล้าดี"อย่างไรถึงได้อาจหาญมาจับงานที่ดูเหมือนจะสงวนไว้เฉพาะ"จอมยุทธ์"ตัวจริงเท่านั้น ช่างท้าทายฟ้าดิน...
อีกประการก็คือ...จากเสียงร่ำลือถึงเนื้อหาในนิยาย มีจุดที่แปลก แหวก และแตกต่างจากนิยายจีนกำลังภายในโดยทั่วไปอยู่อย่างหนึ่ง กับคำโปรยที่ว่า...
'.. เมื่อหญิงไม่ใช่หญิง ชายไม่ใช่ชาย ความอลหม่าน...จึงเริ่มต้น'
ก่อให้เกิดการคาดเดาไปต่าง ๆ นานา... พยายามประพิมพ์ประพายภาพนางเอกหนังจีนสวย ๆ แต่มีวรยุทธ์ห้าวหาญราวบุรุษ หรือไม่ก็พระเอกหน้าหวานที่ต้องปลอมตัวเป็นสตรีด้วยเหตุผลบางประการ... แล้วโชคชะตาก็นำพาเขาทังสองให้มาพบกัน ต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้กัน บลา...บลา...บลา แหม...ออกจะโรแมนติก...
...............
แต่พอได้อ่านเข้าจริง...เงิบค่ะเงิบ มันไม่ยักกะเป็นไปอย่างที่คาดหรือคุ้นเคยแฮะ
หากมันล้ำ...และเหนือกว่านั้นเยอะ... ทั้งแปลก แหวกและแตกต่าง แหกกฏประดามีของนิยายจีนกำลังภายในเท่าที่เคยอ่านผ่านมา
ก็จะไม่แปลก...แหวกได้อย่างไร ก็นิยายเรื่องนี้มีพระเอกเป็นผู้หญิง...จริง-จริ๊ง ชื่อเรื่อง "ราชบุตรเขยเจ้าสำราญ" ก็บ่งชัดอยู่แล้วว่าชูตัวเอกที่มีฐานะตำแหน่งเป็น"ราชบุตรเขย" ซึ่งในที่นี้ก็หมายถึง "ไต้หยี่" บ่าวคุ้มภัยแห่งบ้านตระกูลมู่ เจ้าตัวมันเองก็ตระหนักแน่แก่ใจ (ทั้งไม่เคยปิดบังตัวตน)ว่ามันเป็นสตรีเพศ แต่อาจจะเป็นด้วยอุปนิสัยใจคออันกว้างขวางเปิดเผย คุณสมบัติต่าง ๆ ที่พระเอกหนังจีนคนหนึ่งควรมี ก็อยู่ที่มันทั้งสิ้น เก่งกล้าสามารถในเชิงวรยุทธ์ เฉลียดฉลาดว่องไวมีไหวพริบปฏิภาณ ด้านอุปนิสัยก็ถ่อมเนื้อถ่อมตัว...ดังถ้อยคำที่ติดปากมันอยู่สำนวนหนึ่งคือ... ข้าพเจ้าไม่มีสิ่งใดอวดอ้าง มีแต่เอาตัวรอดเก่งกับสหายเยอะนี่แหละ แม้ภายนอกจะดูห่าม ๆ ทะลึ่งทะเล้นปนเจ้าเล่ห์เฉโก หากลึก ๆ แล้วมันออกจะมีมารยาท รู้กาละเทศะและเป็นสุภาพบุรุษพอสมควรเลยแหละ...
กอปรกับลักษณะการทำงานที่ต้องคลุกคลีกับสหายบ่าว ตลอดถึงภาวะผู้นำที่ค้ำคอมันอยู่ ทำให้ผู้คนรอบข้างต่างพร้อมใจกันลืมเลือนเสียสิ้นว่า...มันเป็นหญิง!
ตอนอ่านตลอดเรื่องทั้งสามเล่ม คนอ่านเองก็แทบจะไม่รู้สึก หรือมีจินตภาพได้เลยว่ามันเป็นผู้หญิง
เมื่อโชคชะตาบันดาลให้มันได้มาพบกับองค์หญิงเจียงจู พระขนิษฐาที่องค์ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานนักหนา... แน่นอน...นางเป็นนางเอก... ทว่า...เพียงช่วงแรก ๆ ที่ได้พบพาน ไต้หยี่มันก็ได้รู้และเห็นเต็มตามันว่า... องค์หญิงผู้สิริโฉมงดงามยิ่งกว่าหญิงใดในแผ่นดินนี้มีเครื่องเพศเป็นบุรุษ!
นางไม่ใช่กะเทย ไม่ใช่เกย์ ไม่ใช่ทอมหรือสาววายอะไรทั้งนั้น นางเป็นชายทั้งแท่งนั่นล่ะ เพียงแต่นางไม่รู้จักเพศสภาพของตัวเอง ด้วยถูกเลี้ยงดูฟูมฟักมาเยี่ยงสตรีนางหนึ่งมาแต่อ้อนแต่ออก...
เช่นนี้แล้วจะไม่ให้ไต้หยี่มันเรียกขานนางว่า"ตัวโง่งม"กระไรได้...
และตอนที่ได้พบกันนั้น เป็นการพบกันในซ่องโจร... ไต้หยี่มันมีวรยุทธ์แกร่งกล้าพิสดาร เพราะก่อนหน้านี้จับพลัดจับผลูได้รับวิทยายุทธ์อันมิสามัญ สามารถเอาชนะหมู่โจร จนหัวหน้าโจรชอบใจ สาบานเป็นพี่น้อง และมอบหญิงงามให้เป็นกำนัล โดยหญิงงามนั้นก็เป็นของมีค่าที่กองโจรปล้นชิงมาได้ โดยที่หารู้ไม่ว่านั่นคือองค์หญิงที่ลอบหนีออกจากวังหลวงเพื่อออกเดินทางไปหาชายคนรักที่อยู่ต่างเมือง
นางตัวสั่นงันงกยามถูกไต้หยี่จับต้องแม้เพียงปลายเท้า... ด้วยนางถูกเลี้ยงดูมาอย่างทนุถนอมมิเคยต้องมือชาย เมื่อมาถูกยกให้เป็นเมียโจร ต้องถูกมันแหย่เย้าตามใจชอบ นางย่อมรู้สึกเกลียดกลัวมันยิ่งนัก จึงเง้างอดเรียกขานมันเป็น "โจรชั่ว" ทุกคำ
นอกเหนือไปจากเรื่องราวความรักอันโลดโผนพิสดาร สลับบทบาทระหว่างโจรชั่วไต้หยี่ กับตัวโง่งมจ้าวเหลียนหยา อันเป็นปมหลักของนิยายชุดนี้แล้ว...
เรื่องราวรายละเอียดอื่น ๆ ของนิยายก็ดำเนินไปตามคัลลองของนิยายกำลังภายในทั้งหลายเป็นอย่างดี ผู้เขียนได้วางเค้าโครงเรื่องไว้อย่างแน่นหนาแข็งแรง และแยบคายมาก แล้วก็นำเสนอออกมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โลดแล่นเรียบเรื่อย มีเหตุมีผล ที่มาที่ไปชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมืองระดับแผ่นดิน ระดับเมือง ไล่ลงมาถึงระดับกลุ่มก๊วนชาวยุทธ์ รวมถึงการเมืองภายในวังหลวง...การแก่งแย่งแข่งดี จี้ชิงอำนาจ...ฯลฯ
โอยยยย...เรื่องมันเยอะค่ะ เล่าได้ไม่หวาดไม่ไหว ชะตาชีวิตของเจ้าโจรชั่วไต้หยี่มันมหัศจรรย์พันลึกเหนือคำบรรยายจริง ๆ
ตัวละครเยอะแยะมากมาย แต่อ่านได้เพลิดเพลินไม่สับสน เพราะคนเขียนเค้าเรียงลำดับการบอกเล่าได้ดี นำเสนอตัวละครแต่ละตัวออกมาได้อย่างมีเป้าหมายชัดเจน
สำนวนภาษา ลีลาท่าร่าง การบรรยาย ไม่ว่าจะบทรักบทใคร่ บทบู๊ บทกระเง้ากระงอด กุ๊กกิ๊ก ๆ... บทรำพึงรำพัน ความรู้สึกนึกคิดของตัวละครแต่ละตัว ทำได้เนียนมากกกกกกกกกก...(ก.ไก่ล้านตัว) มันครบรสครบครันไปหมด...
อ่านแล้วได้อารมณ์และบรรยากาศไม่ผิดแผกแตกต่างไปจากการอ่านนิยายจีนกำลังภายในทั้งหลาย ที่รจนาโดยบรรดานักเขียนแถวหน้า ๆ เลยแม้แต่น้อย
เรียกได้ว่าลื่นไหลไร้ที่ติ...ชอบมากกกกกกกก....(ก.ไก่อีกหนึ่งพันตัว) ขอคารวะด้วยใจจริง !!!
อ่านจบแล้วหยิบมาเล่าขาน ชวนอ่านกันอย่างแรงค่ะ (เพราะเท่าที่เล่าไปยังไม่ได้แม้เพียงเศษเสี้ยวของความสนุกสนาน เพลิดเพลินที่ได้รับ... เช่นนั้น...ต้องอ่านเองค่ะ)
|
คือพอดีอัพบล็อกไปแล้วเพิ่งนึกได้ว่าเคยมาร์คไว้ในใจจุดหนึ่งตอนที่อ่านเล่ม ๑ กับเล่ม ๒
ว่าจะต้องพูดถึง แต่ก็ลืมเสียได้...
คือมันตงิดใจนิดนึง ความที่ไต้หยี่เป็นหญิง แต่จากการแต่งกาย ท่าทีอุปนิสัยต่าง ๆ ผู้คนต่างเข้าใจว่ามันเป็นชาย
ซึ่งมันก็ไม่มีปัญหาอะไร ดีเสียอีกเพราะจะได้ไม่มีใครกล้ารังแก
แต่ก็มีบางครั้งบางทีเกิดเหตุจวนตัวเข้า มันจำเป็นต้องพิสูจน์ให้คนอื่นรู้ว่ามันเป็นหญิงนะ
ซึ่งวิธีพิสูจน์ของมันนั่นแหละที่เรารู้สึกทะแม่ง ๆ ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ
อย่างไรเสียมันก็เป็นหญิง จู่ ๆ ฉวยมือผู้ชายไปแปะที่หน้าอกหน้าใจตัวเอง
เพื่อให้เขาสัมผัสได้ถึงทรวดทรงควา%C